ตอนที่ 835 ทางมีเยอะแยะดันมาเจอกัน
หลงเซียวดื่มกาแฟจนหมดแก้ว เขาเขย่าแก้วกาแฟที่ว่างเปล่าเบา มีรอยยิ้มที่เยือกเย็นปรากฏขึ้นตรงริมฝีปากของเขา
“คุณเจิ้งครับ คุณโทรมาหาผมอยากให้ผมขอบคุณคุณเหรอ?”
น้ำเสียงที่เย็นชาเล็กน้อย ไม่มีความตื่นเต้นและความเซอร์ไพรส์ของคนที่บรรลุจุดประสงค์ ฟังไม่ออกว่าเขารู้สึกขอบคุณ มันเป็นความรู้สึกที่ห่างไกล ราวกับว่ามีภูเขามากีดกั้น คนที่อยู่ตรงข้ามนั้นไม่ว่าจะพยายามแค่ไหนก็ไม่สามารถก้าวข้ามมาได้
ความคาดหวังและความตื่นเต้นของเจิ้งซินได้จางหายไปเพราะความเย็นชาของหลงเซียว น้ำเสียงของเธอก็หม่นหมองลงเช่นกัน “ฉัน …ฉันไม่ได้หมายความว่าอย่างงั้น เราไม่ได้เจอกันมาตั้งนาน ฉันอยากถามคุณว่า ช่วงเร็วๆ นี้มีแผนที่จะมาเมืองเจียงเฉิงไหม ฉันอยากจะเลี้ยงข้าวคุณสักมื้อ ”
อีกฝ่ายไม่มีเสียงตอบรับ เจิ้งซินก็พูดต่ออีกว่า “เสิ่นเหลียวเป็นคู่แข่งของคุณ ในขณะเดียวกันหวังคางเป็นคู่แข่งของพ่อฉัน ตอนนี้พวกเขาสองคนล้มลง ถือว่าเป็นข่าวดีสำหรับพวกเรา ฉันคิดว่า ……มัน คุ้มค่ากับการเฉลิมฉลองนะ”
เสียงในโทรศัพท์ดังออกมาข้างนอก กู้เยนเซินที่อยู่ข้างๆ ได้ยินอย่างชัดเจน หลังจากที่ได้ยินคำกล่าวอย่างจริงใจของเจิ้งซิน กู้เยนเซินแทบจะพ่นน้ำออก เขาใช้ภาษาปากบอกกับหลงเซียวว่า “หรือไม่ก็ตามใจเธอไปสิ?”
แต่ก็โดนหลงเซียวมองบนใส่
“คุณเจิ้งครับ ในเมื่อมันเป็นผลดีต่อเราทั้งสองฝ่าย ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องขอบคุณกันและกัน ขอแสดงความยินดีกับคุณและคุณพ่อของคุณด้วยนะครับ ” ประโยคแสดงความยินดีที่ชัดเจนและไม่แยแสมีความรู้สึกคล้ายๆ กับพูดในเชิงธุรกิจ
หัวใจของเจิ้งซินที่พยายามแข็งใจไว้นั้นก็ทรุดลงในที่สุด “หลงเซียวนี่คุณไม่อยากเจอฉันมากขนาดนั้นเลยเหรอ?”
“คุณเจิ้งครับ ผมคิดว่าคุณเข้าใจผิดแล้วนะครับ ความสัมพันธ์ของพวกเราเป็นความสัมพันธ์ที่ได้รับประโยชน์ร่วมกัน นอกจากนี้แล้วไม่มีอะไรอย่างอื่นมากกว่านั้น ถ้าคุณเจิ้งไม่มีเรื่องอะไรแล้ว ก็วางสายไปเถอะครับ”
หลงเซียวยื่นแก้วกาแฟให้กู้เยนเซินให้เขารินกาแฟให้หนึ่งแก้ว
กู้เยนเซินเบะปาก ทำหน้าทำตาแล้วเดินไปอย่างลีลา
สุดท้ายเจิ้งซินก็เสียหน้า เธอมองออกไปนอกหน้าต่างอย่างเหงา ๆ เธอกัดริมฝีปากที่อมชมพูจนกลายเป็นสีขาวซีด “ไม่ …… ไม่มีอะไรแล้ว”
หลงเซียวกำลังจะวางโทรศัพท์ เสียงของเจิ้งซินก็ดังขึ้นอีกครั้งอย่างรีบร้อน “หลงเซียว บางทีคุณอาจจะดูถูกฉันไป บางทีคุณอาจคิดว่าฉันต่ำทรามมาก แต่ที่ฉันรักคุณมันไม่มีจุดประสงค์ใดเลย”
หลงเซียวขมวดคิ้ว”ขอบคุณครับ”
จากนั้นก็วางสายลงแล้วได้ยินเสียงสะอื้นดังมาจากอีกฝั่งเบาๆ
หลงเซียววางโทรศัพท์ลง และหมุนเก้าอี้พร้อมมองออกไปนอกหน้าต่าง ด้านนอกของหน้าต่างพาโนราม่า แสงอาทิตย์ลอยสูงอยู่บนฟ้าทะลุเมฆไปแล้วส่องแสงสว่างให้กับเมืองเมืองนี้ ทำให้ฤดูหนาวที่หนาวเหน็บนั้นอบอุ่นยิ่งขึ้น
“โอ๊ยโอ๊ยๆ หลังจากทำร้ายหัวใจของผู้หญิงที่ไร้เดียงสาไป รสชาติมันดีมากใช่ไหม? เจ๋งมาก? โอ๊ยๆๆ คุณชายหลงเอ๊ยคุณชายหลง ผู้หญิงสวยๆเป็นแหล่งกำเนิดปัญหานะ ไปทำร้ายหัวใจของสาวๆ ไปกี่คนแล้ว! ”
กู้เยนเซินยื่นกาแฟรสชาติดั้งเดิม Blue Mountainแบบเข้มข้นให้เขา กาแฟที่ร้อนๆจะได้กลิ่นของความขมขื่นของกาแฟเล็กน้อย
หลงเซียวจิบไปหนึ่งคำแล้วขมวดคิ้ว “กาแฟนี้คุณเป็นคนชงหรือ? ชงได้แย่มาก”
“เอาเถอะ ฉันชงกาแฟให้คุณเองกับมือเลยนะ คุณจงภูมิใจเถอะอย่างเรื่องมากเลย! ”
กู้เยนเซินดึงเก้าอี้มาและนั่งลงไป แล้วสบตากับสายตาที่ถูกรังเกียจของหลงเซียว “แต่ว่าพูดตามตรงนะ สองพ่อลูกเจิ้งซินช่วยคุณกำจัดเสิ่นเหลียวไป อย่างน้อยพวกเขาก็ได้ทำเรื่องที่ดีเรื่องหนึ่ง คุณจะไม่ตอบแทนอะไรดีๆ ให้เจิ้นซินหน่อยเหรอ?”
รสชาติของกาแฟก็ยิ่งแย่ลงไปอีก “ตอบแทนอะไรไม่มี มันเป็นความสัมพันธ์ที่ได้ประโยชน์ร่วมกันอยู่แล้ว ถ้าทำให้มันซับซ้อนแล้วจะแย่กว่าเดิม”
กู้เยนเซินเบะปากไปจนถึงหูเลย “ชิชิชิ ใจร้ายจริงๆ เลย หน้าตาเจิ้งเซินก็ไม่ได้แย่ และเธอก็รักคุณมาก น่าเสียดายจัง……ประเทศจีนกฎมีคู่สมรสได้แค่คนเดียว ฮ่าฮ่า!”
หลงเซียวเหลือบมองเขาไปหนึ่งครั้ง “นายไม่มีอะไรทำเหรอ?”
“มีสิ! เรื่องเยอะจะตาย ใช่ใช่ใช่ มีเรื่องหนึ่งที่จะบอกกับคุณ น้องชายที่แสนดีของนาย แม่แท้ๆ ของ……..คุณชายรองสอง กลับมาแล้ว ช็อกไหม? ตื่นเต้นรึเปล่า?”
มือของหลงเซียวที่จับแก้วกาแฟไว้ก็จับแน่นขึ้นมา ตอบอย่างลากเสียงยาว “หื้ม?”
“ไม่รู้ว่าหลงถิงกับหลงจื๋อกำลังคิดอะไรอยู่ เดิมทีแม่ของเขาอยู่อเมริกาก็สบายดีอยู่แล้ว แต่จู่ๆ ก็กลับมา อย่างไรก็ตามผมคิดว่ามีเงื่อนงำ”
“เธอเป็นแม่ผู้ให้กำเนิดของหลงจื๋อ กลับมาเยี่ยมลูกชายที่ประเทศจีนก็เป็นเรื่องปกติดี ” หลงเซียวไม่อยากอธิบายมากมายกว่านี้ แต่ในใจของเขานั้นรู้อย่างชัดเจนว่า ที่หลงถิงให้โฉหวั่นชิงกลับมาเวลานี้ ก็เพราะว่าแม่ของเขาถูกวินิจฉัยว่าความจำผิดปกติ
ส่วนโฉหวั่นชิง … ผมเกร็งว่าหลงถิงคงจะใช้ประโยชน์อย่างอื่นรึ?
“ข่าวนี้ผมเอามาบอกแล้วนะ หลังจากนั้นผมตื่นเต้นกับข่าวใหญ่ของตระกูลหลงมาก ผมไปยุ่งก่อนนะ” กู้เยนเซินตบๆ ที่ก้นแล้วเดินจากไป
โทรศัพท์ของหลงเซียวสั่น หน้าจอก็เปิดมาเป็นข้อความที่ส่งมาจากหลงจื๋อ
“พี่ใหญ่ครับ พ่อของผมให้แม่กลับประเทศแล้วนะครับ ผมคิดว่าผมควรบอกพี่”
หลงเซียวอ่านไปสองรอบและตอบกลับไปว่า “เป็นเรื่องที่ดีนะ”
หลงจื๋อที่นั่งอยู่ในห้องนั่งเล่นของโรงแรม เขามองไปห้องที่ประตูปิดไว้ เขารู้สึกตื่นเต้นมากกว่าเมื่อกี้อีก พี่ใหญ่บอกว่าเป็นเรื่องที่ดี?
เขายอมรับแล้วจริงๆ หรือ? หรือแค่……
เขากำลังนั่งคิด ประตูห้องก็เปิดมา
โฉหวั่นชิงเดินมาอย่างหน้าตายิ้มแย้มพร้อมหลงถิง
“เสี่ยวจื๋อ เดี๋ยวนายไปเดินเล่นเป็นเพื่อนแม่หน่อยนะ แม่ไม่ได้กลับมาที่นี่ตั้งหลายปี เมืองหลวงเปลี่ยนไปเยอะมาก ฉันแทบจะจำไม่ได้แล้ว”
หลงจื๋อไม่รู้ว่าหลงถิงพูดอะไรกับเธอ แต่ดูจากความอารมณ์ดีของเธอเดาได้ว่าคุณพ่อต้องทำให้เธอมีความสุขมากแน่ๆ
หลงจื๋อพยักหน้า “อืม คุณแม่อยากไปไหนครับ? ผมจะขับรถไปส่งคุณแม่เอง”
โฉหวั่นชิงมองไปที่หลงถิงและยิ้มหวานออกมา “เมื่อกี้ฉันเพิ่งบอกพ่อของนายไปว่าฉันไม่ได้กลับบ้านตระกูลหลงมานานแล้ว นายพาฉันกลับบ้านเถอะ อีกสักพักพ่อของนายจะไปที่บริษัท นายไปเดินเล่นเป็นเพื่อนฉันหน่อย ฉันไม่เข้าไปฉันแค่ไปดูเฉยๆ ”
เธอพยายามจะอธิบายบางอย่าง ในคำพูดนั้นเต็มไปด้วยความไม่รู้ว่าควรพูดยังไงดี
หลงจื๋อพยักหน้า “อืม วันนี้คุณแม่จะไปตรวจสุขภาพที่โรงพยาบาล ผมพาคุณแม่กลับไปเยี่ยมดู”
โฉหวั่นชิงตื่นเต้นจนไม่รู้ควรทำยังไงดี เธอจับแขนของหลงถิงไว้ไม่ยอมปล่อย “คุณพี่หลง ขอบคุณมากๆ นะที่คุณให้ฉันกลับมา ฉันรู้สึกมีความสุขมากๆ จริงๆ!”
สีหน้าของหลงถิงดูเคร่งขรึม เขาไม่ได้มีความสุขมาก แต่ก็ไม่ได้ดูรำคาญ “ในเมื่อกลับมาแล้ว ก็อยู่กับเสี่ยวจื๋อหลายวันหน่อย จะได้ไม่ต้องคิดถึงมากมายอีก”
“ใช่ ฉันก็คิดอย่างนั้นเหมือนกัน”
หลงถิงดึงบัตรธนาคารออกจากกระเป๋าสตางค์หนึ่งใบ และยื่นไปให้โฉหวั่นชิง “ต้องทำอะไรบ้างเธอก็ไปเลือกเองเลย สองวันนี้ก็น่าจะเก็บบ้านเสร็จเรียบร้อยแล้ว ตอนที่เข้าไปอยู่เธออยากได้คนใช้แบบไหนเธอก็เลือกเอง ผมให้เสี่ยวเฉินไปจัดการให้”
โฉหวั่นชิงรู้สึกเกรงใจเล็กน้อย ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยความสุขที่ไม่สามารถเก็บซ่อนมันได้
“ไม่เป็นไรไม่เป็นไร ฉันดูแลตัวเองได้ไม่ต้องใช้คนรับใช้”
หลงถิงมองไปที่เธอ “ให้คุณเลือกคุณก็เลือก ในเมื่อคุณกลับมาแล้วคุณควรทำอะไรก็ทำแบบนั้นเลย”
อยู่ดีๆ ก็เห็นพ่ออ่อนโยนขนาดนี้ หลงจื๋อรู้สึกซับซ้อนในใจ “คุณแม่ครับ ในเมื่อคุณแม่พูดแบบนี้แล้ว คุณแม่ก็ทำตามที่คุณพ่อสั่งเถอะครับ ที่บ้านมีคนรับใช้อยู่แล้ว คุณแม่จะลำบากตัวเองทำไม?”
โฉหวั่นชิงตอบตกลงอย่างเชื่อฟัง “โอเคโอเคโอเค ฉันจะฟังพวกคุณ”
หลงถิงอยู่ไม่ถึงหนึ่งชั่วโมงจากนั้นเขาก็ออกไป โฉหวั่นชิงแต่งตัวไปสักพักก็ขึ้นรถของหลงจื๋อไป
ระหว่างทางไปบ้านหลังเก่าของตระกูลหลง โฉหวั่นชิงชี้ไปที่นอกหน้าต่างแล้วถามอย่างตื่นเต้น “นี่คืออสังหาริมทรัพย์ของMBK ใช่ไหม? สวยมาก”
หลงจื๋อไม่ต้องมองก็รู้ว่าสิ่งที่เธอกำลังชี้มันคืออะไร “ครับ อสังหาริมทรัพย์เมื่อหลายปีก่อน ขายไปหมดแล้ว”
“อันนี้ล่ะ ข้างบนก็เป็นสัญลักษณ์ของMBKเช่นกัน อาคารทั้งสองตึกนี้มีสไตล์จริงๆ ดูใหม่มากเพิ่งสร้างเสร็จใช่ไหม? ” ความภาคภูมิใจของโฉหวั่นชิงก็เพิ่มขึ้นราวกับว่าสิ่งเหล่านี้เป็นของตัวเอง”
หลงจื๋อใช้หางตาเหลือบมอง “ครับ อาคารหลักเพิ่งสร้างเสร็จ และสิ่งอำนวยความสะดวกที่รองรับของพื้นที่อยู่อาศัยระดับไฮเอนด์นั้นซับซ้อนกว่าตึกเมื่อกี้ครับ ที่ตอนนี้ยังอยู่ในระหว่างการก่อสร้าง”
โฉหวั่นชิงฟังจนรู้สึกตื่นเต้นอย่างมาก “มันเยี่ยมมาก! มันเยี่ยมมากจริงๆ! ตอนที่ฉันไป ที่นี่ยังเป็นหมูบ้านอยู่เลย ตอนนี้กลายเป็นชุมชนระดับไฮเอนด์ไปแล้ว ประเทศจีนพัฒนาเร็วจริงๆ”
เธอย้ำซ้ำ ๆ ไปมาว่ามันดีมาก มันดีจริงๆ คำศัพท์ที่มีแค่น้อยนิดนั้นเผยความรู้ของเธอที่มีไม่มากของเธอออกมา
ถ้าพูดในเรื่องนี้นั้นเธอด้อยกว่าหยวนชูเฟินไปมากจริงๆ
…
เมื่อเห็นวิลล่าของตระกูลหลง โฉหวั่นชิงจ้องมองเป็นเวลานาน ดวงตาของเธอเปียกชื้น น้ำตาของเธอไหลลงมา เหตุการณ์ในอดีตมากมายผุดขึ้นมา เธอเช็ดน้ำตาต่อหน้าหลงจื๋อเขายิ้มแล้วพูด “นายอย่าถือสานะ แม่………ไม่ได้กลับบ้านมานานแล้ว…”
แม่บ้านได้รับข่าวล่วงหน้าแล้ว เธอเปิดประตูออกด้วยความเคารพ แล้วผายมือออก “เชิญค่ะ”
นั่นคือมารยาทที่มีต่อแขก ไม่ใช่ความเคารพที่มีต่อเจ้าของ
โฉหวั่นชิงไม่ได้สนใจอะไรมาก เธอเดินเข้าไปในลานหน้าบ้าน ฤดูหนาวในลานหน้าบ้านผลิบานไปด้วยดอกซากุระสีแดง รั้วรอบ ๆ บ้านล้อมรอบไปด้วยต้นฮอลลี่ที่เขียวชอุ่มซึ่งตัดกับความเหี่ยวเฉาที่อยู่นอกรั้วได้อย่างชัดเจน
โฉหวั่นชิงเดินดูชั้นล่างจนทั่วอย่างมีความสุขและเมื่อเห็นรูปถ่ายและทรัพย์สินส่วนตัวของหยวนชูเฟิน ความโกรธในดวงตาของเธอก็ลุกเป็นไฟขึ้นมา
เธอหยิบภาพครอบครัวที่วางบนโต๊ะขึ้นมา แล้วใช้สองมือบีบไปที่กรอบรูปอย่างแรง สายตาที่โกรธจนแหลมคมนั้นจ้องมองไปที่หยวนชูเฟินที่อ่อนโยน แทบจะจ้องจนแทงรูปนั้นเป็นรูได้
“ใครอยู่ที่นั่น? ”
หยวนชูเฟินกลับมาจากข้างนอก เธอเห็นร่างหนึ่งกำลังหันหลังให้กับเธอ ผู้หญิงคนนั้นมัดผมไว้ และใส่ชุดกระโปรงยาวสีน้ำเงินของฤดูหนาว รูปร่างนั้นดูแปลกตาไปเล็กน้อย
“เพี๊ยะ! ”
ด้วยความตกใจกรอบรูปที่อยู่ในมือของโฉหวั่นชิงก็หล่นลงบนพื้นแล้วแตกละเอียดเป็นหลายชิ้น!
เธอยังไม่ทันได้เก็บกวาดแล้วเธอก็หันหลังไปมองอย่าตื่นตระหนก
ท่ามกลางประกายไฟ เธอเห็นใบหน้าของหยวนชูเฟิน ไม่ได้เจอกันมาตั้งหลายปี เธอยังคงดูแลผิวพรรณได้เป็นอย่างดี สีหน้าที่ขาวซีดที่เกิดจากอาการป่วยของเธอนั้นทำให้หน้าตาของเธอดูเหนื่อยล้าลงแต่ไม่ถึงกับแก่เฉา
หยวนชูเฟินอายุมากกว่าเธอหลายปี แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าเธอจะดูอายุน้อยกว่าตัวเองด้วยซ้ำ
ผู้หญิงที่ได้รับการดูแลมาอย่างดีนั้นต่างจากเธอจริงๆ!
เธอสองคนสบตากัน คนหนึ่งรู้สึกกังวลใจและไม่สบายใจ อีกคนหนึ่งรู้สึกตกใจและสงสัย
โฉหวั่นชิงอ้าปากอย่างยากลำบาก “คุณ ….. ”
หยวนชูเฟินจำเธอได้ ในใจของเธอรู้สึกตกตะลึงเล็กน้อย แต่ใบหน้าของเธอนั้นดูอ้างว้าง “คุณเป็นใคร? ทำไมคุณถึงอยู่ในบ้านของฉัน”
เมื่อโฉหวั่นชิงได้ยินเธอพูดเช่นนี้ สีหน้าของเธอก็แข็งขึ้นมาทันที “ฉันเป็นใคร? หยวนชูเฟินคุณกำลังพูดอะไรอยู่? ”
“ฉันรู้จักคุณเหรอ? ” หยวนชูเฟินยังคงสงสัย
“ฉันเอง! ไม่ได้เจอกันมา 20กว่าปี ฉันเปลี่ยนไปจนทำให้เธอไม่กล้ายอมรับว่ารู้จักฉันเหรอ? ก็จริง ตอนนั้นที่เธอไล่ฉันออกจากบ้านไป ฉันยังอายุไม่ถึง20 ตอนนี้ฉันแก่แล้ว แน่นอนว่าคุณคงจำไม่ได้! ”
“ฉันไล่คุณ? คุณเป็นใคร? ทำไมฉันถึงต้องไล่คุณด้วย? ” หยวนชูเฟินเห็นเศษซากของรูปภาพที่อยู่บนพื้น “เกิดอะไรขึ้นกับรูปถ่ายนั้น? ”
โฉหวั่นชิงมองดูหยวนชูเฟินอย่างไม่อยากจะเชื่อ “คุณไม่รู้จักฉันจริงๆ เหรอ? ”
หยวนชูเฟินไม่ได้สนใจเธออีกต่อไป เธอหยิบรูปถ่ายขึ้นมาอย่างเจ็บใจ และเช็ดทำความสะอาดอย่างระมัดระวัง “ทำไมมันถึงแตกล่ะ”
“ท่านแม่ครับ ท่านกลับมาแล้วเหรอ?” หลงจื๋อไม่คาดคิดว่าหยวนชูเฟินจะกลับมาเร็วขนาดนี้ อีกอย่างเธอดันไปเจอกับโฉหวั่นชิงก่อน ตกใจมาก
หยวนชูเฟินวางรูปถ่ายลง “เสี่ยวจื๋อ นายมาพอดีเลย คนนี้คือ … ”
“ท่านแม่ครับ ….ท่านแม่จำแม่ของผมไม่ได้แล้วเหรอครับ?”