ประธานหยิ่งยโสของฉัน – ตอนที่ 948

ตอนที่ 948

ตอนที่ 948 เพลงรักของผู้ใหญ่

เหลียงจ้งซุนชะงักฝีเท้าด้วยความตกใจ สายตาของเขาประสานเข้ากับไป๋เวยที่อยู่ด้านหลังกระจกรถ

รถสวนผ่านไปมารอบกายของเขา เหลียงจ้งซุนตกตะลึงไปชั่วขณะ ก่อนจะเดินหลบเข้าริมถนน

ไป๋เวยจอดรถข้างทาง เธอเปิดประตูออก และรีบสาวเท้าไปหาเขา

“คุณเหลียง คุณโอเคไหม?”

รอยยิ้มผุดขึ้นบนใบหน้าที่แก่ชราของเหลียงจ้งซุน “ไม่เป็นไรครับ เมื่อกี้ผมไม่ได้สังเกตดูสัญญาณไฟแดง”

“คราวหน้าต้องระวังให้มากกว่านี้นะคะ ข้ามถนนอันตรายมาก”

“ครั้งหน้าผมจะระวังอย่างแน่นอนครับ เมื่อสักครู่ผมทำให้คุณตกใจหรือเปล่า?” เหลียงจ้งซุนยิ้มเจื่อน ริ้วรอยปรากฏชัดบนหางตาทั้งสองข้างของเขา

“คุณทำฉันตกใจมาก แต่คุณไม่เป็นไรก็ดีแล้วค่ะ”

ไป๋เวยเห็นซองเอกสารในมือของเขา แม้ว่าเหลียงจ้งซุนจะรีบซ่อนมันไว้ แต่เธอสายตาของเธอก็ไวพอที่จะสังเกตเห็นคำว่าศาลอยู่บนเอกสารนั้น ดูเหมือนว่าเหลียงจ้งซุนจะออกมาเพื่อขึ้นศาล

จริงสิ ศาลอยู่ใกล้ ๆ นี่เอง เป็นไปได้ว่าเมื่อสองสามวันมานี้ เหลียงจ้งซุนจะต้องเข้าออกศาลไม่หยุด

ขณะที่มองดูเหลียงจ้งซุนเดินออกไป ไป๋เวยก็ตกอยู่ในความคิดของเธอ

“ไป๋เวย เกิดอะไรขึ้นกันแน่? ทำไมสายโทรศัพท์ขาดไป?”

กู้เยนเซินโทรติดต่อกันหลายสาย ไป๋เวยรับสายหลังจากกลับขึ้นรถอีกครั้ง เธอรับโทรศัพท์ผ่านเครื่องเสียงของรถ และขับรถผ่านสัญญาณไฟเขียว

“เมื่อกี้นี้ ฉันพบกับเหลียงจ้งซุน เมื่อไม่นานมานี้คดีความของหลงถิงได้นำกลับมาสอบสวนต่อ และเหลียงจ้งซุนออกมาจัดการขั้นตอนของคดี

หัวใจของกู้เยนเซินกระตุกวูบ “ผมตกใจแทบตาย ใช่แล้ว คุณชายหลงบอกว่าคดีนี้ยังขาดพยานปากสำคัญ ความเป็นไปได้ที่จะชนะคดีนี้มีมากน้อยแค่ไหน?”

“ทีมทนายความของท่านประธานได้เตรียมการอย่างรอบคอบ คดีความในครั้งนี้ก็ได้ทนายเก่ง ๆ จากสำนักกฎหมายของหลินเค่อเฟยมา ถ้าไม่มีโอกาสชนะ ท่านประธานจะนำคดีนี้กลับมาสอบสวนต่ออีกทำไม? นี่คุณหรือฉันใครเป็นคนตั้งท้องกันแน่? ใช้สมองหน่อย”

“ดูเหมือนว่าโอกาสชนะจะสูงมาก ครั้งที่แล้ว Rosa ก็เป็นทนายคนสำคัญของสำนักกฎหมายนี้”

——

หยวนชูเฟินแอดมิทอยู่ในโรงพยาบาลหวาเซี่ยเป็นเวลาสามวัน ส้งชิงเซวี๋ยนอยู่ดูแลเธอจนแทบไม่ได้พักผ่อน

ทำยาจีนด้วยตัวเอง และปรนนิบัติเธอเองกับมือ เมื่อลั่วหานและหลงเซียวไม่มีเวลามา เขาก็ทำหน้าที่เป็นทั้งหมอ พยาบาล คนในครอบครัว และพี่เลี้ยงด้วยตัวเองคนเดียว

ในวันที่สี่ หยวนชูเฟินก็จากพ้นขีดอันตรายโดยสมบูรณ์

“เหล่าส้งคุณอยู่โรงพยาบาลสามวันแล้ว กลับบ้านและพักผ่อนเถอะ” หยวนชูเฟินรู้สึกสงสาร ไม่รู้ว่าจะตอบแทนความปรารถนาดีของส้งชิงเซวี๋ยนได้อย่างไร

ส้งชิงเซวี๋ยนหัวเราะเสียงใส “พักผ่อนอยู่บ้านสู้อยู่ที่โรงพยาบาลไม่ได้ โรงพยาบาลมีผู้คนพลุกพล่านพาให้รู้สึกครึกครื้น แต่ที่บ้านค่อนข้างเงียบเหงาให้ความรู้สึกวังเวง นอกจากนี้ ผมก็เป็นแพทย์ของโรงพยาบาลหวาเซี่ย ถ้าไม่มาดูแลคุณ ผมก็ต้องมาทำงานที่นี่อยู่ดี?

ดีเสียอีกที่ได้แอบอู้งานอยู่ที่นี่กับคุณ ?”

หยวนชูเฟินตักโจ๊กทานทีละคำ เธอถือชามและช้อนด้วยตัวเอง หลังจากฟื้นขึ้นมา เธอยืนยันว่าเธอจะไม่รบกวนส้งชิงเซวี๋ยนให้ช่วยเธอทานอาหารอีก แต่ความเอาใจใส่ของส้งชิงเซวี๋ยนทำให้เธอรู้สึกอึดอัด

“เหล่าส้ง พวกเราเป็นเพื่อนกันมานาน ฉันคิดว่าคุณคงเข้าใจเรื่องที่ฉันไม่ได้พูดออกไป”

ส้งชิงเซวี๋ยนทำเป็นไม่เข้าใจ “ คุณพูดถูก เราเป็นเพื่อนกันมาหลายสิบปี พวกเราก็คนกันเองแท้ ๆ จริงไหม? เส้าเอินก็จากไปแล้ว ผมจะพยายามทำหน้าที่ในฐานนะพี่ชายแทนเขาไม่ได้เลยหรือ? ไม่อย่างนั้นหากคราวหน้าเมื่อผมกับได้เจอกับเขาที่ปรโลก ผมจะอธิบายกับเขาอย่างไร?”

หยวนชูเฟินกลืนโจ๊ก และพยายามหลบสายตาของส้งชิงเซวี๋ยนที่มองมา

ด้านนอก

ลั่วหานและหลงเซียวมาเยี่ยมแม่ของพวกเขาพร้อมกับดอกไม้และผลไม้ หลังจากได้ยินบทสนทนาจากภายในห้อง พวกเขาก็วางลูกบิดประตูลง ทั้งสองแนบตัวไปกับประตูเพื่อแอบฟัง

“หลงเซียว ลุงส้งดูแลแม่ที่โรงพยาบาลมาหลายวันแล้ว คุณว่ามันเป็นเรื่องปกติไหม?”

สีหน้าของหลงเซียวแปลกไปเล็กน้อย “…ไม่ปกติ”

แต่หลงเซียวก็ไม่อยากคิดไปในเชิงอื่น

ลั่วหานกระซิบเสียงเบา “ทำไมฉันรู้สึกว่าความห่วงใยของลุงส้งที่มีต่อแม่ของเราเกินขอบเขตของคำว่าเพื่อนไป?”

หลงเซียวลูบศีรษะของลั่วหานด้วยมือใหญ่ “อย่าคิดไปเอง พวกเขาเป็นแค่เพื่อนที่ดีต่อกัน”

ลั่วหานเป็นผู้หญิง เธอมีความคิดที่ละเอียดอ่อนกว่าผู้ชาย “หลงเซียว ฉันคิดว่าลุงส้งชอบแม่ของเรา”

เขาเงยหน้าขึ้น ใบหน้าของเขามืดเสียยิ่งกว่าก้นหม้อ

“ทำไมสีหน้าเป็นแบบนี้?”

หลงเซียวพูดออกมาอย่างหมดทางเลือก “ลั่วลั่ว พวกเราไม่ใช่ผู้ใหญ่”

หลงเซียวเม้มริมฝีปาก ผู้ใหญ่หรือ? ถ้าพูดให้ถูกคงต้องเรียกว่าเพลงรักของผู้ใหญ่เสียมากกว่า

ทั้งสองเข้าไปด้านใน ส้งชิงเซวี๋ยนก็กลับมาเป็นชายแก่แสนซุกซนเหมือนเดิม

“เสี่ยวลั่วลั่ว ทำไมไม่พาชูชูมาที่นี่ด้วย ลุงแก่ ๆ คนนี้คิดถึงชูชู”

ลั่วหานตอบกลับ “รอแม่ออกจากโรงพยาบาล เราไปหาชูชูด้วยกันที่บ้านดีไหมคะ?”

“ดีเลย ลุงจะไปถามหมอว่าแม่ของเธอจะออกจากโรงพยาบาลได้เมื่อไหร่!”

ส้งชิงเซวี๋ยนเดินปลิวออกไป ชุดกาวน์สีขาวที่สะท้อนกับสายลมตามหลังเขา ฝีเท้าของเขากระฉับกระเฉงราวกับเด็กวัยรุ่น

ลั่วหานพยามกลั้นขำ บางอย่างที่เธอไม่กล้าบอกกับหลงเซียวผุดขึ้นในใจ ——พลังแห่งความรักนั้นยิ่งใหญ่มาก!

“เซียวเอ๋อ แม่ดีขึ้นมากแล้ว ลูกทำเรื่องออกจากโรงพยาบาลให้แม่เถอะนะหยวนชูเฟินไม่ชอบโรงพยาบาลเป็นที่สุด

“พรุ่งนี้นะครับ รอดูอาการอีกสักคืน”

ลั่วหานเปลี่ยนดอกลิลลี่ที่อยู่ในแจกันมานาน และแทนที่ด้วยกุหลาบแชมเปญสด “แม่ หลังจากที่แม่ออกจากโรงพยาบาล พวกเราไปเที่ยวหางโจวกันค่ะ ช่วงหิมะตก ทะเลสาบตะวันตกจะสวยเป็นพิเศษ พวกเราไปดูหิมะที่ศาลาหูซินกันนะคะ ดีไหม?”

ดวงตาของหยวนชูเฟินเป็นประกาย “หางโจวเหรอ? ดีเลย แม่อยากไปหางโจวมานานแล้ว ครั้งสุดท้ายที่ไปคือฤดูร้อนเมื่อห้าหกปีที่แล้ว ตอนนั้นทะเลสาบตะวันตกเต็มไปด้วยดอกบัวบานสะพรั่ง สองข้างของสะพานมีดอกบัวซ้อนทับกันเต็มไปหมด เห็นเป็นภาพใบบัวสีเขียวที่ทอดยาวสุดลูกหูลูกตา และดอกบัวที่เป็นสีแดงยามแสงอาทิตย์ตกกระทบ”

ลั่วหานและหลงเซียวมองหน้ากันและยิ้ม แผนการเล็ก ๆ สำเร็จไปแล้วครึ่งทาง!

“ทะเลสาบตะวันตกในฤดูหนาวจะต้องถูกปกคลุมไปด้วยน้ำแข็ง สายลมพัดพาหิมะมารวมกันจนเกิดเป็นทัศนียภาพที่แสนสวย นักกวีไม่ได้กล่าวเกินจริงแต่อย่างใด” ลั่วหานหยิบดอกกุหลาบ และวางลงในมือหยวนชูเฟิน พร้อมกับขยิบตาให้เธออย่างซุกซน

“ลูกทำงานเสร็จแล้ว ถึงมาเยี่ยมแม่กันใช่ไหม?” หยวนชูเฟินก้มลงสูดดมกลิ่นหอมของดอกไม้ กลิ่นช่างหอมอบอวล

ลั่วหานพูดตามสิ่งที่เคยได้ยิน “สะพานยามหิมะโปรยปรายบวกกับตำนานนางพญางูขาว ตำนานที่ใช้บทกลอนพรรณนาให้เห็นถึงทัศนียภาพ นั่นคือเสน่ห์ของเจียงหนานอย่างแท้จริง”

หลงเซียวลูบหว่างคิ้ว เขาตกหลุมรักกับความเฉลียวฉลาดของลั่วหานซ้ำแล้วซ้ำเล่า

หยวนชูเฟินรับรู้ถึงสิ่งที่ลั่วหานต้องการจะสื่อ จึงเปลี่ยนหัวข้ออย่างจงใจ “งานแต่งงานของเสี่ยวจื๋อจะถูกจัดขึ้นในวันมะรืนนี้ หลังจากเข้าร่วมงานแต่งงานของเขาแล้ว พวกเราค่อยไปหางโจวกัน”

——

“ศาลจะเปิดคดีวันพุธหน้า พวกเราจะเลื่อนงานแต่งออกไปไหม?”

ฉู่ซีหรานมองดูหลงจื๋อที่มีท่าทางผิดหวัง เธอไม่อยากตัดสินใจด้วยตัวเอง โดยที่ยังไม่ถามความเห็นของเขา

หลงจื๋อทาบมือที่เย็นเฉียบของหลินซีเหวินไว้บนริมฝีปากของเขา มือของเธอสัมผัสเข้ากับลมหายใจร้อน “พูดอะไรบ้า ๆ ในเมื่อกำหนดเวลาแล้ว ก็ทำตามที่ตกลงกันไว้ จะล่าช้าไม่ได้”

หลินซีเหวินทุบไปที่หน้าอกของเขา “คนโง่ คุณไม่กลัวคนอื่นพูดกันว่าคุณไม่สนใจพ่อของฉันหรือ?

หลงจื๋อปล่อยลมหายใจเย็นเยียบด้วยท่าทีจริงจัง และหมอกสีขาวก็กระจายในอากาศ “นั่นก็จริงอย่างที่คุณพูด ถ้าอย่างนั้นก็ไม่…ไม่มีงานแต่งงาน?”

“นี่คุณจะบ้าหรือ! ไม่ได้! พูดกันไว้แล้วว่าจะแต่ง ยังไงก็ต้องแต่ง!” หลินซีเหวินยกมือขึ้นเตรียมที่จะตีสามีของเธอ

หลงจื๋อรีบคว้าข้อมือของเธออย่างรวดเร็ว และโน้มตัวลงจูบที่หน้าผากของเธอ “ตามใจคุณแล้วกัน”

คืนนั้น หลินซีเหวินกลับบ้านไปพักผ่อน

เมื่อเข้าบ้านมา เธอก็รู้สึกได้ว่าบรรยากาศแปลกไป

หลินเหว่ยเย่และคุณนายหลินดูโทรทัศน์อยู่ในห้องนั่งเล่นด้วยใบหน้าเรียบนิ่ง เสียงของโทรทัศน์ถูกเปิดให้ดัง สีหน้าของพวกเขาค่อนข้างน่ากลัว

“หลงถิงซึ่งเป็นที่รู้จักในฐานะผู้นำด้านอสังหาริมทรัพย์ของจีน ถูกสงสัยว่ามีส่วนร่วมในคดีฆ่าล้างตระกูลมู่เมื่อ 30 ปีก่อน ถูกนำตัวขึ้นศาลโดยท่านหลงเซียวผู้เป็นลูกชายแท้ ๆ ของมู่เส้าเอิน จากการเก็บหลักฐานและการเฝ้ารออย่างยาวนาน ศาลประชาชน ณ เมืองหลวงจะเปิดพิจารณาคดี อย่างเป็นทางการในวันพุธหน้านี้!”

“จากพ่อลูกที่เคยร่วมรบเคียงบ่าเคียงไหล่กัน แต่วันนี้กลับหันปากกระบอกปืนเข้าหากัน สุดท้ายแล้วคดีที่ยังไม่สะสางในตอนนั้นยังมีอะไรที่ยังถูกปกปิดไว้ หรือจับผู้ร้ายตัวจริงได้แล้ว ——คดีฆ่าล้างบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ปจะถูกคลี่คลายโดยชั้นศาล”

นับตั้งแต่ที่สื่อรู้ว่าหลงถิงและหลงเซียวมีการฟ้องร้องกัน ข่าวนี้ก็เป็นที่จับตามองของผู้คนอย่างต่อเนื่อง ช่วงนี้สุขภาพของหลงถิงดีขึ้น และมีข่าวเกี่ยวกับการเปิดศาลอย่างล้นหลาม

คุณนายหลินถอนหายใจ “โชคดีที่เราไม่ได้ยกลูกสาวของเราให้แต่งงานกับลูกชายของหลงถิง!”

หลินเหว่ยเย่พูดติดตลก “ปิดทีวีเสีย ไม่ดูแล้ว วัน ๆ มีแต่ข่าวพวกนี้”

หลงถิงถูกนำตัวขึ้นศาล เขาจะต้องเปิดเผยสิ่งที่เกิดขึ้นในตอนนั้น ถ้าหากหลงถิงยอมรับทุกอย่าง ก็หมายความว่าเขาจะต้องมีส่วนพัวพันกับเรื่องนี้ด้วย และทุกสิ่งที่เขามีในตอนนี้ก็จะหายวับไปกับตา!

เขาปิดบังตัวตนได้เป็นเวลาหลายปี ไม่มีทางที่เขาจะถูกทำลายได้อย่างง่ายดายแบบนี้หรอก!

เขาต้องหยุด!

คุณนายหลินแอบเหล่มองเขา “เป็นการดีที่สุดสำหรับคุณที่จะรักษาระยะห่างจากหลงถิง อย่าทำตัวสนิทสนม หรือคบค้าสมาคมด้วย ฉันคิดว่าตัดความสัมพันธ์ไปเลยจะเงียบว่า”

หลินเหว่ยเย่ไม่ได้พูดอะไร

ภรรยาของเขาไม่รู้ว่าเขาและหลงถิงเป็นเพื่อนสนิทกันมากกว่า 30 ปีแล้ว ตัวเขาเองยังไม่รู้เรื่องที่ถูกปิดเอาไว้เลย

หลินซีเหวินแอบย่องขึ้นไปชั้นบนอย่างเงียบเชียบ เธอคุ้นเคยบรรยากาศแบบนี้ของที่บ้านดี จะดีกว่าถ้าเธอจะโกหกพวกเขาว่าวันนี้เธอมีงานเวลากลางคืน!

“ซีเหวิน มานี่”

คุณนายหลินกล่าวด้วยใบหน้าเย็นชา เมื่อเธอเห็นหลินซีเหวิน

หลินซีเหวินวางมือของเธออย่างสะเปะสะปะ เธอเดินย่องลงมาอย่างช้า ๆ “แม่ มีอะไรจะอบรมหนูหรือเปล่าคะ?”

“ช่วงนี้ลูกไม่ได้ติดต่อกับหลงจื๋อใช่ไหม?” คุณนายหลินมีท่าทีจริงจัง

“ไม่นี่คะ แม่ไม่ให้หนูติดต่อกับเขา หนูจะกล้าหรือคะ? แม่เป็นแม่ของหนูนะคะ!” สีหน้าของหลินซีเหวินหมองลงด้วยความอึดอัด

“นั่นก็ดีแล้ว!”

หลินเหว่ยเย่เอ่ยขึ้นต่อว่า “ซีเหวิน พ่อมีแผน เนื่องจากลูกอยากเป็นหมอ พ่อหวังว่าลูกจะไปเรียนต่อต่างประเทศสักสามปี ไปเก็บเกี่ยวความรู้เฉพาะทางเพิ่มเติม ลูกคิดว่าดีไหม?”

ไม่ดี! ! !

หลินซีเหวินเม้มริมฝีปาก “ทำไมจู่ ๆ ก็ให้หนูไปเรียนต่างประเทศล่ะคะ?”

“พ่อหวังว่าลูกสาวของพ่อจะเก่งขึ้น! ลูกอายุยังน้อย ไม่ต้องรีบทำงานหรอก ลงทุนกับตัวเองก่อน เรียนรู้ที่จะจัดการตัวเองให้ได้ก่อน แล้วค่อยไปช่วยเหลือคนอื่น แบบนี้ก็ยังไม่สาย จริงไหมลูก?” หลินเหว่ยเย่เกลี้ยกล่อมเธออย่างใจเย็น

คุณนายหลินยังรู้สึกว่าข้อเสนอนั้นไม่เลวเลย ลูกสาวของเธอไปต่างประเทศ ตัดความสัมพันธ์ของเธอกับตระกูลหลง และค่อยหาผู้ชายที่ดีให้กับเธอในอนาคต

“ซีเหวิน แม่ก็คิดว่าดีเหมือนกัน ลูกสอบผ่านทั้ง IELTS และ TOEFL สมัครเข้าเรียนก็ค่อนข้างง่าย ไว้วันพรุ่งนี้แม่จะไปสอบถามข้อมูลที่ฉู่ซีหรานศูนย์ศึกษาต่อต่างประเทศให้

อยู่ ๆ ก็จัดการทุกอย่างให้!

หลินซีเหวินปั้นยิ้ม “ฮ่า ๆ ในเมื่อเป็นแบบนี้แล้ว ก็ตามใจพ่อกับแม่แล้วกันค่ะ!”

หลินเหว่ยเย่คิดว่าหลินซีเหวินเชื่อฟังคำพูดของเขา จึงพยักหน้าด้วยความพึงพอใจ

ตราบใดที่เขาส่งลูกสาวไปต่างประเทศ เขาก็จะไม่มีเรื่องอะไรให้กังวลอีก เขาไม่กลัวอะไร สิ่งเดียวที่เขากังวลคือลูกสาวของเขา

รีสอร์ทหยีจิ่ง

หลังจากมื้ออาหารลั่วหานและหลงเซียวเล่นกับชูชูในห้องนั่งเล่น เจมส์โอ้อวดถึงสถานที่แต่งงานของหลงจื๋อที่เขาจัดการด้วยตัวเอง เขาแทบตั้งตารอรับคำชมไม่ไหว

“ดีไหม? สวยหรือเปล่า? นี่ไม่ได้ตะลึงกับพรสวรรค์และความคิดสร้างสรรค์ของผมอยู่ใช่ไหม?” เจมส์ลุกขึ้นต้นอย่างลิงโลด ดีใจราวกับเด็กอายุสามขวบ

เจมส์มีความฉลาดเฉลียว ความคิดสร้างสรรค์ของเขาจัดว่าดีกว่าบริษัทรับจัดงานแต่งงานอยู่พอสมควร

ลั่วหานยกนิ้วให้อย่างจริงใจ “เยี่ยม!”

ทันใดนั้นโทรศัพท์ของลั่วหานที่วางอยู่บนโต๊ะก็สั่นขึ้น บนหน้าจอปรากฏชื่อของหลินซีเหวิน

“ซีเหวิน มีอะไรหรือ?”

หลินซีเหวินล็อกประตู “พี่ลั่ว จู่ ๆ พ่อและแม่ของฉันก็อยากให้ฉันไปเรียนต่อต่างประเทศ พวกเขาไม่ได้ไปรู้อะไรมาใช่ไหม? ฉันกังวลว่าพวกเขาจะไม่ให้ฉันออกไปข้างนอกในวันมะรืนนี้”

ลั่วหานมองไปยังหลงเซียวที่พยักหน้าให้เธอ

“พวกเราจะช่วยเธอเอง วันมะรืนนี้เธอออกจากบ้านมาเลย ไม่ต้องนำอะไรมาด้วย ทำเหมือนกับที่เธอไปทำงานปกติ”

หลินซีเหวินกัดฟัน “ได้ค่ะ ฉันไม่กลัว! ขนาดหน้าต่างฉันยังเคยโดดมาแล้วด้วยซ้ำ!”

“คราวนี้ไม่จำเป็นต้องกระโดดหน้าต่าง ก็แค่เดินออกมาแบบธรรมดาทั่วไปก็พอแล้ว”

หลินซีเหวินรู้สึกกระวนกระวายใจอยู่เป็นเวลาสองวัน เฝ้ามองพ่อแม่ของเธอเข้าออกบ้านเพื่อจัดการธุระเรื่องไปต่างประเทศของเธอ จิตใจของเธอก็อยู่ไม่เป็นสุข

สุดท้ายก็ถึงวันวิวาห์ที่เธอรอคอยมาอย่างยากลำบาก!

หลินซีเหวินตื่นขึ้นมาในตอนเช้า เธอกินอาหารเช้าตามปกติ และเก็บกระเป๋าของเธอ

“พ่อคะ แม่ฉันคะ หนูไปทำงานแล้วนะคะ”

คุณนายหลินคว้าแขนเสื้อของเธอ “หลังเลิกงาน ไปที่ศูนย์ดำเนินการวีซ่าด้วยกันกับแม่ แม่นัดหมายไว้ให้เรียบร้อยแล้ว”

ตายแล้ว! แม่จัดการทุกอย่างรวดเร็วมาก!

หลินซีเหวินกะพริบตาปริบ ๆ “แม่คะ วันนี้ไม่ได้จริง ๆ ค่ะ หนูมีผ่าตัดตอนบ่าย พรุ่งนี้นะคะ หนูไปก่อน ไปแล้วนะคะคุณแม่ คุณพ่อ!”

ประธานหยิ่งยโสของฉัน

ประธานหยิ่งยโสของฉัน

Status: Ongoing

คุณหลง อย่าหยิ่งยโสเกินไป / ประธานหยิ่งยโสของฉัน หมออายุรศาสตร์มือหนึ่งฉู่ ลั่วหาน แต่งงานมาสามปีแล้ว กลับ ไม่มีใครสักคนรู้ว่าสามีเธอเป็นคุณชายใหญ่ของตระกูลหลง ตระกูลร่ำรวยอันดับแรกของเมืองเจียงตู ซึ่งเป็นคุณชาย เซียวที่ใครๆได้ยินชื่อก็ต้องหวาดกลัว ตลอดสามปีมาทั้งสอง ไม่เคยมีอะไรกัน เธอต้องทนดูรูปภาพหวานๆของเขากับเมีย น้อยโชว์บนหน้าจอ เธอหัวเราะ “หลงเซียว เราหย่ากันเถอะ” ” เห้อ หย่าเหรอ คุณผู้หญิง คุณคิดว่าผมเป็นอะไร? ” เธอเซ็น ใบหย่าอย่างไม่ลังเล ทิ้งแหวนแต่งงาน ดีมาก! เธอกล้ามาก คอยดูแล้วกันว่าผมจะจับคุณกลับมายังไง!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท