ประธานหยิ่งยโสของฉัน – ตอนที่ 979

ตอนที่ 979

ตอนที่ 979 โมโหไม่ขึ้น

ที่ห้องทำงานของหลงจื๋อ

การดูเอกสารติดกัน10กว่าแฟ้ม ทำให้หลงจื๋อปวดเมื่อยต้นคอ หมุนเก้าอี้มองออกไปนอกหน้าต่าง หน้าต่างสูงจรดพื้นเห็นได้ทั่วสามารถมองเห็นท้องฟ้าสีคราม นับก้อนเมฆ มือสัมผัสถูกกระเป๋าเสื้อสูท อย่างไม่รู้ตัว มีลูกตุงๆ อยู่ลูกหนึ่ง

ข้างในเป็นไข่ต้มที่เขายังกินไม่หมด

หลงจื๋อเอาไข่ต้นวางไว้ข้างกรอบรูป จากนั้นก็เอาปากกาเซ็นชื่อวาดดวงตาลงไป กับปากที่ยิ้มกว้าง ต่อให้ให้ฝีมือวาดภาพแย่ แต่เห็นชัดว่ารูปที่วาดก็คือหลินซีเหวิน

จากนั้น หลงจื๋อก็เปิดคอมพิวเตอร์ พิมพ์คำว่า “หลินซื่อกรุป หลินเหว่ยเย่”

พอพิมพ์คำสำคัญเข้าไป ข้างล่างก็ปรากฏข่าวกว่าสิบข่าว ส่วนใหญ่เขียนว่าหลินเหว่ยเย่เป็นสุภาพชนที่หลบซ่อนตัว ทั้งที่มีสมบัติมหาศาล แต่กลับชอบความเรียบง่าย

บางส่วนก็เขียนว่าบริษัทหลินซื่อครองตลาดโบราณวัตถุ เป็นตลาดใหญ่อยู่เจ้าเดียว ทำให้กิจการเล็กๆ ไม่สามารถอยู่ได้

ในบรรดาข่าวที่สะพัด หลงจื๋อได้เห็นข่าวใหม่ล่าสุด

“บริษัทหลินซื่อทำพิธีลงนามความร่วมมือกับว่านเหา เงินทุนว่านเหาที่เข้ามา ทำให้ก้าวขึ้นมาเป็นผู้ถือหุ้นของหลินซื่อ”

ว่านเหาเข้าหุ้นกับหลินซื่อ?

ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ปัญหาเงินทุนของหลินซื่อน่าจะแก้ไขได้แล้ว ทำไมหลินเหว่ยเย่กับคุณนายยังจะให้เขาลงทุน?

หรือเป็นอย่างที่ซีเหวินพูด บริษัทหลินซื่อรั่วแบบไม่มีก้นหลุม?

หลินเหว่ยเย่กำลังคิดอะไรกับเขาจริงๆ?

แต่คงไม่หรอกกระมัง บริษัทหลินซื่อไม่ได้เป็นกิจการที่ครอบคลุมใหญ่เท่า MBK เงินทุนขาดตอนชั่วคราวไม่น่าจะถึงขั้นถึงทางตัน

คิดไปคิดมา หลงจื๋อตัดสินใจโทรไปถามพี่ใหญ่

แต่ มือถือของหลงเซียวยังคงติดต่อไม่ได้

ณ โรงพยาบาลหวาเซี่ย

การผ่าตัดหนึ่งเคสช่วงเช้าของลั่วหานสิ้นสุดลง ตอนบ่ายไม่ต้องอยู่เวร มือถือไม่มีข้อความของหลงเซียว ดูท่าทางเครื่องยังไม่แลนดิ้ง

ลั่วหานไม่อยากคิดมาก เอามือถือใส่กระเป๋า เดินเสียงเท้าดังก๊อกแก๊กไปที่ห้องทำงาน

หวาเทียนชูเอกสารในมือส่ายไปส่ายมา “คุณหมอฉู่ งานเข้าแล้ว”

ลั่วหานคิ้วขมวด เห็นภาษาอังกฤษกับรูปภาพยุบยับเต็มแผ่นกระดาษ “อะไร?”

หวาเทียนพิงตัวกับผนังคลี่เอกสารออก “ตอนคุณผ่าตัดอยู่ ผมถูกเรียกตัวไปห้องทำงานของผู้อำนวยการ เดิมทีเขาอยากเรียกคุณ แต่คุณกับหมอหลินไม่อยู่กัน ผมเลยถูกเกณฑ์”

ลั่วหานหยิบเอกสารไปดู “มาจากรอยัลคอลลีคฟิสิกเชี่ยนแห่งลอนดอน?”

