ประธานหยิ่งยโสของฉัน – ตอนที่ 1004

ตอนที่ 1004

บทที่ 1004 ให้สาวสวยตายไปพร้อมคุณ

“เซียวเอ๋อ ความหวังที่แม่หวังมากที่สุดก็คือขอให้นายปลอดภัย และปราศจากจากสิ่งสกปรกทั้งหลาย”

มือของหยวนชูเฟินข้ามโต๊ะไปจับที่มือของหลงเซียวอย่างสั่นๆ เธอจับมือเขาไว้แน่นๆ และกำนิ้วมือของเขาไว้แน่นๆ เห็นเส้นเลือดที่หลังมือที่ผอมแห้งของเธอได้อย่างชัดเจน

หลงเซียวจับมือเธอไว้เช่นกัน

ปลอดภัยและปราศจากสิ่งสกปรกทั้งหลาย

เขาคงทำไม่ได้

สายตาของหยวนชูเฟินมองไปที่ใบหน้าของลูกชาย วินาทีนั้นราวกับว่าข้ามภพเวลากลับไป กลับไปถึงเมื่อก่อนที่นานมาแล้ว ความหวังในใจของเธอที่เธอทำไม่สำเร็จ

ความผิดที่เธอทำขึ้นมาเอง ตอนนี้คงทำได้แค่ทิ้งมันไว้ให้ลูกชายแล้วล่ะ

“เซียวเอ๋อ รับปากแม่นะ ไม่ว่าจะเกิดเรื่องอะไรขึ้น อย่าท้าทายอำนาจของกฎหมาย อย่าไปยุ่งเกี่ยวกับสิ่งที่ไม่ควรยุ่งเกี่ยว รับปากแม่นะว่านายจะเป็นนักธุรกิจที่ บริสุทธิ์ อย่าปล่อยให้ตัวเองต้องตกอยู่ในสภาวะอันตราย รับปากแม่ได้ไหม?”

ดวงตาของหยวนชูเฟินเต็มไปด้วยน้ำตา ดวงตาที่เต็มไปด้วยความคาดหวังนั้นมองไปที่เขาอย่างไม่กะพริบตา

ลูกชายเป็นความปรารถนาเดียวของเธอ หลายๆ สิ่งที่ผ่านๆ มาเธอไม่สามารถกลับไปแก้ไขได้ สิ่งที่เธอทำได้ก็คือห้ามไม่ให้มันผิดไปมากกว่านี้

คำพูดเหล่านี้ของเธอไปสะกิดที่ใจของหลงเซียว เขาหลังตึงขึ้นมา ลิ้นแข็งจนพูดอะไรไม่ออก

“เซียวเอ๋อ นายรับปากฉันได้ไหม?”

ผ่านไปนานมาก เสียงของคุณแม่ก็ถามขึ้นมา มันหยุดความคิดของหลงเซียวไว้

“ผมรับปากครับ”

เพื่อให้คุณแม่วางใจลง เขาทำได้แค่รับปาก

หยวนชูเฟินวางใจลงได้สักที เธอถอดหายใจออกอย่างโล่งอก ดวงตาที่โค้งงอขึ้นทำให้เห็นตีนกา “ถ้าอย่างงั้นก็ดีเลย แม่เชื่อในตัวนาย นายทำได้อย่างแน่นอน”

หลงเซียวไม่ได้ตอบ เขายังคงเงียบและทำสีหน้าท่าทีเหมือนตอนแรก

เมื่อเธอได้รับคำรับปากจากลูกชาย หยวนชูเฟินก็เช็ดน้ำตาตรงหางตาออก แล้วเริ่มดูภาพวาดพวกนั้น

“เรื่องนี้ต้องพูดตั้งแต่ที่พ่อของนายเริ่มทำธุรกิจเมื่อ30ปีก่อน ตอนนั้นเป็นฤดูร้อน ลอนดอนร้อนมาก ฉันกำลังเรียนวาดรูปอยู่ในโรงเรียน หลังจากนั้น…..”

เธอถอดหายใจออกยาวๆ แล้วความคิดเธอก็กลับเข้าไปในความทรงจำเมื่อนานมาแล้ว…….

เมื่อ30ปีก่อน ณ ลอนดอน มหาวิทยาลัยเคมบริดจ์

หยวนชูเฟินสวมชุดเดรสยาวสีขาว กำลังวาดรูปอยู่ริมสะพานหิน เธอกำลังใช้ดินสอวาดภาพวัดความใกล้และสัดส่วนของภาพที่จะวาด แสงแดดส่องลงบนใบหน้าที่งดงามและสดใสของเธอ ขนตาของเขาส่องสองวิบวับตามแสงพระอาทิตย์ส่อง

เพียงแค่เธอนั่งลงบนพื้นหญ้าที่เขียวขจีนี้ มันก็กลายเป็นภาพวาดที่สวยงามแล้ว

เธอวัดสัดส่วนของภาพจนเสร็จสิ้น ขณะที่เธอกำลังก้มหน้าเตรียมลงมือวาดภาพนั้น มีเงาร่างดำมืดปรากฏขึ้นตรงหน้าอย่างไม่ทันได้ตั้งตัว เงาดำที่มืดมิดนั้นบังแสงพระอาทิตย์ที่สอดส่องมาเมื่อสักครู่ไปจนหมดสิ้น เหลือเพียงเงามืดที่ปรากฏขึ้นบนกระดาษวาดภาพที่ขาวสะอาด

หยวนชูเฟินเงยหน้าขึ้นอย่างตกตะลึง เธอมองเห็นภาพหน้าที่ย้อนแสง

อีกคนอยู่ในจุดย้อนแสงจึงมองเห็นหน้าเขาไม่ค่อยชัด แต่มองจากเงาร่างแล้วสามารถเห็นส่วนสูงและสรีระร่างกายของเขาได้ เขาสูงมาก ค่อนข้างผอม มีกลิ่นหอมของโคโลนโชยมา

“คุณเป็นใคร?”

หยวนชูเฟินกัดริมฝีปากไว้แล้วถามชายคนนั้นด้วยความหวาดระแวง ในขณะเดียวกันเธอก็มองไปรอบๆ ตัวด้วย เมื่อเกิดเหตุจำเป็นขึ้นเธอก็จะร้องขอความช่วยเหลือทันที

ชายคนนี้มิได้โจมตีเธอ แต่เขาเพียงแค่ยิ้มออกมาอ่อนๆ จากในมุมมืดๆ เขาพูดด้วยภาษาอังกฤษที่ติดสำเนียงบริติชว่า “คุณคือแฟนสาวของมู่เส้าเอินใช่ไหม?”

เมื่อหยวนชูเฟินได้ยินคำว่ามู่เส้าเอินเธอก็เกร็งขึ้นมา “เส้าเอินล่ะ?”

“เขาสบายดี แค่……..มีปัญหาเล็กน้อย”

หยวนชูเฟินทำตาโต เธอกำดินสอวาดภาพไว้แน่น “มีปัญหาอะไร?”

ชายคนนั้นยิ้มราวกับมันไม่มีอะไร “คุณมู่เส้าเอินเป็นแขกของผม แต่เหมือนว่าเขาจะไม่ค่อยชอบอาหารเที่ยงที่ผมเตรียมไว้ให้สักเท่าไหร่ คุณน่าจะรู้ว่าเขาชอบอะไรใช่ไหม?”

หยวนชูเฟินยืนขึ้น แล้วถอยหลังไปครึ่งก้าว ขณะเดียวกัน เธอได้เห็นใบหน้าของชายคนนี้อย่างชัดเจน

ใบหน้าของเขาดูดี ดวงตาสีฟ้าที่สวยงามคู่นั้นอยู่ตรงส่วนลึกใต้คิ้ว ริมฝีปากที่บางเบาของเขาดูเหมือนว่ากำลังยิ้มแต่ก็เหมือนไม่ได้ยิ้ม เขาเผยราศีของวงตระกูลผู้ดีออกมาตั้งแต่หัวจรดเท้า

โดยเฉพาะบุคลิกที่มั่นใจในตัวเองของเขา แม้ไม่ได้แสดงอารมณ์ความรู้สึกใดๆ ออกมาแต่ก็มากเพียงพอที่ทำให้คนแหงนมองเขา

เมื่อหยวนชูเฟินคิดถึงเรื่องนี้ สายตาของเธอจากที่เหม่อลอยก็แน่วแน่ขึ้นแล้วมองไปที่ลูกชาย “ฉันคิดว่านายก็คงรู้แล้วว่าเขาเป็นใคร เขาก็คือMAXก่อนที่จะเสียโฉม”

หลงเซียวคิดถึงเขาอย่างที่พูดจริงๆ “แล้วหลังจากนั้นล่ะ? แม่ไปกับเขาเหรอ?”

หยวนชูเฟินพยักหน้าด้วยสีหน้าเศร้าหมอง “ใช่ ฉันไม่กล้าเอาชีวิตพ่อนายมาเสี่ยง ตอนนั้นฉันยังเด็กเกินไป ยังไม่รู้เรื่องเท่าไหร่ และขี้กลัวมากเกินไป”

หลงเซียวส่ายหัว “มันไม่ใช่ความผิดของคุณ”

หยวนชูเฟินขึ้นรถตามMAXไป รถขับไปเรื่อยๆ จนถึงชนบทของลอนดอน ผ่านไป1ชั่วโมงกว่าๆ เธอถึงจะเห็นจุดหมายปลายทาง

เป็นวิลล่าหรูหราแบบส่วนตัว

ตอนนั้นMAXออกจากวงการการเมืองมาแล้ว ชื่อเสียงของเขาไม่ดังเท่าเมื่อก่อน แต่ด้วยหน้าตาและตำแหน่งที่เขาเคยดำรง ก็ยังคงมีคนคอยประจบเขาอยู่มากเช่นเคย

เพราะฉะนั้นตอนนั้นหยวนชูเฟินไม่ถือว่าแปลกหน้าเขามาก สามารถเห็นข่าวเกี่ยวกับเขาบนหนังสือพิมพ์อยู่บ่อยๆ มันก็ยากที่เธอจะไม่รู้จักเขาเลย

“เชิญด้านในครับ”

MAXเชิญเธอเข้าไปในบ้านอย่างสุภาพ

กิริยาท่าทางของเขาดูสุภาพและสง่า แต่ความอันตรายที่เผยออกมานั้นกลับทำให้หยวนชูเฟินรู้สึกหนาวเหน็บในใจ เธอเหงื่อออกที่หลังทันที

“เขาอยู่ไหน? เส้าเอินอยู่ไหน?”

เมื่อเข้าบ้านมา หยวนชูเฟินก็ตามหามู่เส้าเอินอย่างรีบร้อน แต่ภายในห้องรับแขกที่กว้างใหญ่นี้กลับไม่เห็นเงาคนเลย

วิลล่าหลังนี้ใหญ่ แต่มันกว้างมาก เธอขนลุกที่แขนทั้งสองข้าง แม้ว่าจะเป็นเดือนมกราคมที่ร้อนมาก แต่เธอก็รู้สึกหนาวจนตัวสั่น

MAXยิ้มมุมปากขึ้นมาอย่างเยือกเย็น “คุณเป็นห่วงเขามากจริงๆ ด้วย แสดงว่าผมมองคนไม่ผิด”

หยวนชูเฟินกัดฟันไว้แน่น แล้วเงยหน้ามองเขาด้วยความโกรธ “เขาอยู่ไหนกันแน่?!”

MAXยื่นมือชี้ไปที่ชั้นสองอย่างไม่เร่งรีบ “อยู่บนนั้น”

หยวนชูเฟินรีบวิ่งขึ้นไป เธอเห็นมู่เส้าเอินในห้องนอนห้องใหญ่ที่เปิดประตูไว้

เขาใส่เสื้อสูทตัวเดิมกับที่ใส่ออกมาในตอนเช้า เขาบอกว่าเขาจะมาคุยเรื่องงาน ตอนที่เขาออกจากบ้านมาเขาสง่าและดูดี

แต่ตอนนี้ ดวงตาที่อยู่หลังแว่นของเขากลับดูหม่นหมองเล็กน้อย

“เส้าเอิน! คุณไม่เป็นไรใช่ไหม!”

หยวนชูเฟินวิ่งเข้าไปเช็คดูว่ามู่เส้าเอินเจ็บตรงไหนไหม เมื่อแน่ใจแล้วว่าเขาไม่เป็นอะไรเธอก็โล่ง อก

มู่เส้าเอินกระตุก เขารู้สึกเศร้าใจมาก!

“อาเฟิน คุณ……คุณมาที่นี่ได้ยังไง? พวกเขาลักพาตัวคุณมาเหรอ?”

มู่เส้าเอินกอดเธอเข้ามาในอ้อมแขนตัวเองด้วยความกังวลใจ เขารู้สึกได้ว่าเธอตัวสั่นไปทั้งตัว

“ไม่ได้ถูกลักพาตัวมา MAX…….เขาให้ฉันมาหานาย นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?”

ดวงตาที่ไร้เดียงสาของหยวนชูเฟินเต็มไปด้วยความหวาดกลัว เธอจับปกเสื้อของมู่เส้าเอินไว้ไม่กล้าปล่อย

“เพี๊ยะเพี๊ยะเพี๊ยะ”

MAXปรบมือสามที เขายืนอยู่หน้าประตู “เป็นภาพที่น่าซึ้งใจยิ่งนัก ผมจะซึ้งใจไปกับพวกคุณแล้วนะ”

มู่เส้าเอินมองไปที่เขาด้วยสายตาโกรธแค้น “ปล่อยเธอไป เรื่องระหว่างเราสองคนมันไม่เกี่ยวกับเธอ”

MAXก้าวเท้าเดินเข้าไป เขาเดินวนรอบเขาสองคนที่กำลังกอดกันอยู่ “จากที่ผมเห็นนะ มันเกี่ยวข้องกันมากเลยนะครับ มู่เส้าเอิน นายเป็นคนที่จัดการยาก ปากแข็ง ใจกล้า แต่เหมือนว่านายจะลืมไปว่า นายยังมีผู้หญิงของนายอยู่ นายคิดดูซิว่า ถ้าผมกรีดใบหน้าที่สวยงามดั่งดอกไม้ของผู้หญิงคนนี้ หรือว่าทำให้ขาเธอหักสักข้างหนึ่ง เธอจะยังสวยขนาดนี้อยู่ไหมนะ?”

MAXใช้นิ้วที่เรียวยาวของเขาดันคางของหยวนชูเฟินขึ้นมา ฟันของเขาค่อยๆ เผยออกมาพร้อมรอยเย็นที่ดูเยือกเย็น

“ถ้านายกล้าทำอะไรเธอล่ะก็ เราสองคนจะต้องตายพร้อมกัน”

กล้ามเนื้อส่วนหน้าของมู่เส้าเอินกระตุก ความโกรธที่ปรากฏขึ้นตรงมุมปากของเขาทำให้ใบหน้าของเขาก็บิดเบี้ยวไปด้วย

MAX ไม่รู้สึกรู้สาอะไรเลย “มู่เส้าเอิน นายลองพิจารณาดีๆ ดีกว่า ร่วมมือกับผม ต่อไปนายก็จะรุ่งโรจน์ และเป็นใหญ่ในลอนดอน จะไปหาอย่างราบรื่นระหว่างนิวยอร์กและลอนดอน ผมจะทำให้คุณกลายเป็นผู้ดีคนใหม่ที่มีอำนาจมากในวอลสตรีท ไม่เกิน5ปี ไม่สิ 3ปี ผมรับรองว่าจะให้เมืองธุรกิจที่ครอบคลุมทั้งยุโรปและเอเชียตะวันออกกับคุณ”

มือของเขาจับคางของหยวนชูเฟินไว้อย่างแรง “มิเช่นนั้น ผมจะให้สาวสวยคนนี้ตายไปพร้อมคุณ

ประธานหยิ่งยโสของฉัน

ประธานหยิ่งยโสของฉัน

Status: Ongoing

คุณหลง อย่าหยิ่งยโสเกินไป / ประธานหยิ่งยโสของฉัน หมออายุรศาสตร์มือหนึ่งฉู่ ลั่วหาน แต่งงานมาสามปีแล้ว กลับ ไม่มีใครสักคนรู้ว่าสามีเธอเป็นคุณชายใหญ่ของตระกูลหลง ตระกูลร่ำรวยอันดับแรกของเมืองเจียงตู ซึ่งเป็นคุณชาย เซียวที่ใครๆได้ยินชื่อก็ต้องหวาดกลัว ตลอดสามปีมาทั้งสอง ไม่เคยมีอะไรกัน เธอต้องทนดูรูปภาพหวานๆของเขากับเมีย น้อยโชว์บนหน้าจอ เธอหัวเราะ “หลงเซียว เราหย่ากันเถอะ” ” เห้อ หย่าเหรอ คุณผู้หญิง คุณคิดว่าผมเป็นอะไร? ” เธอเซ็น ใบหย่าอย่างไม่ลังเล ทิ้งแหวนแต่งงาน ดีมาก! เธอกล้ามาก คอยดูแล้วกันว่าผมจะจับคุณกลับมายังไง!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท