เมียหวานของประธานเย็นชา – ตอนที่ 342

ตอนที่ 342

บทที่ 342 ความช่วยเหลือ

เหยาเย้นรีบพูดจบอย่างรวดเร็ว และมองสีหน้าของเวินหงไห่อย่างระมัดระวัง

” ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นแค่การคาดเดาของฉัน ส่วนรายละเอียดต่างๆ เวินเที๋ยนเที๋ยนไม่ได้บอกฉัน ฉันไม่รู้ว่ามันจริงไหม…… ”

” ทำให้เส้นประสาทสมองเสียหายเหรอ? “เวินหงไห่ถามกลับ พลางหันไปมองเวินฉี่

เวินฉี่พยักหน้าให้เขาเล็กน้อย เขาจึงปล่อยมือของเหยาเย้นในที่สุด

” โอเค เธอกลับไปได้แล้ว ”

ทันทีที่เหยาเย้นเป็นอิสระ เธอจึงรีบวิ่งออกไปข้างนอก และไม่กล้าหันหลังกลับ

เมื่อเธอออกไปเวินหงไห่จึงเอ่ยปาก ” แท้จริงแล้วจี้จิ่งเชินก็กินยาต้องห้ามเข้าไป มิน่าล่ะอาการของเขาถึงได้หายเร็วขนาดนั้น ดูเหมือนว่าจี้หยวนวู่ก็จะล้มเหลวในตอนนั้นด้วย ”

เวินฉี่ยกถ้วยชาขึ้นมาจิบ

” ตอนนี้เป็นโอกาสดี จี้จิ่งเชินอยู่ในโรงพยาบาล แกไม่ได้อยากให้จี้จิ่งเชินได้ลิ้มรสความขมขื่น ไม่ได้อยากได้บริษัทเอ็มไอกรุ้ปของมันหรือไง? ”

เมื่อเวินหงไห่ได้ฟังก็พูดด้วยความประหลาดใจ ” แต่ แต่ถึงแม้ว่าจี้จิ่งเชินจะอยู่ในโรงพยาบาล แต่มันก็จะต้องได้รับการรักษา และกลับมาในเร็วๆนี้แน่นอน ถึงตอนนั้นเราควรจะทำอย่างไรดี? ”

เวินฉี่จ้องไปที่เวินหงไห่อย่างไม่พอใจเมื่อได้ยินเช่นนั้น

พลางพูดชี้ทาง ” ถ้าอย่างนั้นก็อย่าให้มันมีโอกาสได้ออกจากโรงพยาบาลสิ หรือเรื่องแค่นี้แกยังไม่เข้าใจ? ”

เวินหงไห่ฟังด้วยความสับสน เขาไม่เข้าใจว่าเวินฉี่หมายถึงอะไร

เมื่อเวินฉี่เห็นว่าเขายังไม่เข้าใจ จึงพูดอย่างไม่พอใจ ” แกมีสายสืบในโรงพยาบาลที่จี้จิ่งเชินอยู่ใช่ไหม? ”

เวินหงไห่พยักหน้า

” มีครับ ข่าวคราวเมื่อก็เป็นข่าวที่พวกเขาส่งมา ”

” ในเมื่อมีสาย งั้นก็ให้พวกมันใส่ส่วนผสมบางอย่างเพิ่มให้กับยาของจี้จิ่งเชิน ให้มันออกจากโรงพยาบาลได้ยากขึ้น และมันจะช่วยซื้อเวลาให้เราด้วย แค่นี้ก็สิ้นเรื่องแล้วไม่ใช่เหรอ? ”

เมื่อได้ยินเช่นนั้นเวินหงไห่ก็ตะลึงไปพักหนึ่ง ก่อนที่เขาจะเข้าใจในที่สุด

เขารีบพยักหน้า ” ครับ ผมเข้าใจแล้ว พ่อยังคงเฉียบแหลมเหมือนเดิม ”

หลังพูดเสร็จ เขาก็รีบร้อนเดินออกไปข้างนอก พลางกำชับให้คนที่อยู่ในโรงพยาบาลลงมือ

เหยาเย้นออกมาจากห้องทำงานโดยที่ยังคงกลัวอยู่ เธอกังวลว่าเวินหงไห่จะมาคิดบัญชีกับเธอภายหลัง

ยิ่งคิดเธอก็ยิ่งกลัว น้ำตาก็พลันไหลออกมาจากขอบตาอย่างช่วยไม่ได้

ในขณะที่ผ่านห้องของเวินเที๋ยนเที๋ยน ประตูก็ถูกเปิดออกทันที

เวินเที๋ยนเที๋ยนตกใจเมื่อเห็นเธอ เธอจึงรีบพูด ” คุณนายเหยา คุณไม่เป็นอะไรใช่ไหม?ต้องโทษฉัน หากเมื่อสองวันก่อน ฉันไม่ให้คุณเข้ามาช่วย เรื่องก็คงจะไม่พัวพันมาถึงคุณ ”

หลังพูดจบเธอกลับเห็นว่าคุณนายเหยาไม่พูดอะไรเลย เวินเที๋ยนเที๋ยนจึงโน้มตัวเข้าไปดู และเห็นน้ำตาในดวงตาของเธอ

” เกิดอะไรขึ้น?เวินหงไห่ทำให้คุณร้องไห้ใช่ไหม ”

เหยาเย้นกลัวมากจนรีบส่ายหัวอย่างรวดเร็ว

” เปล่า ไม่เกี่ยวกับเขา…… ”

เธอมองเวินเที๋ยนเที๋ยนที่อยู่ตรงหน้า และนึกถึงสิ่งที่ตัวเองเพิ่งจะบอกเวินหงไห่ไปเมื่อครู่ ในใจเธอก็รู้สึกผิดขึ้นมาทันที

เธอจ้องมองเวินเที๋ยนเที๋ยน พลางเม้มริมฝีปากอย่างลังเล

เวินเที๋ยนเที๋ยนสังเกตเห็นสายตาของเธอ และถามอย่างงงๆ ” คุณอยากจะบอกอะไรกับฉันรึเปล่า? ”

เหยาเย้นลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ในที่สุดเธอก็อดไม่ได้และพูดมันออกมา

” จี้จิ่งเชินอยู่ในโรงพยาบาลแล้ว ”

เมื่อได้ยินสิ่งเหล่านี้ เวินเที๋ยนเที๋ยนก็มีสีหน้าที่แข็งทื่อขึ้นมาทันที

เธอตกใจจนต้องคว้าแขนของเหยาเย้นไว้

” คุณรู้ได้ยังไง? ทำไมเขาถึงเข้าโรงพยาบาล?เกิดเรื่องอะไรขึ้น?เขาบาดเจ็บรึเปล่า? ”

เหยาเย้นส่ายหน้า

” ไม่ใช่เพราะบาดเจ็บ ดูเหมือนจะเป็นเพราะยาที่เขาเคยใช้มาก่อน…… ”

สีหน้าของเวินเที๋ยนเที๋ยนซีดเผือดราวกับกระดาษเมื่อได้ยิน

” ช้าไป…… ”

” ช้าไปเพียงก้าวเดียว…… ”

เมื่อเห็นท่าทางของเธอในตอนนี้ เหยาเย้นก็ยิ่งตำหนิตัวเองมากยิ่งขึ้น

เธอเม้มริมฝีปากและพูดต่อ “เวินหงไห่รู้เรื่องอาการป่วยของจี้จิ่งเชินแล้ว พวกเขาอาจจะ……ทำอะไรไม่ดีกับเขา ”

เมื่อได้ยินคำเหล่านั้น เวินเที๋ยนเที๋ยนก็สงสัยมากยิ่งขึ้น

” คุณรู้ได้ยังไง? ”

เหยาเย้นไม่กล้าบอกว่าเป็นตัวเองที่เปิดเผยเรื่องออกไป เธอจึงเงียบและไม่ได้พูดอะไร

เวินเที๋ยนเที๋ยนมองถ้วยชาที่เธอถืออยู่ในมือตอนนี้ และมองทิศทางที่เหยาเย้นเพิ่งจะเดินมา

และถามด้วยความแปลกใจ ” คุณได้ยินมาจากปากพวกเขาเหรอ? ”

เหยาเย้นผงะ พลางพยักหน้า

” ใช่แล้ว ฉันรู้มากขนาดนี้ ตั้งแต่วันนี้ไปฉันไม่ติดหนี้อะไรคุณอีกแล้ว และต่อไปฉันจะไม่ช่วยคุณอีก ”

เมื่อพูดจบ เธอก็มีสีหน้าที่เย็นชา เธอเดินออกไปและไม่สนใจเวินเที๋ยนเที๋ยนอีก

เวินเที๋ยนเที๋ยนจะยอมได้อย่างไร?

ตอนนี้ในตระกูลเวินแห่งนี้ คนเดียวที่จะสามารถช่วยเธอได้ก็มีเพียงเหยาเย้นที่อยู่ตรงหน้าของเธอ

แม้จะรู้ว่าตัวเองจะต้องเอาเธอเข้ามาพัวพัน แต่เมื่อนึกถึงอันตรายที่จี้จิ่งเชินต้องเผชิญ เวินเที๋ยนเที๋ยนก็ไม่มีเวลามาคิดอะไรมากขนาดนั้น

เธอรีบยื่นมือไปคว้าเหยาเย้นไว้ และพูดอย่างร้อนรน ” ตกลงแล้วมันเกิดอะไรขึ้นกับจี้จิ่งเชิน? คุณช่วยเล่ารายละเอียดให้ฉันฟังหน่อยได้ไหม? ”

เหยาเย้นขมวดคิ้ว

” ฉันไม่รู้อะไรมาก แค่ได้ยินพวกเขาพูดมาประโยคนึงเท่านั้น และเมื่อกี้ฉันก็บอกกับคุณชัดแล้ว ว่าฉันจะไม่ช่วยคุณอีกต่อไป โปรดปล่อยมือฉันด้วย!”

หลังพูดจบ ก็ไม่รอให้เวินเที๋ยนเที๋ยนปล่อยมือ เธอสะบัดมือของเวินเที๋ยนเที๋ยนออกโดยตรง

” ขอโทษด้วย ถ้าคุณอยากถามก็ไปถามคนอื่นเถอะ ”

เหยาเย้นไม่กล้าอยู่นาน เธอรีบจากไปอย่างรวดเร็ว

เวินเที๋ยนเที๋ยนยืนอยู่กับที่ ไม่ได้ตามเธอไป

คนอื่นเหรอ?

เธอยังสามารถขอความช่วยเหลือจากใครได้อีก?

ไม่มีใครในตระกูลเวินที่ยืนข้างเธอในตอนนี้

และถึงเธอจะรู้ดีว่าจี้จิ่งเชินกำลังตกอยู่ในอันตราย แต่เธอก็ไม่สามารถทำอะไรได้

เวินเที๋ยนเที๋ยนกำหมัดแน่น และมองออกไปนอกหน้าต่าง

แม้ว่าจะเป็นอย่างนี้ เธอก็จะไม่ยอมให้ใครหน้าไหนมาทำร้ายจี้จิ่งเชินได้!

เธอจะต้องคิดหาทางหนีออกมา

วันถัดไป

ยังไม่ทันที่เวินเที๋ยนเที๋ยนจะได้คิดหาทางหนี เธอก็ได้ยินเสียงดังเอะอะมาจากชั้นล่าง

” ให้ฉันเข้าไป! ”

” ฉันเป็นแขกของตระกูลเวิน! ”

เมื่อเวินเที๋ยนเที๋ยนได้ยินเสียง เธอจึงเดินออกไปอย่างอยากรู้อยากเห็น เป็นจังหวะพอดีที่เธอเห็นหลวนจื่อกำลังโต้เถียงกับทหารตรงประตู

เธอต้องการจะเข้าไป แต่กลับถูกขวางเอาไว้ก่อน

ตั้งแต่เวินเที๋ยนเที๋ยนพยายามหลบหนีและล้มเหลวครั้งที่แล้ว เธอก็ไม่ได้เห็นร่องรอยของหลวนจื่ออีกเลย

แม้จะรู้จากปากเหยาเย้น ว่าเวินหงไห่สั่งไม่ให้ใครมองเธอ แต่เวินเที๋ยนเที๋ยนก็ยังหวังว่าจะสามารถติดต่อจี้จิ่งเชินผ่านทางหลวนจื่อได้

เมื่อเวินเที๋ยนเที๋ยนเห็นหลวนจื่อในตอนนี้ เธอแทบจะรอไม่ไหวและวิ่งออกไปทันที เธอกลัวว่าจะคลาดกับหลวนจื่ออีกครั้ง

เธอรีบลงมาข้างล่าง และยังไม่ทันที่จะออกจากบ้าน เธอก็เห็นหลวนจื่อเข้ามาในห้องรับแขกแล้ว

เมื่อเห็นว่าเธอสามารถเข้าออกได้อย่างอิสระ เวินเที๋ยนเที๋ยนจึงรู้สึกโล่งใจ

” ดีจัง ฉันคิดว่าพวกเขาจะไม่ให้คุณเข้ามาเสียอีก ”

หลวนจื่อกล่าว ” ตระกูลหลวนและตระกูลหล่อนร่วมมือกันมาตลอด พวกเขาหยุดฉันไม่ได้จริงๆหรอก ยิ่งไปกว่านั้น วันนี้ฉันก็ยังมีภารกิจอย่างอื่นอีก ”

เธอพูดพลางหันกลับไปมองทางด้านหลัง

เวินเที๋ยนเที๋ยนสงสัย จึงหันมองไปตามสายตาเธอ

ตาของเวินเที๋ยนเที๋ยนเบิกกว้างทันที เมื่อเห็นว่าคนที่ยืนอยู่ข้างหลังเธอเป็นใคร

” พี่……พี่หมิน? ”

เมื่อหมินอันเกอได้ยินเสียง เขาจึงหันกลับไปยิ้มบางๆให้กับเวินเที๋ยนเที๋ยน

” เที๋ยนเที๋ยน พี่มาหาเธอแล้ว ”

เมื่อหลวนจื่อที่ยืนอยู่ข้างๆเห็นท่าทีของหมินอันเกอ เขาจึงก้มหน้าลงเล็กน้อย และซ่อนรอยยิ้มเจื่อนๆที่มุมปากเอาไว้

” เข้าไปก่อนเถอะ ฉันอยู่ที่นี่ได้เพียงครู่เดียวเท่านั้น ถ้าพ่อลูกตระกูลเวินกลับมา ฉันคงจะต้องถูกเขาพาตัวไปแน่ๆ “

เมียหวานของประธานเย็นชา

เมียหวานของประธานเย็นชา

Status: Ongoing

“คุณจะคิดแบบนี้ไปถึงเมื่อไรถึงจะกลับบ้านได้?” จี้จิ่งเชินพูดออกมาอย่างจนใจ เขารีบมาที่นี่ทันทีตั้งแต่รับสาย และยืนดูเธอเดินวนคิดเป็นหนูติดจั่นแบบนี้มาครึ่งชั่วโมงแล้ว เธอไม่กล้าออกมา เพราะเธอกลัวว่าถ้าเขารู้เรื่องเข้า เขาจะทำอย่างไร สุดท้ายสิ่งที่เขาทำ คือ จูบหน้าผากของเธอ “ผมเชื่อคุณ… ไม่ต้องอธิบายอะไร ผมก็เชื่อคุณ”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท