ตอนที่ 828 สืบหาต่อไป
ลั่วหานฟังจบแทบจะหัวเราะขึ้นมา เขาบ่นถึงความลำบากของตนออกมาให้ร้อยโทฟัง แบบนี้คงไม่ค่อยดีเท่าไหร่ เพราะจะทำเป็นไม่สนใจคำเล่าลือจากสังคมก็ไม่ได้
ดังนั้นเธอเลยตกลงไป
“คุณอย่าทำให้ร้อยโทลำบากใจเลย ฉันจะไปกับพวกเขาเอง”
หลงเซียวจะยอมได้อย่างไร “ไม่ต้อง เดี๋ยวผมจัดการเอง”
ลั่วหานหัวเราะแหยๆ ขึ้นมา ก่อนจะฉกมือถือของเขามาและตอบรับร้อยโทว่าเธอจะไปรายงานตัวแน่นอน
“ไปก็ได้ ผมไปเป็นเพื่อนคุณเอง”
“ไม่ได้ ฉันจะไปเอง ฉันเป็นผู้บรรลุนิติภาวะแล้ว ไม่ต้องการผู้ติดตาม” ฉันพูดยิ้มๆ ออกมา
หลงเซียวพูดอย่างหมดหนทาง “ได้เลย ผมขับรถส่งคุณไป แต่ว่าไม่ลงจากรถ แบบนี้ได้หรือยัง?”
ลั่วหานก็ยอมถอยหนึ่งก้าวเช่นกัน “ได้เลย อนุญาต”
หลงเซียวหัวเราะขึ้นมา เขาที่ยอมอ่อนให้เสมอแต่เธอมักจะยืนยันคำเดิมก็เริ่มมีการเปลี่ยนแปลงแล้ว ภรรยาเขาเริ่มเรียนรู้แล้ว หลังจากนี้จะซนกว่านี้ไหมนะ?
ส่งลั่วหานมาจนถึงจุดหมาย หลงเซียวนั่งรออยู่ในรถรอเธอออกมา
ผ่านไปพักหนึ่ง หลงเซียวก็โทรสายไปหาจี้ตงหมิง
จี้ตงหมิงและพรรคพวกกำลังหลงอยู่ในความชนะ เตรียมตัวที่จะจัดปาร์ตี้ขึ้นมาฉลองสักหน่อย
“นายท่าน คืนนี้คุณและคุณหญิงพอจะมีเวลาว่างมาร่วมงานเลี้ยงฉลอง ไหม? พวกเรากำลังเตรียมจัดงานฉลองอยู่น่ะ!”
เสียงลอดสายจากอีกฝั่งเต็มไปด้วยความครึกครื้น
“ตอนกลางคืนดูเวลาว่างของเธอเป็นหลัก ถ้าหากไม่มีเรื่องด่วนอะไรแล้วจะไปเข้าร่วมแน่นอน แต่ว่าตอนนี้นายช่วยฉันเรื่องหนึ่งสิ” หลงเซียวมองเวลา กว่าจะถึงตอนดึกยังพอมีเวลาอยู่
“ได้เลย เชิญนายท่านพูดมา”
“คุณนายหลัวมีปัญหา” หลงเซียวอธิบายความคิดของตนออกมาตามตรง
จี้ตงหมิงคิดตามแล้วก็รู้สึกเป็นเช่นนั้นจริงๆ!