หวาเทียนกอดอกพิงผนัง ดันขาข้างนึงขึ้น “รอยัลคอลลีคฟิสิกส์เชี่ยนต้องการร่วมมือโครงการวิจัยการปลูกถ่ายหัวใจกับทางโรงพยาบาลของเรา รายละเอียดอยู่ด้านหลัง ความหมายของผู้อำนวยการคือ โรงพยาบาลเราจะส่งสุดยอดคุณหมอไป อื่มฮึ”

เขาลูบคางอย่างมีนัย ความหมายคือ คุณถูกคัดเลือก

ลั่วหานไม่ต้องคิดก็รู้ว่าผลต้องออกมาเป็นเช่นนี้ ดูเอกสารแต่ละหน้าเสร็จ สุดท้ายคือลายเซ็นของผู้อำนวยการเฉินกับศาสตราจารย์ของรอยัลคอลลีคฟิสิกส์เชี่ยน

“ข้างในเขียนว่า ความร่วมมือต้องแลกเปลี่ยนบุคลากรของแต่ละฝ่าย ฉันต้องไปอังกฤษเหรอ?” ลั่วหานขมวดคิ้วจนชนกัน

หวาเทียนประสานมือขึ้นศีรษะ ยักไหล่หัวเราะ “เรื่องนี้น่ะ……คุณเป็นคนเก่งที่ท่านผู้อำนวยการเน้นอบรมมา ไม่ให้คุณไปแล้วจะให้ใครไป? จะให้แต่หมอถังไปคงไม่ได้หรอกมั้ง? หมอถังเป็นรองผู้อำนวยการ มีภาระติดตัวอยู่”

ลั่วหานรู้สึกหัวฟูขึ้นมาสองเท่า เธอเพิ่มผ่าตัดเสร็จไปเคสเดียวเอง กลับมานึกไม่ถึงว่าเธอจะถูกส่งตัวไปดูงานต่างประเทศ!

“ฉันจะไปคุยกับท่านผู้อำนวยการ ภารกิจไปดูงานต่างประเทศฉันทำไม่ได้”

ไปอังกฤษไกลขนาดนั้น แล้วยังต้องไปถึง3เดือน! อย่าว่าแต่3เดือน ต่อให้แค่สัปดาห์เดียวเธอก็ไม่อยากไปจากลูกสาวกับสามี

“เอ่อ……ก็ได้ คุณก็ลองดู แต่ผมว่าคุณอย่าตั้งความหวังไว้สูง คุณต้องรู้ว่า รอยัลคอลลีคฟิสิกส์เชี่ยนไม่ใช่องค์กรธรรมดา ถ้าไม่เพราะราชสำนักอังกฤษมีเหตุฉุกเฉิน พวกเขาจะมาขุดเอาสุดยอดคนเก่งของเราไปเหรอ?”

สายตาสู่รู้ของหวาเทียนแฉถึงสิ่งที่เขารู้อีกขั้นในเรื่องนี้

ลั่วหานยิ้มยะเยือก “บอกมา คุณยังรู้อะไรอีก?”

หวาเทียนยักคิ้ว “คุณหมอฉู่ คุณยังจำตอนนั้นที่ผมลาออกมาสมัครเป็นผู้ช่วยของคุณที่หวาเซี่ยได้สินะ?”

ลั่วหานขมวดคิ้ว “แล้วยังไง?”

หวาเทียนล้วงมือข้างหนึ่งลงในกระเป๋ากางเกงสีดำ ชายเสื้อสีขาวเลิกขึ้นมาครึ่งหนึ่ง ตอนคนเดินผ่านทำให้มีสายลม ทำให้ชายเสื้อสีขาวปลิวขึ้น “จากระดับของผม มาเป็นผู้ช่วยคุณนี่ก็เหลือเฟือแล้ว ใช่ไหมล่ะ? แต่ผมก็ยังมา”

ลั่วหานเปิดโปงเขา “ที่คุณมาเพราะจะฝึกทักษะของฉัน อย่ามาพูดให้คนอื่นรู้สึกลำบากใจเลย”

หวาเทียนพยักหน้า “ใช่ๆๆ ผมมาฝึกทักษะระดับไฮเอนด์ของคุณ น่าเสียดาย จนตอนนี้ผมก็ยังเรียนไม่ถึงแก่นแท้ แต่ว่า มีคนรอไม่ไหวแล้ว”

ลั่วหานเบิกตาโพลงขึ้นฉับพลัน อยากมองลึกเข้าไปในจิตวิญญาณของหวาเทียน “คุณคงจะไม่บอกฉันว่า ราชสำนักอังกฤษมีคนต้องการผ่าตัดหัวใจใช่ไหม?”

หวาเทียนเม้มปาก ไม่พูดอะไร ยิ้มด้วยสายตาตอบกลับว่า: ถูกต้อง ที่คุณพูดมาทั้งหมดถูกต้อง

ลั่วหานย่อยข้อมูลที่ได้รับ “คนคนนี้ ต้องการรักษาตัวอย่างเป็นความลับ? ฉะนั้น คุณเป็นหนึ่งในหมอหลวงเขาสินะ?”

หวาเทียนยังคงเม้มริมฝีปาก ไม่ตอบ ที่จริงเป็นคำตอบที่ดีที่สุด

ลั่วหานกุมขมับยิ้มแหยๆ “เขาเป็นใคร? ตอนนี้อาการเป็นยังไง? ประวัติผู้ป่วยล่ะ? การวินิจฉัยโรคล่ะ?”

หวาเทียนยังคงหัวเราะ ไม่มีอะไรเลย

“ไม่พูดใช่ไหม? ได้ เอาเอกสารมา ใครอยากไปก็เชิญ ฉันไม่ไป” ลั่วหานชักสีหน้า หันหลังจะปิดประตู

หวาเทียนปฏิกิริยาเร็วมาก ขวางบานประตูไว้ “คุณหมอฉู่ คุณหมอฉู่ หน้าที่หมอคือการช่วยชีวิตคน คุณจะไปสนทำไมว่าเขาเป็นใคร คิดซะว่าเป็นคนไข้ทั่วไปก็พอแล้ว”

ลั่วหานทิ้งตัวลงเก้าอี้ “ไม่ต้องพูดเหตุผลกับฉันให้มาก เปล่าประโยชน์”

“คุณอย่าเพิ่งใส่อารมณ์ ผมไม่ใช่ไม่อยากบอกคุณ แต่บอกไม่ได้ คุณ……”

ปัง!

ลั่วหานยืดขาออก ถีบประตูแบบนักเลง

หวาเทียนถูกเธอดันจมูกออกไปขังไว้นอกประตู

คุณหมอกับพยาบาลที่เดินผ่านมามองดูเขา หัวเราะกันเดินหนี

หวาเทียนทำหน้าเซ็ง “ไม่ใช่ความผิดผมสักหน่อย ผมแค่รับผิดชอบส่งข้อความเท่านั้นเอง……”

เข้าใจแล้ว!

ที่ผู้อำนวยการไม่เรียกหาเธอแต่เช้าแต่สาย กลับหาเธอตอนที่เธอผ่าตัด เห็นชัดๆ ว่าทิ้งระเบิดไว้ให้เขา!

ผู้อำนวยการเจ้าเล่ห์มาก!

ณ บนอาคาร ห้องทำงานของผู้อำนวยการ

สีหน้าผู้อำนวยการเฉินเต็มไปด้วยความกลัดกลุ้ม มือถือโทรศัพท์พยักหน้าติดๆ “ผมเข้าใจ คุณหมอฉู่เป็นหมอที่ดีที่สุดของโรงพยาบาลเรา……

เขามีสถานะพิเศษ เกรงว่าจะเกลี้ยกล่อมไม่ง่าย……ครับๆๆ ผมเข้าใจ……ถูกต้อง ผู้อำนวยการเจิ้งนอนอยู่โรงพยาบาลนี้……คุณหมอเจ้าของไข้ก็คือเสียวฉู่……

แต่อังกฤษก็ไกลเหลือเกิน อีกอย่างเวลาก็นาน……หมอฉู่เป็นภรรยาของหลงเซียว คุณก็รู้ถึงความสัมพันธ์นี้……ได้ ผมจะพยายาม”

ในที่สุดมือถือก็วางสายลง

ใบหน้าผู้อำนวยการเฉินเต็มไปด้วยเหงื่อ

ตำแหน่งนี้ทำไมอยู่ยากขึ้นทุกที?

ก่อนหน้าเคสเจิ้งเฉิงหลินเพิ่งผ่านไป ตอนนี้มาเกิดเคสที่ใหญ่กว่าอีก

ไม่รู้ว่าเขาแรงตกตอนสูงวัย หรือว่าฉู่ลั่วหานเขาแกร่งกว่า?

ผู้อำนวยการเฉินเช็ดเหงื่อ หลังจากลังเลแล้วก็หยิบมือถือขึ้นมาโทรหาถังจิ้นเหยียน

เสียงมือถือดังขึ้นสองสามครั้ง ถังจิ้นเหยียนรับสาย

ผู้อำนวนการเฉินหัวเราะ “ไม่ได้รบกวนคุณพักผ่อนใช่ไหม?”

จะไม่รบกวนได้อย่างไร? ที่อเมริการเป็นกลางดึก คนกำลังหลับสนิท

ถังจิ้นเหยียนสวมแว่นตาอย่างอารมณ์สงบ เอนตัวขึ้น “ไม่เลย ผู้อำนวยการมีเรื่องอะไรครับ?”

ผู้อำนวยการเฉินหมุนลูกโลกที่อยู่บนโต๊ะไปมา “เสี่ยวถัง พ่อของคุณดีขึ้นแล้วยัง? ฟื้นตัวถึงขั้นไหนแล้ว?”

ถังจิ้นเหยียนฟังออกว่าในคำพูดเขาแฝงบางอย่างเอาไว้ “ที่โรงพยาบาลเกิดเรื่องต้องการให้ผมกลับไปใช่หรือเปล่า? ผมจะพยายามจัดตาราง”

ลาหยุดนานเกินไปก็ไม่ดี ถังจิ้นเหยียนก็ไม่อยากให้งานต้องเสีย

ผู้อำนวยการเฉินหัวเราะ รอยตีนกาที่ตาขึ้นเป็นชั้นๆ “เหอะๆ คุณกลับมาได้ถือว่าดีที่สุด! ถ้าสะดวกล่ะก็ พรุ่งนี้เป็นอย่างไร?”

พรุ่งนี้?

ถังจิ้นเหยียนผละตัวลุกขึ้นนั่ง ความง่วงหายไปครึ่งหนึ่ง “เกิดเรื่องฉุกเฉินอะไรขึ้น?”

“ไม่มีเรื่องฉุกเฉินอะไร แต่ผมคิดว่าถ้าคุณกลับมาได้ ทางเสียวฉู่ก็จะจัดการง่ายขึ้น ทางโรงพยาบาลมีโปรเจ็คกับทางอังกฤษ……ไม่สะดวกพูดรายละเอียดทางโทรศัพท์ เอาอย่างนี้ พรุ่งนี้คุณกลับมา ผมจะเลี้ยงต้อนรับคุณเอง ไว้เจอหน้าค่อยคุยรายละเอียดกัน ดึกมากแล้ว คุณนอนต่อเถอะ”

ใจกลัวว่าถังจิ้นเหยียนจะกลับคำ ผู้อำนวยการเฉินพูดไม่กี่คำก็รีบวางสาย

กุมหน้าอกหายใจยาวๆ สองสามเฮือก แล้วก็ดื่มน้ำชา

ยังไม่ทันนั่งเข้าที่ เสียงเคาะประตูก๊อกๆ หน้าห้องทำงานก็ดังขึ้น

สีหน้าของผู้อำนวยการเฉินแข็งทื่อ คงไม่ใช่ฉู่ลั่วหานขึ้นมาหรอกนะ? มาถามเอาความกับเขา? แต่ถังจิ้นเหยียนยังไม่กลับมา ถ้าตอนนี้เขาพูดเรื่องภารกิจ ฉู่ลั่วหานจะเทกระจาดไม่ทำเหรอเปล่า?

ก๊อกๆ

เสียงเคาะประตูดังขึ้นอีกสองครั้ง

ไม่ได้ เปิดประตูไม่ได้ ต้องกั้นไว้จนกว่าถังจิ้นเหยียนจะกลับมา แล้ว3คนมานั่งคุยกันตัดสินใจกัน ผู้อำนวยการเฉินทำเป็นหูหนวกเป็นใบ้ต่อไป

ผู้อำนวยการเฉินทำเป็นไม่อยู่ ไม่ส่งเสียงตอบใดๆ

“ผู้อำนวยการเฉินไม่อยู่เหรอ? ทำไมไม่มีใครเปิดประตู?” ลั่วหานถามหัวหน้าแผนกศัลยกรรมทรวงอกที่เดินผ่านมา

หัวหน้าส่ายหน้า “ไม่รู้สิ หลังจากประชุมเช้าผู้อำนวยการก็ไม่น่ามีธุระแล้วนะ? ว่าแต่อาจจะไปดูที่แผนกอื่น ถ้าไงคุณลองโทรถามผู้อำนวยการดูสิ?”

ผู้อำนวยการเฉินรีบกำมือถือไว้ ดีที่ตั้งค่าสั่น

ลั่วหานโค้งตัว “น่าเสียดายจริงๆ ฉันมาปรึกษาผู้อำนวยการเรื่องโปรเจ็ค ในเมื่อเขาไม่อยู่ งั้นฉันไปดีกว่า”

ลั่วหานจงใจพูดสองสามประโยคหลังให้เสียงดัง แต่ละคำแต่ละประโยคถ่ายทอดอย่างชัดเจน

ผู้อำนวยการเฉินฟังถึงตรงนี้ก็ไม่แยกแยะว่าจริงหรือหลอก เดินลงจากเก้าอี้ จากสามก้าวเป็นสองก้าวมาเปิดประตู หัวเราะแล้วพูดว่า “เสียวฉู่มาเหรอ? เมื่อกี๊ฉันฟุบหลับไปน่ะ มา เข้ามา”

ลั่วหานอมยิ้ม “ผู้อำนวยการ นอนตื่นแล้วเหรอ? สร่างง่วงแล้วยังคะ?”

ผู้อำนวยการเฉินขยี้ตา “เพิ่งตื่น สร่างแล้ว มา เข้ามาคุยกัน”

ลั่วหานยิ้มเห็นฟันขาวด้วยความเกรงใจ “ในเมื่อตอนนี้ผู้อำนวยการสร่างดี งั้นฉันก็ขอพูดตามตรงก็แล้วกัน เรื่องที่อังกฤษฉัน……”

ยังไม่ทันพูดออกมา ผู้อำนวยการเฉินก็หยิบมือถือขึ้นมาแนบกับหู “ฮัลโหล? อ้อ……ผมเอง ว่าครับ ว่าครับ……”

มือถือแนบกับหู ผู้อำนวยขอโทษด้วยการยิ้มๆ “เสียวฉู่ ฉันมีธุระด่วน พรุ่งนี้คุณค่อยมาหาผมก็แล้วกันนะ พรุ่งนี้ค่อยมา”

พูดจบก็รับสายไปพลางเดินไป เดินถึงลิฟต์ปากก็ยังพูดอยู่ “ได้ยินครับได้ยิน ว่ามา”

ลั่วหานยิ้นอย่างทำอะไรไม่ได้มองแผ่นหลังของเขา จะโมโหก็โมโหไม่ออก

ก้มหน้าดูรายละเอียดโปรเจ็ค ลั่วหานดูวุ่นวายใจขึ้นมา

ในจุดยืนของหมอ เธอควรต้องไป แต่ตั้ง3เดือนนะ……มันเป็นเวลาที่ยาวนานมาก เธอต้องพลาดการพูดคุยกับชูชูสิน

ประธานหยิ่งยโสของฉัน

ประธานหยิ่งยโสของฉัน

Status: Ongoing

คุณหลง อย่าหยิ่งยโสเกินไป / ประธานหยิ่งยโสของฉัน หมออายุรศาสตร์มือหนึ่งฉู่ ลั่วหาน แต่งงานมาสามปีแล้ว กลับ ไม่มีใครสักคนรู้ว่าสามีเธอเป็นคุณชายใหญ่ของตระกูลหลง ตระกูลร่ำรวยอันดับแรกของเมืองเจียงตู ซึ่งเป็นคุณชาย เซียวที่ใครๆได้ยินชื่อก็ต้องหวาดกลัว ตลอดสามปีมาทั้งสอง ไม่เคยมีอะไรกัน เธอต้องทนดูรูปภาพหวานๆของเขากับเมีย น้อยโชว์บนหน้าจอ เธอหัวเราะ “หลงเซียว เราหย่ากันเถอะ” ” เห้อ หย่าเหรอ คุณผู้หญิง คุณคิดว่าผมเป็นอะไร? ” เธอเซ็น ใบหย่าอย่างไม่ลังเล ทิ้งแหวนแต่งงาน ดีมาก! เธอกล้ามาก คอยดูแล้วกันว่าผมจะจับคุณกลับมายังไง!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท