บทที่ 1130 ลูกชายพูดน้อย
หลังจากออกไปเล่นข้างนอกอย่างสนุกสนานทั้งวัน ชูชูก็หลับระหว่างทางกลับบ้าน
พอถึงบ้านลั่วหานก็อุ้มชูชูกลับห้องนอนเจ้าหญิงเล็กๆไปนอน ส่วนคนขับรถก็ถือกระเป๋าไปวางให้ในห้องนั่งเล่น
ชูหยางเห็นหม่ามี๊อุ้มพี่สาวกลับบ้าน หน้ากลมก็มีสีหน้าดีใจ ดวงตากลมโตดูฉลาดมองตามหม่ามี๊ แล้วเดินตามหม่ามี๊เข้าห้องโดยที่มือยังคงถือรถของเล่นเพื่อมองเธอวางพี่สาวที่หลับปุ๋ยลง
รอจนลั่วหานดูแลชูชูเสร็จแล้ว เธอก็พบว่าที่ขาเธอมีเด็กตัวน้อยตามมา
ชูหยางมีหน้าตาคล้ายหลงเซียวมากราวกับเป็นหลงเซียวที่ย่อส่วน เวลาดูรูปถ่ายของหลงเซียวตอนเด็กมักจะเข้าใจผิดนึกว่าข้างในเป็นหยางหยางที่ยืนอยู่
ยีนแข็งแกร่งมากไม่ธรรมดา!
หยางหยางที่อายุขวบกว่ามีไอคิวที่ชนะผู้ใหญ่หลายๆคน ตอนที่เขายังเดินไม่ได้ก็เริ่มเล่นรูบิก จากการผ่านการให้คำแนะนำจากหลงเซียวทำให้ตอนนี้เข้าสามารถหมุนรูบิกให้กลับมาเป็นเหมือนเดิมได้อย่างสบายๆ
การถอดชิ้นส่วนรถของเล่นมาประกอบใหม่ก็ยิ่งไม่ต้องพูดถึง
เพียงแต่หยางหยางพูดได้ช้า พอถึงวัยที่เด็กต้องเริ่มพูดหยางหยางกลับไม่ยอมพูดแม้แต่คำเดียว จะเกลี้ยกล่อมยังไงก็ไร้ประโยชน์ จนลั่วหานกับหลงเซียวนึกว่าลูกชายเป็นใบ้ตั้งแต่เกิดเสียแล้ว
ต่อมาได้ให้ผู้เชี่ยวชาญทำการตรวจสอบ เมื่อมั่นใจแล้วว่าไม่ได้หูหนวกเป็นใบ้แต่เป็นเพราะเขาไม่ยอมพูดเอง
ตั้งแต่นั้นมาลั่วหานกับหลงเซียวก็ทำทุกวิถีทางให้ลูกชายยอมพูด ในที่สุดก่อนที่จะอายุ 1 เดือน ลูกชายก็พูดคำว่าหม่ามี๊เป็นครั้งแรก
แม้จะมั่นใจว่าพูดได้แล้ว แต่หยางหยางก็ยังพูดน้อย
เช่น…
เด็กน้อยอ้าแขนเล็กของตนแล้วเงยหน้ามองหม่ามี๊ “อุ้ม”
แม้ว่าจะพูดแค่คำเดียวลั่วหานก็ดีใจแล้ว เธออุ้มลูกชายมากอดแน่นแล้วหอมแก้มด้วยความรัก “หยางหยาง วันนี้อยู่บ้านทำอะไรคะ? ให้หม่ามี๊ดูได้มั้ยคะ?”
หยางหยางพยักหน้าแล้วชี้ไปที่ห้องนั่งเล่นเพื่อบอกให้ลั่วหานไป
“ว้าว! วันนี้หยางหยางเก่งจัง!”
โซนของเล่นของหยางหยางมีขาตั้งภาพเล็กๆจัดวางอยู่ หยางหยางวาดจุดกำเนิดที่ขาวสะอาดลงบนนั้น
พูดตามตรง ลั่วหานไม่รู้ว่ามันคืออะไร แต่ไม่ว่าลูกชายจะทำอะไรเธอก็จะชมทุกครั้ง
หยางหยางลงจากอ้อมแขนเธอแล้วหยิบรูปสีขาว มือน้อยถือดินสอ เม้มปากแล้วเชื่อมดวงดาวเข้าหากันอย่างตั้งใจ
“ดู”
พอวาดเสร็จเด็กน้อยก็ชี้ที่ดาวให้ลั่วหานดู
“อันนี้…”
ดูเหมือนกลุ่มดาวบางอย่าง เพียงแต่ลั่วหานไม่ค่อยรู้จักดาราศาสตร์นัก จึงไม่เคยสนใจว่ามันคือกลุ่มดาวอะไร ดูจากรูปร่าง…
ช่างเถอะ ลั่วหานหาในไป่ตู้ดีกว่า
“ลูกรัก เก่งมากเลยลูก! หนูวาดกลุ่มดาวราศีมังกรได้! เก่งมากเลยลูกแม่!”
ลั่วหานคิดไม่ถึงว่าลูกชายตัวน้อยของเธอจะรู้ว่ากลุ่มดาวราศีมังกรวาดยังไงแล้ว การวางเค้าโครงของดาวไม่มีตกหล่น ราศีมังกร…เป็นราศีเกิดของหยางหยาง
และคืนที่เขาเกิดวันนั้นมีฝนดาวตกของราศีมังกรที่ไม่ได้เห็นมาเป็นร้อยปีพอดี
ตอนที่ลั่วหานคลอดหยางหยาง อาการปวดท้องใกล้คลอดปวดยาวนานเกือบ 5 ชั่วโมง หลงเซียวคอยอยู่ข้างๆเธอตลอดเวลา เขาจับมือเธอ มองการกำเนิดของชีวิตใหม่พร้อมๆกัน
วันนั้นหลงเซียวเห็นลั่วหานปวดจนเป็นตะคริวไปทั้งตัว น้ำตาของเขาก็ชุ่มขอบตาหลายครั้ง
เขาบอกลั่วหานว่า ไม่ว่าลูกจะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย พวกเขาก็จะไม่มีลูกอีกแล้ว
เขาเคยได้ยินเรื่องความเจ็บปวดของการคลอดลูกมานับไม่ถ้วน แต่เพิ่งได้เห็นผู้หญิงที่รักในห้องคลอดที่เจ็บปวดขนาดนั้น แม้หัวใจจะแข็งแกร่งราวกับเหล็ก แต่เขาก็ยับยู่ยี่กลายเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย
ความรู้สึกผิดและความปวดใจกลายเป็นความรักที่ลึกซึ้งขึ้น เขาสาบานว่าใช้ความรักทั้งชีวิตตอบแทนต่อความยากลำบากของภรรยา
ความเจ็บปวดยังคงดำเนินต่อไป หลงเซียวทนเห็นเธอทรมานไม่ไหวจึงเกลี้ยกล่อมให้เธอผ่าคลอด แต่ลั่วหานยืนยันที่จะคลอดเอง
การผ่าคลอดช่วยลดความเจ็บปวดได้ แต่เด็กที่คลอดออกมาแบบธรรมชาติจะมีภูมิต้านทานที่ดีกว่า เธอหวังว่าลูกจะมีสุขภาพดี
คืนนั้นทั้งประเทศกำลังดื่มด่ำกับบรรยากาศสุดโรแมนติกของฝนดาวตก แต่หลงเซียวกับลั่วหานกำลังแบ่งปันความเจ็บปวดและความสุขของชีวิตที่เกิดขึ้นใหม่ในห้องคลอด
ชูหยางมาถึงโลกในเวลาหกโมงเช้า ขณะนั้นแสงอาทิตย์ในฤดูร้อนเจิดจ้ามาก พระอาทิตย์ขึ้นที่แข็งแกร่งเคลื่อนผ่านเมฆหนาในยามค่ำคืนด้วยพลังที่ไร้ขีดจำกัด
ชูชูก็เช่นกัน พวกเขาทั้งคู่เกิดในตอนเช้าตรู่ยามพระอาทิตย์ขึ้น พอได้ยินเสียงร้องไห้ครั้งแรกของลูก ลั่วหานก็หมดเรี่ยวแรงและหมดสติไป
ต่อมาได้ยินหลินซีเหวินกับหลงจื๋อบอกว่า พี่ชายคนโตที่แสนรั้นของพวกเขากลับกอดเธอร้องไห้เหมือนเด็กที่ไม่มีใครรัก แถมยังไล่ให้ทุกคนออกไป
แต่ทว่าหลังจากที่ลั่วหานรู้ เธอก็ประทับใจจนแทบจะเป็นลมอีกครั้ง
เธอทำให้หลงเซียวร้องไห้ ไอ้หยา ชีวิตนี้คุ้มค่าแล้ว!
หลังจากนึกย้อนเสร็จ ลั่วหานก็เอนตัวชิดกับศีรษะเล็กๆของลูกชายด้วยความสุข พอตอนนี้มานึกย้อนถึงความทรมานที่เจอในตอนนั้น เธอไม่บ่นอะไรเลย แต่ก็เต็มไปด้วยความขอบคุณ
ขอบคุณพระเจ้าที่ส่งลูกที่ว่าง่ายและฉลาดมาให้เธอ ให้เธอกับหลงเซียวมีลูกทั้งชายหญิงครบ กลายเป็นสิ่งที่ดี
“แด๊ดดี้?”
หยางหยางพบว่าแด๊ดดี้ไม่ได้กลับบ้าน เขายังอยากโชว์ผลงานให้แด๊ดดี้ดูอยู่เลย
“แด๊ดดี้เดินทางไปทำงาน ทำงานเสร็จก็กลับมาแล้ว ถึงตอนนั้นเรามาเซอร์ไพรส์แด๊ดดี้กันนะ!” ลั่วหานนั่งลงบนโซฟาเล่นเลโก้กับลูกชาย
หยางหยางพยักหน้าอย่างรู้ความ ไม่ถามอะไรอีก
ไม่นานลั่วหานก็นึกถึงเกมของวันนี้ “หยางหยาง วันนี้แด๊ดดี้หม่ามี๊แล้วก็พี่สาวชนะที่หนึ่งด้วยนะ!”
ดวงตาของหยางหยางเป็นประกายสว่างยิ่งกว่าดวงดาวด้านนอกหน้าต่าง “เก่ง!”
หยางหยางวางบล็อกอาคารชิ้นสุดท้าย สร้างปราสาทเล็กๆ ที่ประตูปราสาทมีป้ายเขียนว่า “ครอบครัวสุขสันต์”
หลังจากสร้างปราสาทเสร็จหยางหยางก็หยิบกรอบรูปจากบนโต๊ะ ข้างในเป็นรูปครอบครัวสี่คนที่พร้อมหน้า เขาวางกรอบรูปไว้ที่ทางเข้าปราสาท ชี้ไปที่ผลงานชิ้นเอกแล้วโค้งตา “บ้าน”
“ใช่ๆๆ แด๊ดดี้ หม่ามี๊ พี่สาวแล้วหยางหยางที่น่ารักของพวกเรา พวกเราอยู่ด้วยกันก็จะกลายเป็นครอบครัวที่มีความสุขที่สุด!”
โชคดีที่หัวใจของลั่วหานถูกเด็กทั้งสองคนฝึกฝนจนแข็งแกร่งแล้ว มิฉะนั้นหากโดนลูกสาวและลูกชายตัวน่ารักใส่ทุกวัน หัวใจคงจะหยุดเต้น
“อื้ม!” หยางหยางพยักหน้าอย่างแน่วแน่ เขากอดคอลั่วหานแล้วหอมแก้มแสนหวาน!
เขารักแด๊ดดี้ รักหม่ามี๊ รักพี่สาว!
ฟู้กุ้ยที่กินอิ่มก็เดินอย่างสง่างามออกมาจากบ้านตัวเองไปยังห้องนั่งเล่น มันก้าวไปบนพรมนุ่มเดินมาหาหยางหยางเงียบๆ ท่าทางดูอ่อนโยนราวกับแมวตัวใหญ่ มันเอาหัวถูหยางหยาง
หัวสิงโตตัวใหญ่เอียงราวกับเด็กขี้อ้อน
หยางหยางเหมือนจะนึกอะไรออกจึงหยิบรูปสิงโตจากโต๊ะมาวางไว้ข้างๆ “อื้ม”
ดูเหมือนจะพอใจแล้ว
อื้ม…นอกจากนี้เขาก็รักฟู้กุ้ยด้วย!
ลั่วหานลูบหัวลูกชายเบาๆ เงยหน้ามองดูรูปหยวนชูเฟินกับมู่เส้าเอินที่อยู่บนโต๊ะ
พ่อคะ แม่คะเห็นหรือยัง?
หลานสาวกับหลานชายของพวกคุณโตมากขนาดนี้แล้ว เป็นเด็กดี รู้ความและน่ารักมากๆด้วย
หลังจากเล่นไปสักพัก หยางหยางหาวอย่างสง่างาม “ง่วง”
“โอเค หม่ามี๊อุ้มหยางหยางไปนอน หยางหยางอาบน้ำรึยังครับ?” ลั่วหานดมหัวลูกชาย กลิ่นหอมๆของแชมพูสำหรับเด็กตอบเธอ
“อืม”
หยางหยางชูชูนอนห้องเดียวกัน เด็กทั้งสองนอนคนละฝั่งบนเตียงใหญ่สำหรับเด็ก
ตอนที่หลงเซียวอยู่บ้าน ตอนกลางคืนเขามักจะนั่งข้างเตียงเล่านิทานก่อนนอนให้พวกเขา เล่าภาษาอังกฤษหนึ่งวัน ภาษาเยอรมันหนึ่งวัน ภาษาสเปนหนึ่งวัน และภาษาฝรั่งเศสหนึ่งวัน ดังนั้นเด็กทั้งสองจึงเรียนรู้ภาษาต่างประเทศสี่ภาษาพร้อมๆกับภาษาจีน พวกเขาจึงพูดได้คล่องเหมือนกัน
แต่ทว่าลั่วหานไม่ได้ภาษาเยอรมันกับภาษาสเปนดังนั้นเธอจึงต้องใช้ภาษาฝรั่งเศสเล่านิทานแทน
อ่านไปย่อหน้าสั้นๆหยางหยางก็หลับไป
หลังจากกล่อมเด็กๆเข้านอน ลั่วหานก็เพิ่งจะตระหนักได้ว่าเธอปวดเมื่อยเหนื่อยเพียงใด โดยเฉพาะแขนที่อุ้มลูกสาวเสร็จก็ต่อด้วยลูกชาย ตอนนี้เธอรู้สึกปวดจนบวมเล็กน้อย
เล่นกับเด็กๆทั้งวันเหนื่อยกว่าผ่าตัดอีก
หวังจริงๆว่าหลงเซียวจะอยู่บ้านช่วยบีบไหล่ทำนองนั้นให้เธอ
อาบน้ำ บำรุงผิวเสร็จ ลั่วหานก็ไม่มีแรงที่จะคิดเรื่องอื่นอีก พอหัวถึงหมอนก็ผล็อยหลับไป