ตอนที่ 872 พุ่งมาที่ฉัน
หวังเค่ยชงชาขิงร้อนๆแก้วหนึ่ง กลัวจะลวกเกาหยิ่งจือ ตัวเองใช้กระดาษแข็งพัดก่อนเล็กน้อย
เกาหยิ่งจือมองดูจนหัวเราะออกมา “คุณกำลังทำอะไรคะ?”
หวังเค่ยค่อนข้างเก้อเขินเล็กน้อย “ลวกมือ ผมทำให้มันเย็นลงเร็วหน่อย”
“ทำไมไม่เป่าล่ะคะ?” ปกติแล้ว กลัวร้อนไม่ใช่ต่างก็เป่าสักหน่อยหรอกหรอ เขานี่กลับ…
“ผมกลัวน้ำลายกระเด็นเข้าไป…ยังไงก็พัดจะดีกว่า อีกเดี๋ยวก็ไม่ลวกมือแล้ว” หวังเค่ยพัดไปครู่หนึ่ง ใช้ความรู้สึกของฝ่ามือวัดอุณหภูมิที่ด้านนอกแก้ว ยังคงร้อนอยู่เล็กน้อย
เกาหยิ่งจือพิงที่บนหัวเตียง มือลูบลงบนเส้นผมของเถียนเถียนเบาๆ เถียนเถียนหลับไปแล้ว ร่างกายเล็กๆเอนตัวลงอยู่ที่ข้างกายของเธอ ใบหน้าด้านข้างที่เงียบสงบน่ารักจนราวกับตุ๊กตาเด็ก
หากเธอแต่งงานมีลูกหลังจากที่จบปริญญาโท ลูกสาวก็คงจะโตขนาดนี้แล้ว
“ไม่เป็นไรค่ะ ฉันไม่ถือ”
เกาหยิ่งจือยังคงเป็นครั้งแรกที่เห็นผู้ชายขี้อายขนาดนี้ เมื่อก่อนคิดว่าถังจิ้นเหยียนได้เป็นรูปแบบของสุภาพบุรุษแล้ว ตอนนี้มาเจอที่ควบคุมตัวเองมากเกินยิ่งกว่า
หวังเค่ยพัดอย่างแรงอีกสองสามทีด้วยความเก้อเขิน “ใกล้เสร็จแล้ว…คุณลองดูหน่อยว่าร้อนหรือเปล่า?”
เกาหยิ่งจืออยู่ๆอยากจะร้องไห้ขึ้นมา โตขนาดนี้ นอกจากคนรับใช้ภายในบ้าน ไม่เคยมีใครดูแลเธออย่างเอาใจใส่ขนาดนี้มาก่อน ไม่สิ…ไม่เหมือนกัน คนรับใช้ทำงานรับเงินเดือน เป็นเพียงแค่ออกมาจากหน้าที่ที่พึงกระทำ แทบจะไม่มีความรู้สึกส่วนตัวใดๆ
แต่เขาไม่เหมือนกัน ความเอาใจใส่และความอบอุ่นของเขา เป็นธรรมชาติทั้งยังเหมาะสม ไม่ว่าจะเป็นออกมาจากการถูกอบรมเลี้ยงดูของตัวเอง หรือว่าแฝงไปด้วยความรู้สึกซาบซึ้งใจ การกระทำของเขาต่างก็ทำให้คนสบายจนไม่อาจจะต่อต้านได้
เกาหยิ่งจือประคองถือแก้วเอาไว้ “คุณหวัง อดีตภรรยาของคุณมีความสุขจริงๆค่ะ”
หวังเค่ยดูเหมือนไม่ค่อยยินดีที่จะเอ่ยถึงอดีตภรรยาเท่าไรนัก ตอบอย่างค่อนข้างที่จะพอเป็นพิธี “พอ…พอได้ครับ”
ด้านนอกประตู เกาจิ่งอานมองดูการกระทำทุกอย่างจนจบ เห็นอย่างชัดเจนว่าหวังเค่ยช่วยยกน้ำชารินน้ำด้วยความอ่อนโยนให้กับพี่สาวยังไง ช่วยเธอจัดผ้าห่มยังไง เธอไปห้องน้ำ เขาโน้มตัวลงช่วยเธอใส่รองเท้า
ผู้ชายแบบนี้ ดูเหมือนนอกจากเงิน ทุกอย่างล้วนมีหมด
อารมณ์ของเกาจิ่งอานขัดแย้งกันเป็นอย่างมาก
“พี่สะใภ้ใหญ่ พี่ว่าพี่สาวของผมจะชอบเขาเข้าจริงๆ…ไหม?”
หันกลับไป ลั่วหานไม่ได้อยู่ที่นั่นแล้ว
ลั่วหานกลับถึงห้องทำงาน หลินซีเหวินวิ่งต๊อกแต๊กเข้ามา ในอ้อมแขนกอดอัลบั้มรูปกองหนึ่งเอาไว้ “พี่ลั่ว พี่ช่วยฉันเลือกทรงผมหน่อยสิคะ ใช้ในวันหมั้นวันนั้น”
“โอเค!ได้อยู่แล้ว”
“พวกนี้คือสไตล์เกาหลี สวยงามดุจจินตนาการ พวกนี้คืออารมณ์โรแมนติกแบบฝรั่งเศส ส่วนพวกนี้น่ะนะ เป็นแนวโอเพ่นฟรีสไตล์แบบอเมริกา แล้วก็อัศวินสเปน…”
ลั่วหานดูทีละหน้า “เหมาะสมกับสไตล์ของเธอก็พอ เสี่ยวจื๋อว่ายังไง? เขาชอบสไตล์แบบไหน?”
หลินซีเหวินยักไหล่ “ไม่รู้สิคะ ช่วงนี้เขายุ่งมาก ไม่รู้ว่ากำลังยุ่งอะไรอยู่ ถามก็ไม่พูด แต่ว่าฉันเลือกอะไรเขาก็ให้ความร่วมมือกับฉันหมด”
“นั่นสินะ”
หลินซีเหวินเท้าคาง “พี่ลั่ว ฉันมักจะรู้สึกว่าหลงจื๋อมีเรื่องปิดบังฉันอยู่ สองวันนี้อารมณ์ของเขาต่างก็แปลกๆ แต่ว่าฉันถามแล้วเขาก็ไม่ยอมพูดอะไรเลยอีก”
“เรื่องที่บริษัทเยอะมากเกินไปล่ะมั้ง ผู้ชายยังไงก็เห็นงานเป็นหลัก เธอเข้าใจหน่อย”
หลินซีเหวินถอนหายใจด้วยความกลัดกลุ้ม “เห็นงานเป็นหลักแน่นอนว่าเป็นสิ่งที่ถูก แต่ว่าท่านเซียวในฐานะที่เป็นประธานคณะกรรมการบริษัท ควรจะยุ่งยิ่งกว่า เขายังไม่ลืมที่จะส่งพี่ทำงาน คนที่ยุ่งขนาดนี้ ยังยืนหยัดที่จะมาส่งพี่ด้วยตัวเอง คนอื่นจะอิจฉาตายหมดอยู่แล้ว!”
ลั่วหานเก้อเขินเล็กน้อย ที่แท้ตอนเช้าถูกคนเห็นเข้าแล้ว
“เสี่ยวจื๋อกำลังอยู่ในช่วงเลื่อนตำแหน่งในหน้าที่การงาน พวกเขาไม่เหมือนกัน”
“ไม่สนแล้ว!”
เลือกสไตล์เสร็จแล้ว ลั่วหานนึกถึงเรื่องที่หลงเซียวรบกวนเธอเลือกชื่อขึ้นมาได้ จึงเปิดไฟล์เอกสารขึ้น ด้านในมีรายการไว้ให้เลือกอยู่หนึ่งร้อยยี่สิบรายการ
ที่เป็นแบบดั้งเดิมมีวันหยุดโรมัน、สวนปินไห่、คฤหาสน์หวาถิง
ที่โรแมนติกมีชายฝั่งโพรวองซ์ ,ริมน้ำที่สวยงาม 、หวินจงเก๋อ ……
ยังมีแบบที่เป็นทางการอีกส่วนหนึ่งเจียงวานยีห้าว,เย็นเจียวหยินโจ้ ,เมืองศตวรรษMBK……
ดูตั้งแต่ต้นจนจบ ดูจนลั่วหานหัวหมุนตาลาย อาคารที่พักอาศัยในท้องตลาดผุดขึ้นอย่างรวดเร็วและมากมายราวกับดอกเห็ด เรียกได้ว่าไม่สามารถชูขึ้นมาทีละอันได้ทั้งหมด ชื่อของอาคารยิ่งมากมายพิลึกกึกกือ หรูหราแบบเจ้าถิ่นเอย เป็นแบบศิลปะเอย แบบบรรยายความรู้สึกเอย ภาษาอังกฤษภาษาจีน ยากมากที่จะเขียนความแปลกใหม่ออกมาอีก
อีกทั้งง่ายมากที่จะซ้ำกัน
ชานเมืองหลวงคือกลุ่มวิลล่าระดับไฮเอนด์ ยึดสังคมบุคคลทางธุรกิจระดับสูง วิลล่าแบ่งเป็นทาวน์โฮม บ้านเดี่ยวสองรูปแบบ บ้านเดี่ยวหรูหราอลังการ ล้วนประกอบไปด้วยสระว่ายน้ำ ลานบ้านส่วนตัว สนามหญ้า สวนดอกไม้รวมไปถึงสิ่งอำนวยความสะดวกที่สมบูรณ์แบบอื่นๆ
เป็นชิ้นงานที่ยอดเยี่ยมที่สุดอย่างไม่มีข้อแม้
ชื่อที่ธรรมดาดูตระหนี่เกินไป ชื่อที่ไม่ทันสมัยทำให้ดูราคาตกมากเกิน ชื่อที่อลังการดูฉูดฉาด ชื่อที่เรียบง่ายไม่ดึงดูดใจมากพอ
ปวดหัว!
คิดชื่อคิดจนปวดสมอง ลั่วหานจึงปิดไฟล์เอกสารไปเลย เริ่มดูวิชาทางการแพทย์ ยังไงเธอก็ชอบสิ่งที่ค่อนข้างจะเป็นภววิสัยมีเหตุมีผลมากยิ่งกว่า สำหรับวรรณกรรมที่ละเอียดอ่อนซาบซึ้งตรึงใจ เธอรับมือไม่ไหวจริงๆ
บริษัทMBK ห้องทำงานท่านประธานกรรมการ
โทรศัพท์มือถือของหลงจื๋อดังขึ้นติดต่อกันสองสามที วีแชทมีรูปภาพสามภาพ ข้อความหนึ่งแถวส่งเข้ามา
“ฉันเลือกเสร็จแล้ว ชอบไหมคะ?”
หลงจื๋อถูกเอกสารกองใหญ่ทำให้ยุ่งจนไฟลนหัว ข้อความของหลินซีเหวินเรียกได้ว่าก็คือสายน้ำที่ใสสะอาด ชั่วพริบตาทำให้เขาจิตใจเบิกบานและผ่อนคลาย
สุดท้ายที่เธอเลือกก็คือสไตล์ชนบทโพรวองซ์ เจ้าสาวที่อยู่ในภาพสวมใส่ชุดแต่งงานปักลายดอกไม้ เครื่องประดับที่อยู่บนผมต่างก็คือดอกไม้สด บนชายกระโปรงปักดอกไม้และผีเสื้อ เจ้าสาวราวกับนางฟ้าตัวน้อยที่โบยบินเต้นรำอยู่ในทุ่งดอกไม้
กระเป๋าบนเสื้อสูทของเจ้าบ่าวปักดอกกล้วยไม้เอาไว้ช่อหนึ่ง ประกอบเป็นคู่รักพอดีกับดอกกล้วยไม้ดอกนึงที่ติดไว้ตรงบริเวณหน้าอกของเจ้าสาว
เขาชอบมาก!
“สายตาเฉียบคมจริงๆ!คนบ้านนอกสุดท้ายยังไงก็ต้องกลับสู่ธรรมชาติ” หลงจื๋อส่งข้อความเสร็จ แนบอิโมติคอนแลบลิ้นไปด้วย
หลินซีเหวินหัวเราะขึ้นอย่างโง่ๆ ตอบกลับเขาไปว่า “ฉันจะพาคุณกลับบ้านนอกไปด้วยกันค่ะ!”
ก๊อกๆ
ประตูห้องทำงานของหลงจื๋อดังขึ้น “เข้ามา”
ผู้ที่มาก็คือเหลียงจ้งซุน เขาหอบกล่องกระดาษใบหนึ่ง ด้านในคือแฟ้มเอกสารที่วางกองอย่างเป็นระเบียบ “ท่านประธานกรรมการ แฟ้มเหล่านี้คือเอกสารที่ท่านประธานให้คุณดู ต้องการอำนาจสูงสุดจากท่านประธานถึงจะสามารถเปิดเอกสารลับสุดยอดเหล่านี้ได้”
ความหมายของเขาชัดเจนมาก หลงจื๋อในตอนนี้ได้ถูกทำให้กลายเป็นคนที่ท่านประธานของบริษัทMBKกำลังบ่มเพาะ ขาดเพียงแค่“ขั้นตอนการโอนกรรมสิทธิ์”ต่อหน้าสาธารณะเท่านั้น
“วางลงเถอะ”
เหลียงจ้งซุนนำเอกสารวางลงอย่างระมัดระวัง “ท่านประธาน ชานเมืองหลวงใกล้จะวางเสาเข็มแล้ว คุณก็ต้องเตรียมตัวให้พร้อมเช่นเดียวกัน”
หลงจื๋อมองดูเอกสารแวบหนึ่งอย่างรำคาญ “ทราบแล้ว คุณออกไปเถอะ”
“ครับ ท่านประธานกรรมการ”
เหลียงจ้งซุนนำปฏิกิริยาตอบสนองของหลงจื๋อบอกกับหลงถิงอย่างคงสภาพเดิมไว้ไม่มีการแตะต้อง
หลงถิงค่อนข้างที่จะหดหู่ “เขาใจไม่นิ่ง ยังไม่ยินยอมด้วยความสมัครใจ”
ในขณะที่กำลังพูด โรคปวดหัวของหลงถิงก็กำเริบขึ้นอีก เขายื่นมือออกไปหยิบแก้วน้ำ สายตาเลือนรางไม่สามารถจับเอาแก้วน้ำได้อย่างแม่นยำ แก้วกระจกลื่นหล่นจากทางด้านข้างของมือ เสียงเพล้งดังขึ้นแตกกระจาย
“ท่านประธาน!”
เหลียงจ้งซุนดึงลิ้นชักช่องที่สองออก เทยาสีขาวออกมาสามเม็ด ยัดใส่เข้าไปในปากของเขา
หลงถิงกลืนเม็ดยาลงไป ล้มตัวลงบนเก้าอี้อย่างเหนื่อยล้าหมดกำลัง ไม่สามารถกลับคืนสู่สภาพเดิมได้อยู่พักใหญ่
เหลียงจ้งซุนไม่กล้าประมาท “ท่านประธาน ท่านจำเป็นต้องไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลนะครับ บริษัทตอนนี้มีคุณชายรองรับผิดชอบโดยรวม ท่านวางใจได้ สุขภาพของท่านไม่สามารถยืดเยื้ออีกต่อไปแล้ว”
หลงถิงโบกมือ “ไม่ได้ ยังไม่ใช่เวลา รอฉันมอบเก้าอี้ให้กับเขาอย่างเป็นทางการ…สถานการณ์ภายนอกวุ่นวาย ผู้ที่เพ่งเล็งคิดร้ายต่อบริษัทMBKไม่ได้อยู่ในจำนวนน้อยๆ ฉันไม่สามารถให้บริษัทตกลงสู่สภาวะวิกฤตได้”
“แต่ว่า…”
“เหลียงหยู้คุนพูดอะไรอีก?” หลงถิงเงยศีรษะขึ้นมาอย่างกะทันหัน สายตาที่เฉียบคมสามารถมองทะลุความคิดและจิตใจของฝ่ายตรงข้ามออกจนหมด
“มันให้การว่าตัวเองส่งคนไปทำร้ายถังจงรุ่ยจนได้รับบาดเจ็บ เคยร่วมมือลักลอบค้าของเถื่อนกับหลงเซียว อย่างอื่น…มันไม่ได้เอ่ยถึงท่าน ท่านประธานผ่อนคลายลงก่อน มันไม่ได้มีความกล้าขนาดนั้น”
หลงถิงนิ่งเงียบ คิดไตร่ตรอง “คนๆนี้เก็บเอาไว้ไม่ได้ มันมีชีวิตอยู่ ก็คือความเสี่ยงด้านความปลอดภัยที่ซ่อนอยู่”
“ผมเข้าใจความหมายของท่าน”
…
สถานีตำรวจ ห้องรับรองแขก
เจิ้งซิ่วหยาไม่ง่ายเลยที่จะสวมเครื่องแบบอย่างเต็มยศทั้งตัว แต่ว่ามองเห็นถังจิ้นเหยียน เธอก็จริงจังไม่ไหวอีก รอเฉินเจาจากไป เธอก็รีบกลับคืนสู่นิสัยซุกซนที่แท้จริงเหมือนเดิมในทันที
“ลุงถัง ตอนนี้ความจริงถูกเปิดเผยออกหมดแล้ว คือเหลียงหยู้คุนที่เจตนาร้ายทำร้ายคุณพ่อของคุณ พวกเราจะพิจารณาคดีผู้ต้องหาตามกฎหมาย และก็จะลงโทษเหลียงหยู้คุนตามกฎหมายเช่นเดียวกัน จะต้องให้ความเป็นธรรมกับคุณพ่อของคุณอย่างแน่นอน!”
ถังจิ้นเหยียนพยักหน้าอย่างยินดี นัยน์ตาคือความซาบซึ้งที่พูดไม่ออก “ซิ่วหยา ขอบคุณคุณมาก…”
“ไม่ใช่มั้งคะ? ฉันทำเรื่องที่ใหญ่ขนาดนี้ คุณพูดว่าขอบคุณประโยคเดียวก็จบแล้ว? คุณก็ช่างไม่จริงใจมากพอจริงๆ? ไม่ได้ค่ะ ฉันไม่รับ!”
เจิ้งซิ่วหยาหันหน้าปฏิเสธ มุ่ยปากทำหน้ารังเกียจ
ถังจิ้นเหยียนคิดมาคิดไป ไม่รู้ว่ายังจะให้อะไรเธอได้อีก ดอกกุหลาบหรอ? รสนิยมต่ำ เครื่องประดับอัญมณีหรอ? ก็รสนิยมต่ำเช่นเดียวกัน
บ้าน? รถ?
สิ่งเหล่านี้เธอต่างก็มีหมดแล้ว อีกอย่าง…ให้ของขวัญที่ใหญ่ขนาดนี้ เขากลายเป็นอะไร?
“งั้น…คุณอยากได้อะไร? คุณว่ามา”
ผู้ชายกลัวการเลือกของขวัญมากที่สุด เลือกไม่ดีฝ่ายตรงข้ามไม่ชอบ อยากจะเลือกให้ถูก เลือกให้ดี ก็ไฟลนหัวเกินไปอีก ยิ่งไปกว่านั้นเขาไม่รู้จริงๆว่าเจิ้งซิ่วหยาชอบอะไร
“อืม…ฉันอยากได้…” เจิ้งซิ่วหยาเล่นนิ้วมือของตัวเอง พลิกไปพลิกมามองดู โดยเฉพาะอย่างยิ่งนิ้วกลางกับนิ้วนาง
“อยากได้อะไร?”
เจิ้งซิ่วหยาด่าเขาในใจหนึ่งประโยคคนโง่!เธอบอกใบ้ชัดเจนขนาดนี้คิดไม่ถึงว่าจะดูไม่เข้าใจ!ฉันต้องการแหวนน่ะสิแหวน!
“ช่างเถอะค่ะ!ไม่เอาแล้ว!”
คิดไม่ถึงว่าจะเดาไม่ออก!น่าผิดหวังจริงๆ!หมดความสนใจที่จะอยากได้ของขวัญโดยสมบูรณ์แบบ!
“นี่…”
“คุณตำรวจเจิ้ง โจวจั่นฟื้นแล้ว!”
ตำรวจในชุดเครื่องแบบที่อยู่ด้านนอกคนหนึ่งวิ่งเข้ามาอย่างกะทันหัน ตะโกนเสียงดังอย่างตื่นเต้นดีใจ ถือโอกาสตัดบทของถังจิ้นเหยียน และก็ถือว่าเป็นการกู้สถานการณ์ให้กับเขาด้วยเช่นเดียวกัน
“จริงหรอ!โอเคค่ะ ฉันไปโรงพยาบาลเดี๋ยวนี้!”
เจิ้งซิ่วหยาล้วงเอากุญแจรถขึ้นมา “ลุงถัง ฉันจะไปโรงพยาบาลค่ะ!”
“ผมไปกับคุณ”
“ค่ะ!”
โจวจั่นพักอยู่ที่โรงพยาบาลทหาร อยู่คนละทางกับโรงพยาบาลหวาเซี่ย ถังจิ้นเหยียนขับรถมาด้วยตัวเอง ไม่ได้ให้เจิ้งซิ่วหยาขับ เป็นคนขับให้กับเธอ
โรงพยาบาลทหาร ไม่ไกล สิบห้านาทีก็ถึงแล้ว
เจิ้งซิ่วหยาวิ่งขึ้นลิฟต์ด้วยความร้อนรน ตื่นเต้นจนกอดแขนของถังจิ้นเหยียนเอาไว้ฟันบนล่างกระทบกัน “เขาฟื้นแล้ว…ดีจริงๆค่ะ!ทำฉันตกใจหมดเลย!”
ถังจิ้นเหยียนช่วยนวดจุดบนมือให้กับเธอ “ผ่อนคลาย เขาจะต้องไม่เป็นอะไร ไม่เป็นอะไรอย่างแน่นอน”
โจวจั่นฟื้นแล้ว แต่ร่างกายอ่อนแอมาก ดวงตาลืมขึ้น ปิดลงอย่างช้าๆ สีหน้าเหม่อลอย
เจิ้งซิ่วหยาโบกไม้โบกมือ ชูนิ้วชี้ขึ้นมานิ้วหนึ่ง “โจวจั่น นี่คือเท่าไร?”
โจวจั่นกลอกตามองบน “สอง”
“หา!เอ๋อแล้ว!!หมอคะ หมอ สมองของเขาเสียแล้ว?”
หมอชี้ไปที่แฟ้มผู้ป่วยของเขา “เขาคงจะกำลังบอกว่าคุณเอ๋อ สมองของเขาไม่มีปัญหา ก็แค่ช่วงท้องยังขยับไม่ได้”
“ทำไมถึงไม่บอกให้เร็วกว่านี้คะ!เกือบจะตกใจจนฉี่ราดแล้ว!!”
หากเอ๋อเข้าแล้วจริงๆ เธอจะไปกระโดดตึก!
โจวจั่นยิ้มเล็กน้อยให้กับถังจิ้นเหยียนที่อยู่ด้านหลัง “หมอถัง ในที่สุดก็ได้พบกับคุณแล้ว”
ถังจิ้นเหยียนชะโงกตัวไปด้านหน้ามองดูเขา “สวัสดีครับคุณตำรวจโจว”
โจวจั่นยิ้มเจื่อน “ผมไม่ดีครับ หมอถัง”
เจิ้งซิ่วหยาจิ้มไปที่หน้าผากของโจวจั่น “เฮ้ย อย่าออดอ้อนกับผู้ชายของฉัน !มีธุระอะไรพุ่งมาที่ฉัน!”
โจวจั่นฉีกยิ้ม “ฉันหิวน้ำ เธอป้อนน้ำให้ฉันได้หรือเปล่า? ฉันอยากกินแอปเปิ้ล หั่นเป็นชิ้นๆแบบนั้น แล้วก็ ฉันหิว…”
“ไปไกลๆ!”