นที่978 โดนของเข้าแล้วสิ?
หลินซีเหวินไม่ได้ให้หลงจื๋อขับไปที่โรงพยาบาล หน้าโดนตบแล้วไปหาหมอที่โรงพยาบาล ดูโวยวายและก็น่าอายเกินไป
หลงจื๋อขับรถไปที่บ้านที่หลินซีเหวินเช่าอยู่แถวโรงพยาบาล ให้เธออาบน้ำเปลี่ยนชุด ส่วนตัวเองเข้าครัวจับเครื่องครัวต้มไข่ไก่ ทำอาหารเช้าให้เธอ
หลินซีเหวินมองตัวเองในกระจก แทบจะอยากเอาหัวชนฝาให้ตาย
เมื่อวานเธอแต่งเต็มยศเพื่อต้อนรับเขา เขากลับไม่มา วันนี้พอมา แต่เธอกลับเป็นตัวอะไรก็ไม่รู้? บ้านนอกมาก เละตุ้มเปะ ทนดูตัวเองแทบไม่ได้
ดีที่เธอหน้ามึนพูดต่อหน้าพ่อแม่ว่า หลงจื๋อชอบที่เธอเป็นอย่างนี้……
ให้ตาย! หลงจื๋อไม่ได้ตาบอดสักหน่อย
ช่างเถอะ พอนึกถึงคำตอบของหลงจื๋อ หลินซีเหวินก็อมแปรงสีฟันอย่างมีความสุข
เธออาบน้ำแบบลวกๆ เปลี่ยนชุดที่สะอาดและอุ่นขึ้น เปิดประตูออกมา นึกไม่ถึงว่าจะเห็นหลงจื๋อวางจานสองสามใบไว้บนโต๊ะ
จานใบหนึ่งวางไข่ต้มไว้ 5 ใบ ใบหนึ่งวางขนมปังปิ้ง แล้วก็สลัดผัก กับนมสดคนละแก้ว
ไม่ใช่มื้อเช้าที่ง่ายๆ เลย……
หลงจื๋อถูมือ เริ่มปอกเปลือกไข่ให้เธอ “ผมทำกับข้าวไม่ค่อยเป็น วัตถุดิบในตู้เย็นที่สามารถเอามาใช้ได้ก็เอาออกมาแล้ว ถ้ากินไม่อิ่ม เดี๋ยวเราค่อยไปกินอีก คุณกินรองท้องก่อน”
ปอกเปลือกไข่ไก่เสร็จ หลงจื๋อก็ลากมือของซีเหวินลง กดเธอลงที่โซฟา
หลินซีเหวินอ้าปากจะกินไข่ไก่ “คุณชายรองคะ ผู้เฒ่าอย่างคุณทอดไข่ไม่เป็นหรือคะ?”
หลงจื๋อปัดมือ เอาเปลือกไข่ที่ปอกเสร็จนาบบนใบหน้าที่ถูกตบของเธอ ช่วยเธอนวดเป็นวงกลม “เรื่องทอดไข่ผมเรียนได้ ผมกลัวจะทอดไม่อร่อย เลยต้มน้ำให้คุณเลยดีกว่า สารอาหารครบถ้วนไม่สูญเสีย คุณเป็นหมอน่าจะรู้”
“ชิ ไม่เป็นก็ไม่เป็นสิ ยังจะหาข้อแก้ตัวให้ตัวเองอีก……ว๊าว ฝีมือนวดไม่เลวเลย สบาย ช่วยนวดให้ฉันอีกหน่อย”
ทว่าความจริงไม่ได้เป็นดังที่หลินซีเหวินปรารถนา อยู่ๆ มือถือของหลงจื๋อก็ดังขึ้น
ลินดาเลขาฯ ของท่านประธานกรรมการโทรมา มือหนึ่งของหลงจื๋อช่วยนวดให้หลินซีเหวิน อีกมือก็รับสายโทรศัพท์
“ลินดา มีเรื่องอะไร?”
“ท่านประธาน สองสามวันนี้ประธานกรรมการไม่อยู่บริษัท มีการประชุมที่เขาต้องนำประชุม ตอนนี้มอบให้คุณทั้งหมดแล้ว อีกอย่าง คืนนี้มีงานเลี้ยงด้วย คุณต้องเป็นตัวแทนท่านประธานเข้าร่วมงาน บัตรเชิญฉันวางไว้บนโต๊ะทำงานคุณแล้ว”
ลินดาพูดเรื่องราวเป็นลำดับจนจบ
หลินซีเหวินฟังแล้วหัวฟู
“พี่ใหญ่ผมไปดูงาน หรือว่ามีเรื่องอื่น? เขาไม่ได้บอกผม”
เขาไม่รู้เรื่องเลย
ในเวลานี้ พี่ใหญ่ทำไมถึงไปจากบริษัทนะ? อีกอย่างไม่เห็นได้ยินว่าบริษัทมีความร่วมมือสำคัญอะไรที่ต้องให้พี่ใหญ่ออกโรงเอง
“เรื่องรูปธรรมดิฉันไม่ทราบ แต่แอนดี้ส่งรายละเอียดงานมาให้แล้ว ประชุมแรกอีกภายในครึ่งชั่วโมง ท่านประธานมาถึงบริษัทยังคะ?”
ภายในครึ่งชั่วโมง?
หลงจื๋อมองเวลาที่นาฬิกาข้อมือ แปดโมงครึ่งแล้ว ประชุมแรกเช้าอย่างนี้เชียว?
“ผมจะไปบริษัทเดี๋ยวนี้”
วางสายเสร็จ หลงจื๋อเอาไข่ให้หลินซีเหวิน “คุณนวดเองอีกสักพัก ผมไปประชุมที่บริษัทก่อน อยากกินอะไรก็สั่งร้านมาส่งนะ ถ้าไม่อยากไปทำงานก็พักอยู่ที่นี่”
หลินซีเหวินพับขาขึ้นโซฟามองดูหลงจื๋อสวมเสื้อสูทจัดเนกไทด์ ใส่รองเท้าอย่างวุ่นวาย หัวเราะตัวงอหน้าหงายดังฮ่าๆๆๆๆ “เอาล่ะๆ รีบไปทำงาน เร็วเข้า! กุญแจรถอยู่ตรงนี้นะ ถือไว้”
ฉากง่ายๆ กลายเป็นชีวิตประจำวันของสามีภรรยาเล็กๆแล้ว สามีไปทำงานสายรีบร้อนเอาข้าวของออกจากบ้าน ส่วนภรรยาก็เตือนว่าอย่าลืมกุญแจกระเป๋าเงินกับเอกสาร
หลินซีเหวินกระโดดลงจากโซฟาตอนเขาจะออกจากบ้าน หยิบขนมปังปิ้งสองแผ่นขึ้นมา กับไข่สองใบยัดให้เขา “เกิดหิวขึ้นมาก็เป็นตัวเลือกที่ไม่เลว!”
ขาข้างหนึ่งของหลงจื๋อยืนอยู่ในประตู อีกข้างก้าวออกไปแล้ว อาหารเช้าที่เพิ่มเข้ามาในมือทำให้เขายิ้มแหยๆ “ขอบคุณที่รัก!”
การประชุมปกติช่วงเช้าของ MBK ไม่มีเรื่องอะไรพิเศษ หลงจื๋อนำประชุมเสร็จสิ้นอย่างราบรื่น
พอเลิกประชุม หลงจื๋อก็โทรเข้ามือถือของพี่ใหญ่ แต่ในสายเตือนว่าไม่สามารถติดต่อได้ จากนั้น หลงจื๋อก็กลับมาที่ห้องทำงาน ใช้สายภายในติดต่อหาแอนดี้ “แอนดี้ คุณช่วยมาที่ห้องผมหน่อย”
แอนดี้มีเอกสารจะให้เขาเซ็นต์พอดี วางสายเสร็จก็มาที่ห้องประธานโดยตรง
“ท่านประธาน ฉันได้เรียบเรียงความสำคัญของ3โปรเจ็คที่ประชุมได้เสนอวันนี้เรียบร้อยแล้ว ข้างในมีรายการราคาอย่างละเอียด”
หลงจื่อพยักหน้า วางเอกสารเสร็จ มองตาของแอนดี้ “พี่ใหญ่ผมไปไหนเหรอ?”
แอนดี้ตอบตามตรง “ฉันไม่ทราบ ประธานกรรมการตัดสินใจกะทันหัน ตอนดิฉันได้รับแจ้งเขาแค่สั่งงานฉันในสองสามวันนี้ ไม่ได้พูดถึงอย่างอื่น ถ้าท่านประธานสงสัย สามารถถามท่านประธานกรรมการได้”
ในใจของแอนดี้ก็สงสัยเช่นกัน อยู่ๆ ประธานกรรมการก็ไป แล้วยังพาจี้ตงหมิงไปด้วย ไม่ได้บอกว่าไปไหน ไม่ได้บอกว่าไปทำอะไร
“ได้ ผมเข้าใจแล้ว คุณออกไปก่อน”
แม้แต่แอนดี้ก็ไม่รู้ นั่นก็ยิ่งน่าแปลก
“ค่ะ มีอะไรเรียกฉันได้ทุกเมื่อ”
พอประตูห้องทำงานปิดลง หลงจื๋อค้นมือถือดูอย่างกระสับกระส่าย เขาเอาเสียงบันทึกให้พี่ชาย หรือเขาไม่ได้ขอศาลอุทธรณ์เหรอ? ทำไมอยู่ๆ ไปโดยไม่บอกกัน?
ก๊อกๆ
เสียงเคาะประตูห้องทำงานของหลงจื๋อดังขึ้น หลงจื่อดึงความคิดกลับมา “เข้ามา”
คนที่มาครั้งนี้คือกู้เยนเซิน “คุณชายรอง พี่ใหญ่นายไม่อยู่ ฉันเบื่อๆ เลยมานั่งกับนายสักเดี๋ยว”
กู้เยนเซินนั่งที่โซฟาตามใจ ขาสองข้างพาดขึ้นบนโต๊ะกระจก สบายอย่างกับพักร้อนอยู่บนชายหาด
คิ้วของหลงจื๋อขมวดขึ้นเล็กน้อย “ประธานกู้คงไม่ลืมโครงการที่ประชุมไว้เมื่อเช้าเร็วอย่างนี้ใช่ไหม? ผมจำได้อย่างชัดเจน คุณเป็นแกนในการจับตลาด ทำไมยังมีเวลามาคุยเล่นที่นี่?”
กู้เยนเซินปลิ้นเปลือกตา “คุณชายรอง นายเป็นอะไรมากเหรอเปล่า? พี่ชายนายไม่อยู่ วิญญาณเลยมาเข้าสิงนายเหรอ? พูดจาเหมือนพี่ชายนายเลย”
หลงจื๋อพูดด้วยสีหน้าจริงจัง “ถ้าประธานกู้เบื่อ ไปดื่มน้ำชาที่ห้องพักก็ได้ หรือไปออกกำลังกายที่ห้องฟิตเนส งานผมเยอะมาก ไม่มีเวลาอยู่เป็นเพื่อนคุณ”
หลงจื๋อพลิกเอกสารเล่มหนึ่ง ตั้งใจดูตั้งแต่บรรทัดแรก
กู้เยนเซินเอนตัวลุกขึ้น ไม่กล้าเชื่อหูตาของตัวเอง เดินมาข้างหลังหลงจื๋อ “คุณชายรอง นายไม่ได้ไข้ขึ้นใช่ไหม? พี่ชายนายไม่อยู่ทั้งที นายยังไม่รีบฉวยโอกาสให้ตัวเองหยุดอีก?”
หลงจื๋อดูเล่มแรกเสร็จ เซ็นต์เอกสาร วางลงเรียบร้อย แล้วก็เอาอีกเล่มมา “พี่ชายผมไม่อยู่ ผมยิ่งต้องตั้งใจทำงาน และต้องเพิ่มปริมาณงานด้วย”
กู้เยนเซินเหลือบตาสำรวจดูหลงจื๋อ “นายไม่เป็นไรจริงนะ? กระเทือนถูกอะไรหรือเปล่า? เจ้าหนูแค่จะแต่งงานเองไม่ใช่เหรอ? เปลี่ยนหน้าเปลี่ยนตาเป็นคนใหม่แล้วเหรอ?”
คิ้วที่เรียงตัวสวยของหลงจื๋อเลิกขึ้น “ประธานกู้ อยู่ๆ ผมก็นึกคำที่พี่ชายอยากพูดขึ้นมาได้ คุณอยากฟังไหม?”
กู้เยนเซินกระฉับกระเฉงขึ้นมาทันควัน “ว่าอะไร? คำคมของพี่ชายนายไม่น้อย!”
หลงจื๋อเผยยิ้มเล็กน้อย ชี้นิ้วไปที่ประตู “ประตูอยู่ตรงนั้น กลับดีๆ”
กู้เยนเซินนึกว่าเขาจะพูดอะไร ที่แท้ก็จะไล่ อดใจเอามือตบลงไปที่หัวของหลงจื๋อไม่ได้ “เจ้าหนูก้าวหน้าใหญ่แล้ว เลียนแบบพี่ชายนายมาจัดการฉัน!”
หลงจื๋อหัวเราอย่างอารมณ์ดี “ประธานกู้เป็นเพื่อนรักของพี่ใหญ่ แต่ผมไม่ใช่เพื่อนรักคุณ อีกอย่างถ้านับตำแหน่งแล้ว ผมใหญ่กว่าคุณเหรอเปล่า?”
กู้เยนเซินเห็นเขาเคร่งครัดอย่างนั้น ความสงสัยในใจก็มากขึ้น “นาย……ช่างเถอะ ฉันไม่สนุกด้วยแล้ว ไปเดินดูฝ่ายการตลาดดีกว่า”
พอเดินออกจากห้องทำงานของหลงจื๋อ กู้เยนเซินก็เดินชนกับแอนดี้
แอนดี้เพิ่งกลับมาจากฝ่ายการเงิน กดลิฟต์เตรียมตัวจะขึ้นไป
กู้เยนเซินเดินตามหลังเธอมา ลิฟต์กำลังจะปิดมือข้างหนึ่งก็ค้ำไว้ทำให้ประตูทั้งคู่เป็นร่องแยกออก “เดี๋ยวก่อน! เดี๋ยวก่อน!”
แอนดี้ถอยหลังไปหนึ่งก้าว “ประธานกู้ เพิ่งออกมาจากห้องประธานเหรอคะ?”
สีหน้าประหลาดดูชั่วร้ายของกู้เยนเซิน “แอนดี้ คุณรู้สึกไหมว่าคุณชายรองตระกูลหลงต่างจากเมื่อก่อน? วันนี้ตอนประชุมฉันก็รู้สึกทะแม่ง เมื่อกี๊ไปหยั่งเชิงเขาที่ห้องทำงานมา ดูทะแม่งจริงๆ!”
แอนดี้ยังจดจำการแสดงออกในการประชุมของหลงจื๋อได้เป็นอย่างดี “ทะแม่งตรงไหนคะ?”
กู้เยนเซินเอานิ้วจิ้มไปที่หัวของตัวเอง “คุณรู้สึกไหมว่า อยู่เขาเหมือนเปลี่ยนไป พูดจาทำงานมีแบบแผนขึ้น จึ๊ๆ น่าแปลกมาก คนคนหนึ่งอยู่ดีๆ ทำไมอยู่ๆ เปลี่ยนไปได้?”
แอนดี้คิดตาม “อาจจะเกี่ยวกับคดีของพ่อเขาก็ได้ พ่อเกิดเรื่องใหญ่ขนาดนี้ เขาก็น่าจะถูกกระตุ้นบ้าง”
กู้เยนเซินพยักหน้า แต่ก็ไม่แน่ใจ “ฉันไม่ได้รู้จักเจ้าหมอนี่เป็นวันแรก เขาไม่ได้ชอบวงการธุรกิจเลย ตอนนี้มานั่งสงบเสงี่ยมดูเอกสารในห้องทำงาน บอกตามตรงผมรู้สึกขนลุก ดูน่ากลัว!”
แอนดี้มองเขาเหมือนตัวประหลาด “ประธานกู้ ฉันว่าคุณหมู่นี้ว่างเกินไปกระมัง!”