บทที่ 379 เขากลับมาแล้ว
กว่าจะสลัดออกมาจากฝูงชนได้ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย เวินเที๋ยนเที๋ยนรีบวิ่งไปที่ทางเดินอย่างรวดเร็ว
แต่เธอหาอยู่หลายรอบ ก็หาคนคนนั้นไม่เจอ
แม้ว่าจะถามกับพนักงานแล้ว ฝ่ายนั้นก็บอกว่าไม่มีลูกค้าคนนี้
พ่อบ้านรออยู่ที่ด้านนอกรีสอร์ทหวินช่วยตลอด กลับไม่เห็นวี่แววของเวินเที๋ยนเที๋ยนออกมาสักที
สีฟ้ายิ่งอยู่ยิ่งมืดขึ้น ได้ยินลูกค้าที่เพิ่งออกมาบอกว่าเหมือนเกิดความวุ่นวายขึ้นเมื่อไม่นานมานี้
เขาจึงรู้สึกเป็นห่วง ตอนที่กำลังคิดอยู่ว่าจะเข้าไปดีไหม ในที่สุดก็เห็นเวินเที๋ยนเที๋ยนเดินออกมาจากข้างในสักที
เธอกำลังใจลอย เหมือนกับกำลังคิดอะไรอยู่
พ่อบ้านจึงรีบเดินเข้าไปหา
“ คุณหนู เป็นยังไงบ้างครับ คุณไม่เป็นอะไรใช่ไหม? ”
เหมือนกับเวินเที๋ยนเที๋ยนไม่ได้ยินเสียงของเขา แม้แต่การกระทำของเธอก็หยุดลงด้วยเช่นกัน
“ คุณหนูครับ? ” พ่อบ้านมองเธออย่างเป็นห่วง
ตอนนี้เวินเที๋ยนเที๋ยนถึงได้เงยหน้าขึ้นมา สายตาคู่นั้นค่อยๆรวบรวมจุดโฟกัสช้าๆ ในตาฟื้นคืนแสงมันวาวขึ้นเหมือนเดิม
เธอกระพริบตา ริมฝีปากเปิดออกช้าๆ
“ พ่อบ้าน…… ”
พ่อบ้านมองเธออย่างร้อนใจ กลัวว่าเวินเที๋ยนเที๋ยนจะถูกรังแกมา
น้ำเสียงของเวินเที๋ยนเที๋ยนเบามาก ผสมไปด้วยความรู้สึกว่างเปล่าบางอย่าง
“ เหมือนฉัน……เห็นจี้จิ่งเชิน…… ”
ลมพัดเบาๆ พัดปลายผมของเธอให้ลอยขึ้น และก็พัดเสียงของเธอให้กระจายออกไป
พ่อบ้านได้ฟังคำนั้น รูม่านตาก็ขยายขึ้นทันที เขาเบิกตาโต
“ คุณ คุณผู้ชาย? ”
เวินเที๋ยนเที๋ยนนึกถึงใบหน้าที่เพิ่งเห็นเมื่อสักครู่ นึกถึงเสียงเสียงนั้น ก็รู้ว่าเป็นจี้จิ่งเชินอย่างไม่ต้องสงสัยเลยสักนิดเดียว
แต่เธอก็จำได้แม่นว่าตอนนั้นจี้จิ่งเชินนั่งอยู่บนรถเข็น……
เธอขมวดคิ้ว ถ้าจี้จิ่งเชินอยู่แถวนี้มาตลอด ทำไมไม่โผล่ออกมา?
ทำไมไม่มาหาเธอ?
ถึงขนาดที่ช่วยเธอเสร็จแล้ว กลับรีบจากไปอย่างรวดเร็ว?
ผ่านไปสักพัก ในที่สุดพ่อบ้านก็หาความรู้สึกของตัวเองกลับมาได้
เขาเดินมาที่ข้างหน้าเวินเที๋ยนเที๋ยนอย่างตื่นเต้น ดวงตาของเขาเบิกโตนิดหน่อย
“ แล้วคุณผู้ชายล่ะครับ? ทำไมเขาไม่ออกมากับคุณด้วย? ”
เขามองเข้าไปในประตูใหญ่ของรีสอร์ทหวินช่วยคล้ายกับอยากหาร่องรอยของจี้จิ่งเชินให้เจอ
“ คุณผู้ชายยังอยู่ข้างในไหมครับ? ผมจะให้คนไป…… ”
ยังพูดไม่จบ เวินเที๋ยนเที๋ยนก็ส่ายหน้าไปมา หัวคิ้วของเธอชนกันเล็กน้อย
“ ฉันหาแล้ว เขากลับไปแล้ว ”
ประโยคเดียว ก็ทำให้อารมณ์ของพ่อบ้านพังทลายลงมาทันที
“ กลับไปแล้ว? ทำไมคุณผู้ชายถึง…… ”
“ อาจจะมีเรื่องสำคัญอะไรบางอย่าง หรืออาจจะมีเหตุผลที่โผล่ออกมาไม่ได้ ”
เวินเที๋ยนเที๋ยนหาข้ออ้างให้กับตัวเอง เธอสูดหายใจเข้าลึกๆ
“ ยังดีที่เขากลับมา ”
เธอหันไปมองพ่อบ้าน และเผยรอยยิ้มออกมาเป็นครั้งแรก หลังจากที่จี้จิ่งเชินประสบอุบัติเหตุ
“ ดีจัง ”
พ่อบ้านเห็นท่าทีของเธอ ก็ตกตะลึงไปเล็กน้อย
เสียงของเวินเที๋ยนเที๋ยนเบามาก ใบหน้ามีรอยยิ้มอ่อนโยน ตอนนั้น เห็นได้ชัดว่ามองเห็นเขา ในตาของเธอก็เกิดแสงสว่างขึ้น
เหมือนความเป็นห่วง ความกลัว และความไม่สบายใจที่ถูกกดทับอยู่ในก้นบึ้งหัวใจมาเป็นเวลานานได้ระบายออกมาหมดแล้ว
เธอเงยหน้าเช็ดน้ำตาที่ติดอยู่ตรงหางตา และขึ้นรถ
รถค่อยๆเคลื่อนออกจากรีสอร์ทหวินช่วยและขับเลียบไปยังเส้นทางกลับไปที่ปราสาท
พ่อบ้านนั่งอยู่ข้างคนขับ กลับได้ยินเสียงสะอื้นดังมาจากทางด้านหลัง
เขามองจากกระจกส่องหลัง เห็นเวินเที๋ยนเที๋ยนโค้งตัวเอาหน้าลงไปแนบกับหัวเข่า และแอบร้องไห้เสียงเบา
ภายใต้การสั่งการของพ่อบ้านจึงทำให้รถค่อยๆขับไปอย่างช้าๆ ใช้เวลาหนึ่งชั่วโมงถึงจะมาถึงปราสาท
รอจนประตูรถเปิดออกอีกครั้ง ตอนที่เวินเที๋ยนเที๋ยนเดินออกมาจากรถก็ได้กลับมาเป็นปกติแล้ว แถมยังรู้สึกกระปรี้กระเปร่ามากกว่าเดิมอีกต่างหาก
พ่อบ้านเดิมตามอยู่ด้านหลัง และพูดถามขึ้น: “ คุณหนูครับ ให้คนไปหาคุณผู้ชายไหม? ”
“ ในเมื่อเขาตั้งใจหลบซ่อน ก็คงจะมีจุดประสงค์ของตัวเอง ”
เธอไตร่ตรองสักครู่ และพูดขึ้น: “ ฉันเดาอะไรออกบ้างแล้ว พรุ่งนี้ฉันจะไปหาเอง ”
วันต่อมา เวินเที๋ยนเที๋ยนรีบไปที่บริษัท และบอกเรื่องนี้กับจงหลี
“ จี้จิ่งเชินอยู่ที่เมืองหลวงมาตลอด นายต้องเก็บความลับ ตอนนี้ห้ามให้คนของตระกูลเวินรู้เรื่องนี้เด็ดขาด ”
เธอพูดอย่างตื่นเต้น กลับเห็นจงหลีนั่งเงียบ ไม่พูดอะไร เธอจึงหันมามองอย่างสงสัย
“ จงหลี เมื่อสักครู่ที่ฉันพูด นายได้ยินไหม? ”
ตอนนี้จงหลีถึงค่อยดึงสติกลับมาได้
“ ได้ยินแล้วครับ ”
เขาคิดอยู่สักครู่ และพูดถามขึ้น: “ คุณหาประธานจี้เจอแล้วหรือยังครับ? ”
เวินเที๋ยนเที๋ยนส่ายหน้า ท่าทีไม่เป็นกังวลเลยสักนิดเดียว
“ ถึงแม้ว่าเขาจะโผล่หน้ามาสักครู่แล้วก็หนีไป แต่ถ้าฉันเดาไม่ผิด ก็คงจะเป็นที่นั่น ”
ตอนบ่าย ทั้งสองคนได้มาที่บริษัทจีนเซิน อีกครั้ง
ไม่เหมือนกับตอนมาเมื่อสองครั้งก่อน เห็นได้ชัดว่าฝีเท้าของเวินเที๋ยนเที๋ยนกำลังเร่งรีบ
เธอเดินเข้าบริษัทมาอย่างรีบร้อน พอเข้ามาได้ก็เดินไปที่ห้องทำงานของต่งไห่ทันที
เขากำลังเล่นเกมส์อยู่ข้างใน เสียงเปิดประตูทำให้เขาตกใจจนแทบจะกระโดดขึ้นมาเลยทีเดียว
“ คุณ คุณเวิน คุณมาได้ยังไงครับ? ”
เขาตื่นเต้นจนทำให้พูดติดอ่าง ตั้งแต่เรื่องครั้งที่แล้ว เขายังคิดว่าเวินเที๋ยนเที๋ยนจะไม่มาที่นี่อีกแล้วซะอีก
ไม่คิดว่าวันต่อมา เธอจะกลับเข้ามาอีกครั้ง
เขาพูดอย่างลำบากใจ: “ คุณคงไม่ได้มาปรึกษาผมเรื่องโครงการนั้นใช่ไหม? ขอโทษจริงๆครับ ผมให้ความจริงใจไปอย่างเพียงพอแล้ว อีกอย่าง ทางเราแค่อยากร่วมมือกับบริษัทคุณบริษัทเดียวเท่านั้น
เวินเที๋ยนเที๋ยนพยักหน้า สายตากวาดมองไปในห้องทำงาน และไปหยุดอยู่บนกระจกที่คล้ายกับรูปวาดบานนั้น
เพียงแต่ครั้งนี้ สายตาที่ร้อนระอุนั้นกลับหายไปแล้ว
เธอหันไปยิ้มกับต่งไห่และพูดขึ้น: “ คุณเข้าใจผิดแล้วล่ะค่ะ ที่ฉันมาวันนี้ เพื่อจะมาบอกคุณว่าบริษัทเอ็มไอกรุ้ปตัดสินใจร่วมมือกับพวกคุณแล้วค่ะ ”
ประโยคนี้หลุดออกไปต่งไห่กับจงหลีก็ตกใจทันที
“ คุณเวิน…… ” จงหลีกำลังจะพูดถาม กลับถูกเวินเที๋ยนเที๋ยนห้ามไว้ก่อน
“ เป็นยังไง? เมื่อไหร่จะเซ็นสัญญากันล่ะคะ? ” เวินเที๋ยนเที๋ยนถามต่งไห่ตรงๆ
ต่งไห่ชะงักไป ไม่นานก็ตอบสนองกลับมาได้
“ อันนี้……อันนี้ผมยังต้องปรึกษากับพนักงานบริษัทก่อน ถึงจะสามารถตัดสินใจได้ ”
ไม่ใช่ว่าคุณเป็นผู้รับผิดชอบของบริษัทหรอกหรอ? เป็นคุณเองที่ก่อตั้งบริษัท คุณรับผิดชอบทุกอย่าง ยังต้องปรึกษากับพนักงานอีกหรอคะ? ” เวินเที๋ยนเที๋ยนถามกลับ
สีหน้าของต่งไห่ดูไม่ได้เป็นอย่างมาก
“ ใช่……ใช่ครับ ”
เขาเช็ดเหงื่อบนหน้าผาก
เวินเที๋ยนเที๋ยนพูดต่อ: “ ถึงตอนนั้นฉันจะจัดประชุมนักข่าว และประกาศเรื่องการร่วมมือของคุณกับพวกเรา แต่คุณก็คงรู้ว่าโครงการนี้มีความเสี่ยง สถิติการล้มเหลวก็มีอยู่มาก ถ้าเกิดความผิดพลาดอะไรขึ้นมาจริงๆ คุณก็ต้องรับผิดชอบด้วยเหมือนกันนะคะ ”
“ หา? ”
ต่งไห่งงเป็นไก่ตาแตกไปแล้ว เขาพูดขึ้นอย่างตกตะลึง: “ ใช้สถานะของผมหรอ? ”
“ แน่นอนค่ะ ”
ต่งไห่ได้ฟังก็ยิ่งกระวนกระวายใจขึ้นไปอีก เหงื่อบนหน้าผากไหลลงมาอย่างต่อเนื่อง
“ ถ้าการร่วมมือมีปัญหา ผมต้องชดใช้เท่าไหร่ครับ? ”
เวินเที๋ยนเที๋ยนพูดอย่างเคร่งขรึม: “ เงินลงทุนของโครงการนี้เกินหนึ่งร้อยล้านบาท ถ้าเกิดความผิดพลาดขึ้นมาจริงๆ ยังไงก็ต้องแบ่งกันรับผิดชอบอย่างเท่าเทียมกันค่ะ ”
โอ้โห!
ต่งไห่ตกใจจนลงไปนั่งกับพื้นด้วยใบหน้าที่ขาวซีด
“ เยอะขนาดนั้นเลย! ”
เวินเที๋ยนเที๋ยนพูดยิ้มๆ: “ นี่ยังถือว่าน้อย ถ้ารอจนเริ่มงานแล้วก็คงจะเกินที่คาดการณ์ไว้ คุณต่งนี่เป็นโครงการที่คุณเขียนขึ้นมาเอง คุณต้องรู้อย่างชัดเจนสิถึงจะถูก ”
“ ผม……ผม…… ”