ตอนที่ 866 หนึ่งร้อยหยวนอมยิ้มหนึ่งอัน
มองหน้าจอโทรศัพท์ของตัวเองที่แตกละเอียดไม่ต่ำกว่าสิบครั้ง สำคัญคือ เขาใช้จังหวะตรวจดูโทรศัพท์สำรวจอิสซาไปด้วยหนึ่งรอบ กระเป๋าแอร์เมส ชุดเดรสจีวองชี่ เสื้อคลุมโคลเอ้ กางเกงยีนอาร์มานี่ รองเท้าแม้จะมองไม่เห็นเท่าไหร่แต่เห็นได้ชัดว่าเป็นรองเท้าบูทมาร์ตินผลงานช่างอิตาลี
ว้าว…
ผู้หญิงคนนี้ก็คือคนรวยดีๆนี่เอง
มุมปากของจางหย่งยิ้มบานราวกับดอกไม้ “คุณผู้หญิง คุณจะชดใช้ยังไงครับ”
อิสซายกมือขึ้นลูบแขน “พังแล้ว ซื้อเครื่องใหม่สิ”
อารมณ์ของจางหย่งอารมณ์ดี หัวเราะออกมา “คงไม่ต้องมั้งครับ เปลี่ยนหน้าจอด้านในก็พอแล้ว”
โทรศัพท์รุ่นนี้ไม่ใช่โทรศัพท์ทัชสกรีนทั่วไปในท้องตลาด โดยเฉพาะการกำหนดเอง โทรศัพท์กำหนดเองโดยทั่วไปจะตั้งศูนย์หลักอยู่ภายในห้าจอก็ทำเสริมมาให้เหมาะสม แต่หน้าจอนี้แค่เล็กๆน้อยๆก็แตกแล้ว
“คุณผู้ชาย คุณล้อฉันเล่นหรือเปล่า โทรศัพท์ที่ตกแตกคุณให้ฉันเปลี่ยนหน้าจอแล้วใช้งานต่องั้นเหรอ ขอโทษนะคะ ฉันไม่ใช่คนใช้ของที่ถูกเปลี่ยนชิ้นส่วน” อิสซาพูดภาษาอังกฤษยาวเหยียด วางฟอร์ม ออร่าแรงมาก
จางหย่งก้มลงเล็กน้อยเพื่อมองริมฝีปากที่กำลังเคี้ยวหมากฝรั่งของเธอ เธอเคี้ยวไปอย่างเป็นธรรมชาติ ไม่ช้าไม่เร็ว ริมฝีปากที่ถูกทาด้วยลิปสติกสีแดงบดซ้ายขวา… ริมฝีปากนี้ ทำไมถึงได้รู้สึกคุ้นเคยอย่างไม่ทราบสาเหตุกันนะ
เป็นไปไม่ได้ ต้องรู้สึกที่ผิดพลาดแน่ๆ
“คุณผู้หญิง โทรศัพท์แบบคุณคงไม่ได้หาซื้อง่ายๆนะครับ” จางหย่งยังคงยิ้มมีมารยาทพึ่งกลับประเทศมา เขาอยากทำตัวเป็นจุดสนใจ แม้ว่าไม่ได้เป็นคนมีชื่อเสียงอะไร
อิสซาขยับแว่นกันแดด “ฉันรู้ค่ะ ดังนั้นฉันเลยไม่ให้คุณซื้อเครื่องใหม่ชดใช้ ชดเชยเงินมาเถอะ”
จางหย่งแอบด่าอยู่ในใจ แม่ง!
“ได้ครับ คุณบอกราคามาสิ”
จางหย่งหยิบกระเป๋าเงินออกมาอย่างหล่อเหลา นิ้วมือคีบโทรศัพท์หนึ่งร้อยหยวนอยู่ไม่กี่ฉบับ เตรียมใช้เงินฟาดเธอเต็มที่
อิสซาบอกเสียงเรียบ “ห้าหมื่น”
“อะไรนะ”
ท่าทางที่กำลังจะหยิบเงินชะงักทันที จางหย่งพึ่งจะกินแมลงวันตัวหนึ่งเข้าไป ตั้งแต่ลำคอยันกระเพาะอาหารแทบอยากจะอาเจียนออกมา
ห้าหมื่น! โทรศัพท์เครื่องเดียว จะโลภมากเอาห้าหมื่นหยวน
อิสซายักไหล่ “ก็ใช่น่ะสิ ดูแล้วคุณก็น่าจะรู้จักของดีมีค่า ดูไม่ออกเหรอว่าเครื่องนี้มันคือvertuที่กำหนดสีชมพูเองน่ะ”
ปากของจางหย่งถูกยางดึงไปสองทาง “คุณผู้หญิง คุณอย่าคิดว่าผมไม่รู้ ราคาทางการกำหนดvertuก็แค่หนึ่งถึงสองหมื่น คุณบอกจะเอาหาหมื่น…อีกอย่างผมแค่ทำหน้าจอคุณแตก คุณแค่ไปเปลี่ยนหน้าจอใหม่ นี่ก็ลดราคาไปได้สองในสามเลย ชดใช้ให้คุณห้าพันก็พอแล้ว”
อิสซานึกว่าตัวเองได้ยินคำพูดตลก “คุณผู้ชายคะ คุณเข้าใจหรือไม่เข้าใจกันแน่ กำหนดเอง ก็คือการปรับแต่งขึ้นมา ไม่เกี่ยวกับเงินทางการเลยแม้แต่เหมาเดียว ห้าหมื่นนี้ก็เป็นราคาหลังหักส่วนลดแล้ว เอาเงินมาเถอะ”
จางหย่งอึดอัดอยากชนเครื่องบิน
“ไม่มีหรอกครับ นี่ห้าพัน ให้คุณหมดเลย เกินมาหนึ่งเฟินก็ไม่มี” จางหย่งยื่นห้าพันหยวนให้เธอทั้งหมดอย่างปวดใจ
ให้ใจกำลังหลั่งเลือด…
อิสซากวาดตามองเล็กน้อย “คุณเป็นขอทานเหรอ”
จางหย่งโกรธขึ้นมาทันที “คุณบ้าหรือเปล่า คุณต้องการตั้งห้าหมื่น เยอะขนาดนั้น ให้ดีๆไม่เอา อย่ามาหาเรื่อง”
คำพูดนี้ จางหย่งใช้ภาษาจีน และน้ำเสียงก็ดังขึ้น ผลออกมาไม่ต่างจากใช้เครื่องขยายเสียง
คนรอบข้างค่อยๆหันมามอง ครึกครื้นจนพื้นที่รับกระเป๋ามีพวกเขาเป็นจุดศูนย์กลาง
จางหย่งคิดในใจ :แม่งเอ๊ย
อิสซาขยับแว่นกันแดดปิดแน่นขึ้น เธอไม่อยากให้คนอื่นรับรู้ “ช่างเถอะ ถือว่าฉันซวยเอง”
“ใครซวย ผมสิซวย” จางหย่งยัดเงินให้เธอ “ถือว่าผมดวงตก เอาไป ผมไม่อยากเอาเปรียบผู้หญิง”
ริมฝีปากอิสซาโค้งเล็กน้อย “เหอะ กล้าหาญจังนะ ได้ ฉันจะรับไว้”
จางหย่งได้แต่ยืนมองเงินที่ถูกยัดเข้ากระเป๋าของอีกฝ่าย กระอักเลือดจนจะหมดแล้ว
ปวดใจ
อิสซาหยิบกระเป๋าของตนเอง สองกระเป๋าใหญ่ สองกระเป๋าเล็ก เข็นรถไปช้าๆ
มองจางหย่งอีกครั้ง ก็แค่กระเป๋ายี่สิบสองนิ้วใบเดียว เมื่อเปรียบเทียบแบบนี้ จางหย่งจึงดูขมขื่นและน่าเวทนา
จางหย่งหยิบโทรศัพท์มือถือของตนเองออกมาอย่างเศร้าสร้อย ปรากฏว่าไม่มีแบตแล้ว
“เดี๋ยวก่อนครับ”
อิสซาที่กำลังเข็นรถ หันกลับมามอง “ทำไม เสียใจเหรอ”
จางหย่งทำตัวไม่ถูก “โทรศัพท์ผมไม่มีแบตแล้ว เรียกรถไม่ได้ คุณคืนให้ผมสักใบ ให้ผมได้จ่ายค่ารถกลับบ้าน คุณเอาเบอร์มาให้ผม เดี๋ยวกลับไปจะคืนให้คุณ”
อิสซาเกือบจะหัวเราะเป็นบ้า “พ่อรูปหล่อ สมองคุณมีปัญหาหรือเปล่า เอาบัตรไปกดเงินสิ”
จางหย่งยิ้มอย่างสิ้นหวัง “บัตรผมกดเงินสดไม่ได้ ไม่ได้ถือบัตรเดบิตมาด้วย”
อิสซาพึ่งเคยเห็นผู้ชายโง่และไม่มีตาขนาดนี้ นับถือแล้ว
จางหย่งพลิกกระเป๋าพลิกแล้วพลิกอีก เจออมยิ้มหนึ่งอัน “คุณก็ดูไม่ได้ขาดเงินอะไร ซื้ออมยิ้มสักอันไหม”
ความคิดนี้มันหน้าไม่อายเกินไปหรือเปล่า หรือว่าขอเงินมีค่ามากกว่าหน้า
อิสซาหัวเราะก็ไม่ได้ร้องไห้ก็ไม่ออก เงยหน้ามองท้องฟ้า “อ่ะ ให้คุณ”
เธอหยิบเงินออกมาสองใบด้วยท่าทางวางท่า “อย่าตามฉันมาอีก”
จางหย่งรับเงินมา ยื่นอมยิ้มให้เธอ “หวานมาก รสส้มด้วย”
อิสซารับอมยิ้มไปด้วยท่าทางหงุดหงิด จากนั้นยัดลงไปในกระเป๋าอย่างไม่ใส่ใจ เพื่อหุ่นสวยๆ เธอแทบจะไม่กินของหวาน ลูกอมยิ่งไม่เคยแตะต้อง
จางหย่งรับเงินมา ยืดตัวขึ้น กัดฟันสาบาน อย่าให้ผมเจอคุณอีกนะ ไม่งั้นผมเอาคุณตายแน่
รีสอร์ตหยีจิ่ง
เจมส์แต่งตัวเรียบร้อย ยืนสง่างามอยู่ที่หน้าประตูรีสอร์ต มองรถเบนซ์สีดำกำลังเคลื่อนเข้ามา พุ่งเข้าไปหา
“พี่ พี่ครับ”
อิสซาเองก็มองเห็นลูกพี่ลูกน้องของเธอที่ไม่ได้เจอกันมานาน เมื่อลงรถได้ก็กระโดดเข้าไปหา “หล่อแล้ว สูงด้วย”
เจมส์กอดแขนอิสซาแน่นอย่างสนิทสนม ท่าทางออดอ้อนน่ารักเหมือนสมัยยังเด็ก “พี่ครับ พี่ก็สวยเหมือนกัน เหมือนจะผอมลงด้วย พี่กำลังลดน้ำหนักอยู่หรือเปล่า อย่าลดเลยนะ พี่มีน้ำมีนวลหน่อยถึงสวยที่สุด”
อิสซาเกาจมูกเขา เหมือนเวลาโอ๋เขาตอนเด็ก “ปากนี้ช่างพูดจริงๆเลย เอาใจสายเก่งที่สุด บอกมาซิ มีแฟนกี่คนแล้ว”
เจมส์ยักไหล่ตอบท่าทางใสซื่อ “NO,ONE.”
“คงไม่ใช่มั้ง น่าอนาถขนาดนั้นเลยเหรอ สักคนก็ไม่มีเลยจริงเหรอ น่าผิดหวังจริงๆ เปลืองใบหน้าหล่อๆ” อิสซาพูดคุยเล่นอยู่กับเจมส์มาเรื่อยๆก็เข้ามาถึงด้านในแล้ว
ลานบ้านใหญ่โตมากจริงๆ สระว่ายน้ำ ลานบ้าน สวนดอกไม้ โรงจอดรถ กระทั่งมีสัตว์เลี้ยงที่ถูกขังอยู่ในกรง แน่นอน ด้านในนั้นหรูหรา
“คนที่ผมชอบเขาไม่ชอบผม คนที่ชอบผมผมก็ไม่ชอบสักคน” เจมส์แสดงออกอย่างน่าสงสาร
“นายชอบใคร เดี๋ยวฉันช่วย”
“แอนน่า”
อิสซากัดลิ้นตัวเอง เอ่อ พูดผิดแล้ว
“เอ่อ…อันนี้…”เหอะ เหอะ
พี่น้องทั้งสองยังเดินไม่ถึงตัวรีสอร์ต ด้านนอกก็มีรถขับมาจอดอีกหนึ่ง รถยนต์พาหนะสีเขียวที่เป็นสัญลักษณ์ของเมือง…แท็กซี่นั่นเอง
อิสซามองเจมส์ เจมส์มองอิสซา ทั้งสองท่าทางมึนงง
คนที่นี่ ล้วนใช้รถส่วนตัว แน่นอนว่าไม่มีแท็กซี่เข้ามา ยิ่งไปกว่านั้นรถราคาถูกคันนี้ยังมาจอดที่หน้ารีสอร์ตหยีจิ่งอีกด้วย
“คงไม่ใช่แอนน่ากลับมาแล้วนะ” อิสซามองเวลาบนโทรศัพท์ในมือ พึ่งจะห้าโมง
เจมส์มองเห็นหน้าจอโทรศัพท์ที่แตกละเอียดของเธอก่อน “โทรศัพท์เป็นอะไรครับ”
“อย่าพูดถึงเลย เจอคนบ้าที่สนามบินน่ะ”
เจมส์แสดงออกว่าเข้าใจแล้ว ยกหมัดขึ้นทำท่าทางชกต่อย “พี่ไม่ได้ออกแรงสั่งสอนเขาใช่ไหม”
อิสซาตบศีรษะ “จริงสิ ฉันลืมไปเลย ถ้าเจอเขาอีกนะ พี่จะคิดดอกเบี้ยให้ดู”
“คนนี้คือใครกันนะ แอนน่าขับมายบัคออกไป” เจมส์เม้มปาก
อิสซา “ว้าว มีรสนิยมจัง ฉันก็ชอบมายบัค”
จางหย่งปลดเข็มขัดนิรภัย “ขอบคุณครับ”
คนขับเปิดท้ายรถ “ไม่เป็นไรครับ คุณผู้ชายอยู่ที่นี่เหรอครับ สุดยอดไปเลย”
จางหย่งลงจากรถ “ครับ สุดยอดมาก”
แต่ว่า ไม่ใช่ของผมหรอก
ยกกระเป๋าขึ้น จางหย่งสูดหายใจลึก รับอากาศบริสุทธิ์อย่างสดชื่น ว้าว ในที่สุดก็กลับมาแล้ว ปวดใจมาตลอดทาง ตอนเย็นต้องให้เจ้านายชดเชยให้แล้วล่ะ
เดี๋ยวก่อนนะ
ข้างหน้าคืออะไร
ห่างวันหนึ่งวินาที อิสซาเองก็มองเห็นจางหย่งที่กำลังยกกระเป๋า ดวงตาสองคู่สบกัน เกิดระเบิดขึ้นท่ามกลางอากาศ
“เป็นเขา”
“คุณอีกแล้วเหรอ