“ใช่แล้ว! ผมก็รู้สึกว่าเธอมีปัญหาเหมือนกัน ตอนสุดท้ายเธอพูดว่าพวกเราเป็นพวกโกหกทั้งหมด แต่กลับโดนทนายห้ามไว้——รับทราบครับเจ้านาย ผมจะไปหาเธอเดี๋ยวนี้”
จี้ตงหมิงขับรถไปยังบริเวณบ้านของชาวบ้านที่รกร้างห่างไกลจากตัวเมือง ทางข้างหน้าไม่มีถนนแล้ว เขาคงต้องลงจากรถและเดินเข้าไป
บนทางมีรอยน้ำฝนที่ยังไม่แห้งไป ถุงขยะพลาสติกตามทาง ดินโคลนสีดำ ประจวบกับสายน้ำนอกหมู่บ้านที่ทั้งเหม็นและสกปรกเป็นสิ่งที่แย่ขึ้นไปอีกสองเท่า
เมื่อมองเห็นทางด้านหน้าแล้ว จี้ตงหมิงก็อยากจะยอมแพ้ขึ้นมา
แต่ก็อดทนไว้ เขาตัดสินใจที่จะสละรองเท้าและเสื้อทิ้งไป
ในที่สุด จี้ตงหมิงก็หยุดลงอยู่ที่เขตบ้านที่เก่าทรุดโทรมแห่งหนึ่ง น้ำมันหล่อลื่นที่ถูกทาไว้ที่ขอบประตูขึ้นสนิมหมดแล้ว ชุมชนของชาวบ้านแห่งนี้คงจะไม่ผ่านการซ่อมแซมมาเป็นเวลาหลายปีถึงได้มีกลิ่นของเสียมากมาย
พวกเขาอาศัยอยู่ในที่แบบนี้?
ชาวบ้านบริเวณนี้คงจะมีรายรับที่น้อยนิดสิ ทำไม คุณนายหลัวถึงเชิญทนายมาได้?
เดินตามที่อยู่ไป จี้ตงหมิงขึ้นลิฟต์ไปยังชั้นสี่ ลิฟต์หนึ่งชั้นมีห้องพักของสองครอบครัวหัวหน้าชนกัน ประตูห้อง401ปิดสนิท ด้านหน้าห้องไม่มีกริ่งให้กดเช่นกัน
จี้ตงหมิงเคาะประตูไม่กี่ที ก็ไม่มีคนตอบรับ
ผ่านไปสักพัก ห้องฝั่งตรงข้ามเปิดออกมา หญิงสาวอายุราวห้าสิบปียื่นหัวออกมา “คุณหาใครเหรอ?”
จี้ตงหมิงหันหน้ากลับไปยิ้มแย้ม “สวัสดีครับ ผมมาหาเจ้าของห้องน่ะ”
“อ้อ คนในห้องนี้เหรอ พวกเขาไม่ได้อาศัยอยู่ที่นี่แล้ว เพิ่งย้ายออกไปเมื่อสองวันก่อนเอง ได้ยินมาว่าย้ายไปบ้านใหม่ บ้านนี้เพิ่งจะมีคนเสียชีวิตไป คงจะรู้สึกอัปมงคลน่ะ”
ไม่อยู่แล้ว เปลี่ยนที่อยู่ใหม่ อย่างนี้ยิ่งเข้าใจได้ง่ายขึ้นไปอีก!
แต่ว่าจะทำร่องรอยชัดเจนเกินไปไหม
จี้ตงหมิงรีบรายงานให้หลงเซียวทราบ “นายท่าน พวกเขาไม่ได้อาศัยอยู่ที่นี่แล้ว คุณเดาไว้ไม่ผิดเลย ผมเดาว่าพวกเขาได้รับประโยชน์ก่อนจะรีบย้ายหนีไปแน่นอน”
“สืบหาเบาะแส หาว่าเธอไปอาศัยอยู่ที่ไหน ย้ายออกไปจากเมืองหลวงหรือยัง”
“นอกจากนี้ ผมเห็นว่าสภาพที่อยู่ของพวกเขา……ไม่ดีเท่าไหร่ มีโอกาสอย่างสูงที่ได้รับเงินว่าจ้างให้ทำ ถ้าหากขุดลึกลงไปอีก ไม่แน่ว่าอาจจะเจอตัวการหลักก็ได้” ความรู้สึกของจี้ตงหมิงตอนนี้เบิกบานยิ่งกว่าตอนจัดปาร์ตี้อีก
“ดีเลย สืบให้ลึกลงไปอีก”
ลั่วหานฝากชูชูไว้กับน้ามิลาน เมื่อเห็นว่าระหว่างหัวคิ้วของเขาแสดงถึงความเบิกบานใจขึ้นมา “มีเรื่องอะไรทำไมดีใจขนาดนี้?”
หลงเซียวโยนโทรศัพท์ลงไปบนโซฟา ก่อนจะเดินมาช่วยเธอนวดไหล่ “เรื่องดีๆ ก็คือวันนี้ชนะคดีความมา เลยต้องดีใจอย่างแน่นอน คืนนี้จะมีงานเลี้ยงด้วย พวกเราไปด้วยกันเถอะนะ”
ลั่วหานกลับไม่เชื่อใจ “คงไม่ใช่แค่นี้หรอก?”
“ไม่อย่างนั้นล่ะ?” เขาช่วยบีบนวดต้นแขนของเธออย่างละเอียด ใช้ข้อนิ้วและการกดที่เชี่ยวชาญและคล่องแคล่วในการนวดให้เธอ
อุ้มลูกนานๆ แล้วต้นแขนจะปวดมาก แต่เธอกลับยืนหยัดที่จะยกลูกขึ้นมากอดอยู่เสมอ
“คุณรู้สึกหรือเปล่าว่าคุณนายหลัวมีบางอย่างที่ผิดปกติ?”
หลงเซียวเปลี่ยนไปนวดแขนอีกข้าง “คุณก็ดูออกเหรอ?”
“ร่องรอยชัดเจนไปหน่อยน่ะ ตอนแรกฉันไม่ได้คิดมาก ฉันคิดว่าเธอคงไม่ยอมที่สามีของเธอตายจากไป รวมกับที่ฉันรู้สึกละอายใจด้วย พูดตามตรง เรื่องนี้ฉันก็มีส่วนต้องรับผิดชอบด้วย”
“ละอายใจอะไร? ช่วยคนรักษาโรคเป็นหน้าที่ของหมอ แต่คุณไม่ใช่เทพสักหน่อย จะรับประกันได้อย่างไรว่าทุกชีวิตจะหายดีเป็นปกติ? ไม่มีโรงพยาบาลไหนที่ไม่มีคนตาย ไม่มีหมอคนไหนที่ไม่เคยผ่านประสบการณ์ที่คนไข้ในความดูแลของตนเสียชีวิตลง ถ้าหากหมอทุกคนกลัวว่าคนไข้ของตนจะตายแล้ว จะรักษาโรคไปทำไมล่ะ? ทำเต็มที่ก็พอแล้ว ต้องเรียนรู้ที่จะยอมรับกับผลที่ไม่สมบูรณ์แบบบ้าง”
คำปลอบใจนี้ดูเหมือนจะมีผลขึ้นมาบ้าง ลั่วหานที่มีความรู้สึกขมุกขมัวในใจมาทั้งวันเริ่มปล่อยวางได้ “ได้เลย ฉันเชื่อฟังคุณ แต่ว่าคุณวางแผนจะทำอย่างไรต่อไป?”
“อาหมิงกำลังตรวจสอบอยู่ ฉันเดาว่าเรื่องนี้คงหนีไม่พ้นเขาคนนั้นแน่ๆ”
“คุณหมายถึง……เขา?”
“อืม”
ไม่รู้ว่าทั้งสองใจตรงกันตั้งแต่เมื่อไหร่ ถ้าหากเอ่ยถึงหลงถิงขึ้นมา แค่พูดว่าคนๆ นั้น ก็จะเข้าใจทันที
ถึงขั้นที่เบื่อที่จะเรียกชื่อของคนนั้นแล้ว หลงถิงประสบความสำเร็จดีจริงๆ
“ฉันไม่ปวดแขน วันนี้อุ้มไม่นานน่ะ ดังนั้นไม่เป็นไร ไม่ต้องนวดแล้ว” ลั่วหานรั้งมือเขาไว้ เมื่อครู่เธออยากจะบอกว่าที่จริงแล้วเขานวดได้สบายมาก เธออยากจะดื่มด่ำต่ออีกสักหน่อย
“ไม่เจ็บก็สามารถนวดได้ กระตุ้นการไหลเวียนของเลือด ช่วยให้คุณคลายเครียดได้อีกด้วย วันนี้อยู่ที่ศาลคงตื่นเต้นน่าดู? คืนนี้กลับมาแล้วจะนวดหลังให้คุณ”
ลั่วหานรู้สึกงุนงงขึ้นมา กะพริบตามองไปที่เขาที่เหม่อลอยอยู่ “หลงเซียว คุณไม่เป็นอะไรใช่ไหม? วันนี้ทำไมถึงเอาใจดีเป็นพิเศษ คุณหวังอะไรไว้หรือเปล่า?”
หลงเซียวอ้อมมือมาล้อมตัวเธอไว้และโอบกอดแน่นขึ้น “คุณคิดว่าไงล่ะ คุณภรรยาของผม”
ลั่วหานถือโอกาสขัดขืน ใช้มือหนึ่งกดมือเขาไว้ แต่มือเขากลับไปไวกว่าเธอ“กิจกรรมงานเลี้ยงคืนนี้ไม่ต้องเตรียมตัวหน่อยเหรอ?”
เปลี่ยนหัวข้อสนทนา?
ดีมาก ถ้าเช่นนั้นก็คิดบัญชีทีเดียวตอนกลางคืนเลย
“ได้”
“แต่ว่า ฉันก็ต้องพูดขอบคุณคุณอยู่ดี คุณอย่าเพิ่งปฏิเสธ! ฉันพูดจากใจจริง คุณอย่า……”
พึ่งจะพูดออกมาไม่กี่คำ หลงเซียวที่พลาดโอกาสไปเมื่อครู่ถือโอกาสนี้ปิดปากเธอไว้แน่น
เขาเคยบอกไว้แล้ว ว่าทุกครั้งที่เธอพูดขอบคุณนั้นเขาจะลงโทษเธอทันทีโดยไม่มีข้อยกเว้นเด็ดขาด! ไม่มีช่องทางเจรจาด้วย!
ตอนแรกที่ตั้งกฎนี้ขึ้นมานั้นช่างฉลาดล้ำเสียจริง เขาจูบลงบนริมฝีปากเธอ คิ้วและดวงตาเลิกขึ้นอิ่มเอมไปด้วยรอยยิ้ม
……
จี้ตงหมิงไม่ได้ปล่อยเวลาให้เสียเปล่า รีบติดต่อจางหย่งทันที
จางหย่งที่กำลังนั่งขัดสมาธิอยู่บนโซฟาดูข่าวในโทรทัศน์อยู่ กลับตะลึงค้างไปกับคลิปการแข่งรถของลั่วหาน จางหย่งอมลูกอมไว้ในปากเนิ่นนานก็ไม่ได้กลืนลงไป ละลายอยู่ในปากแทบหมด
เมื่อเห็นสายเรียกเข้ามือถือแล้ว จางหย่งตะโกนขึ้นมาทันที เพราะตะโกนออกมาอยากรีบร้อน เกือบจะสำลักลูกอมติดคอไปก่อน “แค่กๆ ๆ! แค่กๆ ๆ!”
จี้ตงหมิงยืนโทรศัพท์ให้ห่างออกไป “กินกระดูกไก่อยู่เหรอ?”
“ไม่ใช่ๆ ฉันกำลังดูวิดีโออยู่น่ะ! ภรรยาของเจ้านายเราจะเก่งเกินไปแล้ว! มีความสามารถรอบด้านเลย แม้แต่แข็งรถยังทำเป็น มีอะไรที่เธอทำไม่เป็นอีก ฉันจะแข่งกับเธอ!”
จางหย่งกระแอมเสร็จ ก็รีบทานลูกอมที่เหลืออยู่ในปากให้หมด
ดีที่จี้ตงหมิงมองไม่เห็น ไม่เช่นนั้นกับข้าวคืนนี้คงจะกินไม่ลงแน่
“ส่งที่ทำไม่เป็นฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่อย่างน้อยคงไม่อมลูกอมทั้งวันแน่! ใจของนายขมมากเท่าไหร่กัน ไม่กลัวจะเป็นเบาหวานเหรอ?”
จางหย่งกินลูกอมทั้งหมด ก่อนจะดื่มน้ำอึกใหญ่ลงไป “หัวหน้าบอกฉันแล้ว ตอนนี้ฉันก็เพลาๆลงไปเยอะอยู่นะ! อีกอย่าง ใครไม่มีงานอดิเรกล่ะ นายคงไม่ได้โทรมาหาฉันเพราะเรื่องแค่นี้?”
จี้ตงหมิงรู้ดีว่าเขาจะบ่นเท่าไหร่ก็ไม่ได้ช่วยอะไร “มีธุระ ต้องการจะสืบหาคนๆ หนึ่ง”
หลังจากบอกรายละเอียดแล้ว จี้ตงหมิงก็พูดเสริมอีก “ตอนนี้นายไปตระเวนอยู่ที่ไหนน่ะ? จะกลับมาไหม?”
จางหย่งหยิบโน้ตบุ๊กขึ้นมา ใช้หัวไหล่แนบโทรศัพท์ไว้ก่อนจะพิมพ์ข้อมูลลงไป “รีบร้อนอะไร ฉันยังเที่ยวไม่เต็มที่เลย อีกอย่าง เมืองหลวงอากาศหนาวขนาดนั้น ฉันกลับไปคงจะทรมานตาย? เหตุผลหลักคือพวกนายแต่ละคนหวานกับแฟนตลอดเวลา ฉันจะเป็นเบาหวานอยู่แล้ว”
“ยอดเยี่ยม! นายก็หาสักคนสิ ชอบแบบไหน ฉันจะแนะนำให้นายรู้จักเอง” จี้ตงหมิงสตาร์ตรถขึ้น ก่อนรถจะเคลื่อนตัวออกไปจากชุมชนเก่า
“ชอบแบบไหน……ฉันไม่รู้ รู้แต่ว่าไม่ชอบแบบไหน ผู้หญิงแมนๆนี่ไม่ผ่านแน่นอน หญิงแกร่งแบบภรรยาเจ้านายก็ไม่ไหวเหมือนกัน ฉันชอบ……แนวอ่อนโยน อยู่ติดบ้าน หวานน่ารัก ทางที่ดีชอบกินลูกอมเหมือนฉัน หรือฉันจะเปิดร้านลูกอมดี! ฮัลโหล……ฮัลโหล?”
โถ่!
ไม่รอให้เขาพูดจบก็ตัดสายทิ้งแล้ว
สองทุ่มตอนกลางคืน ร้านบาร์ริมถนนแห่งหนึ่ง
เพื่อที่จะทดลองใช้ชีวิตแบบคนธรรมดา มีกลิ่นอายของการใช้ชีวิต ใกล้ชิดกับสิ่งของท้องถิ่นต่างๆ แอนดี้เลือกร้านบาร์ธรรมดาๆ ร้านหนึ่งริมถนน
แต่ก่อนเจ้านายมักจะเลือกร้านที่หรูหราบนยอดโรงแรมในการเฉลิมฉลอง หรือจะเป็นบาร์สวนสนุก ล้วนเป็นที่ๆไม่มีกลิ่นอายของควันบุหรี่
แต่ว่า……
ไป๋เวยลากแอนดี้ออกไปอีกทางอย่างไม่วางใจ “ที่รัก คุณไม่รู้สึกว่ากำลังทำให้ภาพลักษณ์ของเจ้านายถูกลดทอนลงมาเหรอ? เจ้านายของเราไม่พักในที่ที่ไม่ใช่สถานที่ห้าดาวเด็ดขาด ไม่ไปร้านอาหารที่ไม่หรูเด็ดขาด ไม่……”
แอนดี้ตบไหล่เรียวเล็กของเธอเบาๆ “วางใจเถอะประธานไป๋ คุณคิดว่าหัวหน้าของเราตอนนี้เหมือนกับแต่ก่อนที่อยู่เหนือทุกคนจนแตกต้องไม่ได้เหรอ? ลองคิดดูสิ”
ไป๋เวยคิดตามไปสักพัก ก่อนจะรู้สึกว่าประโยคนี้มีเหตุผล “แต่ว่าฉันก็ยังรู้สึกแปลกอยู่ดี หรือจะลองถามลั่วลั่วดูก่อน มิใช่ทำเรื่องอะไรร้ายแรงออกไป”
“เซอร์ไพรส์ รู้ไหมว่าเป็นเซอร์ไพรส์อะไร? อีกสักพักฉันจะติดต่อหยังเซิน ให้เขาขับรถพาคนมา เธออย่าบอกใครไปล่ะ”
ไป๋เวยพยักหน้าลง “หวังว่าเธอจะทำถูกนะ ถ้าหากท่านประธานจะลงโทษขึ้นมา เดี๋ยวฉันจะช่วยเก็บศพเธอเอง”
หยังเซินรับโทรศัพท์ ก่อนจะเอ่ยว่ารับทราบ
นักแสดงเตรียมตัวพร้อม รอแค่ตัวหลักจะเดินเข้ามา
หยังเซินขับรถไปด้วยความเบิกบานใจ หาเรื่องมาชวนคุยตลอดทางให้ดึงดูดความสนใจจากทั้งสองไม่หยุด
“ท่านประธาน ข่าวในเน็ตวันนี้ฉันอ่านแล้ว ยอดเยี่ยมสุดๆไปเลย! คดีความชนะไปแบบสวยงามมาก!”
คุณหญิง คุณแข่งรถเป็นด้วยเหรอ คุณเก่งจริงๆ เลย ตอนนี้พวกเราเป็นแฟนบาร์ของคุณทั้งนั้น!
“คุณหญิง เล่นเวยป๋อไหม? ฉันอยากติดตามคุณน่ะ
“……”
ปกติเวลาขับรถมักจะมีแต่เสียงเงียบเป็นป่าช้า วันนี้กลับพูดไม่หยุด ลั่วหานและหลงเซียวรู้สึกได้ถึงความแปลกประหลาดขึ้นมา
“หยังเซิน ทำเรื่องอะไรที่ละอายใจไว้หรือเปล่า นายรู้ดีแก่ใจ”
หยังเซินแหะๆ ๆ“อ่า……คืออย่างนั้น ไม่มีอะไรหรอก ไม่มีอะไรจริงๆ นะ!”
ลั่วหานเป็นใบ้ขึ้นมาทันที ฝีมือการแสดงต่ำไปแล้ว แบบนี้จะหลอกหลงเซียวได้อย่างไรกัน
“สามี ช่วยฉันเลือกเสื้อผ้าหน่อยสิ ช่วงนี้เจสซีออกแบบเสื้อผ้ามาใหม่ ฉันอยากเลือกสักสองสามชุดน่ะ “ลั่วหานหยิบมือถือออกมา เพื่อจะพยายามดึงความสนใจของเขามา
แต่หลงเซียวกลับไม่มองมาแม้แต่น้อย “ไม่ต้องเลือกหรอก ให้เขาตัดชุดมาตามขนาดตัวเธอแบบละตัวก็พอ”
ลั่วหาน:“……”
หยังเซิน:“……”