บทที่ 1144 ความคิดเล็กๆ น้อยๆ ระหว่างคู่รัก
เกาจิ่งอานนอนที่ห้องรับแขกอย่างน่าสงสาร นอนลงแล้วรู้สึกมีอะไรแปลกๆ
ยังมีส่วนไหนที่เขาทำไม่เต็มที่เหรอ? รอยลิปสติกได้อธิบายไปแล้ว และโจวโร่หลินที่เขารู้จักไม่ใช่ผู้หญิงที่จะงี่เง่าเอาแต่ใจ
พลิกไปมา เกาจิ่งอานตัดสินใจโทรศัพท์ไปปรึกษาหลงจื๋อ
ดึกดื่นป่านนี้ หลงจื๋อและหลินซีเหวินเข้านอนแล้ว หลังจากที่หลินซีเหวินตั้งครรภ์ เวรดึกจึงเริ่มน้อยลง ส่วนมากจะเข้านอนก่อนสิบโมง นิสัยการทำงานและการพักผ่อนของหลงจื๋อเธอก็ปรับให้เป็นปกติเช่นกัน
ดังนั้นได้ยินเสียงโทรศัพท์ ทั้งสองก็ส่งเสียงไม่พอใจออกมา
“โทรศัพท์ของฉัน ฉันรับแป๊ปนึง ที่รักเธอนอนต่อเลย”
หลงจื๋อไม่กล้ารบกวนเวลาเธอนอน เวลานี้กล้าเสี่ยงชีวิตรบกวนเขา ส่วนใหญ่จะมีคนสองประเภท
เจ้านาย—พี่ใหญ่
คู่หูที่ไม่อยากเจอ– หนึ่งสองสามสี่ห้า
เห็นเป็นชื่อของเกาจิ่งอาน หลงจื๋อหาว “อะไร?”
เกาจิ่งอานพลิกตัวแนบบนหมอน “น้องสาม พี่รองอยากถามนายหน่อย นายช่วยวิเคราะห์ให้ฉันหน่อยได้ไหม?”
“ถ้าฉันบอกว่าไม่ได้ล่ะ?” หลงจื๋อหาวอีกครั้ง
การหาวของเขาส่งผลกระทบ เกาจิ่งอานก็รู้สึกง่วงแล้ว “อย่าสิ พี่รองรู้ว่านายทำได้ เรื่องง่ายมาก นายฟัง……”
เกาจิ่งอานเล่าเรื่องทั้งหมดให้หลงจื๋อ
หลงจื๋อประชด “นายเป็นปรมาจารย์ด้านความรักไม่ใช่เหรอ? เรื่องง่ายๆ แค่นี้นายยังจัดการไม่ได้? จากนี้ไปนายควรสละราชบัลลังก์แล้ว”
เกาจิ่งอานหน้าบึ้ง พยักหน้า “อย่าประชดฉันแล้วได้ไหม? รีบพูดว่าควรทำยังไง พี่รองอยู่ที่ห้องรับแขก กลับห้องนอนไม่ได้แล้ว พี่สะใภ้นายโกรธจริงๆ แล้ว เมื่อก่อนเธอไม่เคยโกรธขนาดนี้เลย”
นิสัยของโจวโร่หลินดีมาก ปกติจะไม่สนใจไม่แยแส เรื่องเครียดก็เครียดไม่นาน
หลักการของเธอนั้นเรียบง่าย: เรื่องของวันนี้จบวันนี้ พรุ่งนี้ยังต้องยุ่งอยู่กับความสวยความน่ารัก!
บางทีเกาจิ่งอานยังชื่นชมทัศนคติของเธอ ไม่รู้ว่าในหัวของผู้หญิงคนนี้มีอะไร มุมมองของการมองปัญหาไม่เหมือนกับคนทั่วไป
เพราะความพิเศษนี้ ทำให้เขารักษาเธอมาก
หลงจื๋อเข้าใจความเจ็บปวดนั้นและเห็นใจ “ฟังไว้ พี่สะใภ้ฉันนิสัยดี แล้วก็รักนายจริงๆ ดังนั้นจึงไม่น่าทำสงครามเย็นกับนายนาน ตอนนี้สิ่งที่นายต้องทำคือ รีบคิดว่าช่วงนี้เธอมีของอะไรที่อยากซื้อ กระเป๋า เครื่องประดับ เครื่องสำอาง รถ อสังหาริมทรัพย์ ยังมีอีก เธออยากไปเที่ยวที่ไหนหรือเปล่า รีบหา ถ้าไม่มี นายหาเองหนึ่งอย่าง
อย่างไรก็ตาม พรุ่งนี้เช้าเธอตื่นขึ้นมา บนโต๊ะต้องมีของที่เธอชอบ นอกจากนี้ยังมีตั๋วเครื่องบินคู่ ฉันรับรอง เธอจะมีความสุขและลืมความไม่พอใจทั้งหมดของคืนนี้!”
เกาจิ่งอานกะพริบตา ใบหน้าเต็มไปด้วยความสงสัย “เชื่อถือได้เหรอ?”
หลงจื๋อตีหน้าอกตัวเอง “เชื่อถือได้แน่นอน การเชื่อในตัวฉันเทียบเท่ากับการเชื่อในความจริง ไม่อย่างงั้นนายจะโทรหาฉันทำไม?”
หลงจื๋อจิ๊ปาก “ส่วนตัวฉันคิดว่าชีวิตแต่งงานของนายกับหมอหลินมีความสุขมาก น่าจะมีหลายวิธี”
แต่เขามองข้ามจุดหนึ่ง ในประเด็นของความสัมพันธ์ โดยปกติจะได้รับยาที่เหมาะสม สอนตามความสามารถของผู้เรียน หลินซีเหวินและโจวโร่หลินเป็นผู้หญิงสองประเภท จะดูแลด้วยวิธีเดียวกันได้อย่างไร?
หลงจื๋อง่วงจนลืมตาไม่ขึ้น ไม่อยากเป็นที่ปรึกษาด้านความสัมพันธ์ให้เขาอีกต่อไป “นายตัดสินใจเองเถอะ ฉันไปนอนแล้ว อย่าโทรหาฉันอีก ส่งผลต่อลูกน้อยพักผ่อน”
“น้องสาม? เดี๋ยวสิ……”
อย่างไรก็ตาม หลงจื๋อวางสายอย่างไม่ไยดีแล้ว
ก็ได้ ให้ความสำคัญกับแฟนมากกว่าเพื่อนดูเหมือนจะเป็นโรคของพวกเขา
เกาจิ่งอานลุกขึ้น เดินไปที่ห้องรับแขกตั้งใจเขียนบันทึก
ข้อที่หนึ่งเขียนว่า: ของที่หลินหลินชอบ
แต่ว่าขณะที่เขากำลังจะเขียน หลังจากนั้นเพิ่งจะรู้ตัว ดูเหมือนว่าเขาไม่รู้ว่าเธอชอบอะไร
กระเป๋าเหรอ?
เธอไม่สนใจ LV และ Chanel เมื่อเดินผ่านเคาว์เตอร์ยังไม่เหล่ตามอง กระเป๋าในมือยังคงเป็นแบรนด์ไลน์ที่ซื้อจากการจัดซื้อเมื่อสองปีก่อน
กระเป๋าหรูที่เขาให้เธอ เธอยังวางไว้ที่ห้องแต่งตัวไม่เคยใช้ ซองพลาสติกบนซิปยังไม่แกะออก
“กระเป๋าและเครื่องประดับ ทุกอย่างเป็นของที่ผู้หญิงใช้เบี่ยงเบนความสนใจของคนอื่น ใช้สิ่งเหล่านี้เพื่อเพิ่มมูลค่าของตัวเอง หรือเติมเต็มสิ่งที่ขาดหาย ให้ตัวเองพูดด้วยความมั่นใจ แต่ฉันรู้สึกว่า สิ่งที่หรูที่สุดของผู้หญิงคือรอยยิ้มบนใบหน้า ความมั่นใจในตัวเอง และความสามารถที่เอาออกมาได้ตลอดเวลา! ฉันน่ารักและมีความสามารถขนาดนี้ ยังต้องใช้กระเป๋าหนังเป็นอาวุธเหรอ?”
วันนั้น พวกเขายืนอยู่หน้าเคาน์เตอร์ของร้านHermes เขาอยากซื้อกระเป๋าถือสุภาพสตรีรุ่นล่าสุดของฤดูกาลให้เธอ สีและรูปทรงเหมาะกับเธอมาก ราคาสามหมื่นเจ็ดพัน สำหรับเขาคือเรื่องเล็กน้อย แต่โจวโร่หลินก็ปฏิเสธอย่างสวยงาม
ผู้หญิงหลายคนเวลาออกบ้านจะต้องสวมเครื่องประดับที่เด่น กระเป๋าที่แพงติดตัวไปด้วย ราวกับว่าเป็นวิธีเดียวที่จะทำให้เอวตรง
แม้ว่าโจวโร่หลินจะถือกระเป๋ารักษ์โลกที่มีราคายี่สิบห้าหยวน ก็สวยดั่งภาพ
เวลาที่เกาจิ่งอานนึกถึงเรื่องพวกนี้ ยิ้มจนเห็นลักยิ้มสองข้าง ดีจัง……เขาได้เจอผู้หญิงคนนี้
เรื่องของกิน เธอก็ไม่ได้ถือเป็นพิเศษ อะไรก็ชอบ อะไรก็รับได้
ซาลาเปาของตื๋อฉิ่ง เธอกินเหมือนลูกพีชในงานเลี้ยงจิ้นซื่อ เส้นหมี่ข้างทางเธอก็กินอย่างมีความสุข สเต๊กในร้านอาหารตะวันตกระดับพรีเมียม เธอไม่ปฏิเสธ แต่ก็ไม่กระตือรือร้น
ทุกโอกาสสำหรับเธอดูเหมือนจะเหมือนกันหมด ความเรียบง่ายและไร้เดียงสาของหัวใจที่ไม่เคยเปลี่ยนไปตามโลก
หลายคนเดินอยู่ก็ลืมแล้วว่าควรเริ่มจากไหน ไปที่ไหน สูญเสียรูปลักษณ์เดิม
แต่ว่าโจวโร่หลินไม่เหมือน เมื่อก่อนเธอยากจน อาศัยอยู่ในบ้านเช่าโทรมๆ เธอขยัน คิดบวก มองโลกในแง่ดี ไม่เคยย่อท้อต่อชีวิต ต่อมาพวกเขาคบหากัน อาศัยอยู่ที่ชุมชนที่แพงที่สุดของเมืองหลวง เธอยังคงขยันทำงาน ตั้งใจทำหน้าที่ของตนเอง ไม่เคยเปิดปากให้เขาช่วย
หัวใจของเธอบริสุทธิ์ คือความหรูหราที่แท้จริง
นึกย้อนไปหลายๆ อย่างในอดีต หัวใจของเกาจิ่งอานรู้สึกผิดอย่างมาก เขารำคาญตัวเองที่ไม่ดูแลเธอให้จริงจังมากกว่านี้ ไม่ได้เข้าใจเธอมากกว่านี้ เพราะว่าเธอดีเกินไป เขากลับมองข้ามความรู้สึกของเธอ
ให้ตายเถอะ เขาเป็นผู้ชายภาษาอะไร!
เกาจิ่งอานเครียดอยู่ข้างนอก โจวโร่หลินที่อยู่ข้างในก็ไม่สบายใจ
เธอนั่งอยู่ข้างประตู มือสองข้างกุมเข่า มั่นใจว่าเกาจิ่งอานไม่อยู่ข้างนอกแล้ว ในใจว่างเปล่า
พวกเขาอยู่ด้วยกันนานเกินไป นิสัยและอารมณ์ของอีกฝ่ายแทบจะเหมือนกัน
เกาจิ่งอานเปลี่ยนแปลงเพื่อเธอไปเยอะมาก นิสัยแย่ๆ เมื่อก่อนก็ไม่เคยทำอีก ผู้ร่วมงานขอพบเขา เขาต้องประกาศโดยเฉพาะว่าจะไม่ไปในบางโอกาส ผู้หญิงข้างกายน้อยมาก รักษาระยะห่างจากศิลปินหญิงที่เข้ามาถวายตัวให้
เวลากลับบ้านดึกก็จะบอกเธอ ไม่ว่าจะยุ่งขนาดนี้ ก็ไม่ลืมที่จะเตือนให้เธอนอน กินข้าว
ครั้งก่อนเธอไม่สบาย มีไข้ถึงสามสิบแปดองศา เธอไม่อยากให้เขารู้ สุดท้ายเขาก็รู้
เขารีบบินข้ามคืนจากเกาหลีกลับมา ไม่เปลี่ยนเสื้อผ้าเฝ้าเธอทั้งคืน ยังเข้าครัวทำข้าวต้มให้เธออย่างเงอะงะ
“ที่รัก ฝีมือของฉันไม่ได้ดีมาก ถ้าเธอไม่ชอบก็ไม่ต้องกิน ฉันให้เชฟทำใหม่”
เกาจิ่งอานเหมือนเด็ก คาดหวังให้เธอได้ลิ้มรสฝีมือของเขา แต่ก็กลัวเธอผิดหวัง
รสชาติของซุปถ้วยนั้นไม่ได้ดีมาก แต่เธอดื่มจนหมด
ถึงตอนนี้เธอนังจำสีหน้าของเกาจิ่งอานได้ เวลาที่เขามีความสุข ใจของเธอกำลังโบยบิน
คิดถึงสิ่งเหล่านี้ ขอบตาของโจวโร่หลินร้อน น้ำตาไหลออกมา เช็ดเท่าไรก็ไม่หมด
โง่