เมียหวานของประธานเย็นชา – ตอนที่ 359

ตอนที่ 359

บทที่ 359 ฉันกลับมาแล้ว

ในห้องหนังสือตระกูลเวิน

เวินฉี่กำลังดูข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ที่อยู่ภายใต้ชื่อของจี้จิ่งเชินในมือ

เวินหงไห่ยืนอยู่ตรงข้ามด้วยท่าทางนอบน้อม มุมปากยกขึ้นเล็กน้อย ปรากฏให้เห็นรอยยิ้มแห่งความหลงลืมตัวออกมาอย่างคางคกขึ้นวอ

“เมื่อครู่นี้ทางธนาคารโทรมา ว่าหลังจากที่พวกเขานำเอาเครดิตของจี้จิ่งเชินผลักออกไปอีกหนึ่งสัปดาห์ รอจนถึงตอนนั้น อสังหาริมทรัพย์ที่อยู่ของภายใต้ชื่อเขาจะต้องถูกยกเลิกการอายัด”

ขณะที่เอ่ยขึ้นมานั้น แววตาของเวินหงไห่ก็ปรากฏถึงความเหยียดหยามออกมาเล็กน้อย

คนที่ธนาคารนั้นขี้ขลาดเกินไป เพียงแค่พวกเขาจะช่วยออกหลักฐานรับรองบางอย่างให้เท่านั้น ตอนนี้พอเกิดเรื่องขึ้นก็ตกใจกันเสียแล้ว

แต่ถ้าหากจะยืดเยื้อต่อไปอีก พวกเขากลัวว่าจะมีหลักฐานที่ไม่เป็นประโยชน์หลุดออกมาเสียก่อน

เวินฉี่ได้ยินคำพูดของเขาแล้ว จึงเงยหน้าขึ้นมาจากเอกสาร

“แน่ใจว่าจี้จิ่งเชินตายแล้วใช่ไหม?”

เวินหงไห่ได้ยินประโยคนี้แล้ว รู้สึกลังเลขึ้นมา แต่คิดแล้วนั้นจึงเอ่ยพูดขึ้นมา : “พวกเขาเห็นกับตาตอนที่จี้จิ่งเชินถูกคานเสาที่ไฟไหม้หล่นใส่ ต่อมาก็ไม่เห็นว่ามีคนออกมาแล้ว น่าจะมีชีวิตอยู่ต่อไม่ได้หรอกครับ แต่ว่า…..”

เขานึกไปถึงที่ว่าจนตอนนี้ยังไม่เจอศพของจี้จิ่งเชินเลยนั้น จึงรู้สึกลังเลขึ้นมา

หลังจากที่ไฟไหม้แล้วนั้น พวกเขาได้ไปหาแล้วรอบหนึ่ง ก็ไม่เจอเหมือนกัน

เวินฉี่ฟังออกถึงความลังเลในน้ำเสียงของเขา ดวงตาของเขาคมกริบขึ้นมาในทันที

“แต่อะไร?”

เวินหงไห่ถูกแววตาที่กำลังขู่บังคับของเวินฉี่มองมาจนรู้สึกตกใจอึ้งไป จึงก้มหน้าลง แล้วเอ่ยพูดขึ้นอย่างแน่วแน่ : “จี้จิ่งเชินจะต้องตายอยู่ในกองเพลิงนั้นอย่างแน่นอนครับ”

ในสถานการณ์เช่นนั้น จี้จิ่งเชินไม่มีทางที่สามารถจะมีชีวิตอยู่ต่อได้อยู่แล้ว

และยิ่งไปกว่านั้น หากเวินฉี่รู้เข้าว่าแม้แต่เรื่องเล็กๆแบบนี้ยังจัดการได้ไม่ดี จะต้องถูกด่าว่ายกใหญ่อย่างแน่นอน

เวินฉี่มองไม่ออกถึงแผนรายนี้ในใจของเขา จึงพยักหน้า

“ตอนแรกทำให้อสังหาริมทรัพย์ภายใต้ชื่อของเขาถูกอายัดไป เดิมทีก็เป็นแค่แผนการชั่วคราวเท่านั้น ตอนนี้จี้จิ่งเชินตายแล้ว แกเตรียมตัวไว้ ถึงตอนนั้นแล้วก็ซื้ออสังหาริมทรัพย์ที่อยู่ภายใต้ชื่อของเขามาให้ได้”

ใบหน้าของเวินหงไห่แสดงความดีใจออกมาเมื่อได้ยินเช่นนี้

“จี้จิ่งเชินเดิมทีก็ตัวคนเดียวอยู่แล้ว เขาตายไป บริษัทและทรัพย์สินทั้งหมดก็กลายเป็นไม่มีเจ้าของ ถึงตอนนั้นรับซื้อมาในราคาที่ต่ำ ก็จะได้กำไรมากก็ว่าได้”

เวินฉี่พยักหน้า แล้วปิดข้อมูลในมือลง เอาวางไว้ข้างๆ

“ให้แกไปจัดการแล้วกัน ครั้งนี้ อย่าทำให้ฉันต้องผิดหวังอีก”

“วางใจได้เลยครับพ่อ”

เวินหงไห่เอ่ยออกมาด้วยความมั่นใจ คิดอยู่พักหนึ่งแล้วจึงเอ่ยขึ้นมา : “ตอนที่ผมเพิ่งจะเข้ามา ได้ยินว่าเวินเที๋ยนเที๋ยนไปที่ซากปรักหักพังของตระกูลจี้ ไม่ต้องขวางเธอหรอกหรือครับ?”

“เธออยากจะไปก็ให้เธอไปเถอะ ต่อให้ไปอีกซักกี่ครั้ง ก็เปลี่ยนแปลงอะไรไม่ได้ ตรงกันข้าม…..”

เวินฉี่พูดออกมาเพียงครึ่งเดียว แล้วหยุดเว้นวรรคไปพักหนึ่ง แววตามองตรงไปยังเวินหงไห่ “วันนั้นที่ไฟไหม้ตระกูลจี้ เวินเที๋ยนเที๋ยนเข้าไปในบ้านนั้นได้อย่างไร?”

เวินหงไห่ได้ยินประโยคนี้แล้ว ร่างกายของเขาก็แข็งทื่อขึ้นมาทันใด

วันนั้นที่เวินเที๋ยนเที๋ยนพุ่งเข้าไปในบ้านตระกูลจี้นั้น เขาจงใจปล่อยให้เป็นแบบนั้น

เวินฉี่เห็นเวินเที๋ยนเที๋ยนเป็นคนหนึ่งที่มีเลือดเนื้อเชื้อไขของตระกูลเวิน แต่เขาไม่คิดเช่นนั้น

ถึงอย่างไรตายหนึ่งคนก็ต้องเผา สองคนก็ต้องเผาเหมือนกันอยู่แล้ว

เขารู้สึกว่าเวินเที๋ยนเที๋ยนมีชีวิตอยู่ต่อไป ก็จะกลายเป็นตัวถ่วงของเขา

ลูกสาวของเวินหงหยู้กับหล่อนหลี ไม่ว่าจะมองอย่างไร ก็จะล้วนแต่จะกลายเป็นการคุกคามได้ทั้งนั้น

แต่ที่นึกไม่ถึงนั้นก็คือ นายทหารเก่าสองนายที่เวินฉี่ส่งมานั้นจะหาที่นั่นเจอ แล้วกลับเข้าไปช่วยเธอออกมาได้เสียอย่างนั้น

ตอนก่อนหน้านี้เวินฉี่ไม่ได้บอกเรื่องนี้กับเขา เวินหงไห่ยังคิดว่าทหารทั้งสองนายนี้จะไม่ได้บอกเรื่องนี้กับเวินฉี่ นึกไม่ถึงเลยว่าพวกเขาจะพูดออกไปแล้ว

เขาคิดอย่างไรก็คิดไม่ตก ว่าทำไมเวินฉี่ถึงต้องพาตัวเวินเที๋ยนเที๋ยนกลับมาหลายต่อหลายครั้ง?

เวินหงไห่คิดไปพลางเอ่ยขึ้น : “ผมเองก็คิดไม่ถึงว่าจู่ๆเธอจะปรากฏตัวขึ้น เธอมุดเข้าไป จนเกือบจะเกิดเรื่อง”

เขาหลีกเลี่ยงปัญหาสำคัญ พูดออกมาอย่างรวบรัด ก้มหน้าลง กังวลว่าเวินฉี่จะตำหนิว่าเอา

เวินฉี่เงียบอยู่สักพักหนึ่ง กลับเอ่ยขึ้นเพียงแค่ว่า : “ฉันรู้ว่าแกทนมองเธอไม่ได้ แต่เวินเที๋ยนเที๋ยนยังมีประโยชน์อยู่”

เวินหงไห่รีบพยักหน้าลง

“ผมรู้ครับ”

เวินฉี่พยักหน้า และขณะที่เพิ่งจะพูดจบนั้น จู่ๆก็ได้ยินเสียงโต้เถียงกันดังขึ้นมาจากทางด้านนอก

“คุณเวิน คุณไม่สามารถเข้าไปได้นะครับ”

“คุณเวิน!”

เวินฉี่เงยหน้าขึ้นไปมองทางประตู แล้วจู่ๆประตูห้องหนังสือก็ถูกคนเปิดเข้ามา

เวินเที๋ยนเที๋ยนปรากฏตัวอยู่ตรงหน้าประตู

เห็นได้ชัดว่าเธอมาจากบ้านตระกูลจี้ที่มีแต่ซากปรักหักพังหลังนั้น ร่างกายของเธอนั้นยังคงมีฝุ่น ใบหน้าเปื้อนดำ ดูตกอยู่ในที่นั่งลำบากยิ่งนัก มีเพียงแต่ดวงตาคู่นั้นที่ส่องแสงสว่างออกมาอย่างผิดปกติ

ในใจของเวินฉี่นั้นเต้นแปลกๆ ขมวดคิ้วขึ้นมาเล็กน้อย ดูลุกลี้ลุกลนอยู่บ้าง

“ออกไปรอบนึง แม้แต่มารยาทพื้นฐานก็ไม่รู้จักแล้วอย่างนั้นหรือ?”

เวินเที๋ยนเที๋ยนไม่ตอบ แต่ยืนอยู่ตรงหน้าประตู แล้วมองพิจารณาทั้งสองคนที่อยู่ในห้องรอบหนึ่ง ในที่สุดถึงได้ก้าวเท้าเข้ามาด้านใน

“พวกคุณเป็นคนวางเพลิง” เธอเอ่ยขึ้นอย่างตรงไปตรงมา

เวินฉี่และเวินหงไห่คาดไม่ถึง ว่าเวินเที๋ยนเที๋ยนจะเอ่ยออกมาตรงๆเช่นนี้ ต่างก็ล้วนพากันขมวดคิ้ว แล้วมองไปยังคนสองสามคนที่อยู่ทางด้านหลังของเวินเที๋ยนเที๋ยน

เวินฉี่เงยหน้าขึ้นมา แล้วเอ่ยพูดกับสองสามคนนั้น : “พวกแกลงไปก่อน”

“ครับ”

สองสามคนนั้นถอยออกไปอย่างเป็นระเบียบ แล้วปิดประตูลง

ภายในห้องจึงเงียบลงอีกครั้ง

เวินฉี่ถึงได้เอ่ยขึ้น : “ปลาหมอตายเพราะปาก เรื่องที่ไม่มีหลักฐาน ก็ไม่ควรจะพูดไปทั่วแบบนี้”

เวินเที๋ยนเที๋ยนกำหมัดแน่น

“ตั้งแต่เรื่องที่อายัดอสังหาริมทรัพย์ของจี้จิ่งเชิน จนเรื่องที่บีบบังคับให้เขากลับเข้าไปอยู่ที่บ้านตระกูลจี้ ล้วนแต่เป็นแผนที่พวกคุณวางกันเอาไว้แล้วทั้งนั้นเลยสินะ?”

แต่เวินฉี่กลับจิบน้ำชาที่วางอยู่บนโต๊ะด้วยท่าทางสบายๆ

“เธอรีบกลับมา ก็เพื่อจะมาพูดเรื่องนี้อย่างนั้นหรือ?”

เขาเงยหน้าขึ้น มองเถ้าถ่านที่อยู่บนร่างของเวินเที๋ยนเที๋ยน แล้วเอ่ยขึ้นอย่างไม่พอใจ : “ไปจัดการตัวเองให้สะอาดซะ ถ้าหากมีคนนอกมาเห็นเข้า จะอับอายขายขี้หน้าตระกูลเวินเปล่าๆ”

เวินเที๋ยนเที๋ยนสูดหายใจเข้า แล้วข่มระงับความโกรธที่อยู่ภายในใจเอาไว้

เบาะแสของจี้จิ่งเชินยังไม่ชัดเจน เป็นตายอย่างไรก็ยังไม่รู้

บริษัทเอ็มไอกรุ้ปได้รับการโจมตีอย่างหนัก ทรัพย์สินทั้งหมดถูกอายัด

แล้วผ่านไปอีกไม่กี่วัน ก็จะถูกประกาศขายแล้ว

ส่วนผู้ร้ายที่อยู่ตรงหน้าเธอกลับมานั่งกันอย่างสบายใจอยู่ตรงนี้ ใช้ชีวิตกันอย่างมีความสุข

แล้วจะให้เธอไม่เกลียดพวกเขาได้อย่างไร?

ยิ่งควบคุม ความโมโหภายในใจก็ยิ่งพุ่งสูงขึ้น ราวกับว่ากำลังจะครอบงำสติของเธออย่างไรอย่างนั้น!

เธอกำหมัดแน่น มองด้วยแววตาที่เฉียบคม

“ถึงแม้ว่าจี้จิ่งเชินจะไม่สามารถกลับมาได้ชั่วคราว แต่ฉันเองก็จะไม่ยอมให้พวกคุณแย่งบริษัทเอ็มไอกรุ้ปและสิ่งของที่เป็นของเขาไปหรอกนะคะ”

เวินฉี่ได้ยินประโยคนี้แล้ว การดื่มชาของเขาจึงชะงักลง แล้วเงยหน้าขึ้นมามองเวินเที๋ยนเที๋ยน

“จี้จิ่งเชินตายแล้ว เธออยากที่จะปกป้องของพวกนั้นไปตลอดชีวิต…..”

“เขายังไม่ตาย!”เวินเที๋ยนเที๋ยนเอ่ยเสียงสูง ขัดคำพูดของเขาขึ้นมา

เวินฉี่มองไปทางเวินหงไห่แวบหนึ่ง แล้วหัวเราะเยาะออกมา : “ในเมื่อเธอเป็นแบบนี้ ถ้าอย่างนั้นเธอเตรียมตัวที่จะปกป้องสิ่งของของจี้จิ่งเชินอย่างไรล่ะ?”

“ฉันมีวิธีของฉัน”

ว่าแล้ว เวินเที๋ยนเที๋ยนก็เตรียมที่จะหันกลับออกไป

“เธอจะไปไหนอีก?” เวินฉี่ตะโกนขึ้นมาจากทางด้านหลังเธอ

ขาของเวินเที๋ยนเที๋ยนชะงัก พลางเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงนิ่งๆ : “วางใจเถอะค่ะ นับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ฉันจะอยู่ที่ตระกูลเวินตลอดอยู่แล้ว”

“ไม่ใช่ว่าพวกคุณต้องการให้ฉันกลับมาหรอกหรือคะ?”

เธอหันมา แล้วใช้หางตามองไปยังเวินฉี่และเวินหงไห่ที่อยู่ในห้อง

“ตอนนี้ ฉันกลับมาแล้ว”

พูดจบนั้น เธอก็ก้าวเท้าเดินออกไป แล้วเสียงปิดประตูดังปึงก็ดังขึ้น

เมียหวานของประธานเย็นชา

เมียหวานของประธานเย็นชา

Status: Ongoing

“คุณจะคิดแบบนี้ไปถึงเมื่อไรถึงจะกลับบ้านได้?” จี้จิ่งเชินพูดออกมาอย่างจนใจ เขารีบมาที่นี่ทันทีตั้งแต่รับสาย และยืนดูเธอเดินวนคิดเป็นหนูติดจั่นแบบนี้มาครึ่งชั่วโมงแล้ว เธอไม่กล้าออกมา เพราะเธอกลัวว่าถ้าเขารู้เรื่องเข้า เขาจะทำอย่างไร สุดท้ายสิ่งที่เขาทำ คือ จูบหน้าผากของเธอ “ผมเชื่อคุณ… ไม่ต้องอธิบายอะไร ผมก็เชื่อคุณ”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท