ประธานหยิ่งยโสของฉัน – ตอนที่ 1059

ตอนที่ 1059

บทที่ 1059 กล้าให้ทานเซียวทานอาหารที่เติมส่วนผสม

“ผมพูดข่าวดีก่อนจะดีกว่า…”

จางหย่งยอมแพ้เองก่อนแล้ว รู้สึกละอายใจต่อบาปจนไม่กล้าทำให้บอสไม่สบอารมณ์ ดึกดื่น บอสกับภรรยาบอสคงจะกำลังหวานแหววกันอยู่ที่ลอนดอน เขาโทรเข้าไปแบบนี้ หากทำลายอารมณ์ของบอสเข้า แค่คิดก็กลัวแล้ว

หลงเซียวขมวดคิ้วเข้าหากันแน่น “ว่ามา”

จางหย่งกลืนน้ำลายเล็กน้อย เสียงค่อนข้างดัง หลงเซียวทางนี้ได้ยินอย่างขัดเจนแจ่มแจ้ง

“เอ่อ…ข่าวดีคือ ฆาตกรที่ฆ่าครอบครัวของผมในปีนั้นมีร่องรอยแล้ว มันหนีไปที่โซล ผมได้เข้าใจแนวโน้มการเคลื่อนไหวของมัน”

“อืม” ในที่หลงเซียวฟัง กลับไม่อยู่เหนือความคาดหมาย และก็ไม่ได้เซอร์ไพรส์อะไร ตรวจสอบเจอแล้วก็ดี ก้าวต่อไปสามารถกระจายการเคลื่อนไหวได้

ไม่ว่าฆาตกรจะหลบไปถึงที่ไหน เขาก็จะต้องช่วยจางหย่งจับออกมาให้ได้ จะต้องทำให้ได้อย่างแน่นอน

จางหย่งดึงปกคอเสื้อของตัวเองแน่น นำคางสอดเข้าไปด้านใน ฟันกัดที่ปกคอเสื้อ อึกอักไม่กล้าพูดครึ่งประโยคหลัง

หลงเซียวเริ่มรำคาญเล็กน้อย “พูดต่อ”

ลั่วหานหยิบเสื้อผ้าครู่หนึ่งก็จะออกมา บางคำพูดเขาไม่หวังให้ลั่วหานได้ยิน

จางหย่งอึกๆอักๆอยู่สองสามวินาที “บอส…บัญชีธนาคารที่โอนเงินให้กับมันผมก็ตรวจสอบเจอแล้ว เอ่อ…”

“พูดตรงๆ”

ยิ่งเขาปิดปากไม่ยอมพูด หลงเซียวก็ยิ่งสามารถรู้สึกได้ว่าเรื่องนี้บางทีอาจจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับตนเอง สีหน้าเทียบกับเมื่อกี้ตื่นตัวขึ้นมาเล็กน้อย

จางหย่งก็ไม่รู้เหมือนกันว่าสะสมความกล้ามาจากที่ไหน “คือถังจิ้นเหยียน ข้อมูลคนโอนเงินชัดเจนมาก ก็คือบัญชีส่วนตัวของถังจิ้นเหยียน การโอนสำเร็จภายในเขตประเทศจีน ฆาตกรก็คือใช้เงินก้อนนี้ถึงได้ไปที่เกาหลีอย่างราบรื่น ผมคิดว่ารายจ่ายทั้งหมดในตอนนี้ของมัน ล้วนคือถังจิ้นเหยียนที่กำลังรับผิดชอบ”

มีความกล้าแล้ว จางหย่งนำความสงสัยและความไม่สบอารมณ์ที่อัดอั้นอยู่ภายในจิตใจพูดออกมาทั้งหมดภายในรวดเดียว หลังจากที่พูดจบคำสุดท้ายนั้น ในโทรศัพท์ก็นิ่งเงียบลงอย่างกะทันหัน

จางหย่งนำโทรศัพท์มือถือผละออกเล็กน้อย มองดูตัวเลขวินาทีนับเวลาด้านบนที่เพิ่มขึ้นอย่างช้าๆ ก็อดไม่ได้ที่จะกลืนน้ำลายลงอีกครั้ง

ความสัมพันธ์ของบอสกับถังจิ้นเหยียนนั้นไม่เลว ภาพลักษณ์ของถังจิ้นเหยียนที่อยู่ในใจของบอสก็ดีมากมาโดยตลอด อยู่ๆบอกข่าวที่ต้มตุ๋นขนาดนี้ ไม่รู้ว่าบอสจะย่อยได้หรือเปล่า

จางหย่งกอดโทรศัพท์เอาไว้อย่างกระสับกระส่าย อดไม่ได้ที่จะด่าตัวเองในใจ

ไอ้โง่!

ทำไมไม่อดทนหน่อยรอเรื่องราวตรวจสอบชัดเจนจนถึงที่สุดแล้วค่อยพูด!

ไอ้สมองพิการ!

หากเป็นความเข้าใจผิด ทำจนความสัมพันธ์ของบอสกับถังจิ้นเหยียนแตกหักจะทำยังไง?

ไอ้เลอะเลือน!

ถังจิ้นเหยียนผู้ชายที่ดีขนาดนั้น คงจะไม่ถึงขั้นผสมเข้าด้วยกันกับฆาตกรหรอกมั้ง?

คนเลวแม้ว่าบนหน้าผากจะไม่ได้เขียนว่าไอ้เลวสองคำนี้ แต่ดูบุคลิกลักษณะของถังจิ้นเหยียนก็ไม่เหมือนคนเลว ถึงอย่างในมุมมองของเขา ถังจิ้นเหยียนกับคนเลวมีส่วนเกี่ยวข้องกันไม่ได้โดยสมบูรณ์แบบ

จางหย่งกำลังรอคอยด้วยความกระวนกระวายใจ กลัวตัวเองวินิจฉัยผิดพลาด ยิ่งกลัวบอสคิดว่าเขาวินิจฉัยผิดพลาด

หัวใจของหลงเซียวก็บีบตัวทีหนึ่งภายในชั่วพริบตาเช่นเดียวกัน ในใบหูดูเหมือนยังคงกำลังด้งก้องเสียงของจางหย่ง

กะทันหันเหลือเกิน และก็อยู่นอกเหนือความคาดหมายเหลือเกิน

เขาไม่เคยทำการคิดเชื่อมโยงใดๆไปทางถังจิ้นเหยียนมาก่อน ถังจิ้นเหยียนคือคนที่สะอาดจนแม้แต่เส้นทางมืดผิดกฏหมายคืออะไรก็ยังไม่รู้ ทำไมถึง…

ถังจิ้นเหยียนให้เงินทุนกับฝ่ายตรงข้าม คงจะเป็นสถานการณ์สองแบบ แบบแรก เขาไม่รู้การนำไปใช้ของฝ่ายตรงข้าม และทั้งสองคนก็ยังเป็นเพื่อนกันพอดีอีก ฝ่ายตรงข้ามปิดบังความจริงเอาไว้หลอกเอาความเชื่อใจของเขา แบบที่สอง ถังจิ้นเหยียนรู้ทุกอย่าง ยังแอบช่วยฝ่ายตรงข้ามหลบหนี

หากเป็นแบบแรก ความขัดแย้งของพวกเขากับถังจิ้นเหยียนไม่มีทางร้ายแรงขึ้น ขอเพียงแค่อธิบายให้ชัดเจนก็เรียบร้อย

แต่…หากเป็นแบบที่สอง…

“ที่รัก?”

เสียงของลั่วหานขัดจังหวะการคิดไตร่ตรองของหลงเซียว เขาถึงได้พบว่าตนเองเมื่อครู่นี้ได้นิ่งเงียบไปเป็นเวลานานหนึ่งนาที

“แค่นี้ก่อน ค่อยว่ากันทีหลัง”

หลงเซียวชิงวางสายลงไปก่อน นำโทรศัพท์มือถือยัดเข้าไปในกระเป๋ากางเกง ในตอนที่หันหน้ากลับมาบนใบหน้าคือรอยยิ้มที่รักใคร่จนถึงขีดสุด “ทุกครั้งที่คุณเลือกเสื้อผ้า ต่างก็เหมาะสมกับผมมาก”

ลั่วหานนำเสื้อกันลมทาบไปบนไหล่ของเขา ช่วยเขาสวมแขนเสื้อ “เดิมทีก็คือขนาดของคุณ สไตล์ของคุณ ก็ต้องเหมาะสมกับคุณอย่างแน่นอน อีกอย่าง รูปแบบเสื้อผ้าของผู้ชายไม่ใช่ว่ามีแค่นี้หรอกหรอคะ”

รูปแบบโดยรวมและโทนสีต่างก็พอๆกัน ความแตกต่างเพียงแค่ขึ้นอยู่กับรายละเอียดเล็กน้อยเท่านั้น แต่ผู้ชายปกติแล้วมีอารมณ์ไปสนใจรายละเอียดเล็กน้อยที่ไหนกัน

หลงเซียวสวมแขนเสื้อทั้งสองข้างเสร็จ ชุดสูทที่เรียบตรงสีดำสนับสนุนให้รูปร่างที่สูงโปร่งของเขาโดดเด่น ยิ่งเพิ่มความไหล่กว้างเอวแคบมีออร่า “เสื้อผ้าไม่ว่าอย่างไรต่างก็เป็นเพียงแค่สิ่งของฟุ่มเฟือยที่ทำมาจากผ้าผืนนึงเท่านั้น แต่ว่าผ่านมือของคุณแล้ว ก็กลายเป็นงานศิลปะ มีความแตกต่างโดยธรรมชาติ”

นิ้วมือที่เรียวยาวของเขาลูบจัดเส้นผมของเธอ

หากลั่วหานรู้ว่าถังจิ้นเหยียนเกี่ยวข้องกับแผนการร้ายเมื่อสิบกว่าปีก่อน ไม่รู้ว่าลั่วหานจะเกิดความคิดเห็นยังไงขึ้น

“คำพูดหวานๆพูดจนเต็มสิบ!ไปกันเถอะค่ะ คุณหลงเต็มสิบ” ลั่วหานใช้แขนคล้องไปบนข้อพับแขนของเขา ควงกันออกไปกับหลงเซียว

ไม่ยอมรับไม่ได้ ไม่ว่าคำหวานที่เขาพูดจะเลี่ยนมากแค่ไหนฝืนดึงส่วนที่ห่างไกลเข้ามามากแค่ไหนตรงไปตรงมามากแค่ไหนทุกครั้งต่างก็สามารถลุกโชติเปลวไฟที่อยู่ภายในจิตใจของเธอได้ ให้ความรักที่เธอมีต่อเขาอยู่ในวัยรุ่นชั่วนิรันดร์ นับวันยิ่งลึกซึ้ง

ร้านอาหารที่เจมส์เลือกที่ตั้งทางภูมิศาสตร์จะต้องเรียกได้ว่าใหญ่โตหรูหราอย่างแน่นอน ที่ตั้งทางภูมิศาสตร์เลือกได้อย่างดีมาก ตอนกลางคืนถูกกั้นด้วยหน้าต่างสามารถมองลงไปเห็นทิวทัศน์ในยามค่ำคืนของทั่วทั้งลอนดอนสองในสามส่วน ในดวงตาสามารถเก็บภาพโดยรวมความเจริญรุ่งเรืองร้อยปีของเมืองนี้ได้

“เจมส์ คุณมีความเข้าใจต่อร้านอาหารอังกฤษขนาดนี้ เพิ่งถึงอังกฤษคิดไม่ถึงว่าจะหาสถานที่ที่ดีขนาดนี้ออกมาได้”

ลั่วหานกับหลงเซียวเดินเคียงกันเข้าไปในห้องรับรองพิเศษอันใหญ่โตที่กว้างขวางงดงาม พูดว่าห้องรับรองพิเศษต่างก็ไม่เพียงพอที่จะพรรณนาถึงความสว่างไสวและความหรูหราของห้อง มันมีขนาดสองร้อยตารางเมตรเต็ม ครอบครองพื้นที่ชั้นบนสุดของอาคารใหญ่ ผนังด้านหนึ่งต่างก็คือหน้าต่างบานใหญ่ที่สูงถึงพื้น มุ้งลวดที่เป็นเนื้อผ้าไหมคือวัสดุรุ่นเดียวกันกับผ้าพันคอไหมแอร์แม็ส ถูกแสงไฟส่องจนเรียบลื่นราวกับน้ำ

แสงไฟด้านนอกหน้าต่างกับโคมไฟของห้อง อุปกรณ์รับประทานอาหารสะท้อนผลลัพธ์ออกมาเป็นงานเลี้ยงในยามค่ำคืนระดับสูง

การจัดการที่แปลกใหม่แหวกแนวกว่าผู้อื่นแบบนี้ มากพอที่จะเห็นได้ว่าเจมส์ใช้ความตั้งใจไม่น้อย

ที่จริงแล้ว…

เจมส์ยกมุมริมฝีปากขึ้นอย่างไม่ถ่อมตัว องศาที่มุมริมฝีปากถึงขั้นจะแขวนเข้าไว้ด้วยกันกับปลายหางตา ใบหน้าอันหล่อเหลาที่โอเวอร์เต็มไปด้วยความจริงใจ เลี้ยงอาหารคุณกับหลงเซียว แน่นอนว่าต้องตั้งใจ”

ตั้งใจ เป็นพิเศษเลยล่ะ!

หลงเซียวช่วยลั่วหานถอดเสื้อคลุมออก เอ่ยขึ้นอย่างสบายๆ “เจ้าชายเลี้ยงอาหารพวกเราสองสามีภรรยา เกียรตินี้พวกเราก็จำเป็นต้องให้”

เจมส์อุทานออกมาทางจมูก “งั้นก็นั่งลงเถอะ ผมสั่งอาหารเรียบร้อยแล้ว อีกสักครู่ก็มาเสิร์ฟ”

หลงเซียวถอดเสื้อคลุมของตนเองออก ส่งให้บริกรแขวนไว้บนเสาแขวนเสื้อผ้า ดึงเก้าอี้ตัวนึงออกให้กับลั่วหาน ตัวเองก็นั่งลงอยู่ระหว่างเจมส์กับลั่วหาน

แม้ว่าโต๊ะอาหารใหญ่เพียงพอ ใหญ่จนหลังจากที่ทั้งสามคนนั่งลงต่างก็มีระยะห่างกันหลายเมตร

เจมส์สะบัดผ้าเช็ดปากออกวางเรียบร้อย เงยศีรษะขึ้นมองเห็นหมวกของลั่วหาน “แอนน่า ทำไมคุณยังสวมหมวกล่ะ? ถอดออกเถอะ ทานอาหารไม่สะดวกหรอกมั้ง?”

ลั่วหานจับปีกหมวกเล็กน้อย เอ่ยขึ้นอย่างจงใจด้วยรอยยิ้มที่งดงามว่า “ฉันชอบสวมค่ะ เพิ่มความอยากอาหารในการทานข้าว”

หลงเซียวสะบัดผ้าเช็ดปากออก ยกมุมริมฝีปากขึ้นอย่างเงียบเชียบ

เจมส์แอบกระตุกมุมริมฝีปากเล็กน้อย “ฮ่าๆๆ คุณยังมีความชอบแบบนี้ เมื่อก่อนทำไมไม่รู้”

“ตอนนี้ไม่ใช่รู้แล้วหรอคะ? ก็ไม่สาย” ลั่วหานสะบัดผ้าเช็ดปากออก มองดูอุปกรณ์รับประทานอาหารที่อยู่ในจานเล็กน้อย ไม่พูดไม่ได้ อุปกรณ์รับประทานอาหารของที่นี่ก็คือสินค้าฟุ่มเฟือยที่ทำขึ้นอย่างประณีต แก้วน้ำสั่งทำระดับสูงจากคริสตัลสวารอฟสกี้ทั้งหมด

เจมส์จ้องมองหลงเซียวเล็กน้อยด้วยความสงสัย “ในโทรศัพท์คุณบอกผมให้มารับแอนน่าที่อังกฤษ ทำไมคุณก็มาอีก?”

เห็นได้ชัดว่าไม่เชื่อใจเขา!ในเมื่อไม่เชื่อใจทำไมยังให้เขามาอีก ยุ่งยากซับซ้อน ยังต้องทนต่อความไม่สบอารมณ์ความไม่เป็นตัวของตัวเองต่างๆทานอาหารกับคนของราชสำนัก ไม่รู้ว่าเขากินอย่างเซ็งมากหรอกหรอ? งานเลี้ยงแบบนั้นกินไม่อิ่มเลยแม้แต่น้อยรู้ไหม?

อีกทั้งหลังจากที่กินอาหารอร่อยของประเทศจีนแล้ว กับข้าวของประเทศอังกฤษจะยังมองเข้าตาได้ยังไงกันอีก

หลงเซียวจับเล่นส้อมคันหนึ่งที่อยู่ในจาน อธิบายอย่างเอื่อยเฉื่อย “เดิมทีผมคิดอยากจะรบกวนคุณเดินทางมาสักรอบ แต่ต่อมาคิดว่า ภรรยาของตัวเองยังไงตัวเองมารับจะดีกว่า ก็เลยไม่ลำบากคุณแล้ว”

เจมส์กัดฟันกรอด!

ให้แกได้ใจ!แกรอก่อน!อีกเดี๋ยวสวยแน่!

“คุณเจมส์ เสิร์ฟอาหารได้หรือยังคะ?” ผู้หญิงที่ผมดำตาสีน้ำตาลคนหนึ่งเดินเข้ามาด้วยความเคารพนบนอบ ก้มศีรษะขอความเห็นจากเจมส์

ที่ฝ่ายตรงข้ามพูดคือภาษาอังกฤษ แต่มีสำเนียงของญี่ปุ่น ดังนั้นร้านอาหารที่เขียนเต็มไปด้วยภาษาอังกฤษร้านนี้ คงจะเป็นร้านอาหารญี่ปุ่น

“ได้ เสิร์ฟตามที่ผมบอก”

“เข้าใจแล้วค่ะ คุณเจมส์”

พนักงานบริการหญิงยิ้มเล็กน้อยทีหนึ่ง สง่างามกิริยาวาจาเหมาะสมทั้งยังนอบน้อม เพียงแต่ตอนที่เธอเงยศีรษะขึ้นนั้น มองไปทางหลงเซียวทางนั้นแวบหนึ่ง การเคลื่อนไหวรวดเร็วมาก แต่สายตาที่เปล่งประกายอย่างโชติช่วงเด่นชัดเหลือเกิน

มีความตื่นตะลึง ใจสั่น แล้วก็มีอย่างอื่นอีก

ไม่ช้า พนักงานบริการสาวญี่ปุ่นสามคนก็เข็นรถอาหารมาสามคัน ทุกจานต่างก็ถูกครอบด้วยฝาสีเงิน ด้านในคืออะไรยังไม่มีทางรู้

ทั้งสามคนแยกกันเดินไปถึงที่นั่งทานอาหารของคนสามคน จากนั้นถึงได้เปิดฝาที่สว่างไสวจนสะท้อนเงาคนได้ออก

ทันใดนั้น ความหอมของอาหารก็ตลบอบอวลไปทั่วบนโต๊ะและภายในห้อง ให้ด้านหน้าและปลายจมูกต่างก็ถูกเติมเต็มไปด้วยอาหาร เดิมทียังไม่ใช่หิวมาก ภายใต้การถูกโจมตีจากการมองเห็นและการได้กลิ่นทั้งสองฝั่ง ลั่วหานหิวแล้ว

“อาหารญี่ปุ่นร้านดีทำได้ดีมากแฟรนไชส์หรือว่าร้านเดียวคะ?”

ตอนที่รอบริกรเสิร์ฟอาหารอยู่นั้น ลั่วหานใช้ภาษาอังกฤษคุยเล่นกับพนักงานบริการคนหนึ่ง

ฝ่ายตรงข้ามก้มศีรษะลงเล็กน้อยก่อน “สวัสดีค่ะคุณนาย พวกเราคือเฟรนไชส์ค่ะ แต่ตอนนี้ทั่วโลกมีเพียงแค่สามร้านนาโกย่า เมืองหลวงของประเทศจีน แล้วก็ที่นี่”

เมืองหลวงมี? ลั่วหานกลับไม่รู้

เพียงแต่ปกติเธอไม่ชอบทานอาหารญี่ปุ่น ก็ไม่เคยใส่ใจมาก่อน

อาหารถูกบริการจัดเรียงอย่างมีระเบียบและประสิทธิภาพสูงมาก ด้านหน้าของทุกคนจัดเรียงเอาไว้แปดจาน ออเดิร์ฟ อาหารหลัก เครื่องดื่ม ซุป ของหวาน ผลไม้

รูปลักษณ์ของอาหารญี่ปุ่นต่างก็ประณีตสวยงามเป็นอย่างมาก ทุกจานมีเพียงแค่อาหารเล็กน้อยเท่านั้น ถูกดอกซากุระสีบานเย็นที่อยู่บนจานประจบประณีตสง่างามเป็นพิเศษ

หลงเซียวมองดูชุดนั้นที่อยู่ด้านหน้าของตนเอง หยิบมีดส้อมขึ้นมาอย่างสงบนิ่ง

ลั่วหานก็อดไม่ได้อยากลองชิมก่อนให้เร็วที่สุด “ปกติมีความเข้าใจผิดต่ออาหารญี่ปุ่น ดูเหมือนฉันทานได้ไม่ต้นตำรับพอ”

หลงเซียวเอ่ยขึ้นอย่างรักใคร่เอ็นดู “ลองชิมดูว่าชอบไหม หากชอบต่อไปผมพาคุณไปทานร้านสาขาที่เมืองหลวงบ่อยๆ”

“อาหารญี่ปุ่นบ่อยไม่ได้ค่ะ จะเลี่ยน ฉันยังคงชอบอาหารที่ร้านอาหารหรงเหยียนมากกว่า…” ในขณะที่พูด ปลาหิมะที่เรียวบางพอดีปากชิ้นหนึ่งก็ได้เข้าไปในปาก เนื้อปลาที่สดชื่นไม่เลี่ยนเรียกได้ว่าเข้าปากก็ละลาย หลังจากที่กลืนลงไปแล้วริมฝีปากและฟันยังคงมีกลิ่นหอมที่อ่อนๆติดอยู่

กลิ่นคาวปลาแม้แต่น้อยก็ไม่มี รสชาติที่ค้างอยู่ในคอคือกลิ่นหอมดอกมะลิอ่อนๆ

“ดีมากจริงๆค่ะ คุณก็ลองดู”

เจมส์เคี้ยวซาชิมิอยู่ในปาก ยั่วยุหลงเซียว “อืม รสชาติอร่อยในโลกมนุษย์ คุ้มค่าที่เดินทางมาจริงๆ!”

หลงเซียวส้อมจิ้มไปบนเนื้อปลาชิ้นหนึ่ง ใส่เข้าไปในปาก

“…”

รสชาติที่อยู่ในปาก…

เจมส์มองดูเขาเคี้ยวอย่างเงียบเชียบ สงสัยในใจ ไม่ใช่มั้ง คิดไม่ถึงว่าจะไม่มีปฏิกิริยาตอบสนอง?

หลงเซียวกินเนื้อปลาชิ้นนึงเสร็จ พยักหน้า “ไม่เลว”

เจมส์สูดหายใจเฮือกทางปากอย่างรุนแรง “ไม่เลว…จริงๆหรอ?”

หลงเซียวยื่นจานอาหารของตัวเองเล็กน้อย “คุณลองดูหน่อย?”

“ไม่ๆๆ ผมก็ไม่ต้องแล้ว ฮ่าๆ…มา ดื่มสักแก้ว นี่คือน้ำผักใบเขียวที่มีชื่อเสียงที่สุดของญี่ปุ่น ล้างลำไส้ขจัดสารพิษยังสามารถแก้เอียนได้อีกด้วย ดีมากๆ!”

ในแก้วที่ใส ของเหลวสีเขียวอ่อนดูแล้วสบายตาเป็นอย่างมาก แต่วัตถุดิบด้านในหรอ

ลั่วหานกินอย่างกำลังมีอารมณ์คึกคักอย่างเต็มที่ ถือแก้วของตัวเองขึ้นมา “ดีที่คุณหาสถานที่แห่งนี้ ดีมากๆเลยค่ะ”

เจมส์พยักพเยิดหน้า “หลงเซียว หยิบแก้วสิ”

หลงเซียวหยิบแก้วขึ้นมาอย่างไม่เหลือร่องรอยอะไรให้เห็น มองดูของเหลวสีเขียวที่อยู่ด้านใน

“น้ำผักใบเขียวเหมาะสมที่จะดื่มหมดภายในรวดเดียว ประสิทธิภาพในการล้างลำไส้ถึงจะดีที่สุด ตอนดึกทานเยอะกว่านี้อีกก็ไม่อ้วน”

พูดจบ เขาแหงนศีรษะขึ้น นำน้ำผักใบเขียวที่มีเต็มๆสามร้อยมิลลิลิตรดื่มรวดเดียวหมด

นิ้วมือที่เรียวยาวของหลงเซียวแกว่งแก้วเบาๆ ของเหลวที่อยู่ด้านในกระเพื่อมเป็นวงแคบตามการเคลื่อนไหว ในขณะที่ขยับไปมาขึ้นๆลงๆ สามารถมองเห็นดวงตาดำขลับคู่หนึ่งที่เดี๋ยวมืดเดี๋ยวสว่างอยู่ที่ด้านใน

ลั่วหานดื่มน้ำผักใบเขียวไปครึ่งแก้ว ลิ้มลองรสชาติ “ไม่ค่อยเหมือนกับน้ำผักใบเขียวภายในประเทศ ค่าความบริสุทธิ์สูงกว่า อาหารที่ทานเข้าไปในคืนนี้ดูเหมือนจะสามารถเผาผลาญออกไปครึ่งค่อน”

มองดูหลงเซียวอีกครั้ง เขายังคงถือแก้วน้ำเอาไว้ ดูเหมือนกำลังวิจัยอะไรอยู่

“ที่รัก คุณไม่ดื่มหรอคะ?”

หลงเซียวมีโรคที่รักความสะอาดจนเกินเหตุ ทานอาหารก็เลือกมากเช่นเดียวกัน ก่อนหน้านี้ทานอาหารขอเพียงแค่ตนเองไม่ชอบ เขาแม้แต่มองก็ยังไม่มอง ต่อมาเขาทานข้าวด้วยกันกับเธอ ต่อให้ไม่ชอบก็จะทานเล็กน้อย กลัวเธอกังวลของที่เขาชอบไม่สั่งที่ตัวเองชอบ

แต่น้ำผักใบเขียวอะไรแบบนี้ ลั่วหานคิดว่า เขาคงจะยังคงไม่สามารถรับได้

“ไม่อย่างงั้น คุณให้ฉันเถอะค่ะ ฉันรู้สึกว่ารสชาติยังได้อยู่”

ลั่วหานยื่นมือออกไปจะขอแก้วนั้นของเขา

เจมส์ซูชิม้วนชิ้นหนึ่งเพิ่งจะใส่เข้าไปในปาก เกือบจะติดคอตาย “แอนน่า หากคุณชอบล่ะก็ให้พวกเขาชงอีกแก้วก็ได้ ไม่ต้องโชว์ความรักอีกได้หรือเปล่า? ผมแทบจะถูกพวกคุณสองคนทำให้เจ็บหัวใจตายอยู่แล้ว”

ลั่วหานกลอกตามองบน “คุณไม่ใช่ควรจะคิดถึงได้ตั้งนานแล้ว?” จากนั้นพยายามต่ออีกเล็กน้อย “ไม่ดื่มจริงๆหรอคะ? ให้ฉันเถอะ”

ผู้หญิงต่างก็ไม่หวังให้อาหารมื้อหนึ่งอ้วนไปสามโล น้ำเอนไซม์ผักใบเขียวและชาสลายไขมันได้กลายเป็นเครื่องดื่มบนโต๊ะอาหารที่ขาดไม่ได้ ลั่วหานก็เช่นเดียวกัน เพียงแต่ในฐานะหมอ เธอยอมรับเครื่องดื่มล้างลำไส้ที่ค่อนข้างอ่อนโยนบริสุทธิ์เป็นธรรมชาติได้ง่ายยิ่งกว่า

ดวงตาที่งดงามของหลงเซียวยิ้มเล็กน้อย “ผมลองชิมดู”

พูดจบ ก็ยกน้ำผักใบเขียวแก้วนั้นขึ้นมาจริงๆ ส่งเข้าไปที่ข้างริมฝีปาก ดื่มไปหลายคำ

เจมส์รอคอยการมาถึงของจุดไคลแมกซ์อย่างรับชมละครยังไงอย่างงั้น ฮิฮิฮิ…อร่อยสิ!รสชาติเยี่ยมสิ!

หลงเซียวดื่ม“น้ำผักใบเขียว”เสร็จเช็ดมุมริมฝีปากเล็กน้อย หยิบแก้วน้ำที่อยู่ด้านข้างขึ้นมาอย่างคนไม่เป็นอะไรยังไงอย่างงั้น “ไม่เลว”

ปากของเจมส์กระตุกขึ้นอย่างแรง!

ไม่เลว!นี่ก็ยังสามารถรับได้!เขามีต่อมรับรสหรือเปล่า?

เขาดื่มน้ำเปล่าไปคำหนึ่ง คิ้วก็ยังไม่ได้ขมวดเข้าหากันเลยสักนิด

เจมส์ได้เริ่มสงสัยชีวิตเข้าแล้ว

หรือว่า พนักงานบริการไม่ได้ทำตามความต้องการของเขาเลยแม้แต่น้อย?

ไม่เชื่อ เขาไม่เชื่อ!

“หลงเซียว เนื้อปลาของผมทานหมดแล้ว ผมอยากจะลองของคุณหน่อย”

เจมส์แสดงออกว่าไม่ยอม!เขาไม่เชื่อว่าหลงเซียวจะกินแล้วไม่มีความรู้สึก!

หลงเซียวยกจานนั้นของตนเองขึ้นอย่างไม่ลังเลเลยแม้แต่น้อย หันข้างยื่นแขนยาวส่งให้กับเขา “ในเมื่อคุณชอบ ทานให้หมดเลยสิ”

เจมส์มองดูเนื้อปลาอย่างยากที่จะเชื่อ

ไม่มีปัญญาอะไรจริงๆหรอ?

จิ้มเนื้อปลาชิ้นหนึ่ง เจมส์ใส่เข้าไปในปากอย่างระมัดระวัง “…”

“แค่กๆๆๆๆ!เผ็ดมาก!!โฮกๆๆ เอาน้ำให้ผม!!”

เจมส์เพิ่งจะกินไปหนึ่งคำ ความเผ็ดร้อนที่เป็นคุณลักษณะพิเศษของพริกและความรู้สึกเผาไหม้เติมเต็มไปทั่วทั้งช่องปาก และลอดเข้าไปในโพรงจมูกและลำคออย่างแข็งขัน คนทั้งคนแทบจะบ้าคลั่งอยู่แล้ว!

ลั่วหานไม่เข้าใจเหตุผลว่าเพราะอะไร “…”

เผ็ด? ไม่เผ็ดนี่

หลงเซียวเอาน้ำผักใบเขียวที่ตนเองยังดื่มไม่หมดส่งให้กับเขาอย่างไม่รีบร้อน “น้ำ”

เจมส์ก็ไม่ได้มอง คว้าขึ้นมาเทใส่เข้าไปในปาก…

“โฮกๆๆ!แค่กๆๆๆๆ!”

แม่ง!ด้านในไม่ใช่น้ำผักใบเขียว คือน้ำวาซาบิ!วาซาบิ!!!

อ๊าก!!ไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้

ประธานหยิ่งยโสของฉัน

ประธานหยิ่งยโสของฉัน

Status: Ongoing

คุณหลง อย่าหยิ่งยโสเกินไป / ประธานหยิ่งยโสของฉัน หมออายุรศาสตร์มือหนึ่งฉู่ ลั่วหาน แต่งงานมาสามปีแล้ว กลับ ไม่มีใครสักคนรู้ว่าสามีเธอเป็นคุณชายใหญ่ของตระกูลหลง ตระกูลร่ำรวยอันดับแรกของเมืองเจียงตู ซึ่งเป็นคุณชาย เซียวที่ใครๆได้ยินชื่อก็ต้องหวาดกลัว ตลอดสามปีมาทั้งสอง ไม่เคยมีอะไรกัน เธอต้องทนดูรูปภาพหวานๆของเขากับเมีย น้อยโชว์บนหน้าจอ เธอหัวเราะ “หลงเซียว เราหย่ากันเถอะ” ” เห้อ หย่าเหรอ คุณผู้หญิง คุณคิดว่าผมเป็นอะไร? ” เธอเซ็น ใบหย่าอย่างไม่ลังเล ทิ้งแหวนแต่งงาน ดีมาก! เธอกล้ามาก คอยดูแล้วกันว่าผมจะจับคุณกลับมายังไง!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท