ตอนที่ 833 บังคับเขาให้ทำในสิ่งที่เขาไม่ถนัด
ณ โรงพยาบาลหวาเซี่ย
ลั่วหานมีนัดตรวจผู้ป่วยนอกในตอนเช้า ตรวจเสร็จก็เวลา 11:30 น.แล้ว เธอกำลังกลับจากห้องผู้ป่วยนอกไปที่ห้องทำงาน ตรงทางเดินรายล้อมไปด้วยเหล่าแพทย์และพยาบาล พวกเขากำลังสนทนาเกี่ยวกับบางสิ่งบางอย่าง
ทันใดนั้นเสียงของนางพยาบาลที่อยู่ตรงโต๊ะปฏิบัติหน้าที่ก็ดังขึ้นมา1คีย์ “จริงรึเปล่าเนี่ย? เธอฟังผิดไปรึเปล่า? เราเป็นโรงพยาบาลเอกชน การย้ายเจ้าหน้าที่ภายในมันต้องผ่านการตัดสินของคณะกรรมการก่อนไม่ใช่หรือ?”
หมอที่กำลังเล่นเครื่องฟังเสียงอยู่ก็พูดขึ้นมาอย่างมีเลศนัยว่า “เพราะว่าเป็นโรงพยาบาลเอกชน ผู้นำระดับสูงจึงมีเล่ห์เหลี่ยมมากกว่าเสียอีก อยากให้ใครเป็นหัวหน้ามันก็แค่คำสั่งจากเบื้องบนก็เท่านั้นเองไม่ใช่หรือ?”
“แล้ว …..ถ้ารองคณบดีย้ายไปแล้ว พวกแกคิดว่าใครจะถูกผลักขึ้นไปตำแหน่งนี้?”
“โดยทั่วไปแล้วก็เลือกจากแผนกศัลยกรรมสมองและแผนกศัลยกรรมทรวงอกไม่ใช่เหรอ? ผู้อำนวยการแผนกของเราดูเหมือนจะมีคุณสมบัติสูงเช่นกันนะ ไม่รู้ว่าเขาจะได้รับการเลือกรึเปล่า? ”
“ฉันคิดว่าความเป็นไปได้มันน้อยนะ พวกเธอลองคิดดูสิว่าผู้อำนวยการฝางของเราอยู่ในแผนกศัลยกรรมสมองมาตั้งหลายปี ก่อนที่จะมาที่โรงพยาบาลหวาเซี่ย เขาเป็นแกนหลักของโรงพยาบาลชั้นนำประจำเมืองเลยนะ ตอนนี้กำลังจะเปลี่ยนรองคณบดี เขามีโอกาสอยู่นะ”
“โอ๊ย ผู้ที่อยู่เหนือรองคณบดีคือคณบดี เป็นจังหวะของการปีนขึ้นไปสู่จุดสูงสุดของชีวิตจริงๆ แค่คิดก็ตื่นเต้นแล้ว”
ลั่วหานสอดมือสองข้างเข้าไปในกระเป๋าเสื้อกาวน์ของเธอ เมื่อฟังถึงตรงนี้คิ้วของเธอก็เลิกขึ้นเล็กน้อย โรงพยาบาลจะเปลี่ยนรองคณบดี? ทำไมเธอถึงไม่รู้เรื่องนี้เลย?
เมื่อเห็นลั่วหานเดินเข้ามา พวกเขาก็หยุดการสนทนาและพยักหน้าทักทายด้วยความเคารพ
“สวัสดีครับคุณหมอฉู่ …”
“คุณหมอฉู่ตรวจผู้ป่วยนอกเสร็จแล้วเหรอคะ?”
ลั่วหาน พยักหน้าถือเป็นการตอบกลับ “รองคณบดีที่พวกเธอพูดถึงเมื่อกี้นี้ เรื่องมันเป็นมายังไง?”
นางพยาบาลอ้วนที่อยู่ตรงโต๊ะบริการหัวเราะเบา ๆ “อืม … พวกเราได้ยินมาว่า เหตุจากคดีครั้งนี้ … ไม่ทราบว่าเพราะอะไร รองคณบดีของพวกเรารับโทษและลาออกไปแล้ว”
พยาบาลที่อยู่ข้างๆ ก็พยักหน้าอย่างลนลาน “เร่งรีบมากเลยค่ะ เขาจะลาออกวันนี้เลย คณบดีเองก็รั้งไม่อยู่ค่ะ”
ลั่วหานพึมพำอยู่ครู่หนึ่ง ถ้าอย่างงั้นแสดงว่าเบื้องบนกดดันเขา “ฉันรู้แล้ว ทุกคนกลับไปทำงานได้ มาอยู่รวมกันเป็นกลุ่มแบบนี้ดูไม่ดี”
พยาบาลตัวน้อยแลบลิ้นออกมา “รับทราบค่ะคุณหมอฉู่! ”
ลั่วหานกลับไปที่ห้องทำงาน หลินซีเหวินและหวาเทียนตามหลังกันเข้ามา ทั้งคู่กำลังพูดคุยกันเกี่ยวกับเรื่องการฟื้นตัวของผู้ป่วย หลังจากพูดคุยจบลงทั้งสองก็เข้ามาในห้องทำงานพร้อมกัน
“คุณหมอฉู่คะ มีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของบุคลากรของโรงพยาบาลของเรา รองคณบดีออกไปแล้ว มีหลายหน่วยงานกำลังหวั่นไหว ชิชะ ตั้งแต่เช้าจนถึงตอนนี้เดือดมากเลยนะ”
หลินซีเหวินเม้มริมฝีปากราวกับว่าเธอไม่อยากจะเจอใครบางคน
หวาเทียนเองก็ยังหัวเราะแห้งๆ “เมื่อกี้ผมเห็นผู้อำนวยการฝางของแผนกศัลยกรรมทรวงอก ยังไม่ทันได้เลื่อนตำแหน่งเลย เขาก็ทำท่าทีเอาตัวเองเป็นใหญ่แล้ว”
ลั่วหานเปิดประวัติผู้ป่วยมากล่าวว่า”การเปลี่ยนแปลงของบุคลากรไม่ได้เกี่ยวข้องโดยตรงกับเรา ทำไมเหรอ? คุณสองคนอยากเป็นหัวหน้า? ”
หลินซีเหวินยักไหล่ “อย่าดีกว่า ฉันชอบที่จะเป็นสามัญชนธรรมดานี่แหละ มีคุณเป็นผู้นำของฉันก็พอแล้ว อย่าให้ฉันได้เป็นผู้นำคนอื่นเลย”
หวาเทียนเองแสดงท่าทีไม่สนใจเช่นกัน “แต่ผมคิดว่าคุณหมอฉู่ คุณมีโอกาสนะ คุณสมบัติของคุณหุ้นในมือของคุณ และอิทธิพลของคุณ เพียงพอที่จะได้รับตำแหน่งรองคณบดีแล้ว”
ลั่วหานแสดงท่าทีออกมาว่าไม่สนใจ “ฉันยุ่งเกินไป ไม่มีเวลามาจัดการ”
จู่ๆ หลินซีเหวินก็พูดขึ้นมาอย่างกระจ่างว่า “ฉันคิดถึงคนคนหนึ่ง! คุณหมอถังไง! เขาเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมที่สุดแล้วไม่ใช่หรือ? เมื่อก่อนเขาเคยเป็นรองคณบดีของโรงพยาบาลกลาง และตอนนี้เขามีคุณสมบัติแม้จะเปลี่ยนสถานที่แล้วก็ตาม อีกอย่างอิทธิพลปัจจุบันของคุณหมอถังแน่นอนว่าสู้ได้อยู่แล้ว! ”
ลั่วหานเคาะปากกาเซ็นชื่อของเธอ “เขาเหรอ …….. เป็นตัวเลือกที่ดีอย่างเสียไม่ได้เลยแหละ”
เมื่อพูดถึงถังจิ้นเหยียนโทรศัพท์มือถือของลั่วหานก็ดังขึ้น ถังจิ้นเหยียนโทรมาพอดีเลย
“จิ้นเหยียน ทำไมดึกขนาดนี้แล้วยังไม่นอนอีก?”
ขณะนี้เป็นเวลาค่ำคืนของอเมริกา ถังจิ้นเหยียนอยู่ดูแลถังจงรุ่ยอยู่ในห้องคนไข้ เขายังคงสลบอยู่ ไม่มีท่าทีว่าจะฟื้นขึ้นมาเลย
เขาปิดประตูห้องคนไข้ ด้านนอกเป็นห้องนั่งเล่นที่เงียบมากๆ ทิวทัศน์กลางคืนที่อยู่นอกหน้าต่างนั้นลึกลับและเงียบงัน
“ผมเห็นข่าวแล้ว ลำบากคุณหน่อยนะลั่วหาน ไม่คาดคิดว่าคนไข้ของผมจะทำให้คุณเดือดร้อนขนาดนี้” ถังจิ้นเหยียนเพิ่งทราบข่าวและเขาก็โทรหาลั่วหานในทันที
ลั่วหานยิ้มและตอบย่างผ่อนคลาย “ใช่แล้ว มันทำให้ฉันมีปัญหาอย่ามาก ดังนั้นคุณหมอถังจะชดเชยกับฉันยังไงดีคะ? เอาของฝากท้องถิ่นจากสหรัฐอเมริกากลับมาสักหน่อย?
ถังจิ้นเหยียนเองก็ตลกกับคำล้อเล่นของเธอ”ของฝากท้องถิ่นแน่นอนว่าได้อยู่แล้ว……….คือว่าการเสียชีวิตโดยบังเอิญของผู้ป่วยเกี่ยวข้องกับอาการแพ้หรือไม่? ”
ลั่วหานเปิดดูประวัติผู้ป่วยอีกครั้งและอธิบายสถานการณ์หลักให้ ถังจิ้นเหยียนฟังว่า “มันไม่ได้เกิดจากการแพ้โดยตรง แต่ว่ามันเกี่ยวข้องกับอาการแพ้อย่างแน่นอน สุขภาพของผู้ป่วยไม่ดีอยู่แล้วและอาจจะไม่ได้รับการดูแลที่ดีหลังจากกลับบ้านไป”
คิ้วของถังจิ้นเหยียนขมวดเข้าหากันจนกลายเป็นก้อนๆ “ขอโทษนะที่ให้คุณแบกรับความกดดันที่หนักหน่วงขนาดนี้แทนผม ”
ลั่วหานจงใจตอบกลับอย่างเกินจริงว่า “ใช่ มันทำให้ฉันมีปัญหาเยอะมาก ฉันถูกนักข่าวด่าจนไม่เหลือที่ยืน ฉันรู้สึกแย่มาก”
ถังจิ้นเหยียนมองออกไปนอกหน้าต่าง เจิ้งซิ่วหยาไปจัดการคดีไม่ได้อยู่ข้างๆเขา ค่ำคืนนี้ก็เงียบงันและเหงามากขึ้น “คุณต้องการให้ผมชดเชยอย่างไร ถ้าผมทำได้ผมจะทำให้ดีที่สุด .”
คุณหมอขึ้นศาลมันส่งผลกระทบอย่างมากต่ออาชีพการงานของหมอ บางทีอาจจะทำให้เสียชื่อเสียงไปทั้งชีวิตเลยก็ได้ ถังจิ้นเหยียนรู้ว่าเขาติดหนี้บุญคุณครั้งใหญ่ของลั่วหานไว้
ลั่วหานถือโอกาสพูดถึงเรื่องโรงพยาบาล “ตอนนี้มีสิ่งหนึ่งที่คุณสามารถทำได้จริงๆ รองคณบดีของโรงพยาบาลลาออกไปแล้ว ปัจจุบันมีผู้อำนวยการของหลายแผนกต่างจ้องมองไปที่ตำแหน่งรองคณบดีอย่างตาแดงอิจฉาอยากได้ ฉันอยากให้คุณเข้ารับตำแหน่งนี้ ”
ถังจิ้นเหยียนไม่คาดคิดว่าลั่วหานจะร้องขอเช่นนี้ “ผม? ผมไม่อยากเป็น”
“ดูคุณสิ เมื่อกี้คุณพูดว่าอะไรนะ? ฉันเพิ่งเอ่ยคำขอข้อแรกไปคุณก็ปฏิเสธมันเลย? ที่แท้ไอคำว่าชดเชยที่คุณพูดมันก็แค่คำพูดเพียงลมปาก! ” ลั่วหานส่งสายตาให้หลินซีเหวิน ทำให้เธอรู้ว่าอีกฝ่ายของสายเป็นถังจิ้นเหยียน
หลินซีเหวินรีบขยับหัวของเธอเข้ามาฟังคำตอบของเขา และบอกกับลั่วหานด้วยภาษาปากว่า เธอต้องกล่อมให้ถังจิ้นเหยียนกลับมารับตำแหน่งสูงๆ นี้ให้ได้
ถังจิ้นเหยียนรู้สึกหนักใจเล็กน้อย “ลั่วหาน ……. นี่มัน…… ผมต้องขอพิจารณาดูก่อน”
“พิจารณาอะไรกัน? ตอนที่ฉันรับคนไข้ของคุณมา ฉันไม่ลังเลเลยสักนิด มันถึงเวลาที่คุณจะแสดงความภักดีที่มีต่อฉันแล้วรึเปล่า? คุณยอมปล่อยให้โรงพยาบาลหวาเซี่ยถูกคนบางคนจัดการจนแย่ไปเหรอ? เด็ดขาดหน่อย ขอแค่คำเดียว จะกลับมารับหน้าที่เสาหลักนี้ไหม?”
ลั่วหานไม่ให้เวลาเขาลังเลเลยสักนิด แค่ประโยคเดียวทำให้ถังจิ้นเหยียนเหลือทางให้ถอยอยู่แค่ครึ่งเดียว
ถังจิ้นเหยียนลังเลเล็กน้อย “ลั่วหาน พ่อของผม …… ”
“ฉันไม่ได้ให้คุณกลับมาทำงานตอนนี้เลย แต่ถ้าฉันช่วยคุณเอาตำแหน่งนี้ไว้ได้ คุณก็ห้ามหนีกลางคันเด็ดขาด โอเคไหม? ” คราวนี้ลั่วหานปิดทางถอยหลังของถังจิ้นเหยียนไปหมดเลย
“โอ…..เค ผมสัญญา” ถังจิ้นเหยียนตอบตกลงอย่างกึ่งปฏิเสธกึ่งตามใจเธอ
หลังจากคุยเรื่องของโรงพยาบาลเสร็จเรียบร้อย ลั่วหานกล่าวว่า “คุณพ่อของคุณดีขึ้นหรือยัง? ผ่านช่วงอันตรายไปแล้วหรือไม่? ”
ถังจิ้นเหยียนเหลือบมองไปที่ประตูที่ปิดอยู่ “ยังคงสังเกตอาการอยู่ อาการคงที่แล้ว แต่ว่าคงยังไม่ฟื้นในเร็วๆ นี้ ผมกำลังวางแผนว่ารออาการของเขาคงที่จริงๆ แล้วถึงจะกลับประเทศ ”
“ไม่รีบๆ สุขภาพของพ่อของคุณสำคัญที่สุด”
ทั้งคู่ถามไถ่กันปกติแล้วลั่วหานก็วางสายลง
หลินซีเหวินกระโดดขึ้นมาอย่างตื่นเต้น “ดีมากเลย ดีมากเลย สมกับที่เป็นไอดอลของฉันจริงๆ เลย ความสามารถในการบังคับเขาให้ทำในสิ่งที่เขาไม่ถนัดนี่เก่งเหมือนขับรถแข่งเลยนะ!”