ประธานหยิ่งยโสของฉัน – ตอนที่ 850

ตอนที่ 850

ตอนที่ 850 ใส่ชื่อเข้าไปในใบทะเบียนบ้านของคุณ

“หมอฉู่ คุณกับเจมส์มีความสัมพันธ์ยังไงกันแน่? หนุ่มน้อยน่ารักขนาดนี้เดินทางมาไกลจากแอฟริกา คงไม่เป็นแค่หมอกับคนไข้หรอกนะ?”

กู้เยนเซินกระซิบกับลั่วหานเสียงเบามาก แต่ว่าไม่ทันได้เห็นสายตาเย็นเยียบคู่หนึ่งมองผ่านหน้าไป

ลั่วหานยิ้มอย่างไม่สามารถหยั่งรู้เหตุการณ์ได้ “ก็แค่ความสัมพันธ์ง่ายๆ แบบนี้แหละ”

กู้เยนเซินกะพริบตาอย่างคลุมเครือ “พูดความจริงเถอะ คุณชายหลงไม่ได้ยินหรอก ฉันก็ไม่มีทางบอกเขาแน่ๆ!”

ให้อาหารฟู้กุ้ยจนอิ่ม ช่วยปรับอารมณ์ให้มัน เจมส์ก็จิตใจเบิกบาน รอยยิ้มบนใบหน้าหล่อเหลาราวกับแย้มบาน มองไกลๆ ก็รู้สึกสบายตาสบายใจ

“คุณชายกู้ ถ้าคุณเอาความกระตือรือร้นในการซุบซิบนินทาไปทำงาน พ่อของคุณก็ยกบริษัทกู้ซื่อให้คุณไปนานแล้ว”

“โถ่โถ่โถ่ คุยก็ส่วนคุย จะมาโจมตีกันไม่ได้นะ จากที่ฉันเห็น เจมส์เป็นหนุ่มหล่อน่ารักขนาดนี้ ถ้าคุณไม่ได้เป็นอะไรกับเขาจริงๆ ฉันก็เสียดายแทนคุณ คุณคิดดูนะ หนุ่มน้อยน่ารักบริสุทธิ์ไร้พิษภัยอย่างนี้ คุณจะหาได้จากไหนอีก?”

ลั่วหานผลักประตูออก เจมส์เดินมาทางนี้ อารมณ์ดี ยิ้มร่าตลอดทาง

“อย่ามีคนแบบนี้อีกเลยดีกว่า แค่คนเดียวฉันก็เหนื่อยใจพอแล้ว”

“จะเหนื่อยได้ยังไง? ไม่มีเป็นอะไรแค่ลวนลามนิดหน่อย จะช่วยปลูกฝังความรู้สึกขนาดไหน! ฉันล่ะชอบมากเลย!”

“คุณชายกู้ถูกใจเหรอ? เสป็คพิเศษเหมือนกันนะ ถ้างั้น ฉันจะไปบอกกับไป๋เวย ยอมให้คุณมีเมียน้อย?” ลั่วหานหยอกล้อกู้เยนเซิน พูดอย่างจริงจัง ดูยังไงก็ไม่เหมือนว่าล้อเล่นอยู่

กู้เยนเซินหวาดกลัวในพริบตา “จะเป็นไปได้ยังไง ฉันเป็นชายแท้ ชายแท้ถ้าปลอมจะเปลี่ยนของให้เลย ความคิดของหมอฉู่แย่เกินไปแล้ว แย่เกินไป”

เจมส์เดินมาทางนี้ ฟู้กุ้ยก็ตามมาอยู่ข้างๆ เขาอย่างกับซามอยด์ ไม่มีท่าทางข่มขู่แบบสัตว์ใหญ่เลยแม้แต่น้อย

กู้เยนเซินถูกความน่ารักของฟู้กุ้ยเอาชนะไปอย่างสมบูรณ์ จะเข้าไปลูบหัวฟู้กุ้ย ใช้โอกาสนี้รีบจบหัวข้อที่ลามใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ

แต่พอกู้เยนเซินยื่นมือออกไป ท่าทางเชื่องของฟู้กุ้ยพลันก็เปลี่ยนไปอย่างมาก ดวงตากลมโตเบิกกว้างอย่างตื่นตัว

“ชิท!”

กู้เยนเซินถอยออกไปติดกันสามก้าว มือข้านั้นสั่นเครือด้วยความหวาดผวาไม่หาย ไม่มีท่าทีลดลงอยู่พักใหญ่

เจมส์เพียงพยักหน้าให้กู้เยนเซินเป็นสัญลักษณ์เท่านั้น พาฟู้กุ้ยไปเสนอสมบัติให้ลั่วหาน “แอนน่า คุณลองลูบดูสิ มันเชื่อฟังมาก ไม่มีอันตรายอะไร คุณลองดู”

ร่างของหลงเซียวปรากฏขึ้นก่อน ขยับเข้ามาบังตัวปกป้องเธออย่างสมบูรณ์แบบ “ฉันเอง”

ลั่วหานถูกเงาร่างสูงใหญ่ของเขาบังอยู่ด้านหลัง สายตาที่มองเห็นกลายเป็นสีเทาหม่นสลัว ทว่าแสงในใจกลับสว่างใส

เธอยื่นหัวออกมาจากฝั่งขวาของหลงเซียว แสดงความอ่อนแอเหมือนผู้หญิงตัวเล็กๆ ที่ขี้ขลาด “ได้สิ สามีไปก่อนเลย ฉันกลัวนิดหน่อย”

กู้เยนเซินที่อยู่ข้างมองต่อไปไม่ไหวแล้ว “หมอฉู่ คุณไม่ใช่หญิงแกร่งหรอกเหรอ? คุณจะกลัวมันอ่ะนะ?”

หลงเซียวยิงสายตาใส่เขา ไม่เอ่ยคำ แต่กลับทำให้กู้เยนเซินหุบปากตา

ฟู้กุ้ยนั้นเชื่องมากจริงๆ หลงเซียวลูบไปตามขนสีสว่างของมัน ทำซ้ำไปซ้ำมาจนแน่ใจแล้วส่งให้ลั่วหาน

ลั่วหานยืนยันแล้ว ก็กล่อมชูชู “เบบี๋ อยากลองไหมจ๊ะ? มันเป็นเพื่อนสนิทของลูกนะ”

ชูชูยังเด็กไปมาก ไม่ได้มีความตระหนักในตนเอง แต่เด็กน้อยก็แสดงออกต่อสิ่งที่ชอบอย่างซื่อตรงกว่าและโดยตรงกว่า มักจะอยากเอามือไปแตะ

ชูชูไม่กลัวเลยแม้แต่น้อย มือเล็กๆ คู่นั้นจับหูของฟู้กุ้ย เอาเป็นที่จับแทนคอเสื้อของแด๊ดดี้ คนที่อยู่ข้างๆ มองแล้วรู้สึกระแวงในใจ สาวน้อยกลับเล่นอย่างเต็มไปด้วยความสนใจ หัวเราะคิกคักออกมา

คุ้นชินกับรีสอร์ทหยีจิ่งไปอย่างง่ายดาย เวลาก็เดินมาถึงช่วงมื้อเที่ยง

เจมส์อาบน้ำเสร็จ เปลี่ยนชุดแอฟริกาที่ยุ่งยากซับซ้อน เป็นชุดคาร์ดิแกนสบายๆ แมทช์กับเสื้อกั๊กฤดูหนาว และแมทช์กับกางเกงเรียบๆ สีดำ สไตล์ของเขาเปลี่ยนไปทั้งตัว

กู้เยนเซินจุ๊ปากอย่างชื่นชม “เจมส์ ถ้าคุณไม่เป็นเจ้าชาย ฉันจะแนะนำให้คุณไปเซ็นสัญญากับบริษัทวงการแสดง รับประกันว่าคุณต้องเป็นดาราดังอันดับต้นๆ แน่! ดังจนไม่รู้จะดังยังไงอะไรแบบนั้นน่ะ!”

เจมส์แสดงท่าทีว่าไม่สนใจ เขาเท้าคางตามองจ้องตรงไปที่ห้องครัว คิดเช้าคิดเย็นรอคอยอาหารจีน

โดยเฉพาะอาหารจานนั้นที่ลั่วหานทำด้วยตัวเอง

กู้เยนเซินถูกเมิน ก็รู้สึกพ่ายแพ้

แต่หลงเซียวที่กล่อมลูกนอนกลับมา ดวงตาเตือนสติก็จุดไฟที่ดับไปของเขากลับมา

“เจ้าชายเจมส์ ทานข้าวเสร็จแล้วคุณอยากทำอะไร? พี่ชายจะพาไปเอง!”

“ไม่ไปไหนทั้งนั้น ฉันจะรอแอนน่าเลิกงานกลับบ้านอยู่ที่นี่”

“……” ฟัค อย่ามาพูดจาแม่ศรีเรือนขนาดนี้ได้ไหม!

หลงเซียวนั่งลง เหลือบมองเวลา ใกล้จะได้เวลากินข้าวแล้ว “คุณชายกู้ ตอนบ่ายไปเล่นเซิร์ฟเป็นไง?”

กู้เยนเซินงุนงงเล็กน้อย เล่นเซิร์ฟ?

“อา ใช่! วันนี้ตอนบ่าย! เตรียมไว้หลายสิบรายการ เล่นวินด์เซิร์ฟ สนุกเร้าใจมาก แล้วก็ยังมีการแสดงพิเศษ หนึ่งปีมีครั้งเดียวล่ะ!”

เจมส์ยังคงมองไปที่ห้องครัวด้วยความแน่วแน่ ไม่ได้ฟังเข้าหูเลยแม้แต่น้อย

กู้เยนเซินหัวเราะเหอะเหอะ “เจอคู่แข่งซะแล้ว”

มื้อเที่ยงมีพ่อครัวจากร้านอาหารระดับห้าดาวมาทำให้ อาหารสิบแปดอย่าง ซุปอีกสี่ชุด สีกลิ่นล้วนเป็นมาตรฐานสูงสุด กุ้งแก้วทะเล เห็ดมรกต ชิงเหมยอาหารวังหลวง……

ด้วยชื่อที่ไพเราะสง่างาม ปริมาณเยอะกว่าจำนวนที่นั่งมาก

เจมส์จับตะเกียบอย่างช่ำชอง แต่ว่ามองไปรอบๆ แล้วก็หาอาหารที่ตัวเองเฝ้ารอไม่เจอ “แอนน่า ที่คุณทำล่ะ?”

“อาหารเยอะขนาดนี้ ยังไม่พอคุณกินอีกเหรอ?”

“พออยู่แล้ว แต่ว่าฉันอยากกินที่คุณทำมากกว่า!”

ในฐานะที่กู้เยนเซินเป็นแขกมาอาศัยกินด้วยมือหนึ่ง เขาก็ยอมแพ้เลย “เจ้าชายเจมส์ หมอฉู่เป็นหมอ ไม่ใช่แม่ครัว”

ลั่วหานไม่แสร้งสร้างสถานการณ์อีก เธอให้คนรับใช้ยกจานอาหารที่ตัวเองทำเข้าก่อนเจมส์จะเริ่มงอแง อาหารง่ายๆ เป็นเพียงซี่โครงหมูผัดเปรี้ยวหวานธรรมดาๆ แต่ว่าปริมาณเพียงพอ มองดูแล้วเหมือนอาหารข้างถนนที่ทั้งได้เยอะและราคาถูกของพลเรือนธรรมดาทั่วไป

ดวงตาของเจมส์เป็นประกายวิบวับ “ซี่โครงหมูผัดเปรี้ยวหวาน! ฉันชอบฉันชอบ!”

กู้เยนเซินคีบไก่เจเข้าปากเคี้ยว ชื่นชมศรัทธาเทสต์อาหารของเจมส์อย่างยิ่ง อาหารจากพ่อครัวระดับห้าดาวไม่ชอบ แต่กลับไปชื่นชอบตื่นเต้นกับซี่โครงหมูจานใหญ่ เจ้าเด็กนี่บ้าไปแล้วเหรอ?

เจมส์ไม่รีรอเอาอาหารจานใหญ่มาวางไว้จุดที่ใกล้ตัวเองมากที่สุด ยื่นตะเกียบไปคีบชิ้นที่ใหญ่ที่สุดมา “อื้ม! รสชาตินี้แหละอร่อยจริง!”

กู้เยนเซินก็อดไม่ได้คีบมาหนึ่งชิ้น แต่เขาไม่คิดเลยว่า ซี่โครงหมูนี้รูปลักษณ์ห่างไกลจากอาหารของลุงห้าดาวอย่างมาก แต่รสชาติกลับดีอย่างประหลาด

รสเบาแต่ก็หวาน กลิ่นหอมเข้นแต่ก็ไม่เลี่ยน ซี่โครงหมูมีความสดชื่นและยังคงรสชาติดั้งเดิมของเนื้อไว้

“หมอฉู่! คุณทำเองจริงๆ! ไม่นึกเลยว่าคุณจะทำอาหารได้ แถมทำได้อร่อยขนาดนี้!”

เจมส์ชอบมากจนอยากเก็บไว้ทั้งจาน ไม่อยากให้คนอื่นได้กินอีกแม้แต่คำเดียว กู้เยนเซินกลับติดใจซะแล้ว เดี๋ยวกินเดี๋ยวกิน คีบติดต่อกันไม่หยุดไปห้าหกชิ้นอย่างไม่คิดเกรงใจ

“ฉันทำเอง เข้าตาคุณชายกู้ได้รึเปล่า?”

“ได้! ต้องได้อยู่แล้ว! นอกจากซี่โครงหมู คุณยังทำอะไรได้อีก? วันหลังคุณทำอาหารฉันกินเอง!”

หลงเซียวที่ทานอาหารอยู่เงียบๆ ในที่สุดก็เอ่ยปากออกมา “ไม่มีวันหลัง มีแค่ครั้งนี้ครั้งเดียว ทำอาหารลำบากมาก ฉันไม่อยากให้เธอทำ”

“……คุณชายหลง คุณสั่งไล่แขกแบบนี้โหดร้ายเกินไปแล้ว!”

แต่ว่าพอเห็นสายตาของหลงเซียว กู้เยนเซินก็เข้าใจได้ งานของเขายังไม่สำเร็จ

กู้เยนเซินรีบดึงเจมส์มาเป็นพวกตอนที่เขากำลังลิ้มรสความอร่อยอยู่ แต่กลอุบายทั้งหมดก็พังลงไม่เหลือซาก

มื้อเที่ยงใกล้จบลง ลั่วหานเอ่ยอย่างคนที่มีความสามารถแต่กลับไม่เป็นที่สะดุดตา “ตอนบ่ายคุณชายกู้จะไปเล่นเซิร์ฟเหรอ?”

กู้เยนเซิน “……” ทำเหมือนเป็นเรื่องจริง พวกคุณสองคนจะทำอะไรกันแน่?

“ใช่สิ เล่นเซิร์ฟ”

ลั่วหานคีบปลาชิ้นหนึ่งให้เจมส์ “อยากกินปลาดาบตุ๋นไหม?”

ดวงตากลมโตของเจมส์กะพริบอย่างจริงใจไม่มีใครเทียบ “อยาก!”

“ตอนบ่ายคุณไปเล่นเซิร์ฟกับเขา แล้วไปตกปลามาไว้ด้วย ถ้าตกได้ปลาดาบฉันจะทำให้”

“ได้!”

กู้เยนเซินมองไปที่เจมส์ที่หลงกลอย่างไม่เชื่อสายตา ในใจมีเงามืดวาบผ่าน

ปลาดาบ? เมืองหลวงไม่ใช่ทะเลตะวันออกสักหน่อย จะมีปลาดาบที่ไหนเล่า!

กู้เยนเซินพาเจมส์ไปอย่างราบรื่น จัดการเรื่องใหญ่ในความคิดของหลงเซียวได้แล้ว

เมื่อแขกจากไป ลั่วหานก็เตรียมจะไปโรงพยาบาล

เธอเดินไปถึงโรงจอดรถ ก็ถูกหลงเซียวดึงตัวเข้ามาสู่อ้อมแขนอย่างอาลัยรัก “อย่าเพิ่งไป ให้ฉันกอดพักหนึ่ง”

ลั่วหานลูบแขนของเขา “ที่บริษัทมีปัญหาเหรอ?”

หลงเซียววางคางไว้บนหัวของเธอ “ไม่ใช่ โปรเจคราบรื่นมาก”

ลั่วหานจัดเนคไทและคอเสื้อของเขาให้เรียบร้อย “แล้วเป็นอะไรเหรอ? มีปัญหาตรงไหนรึเปล่า?”

หลงเซียวปล่อยแขนของเธอ “รอฉันก่อน”

ลั่วหานนึกสงสัย หลงเซียวหยิบหนังสือเล่มสีแดงสองเล่มออกมาจากรถ วางไว้ในมือลั่วหานอย่างเคร่งขรึม “ใบทะเบียนสมรส”

ลั่วหานใจสั่นสะเทือนเพราะสิ่งของในมือ “คุณทำเรื่องแต่งงานใหม่เสร็จแล้วเหรอ?”

“คุณไม่ยินยอมเหรอ?”

ลั่วหานเปิดหนังสือทะเบียนสมรส รูปถ่ายประจำตัวของทั้งคู่เป็นรูปที่ตัดมาจากที่ถ่ายด้วยกันคราวที่แล้ว พื้นหลังตัดต่อ ไม่มีความอ้อมค้อมเลยแม้แต่น้อย

ลั่วหานยกคิ้วเรียวสวยขึ้นสูงยิ้มเท่เท่ออกมา “ไม่ได้ไม่ยินยอม แค่รู้สึก……ไม่สะใจ ตอนแรกฉันอยากแอบไปทำ แต่คุณกลับแอบฉันทำซะได้ รู้สึกแพ้นิดหน่อยนี่!”

หลงเซียวไม่พูด มองเธอนิ่งเงียบ

ลั่วหานซ้อนใบทะเบียนสมรสไว้ด้วยกัน “แต่ก่อนฉันเคยบอกไว้ ฉันจะต้องเอาชื่อของตัวเองใส่เข้าไปในใบทะเบียนบ้านของคุณให้ได้ ยังจำได้รึเปล่า?”

ความทรงจำของหลงเซียวย้อนกลับอย่างบ้าคลั่ง นึกไปหลายรอบก็นึกไม่ออกว่าเธอเคยพูดประโยคนี้ตอนไหน “พูดไปตอนไหน?”

ลั่วหานไพล่หลังหัวเราะอย่างชั่วร้าย “ตอนอยู่ในฝัน ฮ่าฮ่า!”

หลงเซียวดวงตาลึกซึ้งขึ้นไม่ขยับเลยแม้แต่น้อย “ขนาดตอนคุณฝันยังอยากแต่งงานกับฉันเหรอเนี่ย?”

แย่แล้ว ไม่ทันระวังก็พูดความในใจออกไปซะได้ ตอนนั้น……เธอคิดอย่างนั้นจริงๆ แม้ฝันก็ยังอย่างแต่งกับเขา

“คือนี่…….”

“ฉันคิดแบบนี้ ตอนนั้นผู้หญิงที่ฉันฝันว่าแต่งงานด้วย ก็คือคุณ” หลงเซียวชิงพูดความในใจตัวเองก่อนเธอ

ลั่วหานรู้สึกทำตัวไม่ถูกเล็กน้อย “คุณ……”

หลงเซียวยกข้อมือขึ้นดูเวลา “ไปทำงานเถอะ ฉันจำได้ว่าตอนบ่ายคุณมีผ่าตัด อย่าไปสายเลย”

“หา? ใช่! ฉันจะไปตอนนี้แหละ”

ปากก็พูดว่าจะไป แต่ลั่วหานกลับก้าวเท้าไม่ออก “หลงเซียว ก่อนหน้านี้ฉันดูหนังเรื่องหนึ่ง อยากพูดบทพูดในเรื่องนั้นกับคุณ”

“หืม?” หลงเซียวปลดล็อก เสียงรถดังขึ้น

ลั่วหานเขย่งเท้าขึ้น เอ่ยทีละถ้อยคำ “ขุนนางก็มีเท้าสองข้าง ข้ามภูเขาข้ามทะเลก็จะกลับมา”

ประธานหยิ่งยโสของฉัน

ประธานหยิ่งยโสของฉัน

Status: Ongoing

คุณหลง อย่าหยิ่งยโสเกินไป / ประธานหยิ่งยโสของฉัน หมออายุรศาสตร์มือหนึ่งฉู่ ลั่วหาน แต่งงานมาสามปีแล้ว กลับ ไม่มีใครสักคนรู้ว่าสามีเธอเป็นคุณชายใหญ่ของตระกูลหลง ตระกูลร่ำรวยอันดับแรกของเมืองเจียงตู ซึ่งเป็นคุณชาย เซียวที่ใครๆได้ยินชื่อก็ต้องหวาดกลัว ตลอดสามปีมาทั้งสอง ไม่เคยมีอะไรกัน เธอต้องทนดูรูปภาพหวานๆของเขากับเมีย น้อยโชว์บนหน้าจอ เธอหัวเราะ “หลงเซียว เราหย่ากันเถอะ” ” เห้อ หย่าเหรอ คุณผู้หญิง คุณคิดว่าผมเป็นอะไร? ” เธอเซ็น ใบหย่าอย่างไม่ลังเล ทิ้งแหวนแต่งงาน ดีมาก! เธอกล้ามาก คอยดูแล้วกันว่าผมจะจับคุณกลับมายังไง!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท