เมียหวานของประธานเย็นชา – ตอนที่ 352

ตอนที่ 352

บทที่ 352 ความอัปยศ

รถคันนี้ขับออกไปจากเขตคฤหาสน์ที่อยู่ชานเมืองนี้อย่างรวดเร็ว และมุ่งหน้าไปยังบ้านของตระกูลจี้ที่อยู่ในเมืองแทน

ตระกูลจี้ใจกลางเมือง

จี้จิ่งเชินที่นำของเพียงไม่กี่อย่างออกมาจากคฤหาสน์นั้น ได้นำมาวางอยู่ภายในห้องรับแขก แม้กระทั่งยังไม่ทันจะได้นำกลับไปวางเอาไว้ในห้องเลยเสียด้วยซ้ำ

บ้านทั้งหลังนี้ มีเพียงแค่จี้จิ่งเชินและจงหลีสองคนเพียงเท่านั้น

จี้จิ่งเชินมองดูตระกูลจี้ที่อยู่ตรงหน้า

ที่นี่คือบ้านที่เขาเคยอยู่มาหลายปีตอนที่เขายังเป็นเด็กๆ แต่ตอนนี้ได้กลับมาที่นี่อีกครั้ง ในแววตาของเขานั้นกลับไม่ได้มีความคิดถึงเลยแม้แต่นิดเดียว แต่กลับเต็มไปด้วยความเกลียดชังมากกว่า

บ้านหลังนี้ ไม่ได้มีความทรงจำที่ดีในวัยเด็กของเขาอยู่เลย มีเพียงแต่ความอัปยศอดสูและความเกลียดชังเพียงเท่านั้น!

เวลานี้เองที่จงหลีเดินขึ้นมาจากห้องใต้ดิน เห็นจี้จิ่งเชินแล้วจึงปรับสีหน้าของตัวเอง แล้วเอ่ยพูดขึ้นมาอย่างยากลำบากอยู่บ้าง : “บอดี้การ์ดข้างล่างไม่กี่คนนั่น…..”

เขายังไม่ทันได้เอ่ยปาก จี้จิ่งเชินก็เดาได้แล้วว่าเขาจะพูดอะไร

“ไปแล้วใช่ไหม?”

จงหลีสูดหายใจเข้า แล้วพยักหน้า

ภายในห้องใต้ดิน จี้ยี่หยัน ฉวีช่วยฉิน และเจียงหยู่เทียนยังคงถูกขังอยู่ด้านในนั้นตลอด แต่ตอนที่พวกเขามานั้น ก็ไม่เห็นบอดี้การ์ดสองสามคนนั้นแล้ว

ราวกับว่าเมื่อวาน ตอนที่จี้จิ่งเชินและบริษัทเอ็มไอกรุ้ปพังทลายลงนั้น พวกเขาก็ได้ไปจากที่นี่แล้ว

เหมือนกับว่าจี้จิ่งเชินจะสามารถคาดเดาถึงผลลัพธ์นี้ไว้แล้ว เขาจึงหันมาพลางเอ่ยขึ้น : “ไปแล้วก็ปล่อยไป แล้วคนที่ถูกขังอยู่ในห้องใต้ดินล่ะ?”

จงหลีพยักหน้าลงเล็กน้อย

“ยังอยู่ที่นี่ครับ แต่สถานการณ์ดูจะไม่ค่อยดีเท่าไหร่นัก”

ตอนที่พูดอยู่นั้น จงหลีขมวดคิ้วขึ้นมา

จริงๆแล้วที่เขาพูดมาก็ยังไม่ถูกเสียงทั้งหมด เพราะจากที่เขามองเห็นจากทางหน้าต่าง ห้องนั้น จะพูดว่าเหมือนราวกับนรกเลยก็ได้

ภายในห้องที่คับแคบในห้องใต้ดินของตระกูลจี้ เพียงแค่สิบกว่าตารางเมตร อยู่กันสามคน

เตียงที่มีเพียงแค่เตียงเดียวในนั้นก็เละเทะดูไม่ได้ ผ้าห่มสีขาวที่ถูกสิ่งสกปรกมาปกคลุม มองไม่เห็นถึงสภาพเดิมแล้วเสียด้วยซ้ำ

แต่ถึงแม้ว่าจะเป็นเช่นนี้ คนที่สามารถจะนอนบนเตียงได้นั้นก็มีเพียงแค่คนเดียวก็คือจี้ยี่หยันเท่านั้น

เขานอนอยู่บนเตียง เดิมทีที่ผมยาวอยู่แล้วนั้น ตอนนี้ได้มาปกคลุมหน้าตาไปหมดเสียแล้ว

เพียงแค่เวลาสั้นๆเพียงไม่กี่เดือนนี้ ราวกับว่าทำให้เขาดูแก่ลงไปอีกสิบกว่าปี

ดวงตาทั้งสองข้างแดงก่ำ ใต้ตามีรอยหมองคล้ำ ท่าทางหดหู่

ไม่เหมือนกับสุภาพบุรุษที่ฉับไว เจ้าชายขี่ม้าขาวในตอนนั้น ไม่มีใครที่จะสามารถมารวมตัวกับพวกเขาได้แล้ว

เขานอนอยู่บนเตียง มองฝ้าเพดานอย่างเหม่อลอย

หลังจากที่เขาถูกขังอยู่ที่นี่ นี่คือสิ่งที่เขาทำมากที่สุดในช่วงเวลาปกติ

ชุดเสื้อผ้าที่ฉวีช่วยฉินสวมใส่อยู่นั้นสกปรกไปทั้งร่างกาย ไม่มีโอกาสที่จะสามารถเอาไปซักได้เลย

ผมหวีไปอยู่ทางด้านหลังอย่างยุ่งเหยิง ผมขาวไปแล้วกว่าครึ่ง ไม่หลงเหลือท่าทางสตรีที่สูงส่งเหมือนตอนแรกอยู่เลย

เวลานี้ เธอกำลังตำหนิคนที่นั่งอยู่บนพื้นอย่างโหดร้าย แววตาปรากฏถึงความดุดันออกมา

“ยังนั่งโง่อยู่ทำไมอีก? รีบเก็บกวาดสิ!”

เจียงหยู่เทียนที่นั่งอยู่บนพื้นนั้นตกใจเสียจนตัวสั่นเทา ได้ยินคำพูดของเธอแล้ว กลับไม่กล้าขัดขืนเลยแม้แต่นิดเดียว

เธอไม่กล้าแม้กระทั่งจะลุกขึ้นยืนเลยเสียด้วยซ้ำ จึงค่อยๆคลานไปแทน

บนพื้นล้วนแต่เป็นสิ่งของที่จี้ยี่หยันทิ้งเอาไว้ทั้งสิ้น ทั้งสกปรกทั้งเหม็น

แต่ภายในห้องนี้ เธอเป็นคนรับใช้เพียงคนเดียว

ใบหน้าของเจียงหยู่เทียนเต็มไปด้วยคราบสกปรก เสื้อผ้าที่ใส่อยู่บนร่างกายนั้นก็ขาดหลุดลุ่ย แทบจะไม่สามารถปิดบังร่างกายของเธอได้เลย

ผมเผ้าก็ยุ่งเหยิงเสียจนบดบังใบหน้าของเธอไปหมด สามารถมองเห็นใบหน้าที่ดูแก่ลงไปอย่างรวดเร็วของเธอได้ ทั้งแก้มที่เต็มไปด้วยความสกปรกนั่นอีกด้วย

เธอไม่กล้าเงยหน้าขึ้นมา ทำให้การเคลื่อนไหวของเธอค่อนข้างช้าไปอยู่บ้าง ฉวีช่วยฉินที่อยู่ทางด้านหลังจึงส่งเสียงดุด่าว่าขึ้นมาเสียงดัง

“เร็วๆสิ! เก็บของเล็กๆน้อยๆแค่นี้ก็เชื่องช้าขนาดนี้ เธอยังมีประโยชน์อะไรอีก?”

เสียงแหลมๆของฉวีช่วยฉินทำให้จี้ยี่หยันที่นอนอยู่บนเตียงนั้นถูกปลุกให้ตื่นขึ้นมาจากความฝัน

ในความฝันนั้น ในที่สุดเขาก็ได้ออกไปจากที่ที่ไม่เห็นเดือนเห็นตะวันแบบนี้ได้แล้ว และยังสามารถเหยียบจี้จิ่งเชินและเวินเที๋ยนเที๋ยนเอาไว้ได้ ทรมานจนพวกเขาตาย

ความฝันที่สวยงามเช่นนี้ถูกขัดขึ้นมา สายตาของเขามารวมอยู่ตรงจุดเดียวกันอีกครั้ง มองคนที่ยืนอยู่ข้างๆทั้งสองคนอย่างไม่พอใจ ขมวดคิ้วขึ้น สายตาแสดงออกถึงความดุร้าย

“ทะเลาะอะไรกันนักหนา? ทะเลาะกันทั้งวัน ให้ผมพักผ่อนบ้างได้ไหม?”

ได้ยินเสียงของเขาแล้ว ฉวีช่วยฉินจึงรีบหันกลับมาแล้วยิ้มอย่างเอาใจเขา

“ไม่มีอะไรนะ ไม่มีอะไร ยี่หยัน ลูกพักผ่อนต่อเถอะ เธอไม่เชื่อฟัง ทำอะไรชักชา เดี๋ยวแม่บอกเธอหน่อยก็ได้แล้ว”

จี้ยี่หยันได้ยินประโยคนี้แล้ว จึงมองไปยังเจียงหยู่เทียนอย่างไม่พอใจ

ยังไม่ทันพูดอะไรออกมานั้น ก็ได้ยินเสียงสะอื้นที่ดังขึ้นมาเล็กน้อย

เสียงนี้ยิ่งทำให้เขารู้สึกไม่พอใจมากขึ้นไปอีก

จี้ยี่หยันลุกขึ้นมาจากเตียง สปริงยุบหดตัวลง ทำให้เกิดเสียงดังขึ้น

เจียงหยู่เทียนที่อยู่ตรงพื้นตกใจจนสั่นเทาไปทั้งร่างกาย

จี้ยี่หยันเดินเข้ามา มองดูคนที่ขดตัวอยู่ที่พื้น ด้วยแววตาที่แสดงความรังเกียจและสะอิดสะเอียน

เขายกขาขึ้นมา แล้วถีบไปที่ไหล่ของเจียงหยู่เทียน

แรงที่ไม่มียั้งนี้ ทำให้ร่างของเธอสั่นแล้วล้มลงไปที่พื้น เธอส่งเสียงร้องออกมา

“อย่าตีฉัน! อย่าตีฉัน!”

ฉวีช่วยฉินที่อยู่ข้างๆเห็นแล้ว มีสีหน้าที่เปลี่ยนไปแล้วจึงรีบเข้ามาดึงตัวจี้ยี่หยันเอาไว้

“ยี่หยัน ใจเย็นก่อนลูก อย่าลงไม้ลงมือเลย ตอนนี้เธอจะได้รับบาดเจ็บไม่ได้”

แต่คำพูดนี้กลับยิ่งทำให้สีหน้าของจี้ยี่หยันดูแย่มากขึ้นไปอีก แล้วเหยียบร่างของเจียงหยู่เทียนเอาไว้ สายตามองลงไปที่เธออย่างเย้ยหยัน

จากการเคลื่อนไหวของเจียงหยู่เทียนนี้ จึงอยู่ตรงช่วงเว้าระหว่างช่วงท้องของเธอพอดี

จี้ยี่หยันยกยิ้มมุมปากขึ้นอย่างเยาะเย้ย รอยยิ้มนั้นมีแต่ความดูถูก

เขาเอาเท้ามาไว้ตรงช่วงท้องของเจียงหยู่เทียน แล้วขู่ด้วยการกดแรงลงไป

รับรู้ได้ถึงการเคลื่อนไหวนี้ของเขาแล้ว เจียงหยู่เทียนตกใจจนกรีดร้องออกมา

“คุณจะทำอะไร? ฉันอาจตายได้นะ!”

สีหน้าของฉวีช่วยฉินซีดเผือด รีบเข้าไปดึงขาของจี้ยี่หยันเอาไว้

เอ่ยขึ้นอย่างตื่นตกใจ : “ยี่หยัน ใจเย็นๆหน่อย นั่นลูกของแกนะ!”

“คนเดียวที่ตอนนี้จะช่วยพวกเราให้กำเนิดเลือดเนื้อของตระกูลจี้ออกมาได้ มีเพียงแค่ผู้หญิงคนนี้เท่านั้น แม่รู้ว่าแกเกลียดเธอ แต่พวกเรารอให้เธอคลอดลูกออกมาก่อน แล้วค่อยลงมือก็ได้”

“ดีไหม?”

“ลูก?”

จี้ยี่หยันหัวเราะออกมาอย่างเย็นชา

เขายกมุมปากขึ้น พลางเอ่ยขึ้นอย่างดูถูก : “ก็เป็นแค่เครื่องมือในการระบายเท่านั้น ถ้าหากไม่ใช่ว่าในห้องนี้มีแต่เธอ ฉันไม่มีทางยุ่งกับเธอหรอก”

ว่าแล้ว เขาก็เก็บเท้าที่วางอยู่ตรงท้องของเจียงหยู่เทียน แล้วเตะไปที่ขาของเธออีกครั้งหนึ่ง

“ต่อไปให้เธอทำอะไร เธอก็ต้องทำ!”

“ผู้หญิงสารเลว!”

ด่าว่าออกมาแล้ว จี้ยี่หยันจึงได้หันกลับไป แล้วกลับขึ้นไปบนเตียงใหม่อีกครั้ง

เจียงหยู่เทียนนั่งลงบนพื้น จับท้องของตัวเองเอาไว้โดยที่ไม่กล้าพูดอะไรออกมาอีก แม้กระทั่งจะร้องไห้ก็ไม่กล้าที่จะส่งเสียงร้องออกมาเลยเสียด้วยซ้ำ

ฉวีช่วยฉินตำหนิออกมา : “ยังจะร้องไห้อะไรอีก? ไปเอาอาหารวันนี้เข้ามาซะ!”

ว่าแล้ว เธอก็หันกลับไปหาจี้ยี่หยันที่อยู่บนเตียง

“ยี่หยัน หิวแล้วใช่ไหม?”

เจียงหยู่เทียนมองดูแม่ลูกคู่นั้น แล้วกัดฟันลุกขึ้นยืน

จากการเคลื่อนไหวของเธอ ส่วนท้องที่ยื่นออกมาเห็นได้ชัดเจน เป็นเพราะร่างกายของเธอได้รับการบำรุงที่ไม่ดี มองแล้วเธอดูซูบผอมมาก ซึ่งตรงกันข้ามกับท้องที่นูนสูงออกมานั่นของเธอ

ตั้งครรภ์ห้าเดือน ทำให้เธอสูญเสียสารอาหารที่บำรุงร่างกายของเธอทั้งหมดไปแล้ว

ผมที่ปรกลงมานั้นบดบังแววตาที่ดุร้ายของเจียงหยู่เทียนเอาไว้

เธอไม่อาจลืมได้ว่าตลอดชีวิตนี้ ทุกสิ่งทุกอย่างที่สองคนตรงหน้านี้ทำเอาไว้กับเธอ!

ตอนที่จี้ยี่หยันใช้แรงบีบบังคับเธอ ฉวีช่วยฉินไม่เพียงแค่ไม่ขัดขวาง แต่ยังให้ท้ายอย่างดีอกดีใจอีกด้วย

เพื่อลูกตระกูลจี้คนนี้ของพวกเขา….

เจียงหยู่เทียนกำเสื้อผ้าของตัวเองเอาไว้แน่น

ถ้าหากไม่ใช่เพราะกังวลว่าตัวเองจะแท้งลูกแล้วจะต้องสูญเสียชีวิตไป เธอจะยอมปล่อยให้เด็กอยู่มาจนถึงตอนนี้ได้อย่างไรกัน?

เมียหวานของประธานเย็นชา

เมียหวานของประธานเย็นชา

Status: Ongoing

“คุณจะคิดแบบนี้ไปถึงเมื่อไรถึงจะกลับบ้านได้?” จี้จิ่งเชินพูดออกมาอย่างจนใจ เขารีบมาที่นี่ทันทีตั้งแต่รับสาย และยืนดูเธอเดินวนคิดเป็นหนูติดจั่นแบบนี้มาครึ่งชั่วโมงแล้ว เธอไม่กล้าออกมา เพราะเธอกลัวว่าถ้าเขารู้เรื่องเข้า เขาจะทำอย่างไร สุดท้ายสิ่งที่เขาทำ คือ จูบหน้าผากของเธอ “ผมเชื่อคุณ… ไม่ต้องอธิบายอะไร ผมก็เชื่อคุณ”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท