บทที่ 427 เขาตอนนี้ ก็แค่คนพิการ
เจียงหยู่เทียนเห็นเวินเที๋ยนเที๋ยนเดินออกมา กลับไม่กังวล
กลับพูดว่า:“พวกคุณถูกจี้จิ่งเชินหลอกแล้ว!”
เวินเที๋ยนเที๋ยนกำหมัดแน่น สีหน้าซีดขาว
จงหลีก่อนหน้านี้บอกเธอจริงๆ จี้จิ่งเชินเคยขังพวกเจียงหยู่เทียนทั้งสามคนไว้ในบ้านตระกูลจี้
ตอนไฟไหม้ พวกเขาก็อยู่ข้างในจริงๆ
แต่ที่เธอพูดอีกเรื่องหนึ่ง เธอไม่เชื่อสักนิด!
จี้จิ่งเชิน จะทำแบบนี้ได้ไง?
สังเกตถึงสายตาคนพวกนั้นที่มองไปที่จี้จิ่งเชิน เธอกัดฟัน ยืนตรงหน้าจี้จิ่งเชิน
ปิดกั้นสายตาพวกนั้นเพื่อเขา
“หลักฐาน?หลักฐานคุณจะว่ายังไง?”
“หลักฐาน?”
เจียงหยู่เทียนมองจี้จิ่งเชินที่ไม่พูดอะไร ก็พูดขำๆ:“หลักฐานไม่ใช่ว่าถูกพวกคุณกำจัดหมดแล้วเหรอ?”
“จี้ยี่หยันกับฉวีช่วยฉินที่ถูกขังไว้ที่ตระกูลจี้กับฉันตอนนั้น ต่างถูกพวกคุณพาเข้าคุก ตอนนี้อยากจะพิสูจน์ก็หาใครไม่ได้แล้ว ส่วนลูกของฉัน พอเกิดมาก็เสียแล้ว ที่ฉันพูดคือความจริง เชื่อไม่เชื่อแล้วแต่คุณ!”
“คุณ!”
เวินเที๋ยนเที๋ยนโกรธจนเดินหน้าไปสองก้าว แต่มือกลับถูกจับไว้
เวินเที๋ยนเที๋ยนถูกดึงให้หยุดไว้ หันมองไปที่จี้จิ่งเชิน
กลับเห็นที่ใบหน้าจี้จิ่งเชิน มีรอยยิ้มบางๆ
เหมือนเดาออกนานแล้วว่าเจียงหยู่เทียนจะทำแบบนี้ เลยเตรียมไว้แล้ว
“สำหรับเรื่องของคุณ ผมจะตรวจสอบ หลักฐานก็ต้องมี ความจริงจะเป็นยังไง?คุณควรจะชัดเจนเหมือนผม”
เขาควบคุมรถเข็น หันมองไปที่ทุกคนในงาน พูด:“สามวันจากนี้ ผมจะเอาความจริงของเรื่องบอกทุกคน ทุกคนโปรดรอ”
พูดจบ เขาก็ไม่อยู่ต่อ แต่หมุนตัวออกไป
เวินเที๋ยนเที๋ยนจะตามเข้าไป มองเห็นเจียงหยู่เทียนที่กำลังยิ้มอย่างภูมิใจ ทันใดนั้นก็หยุดลง ขมวดคิ้ว
“เจียงหยู่เทียน คุณยังไม่หยุดใช่ไหม?”
เจียงหยู่เทียนที่กำลังจะหันไปพูดกับเวินหงไห่ ได้ยินเสียงเธอ ก็มองมาอีกครั้ง
“หยุด?ทำไม?”
เธอกัดฟัน ดวงตามีความชั่วร้าย
“เป็นพวกคุณที่บังคับฉัน!”
เธอกัดฟันพูด ร่างเกร็ง เหมือนพร้อมเดือดได้ตลอด
เวินหงไห่ที่อยู่ข้างๆตอนนี้ก็ขำ เดินเข้าไป แสดงท่าทางที่เป็นภัยออกไป
“เที๋ยนเที๋ยนมักจะมองคนผิดตลอด ตรงนี้ผมชัดเจนมาก ครั้งนี้ก็คงถูกจี้จิ่งเชินหลอกสินะ?”
เวินเที๋ยนเที๋ยนมองคนเลวทรามสองคนตรงหน้า กัดฟันแน่นทันที
“ฉันจะต้องหาหลักฐานได้!”
“หาสิ!ฉันรอคุณอยู่!”
สายตาของเจียงหยู่เทียนดูดุร้ายผิดปกติ ชักใบหน้าใส่
“วันนี้ฉันตกลงมาถึงจุกนี้ ก็เพราะคุณกับจี้จิ่งเชิน ฉันไม่อยู่ดี ก็ไม่มีทางให้พวกคุณได้อยู่ดีหรอก!”
เวินเที๋ยนเที๋ยนเห็นสายตาเธอมีความบ้าคลั่งยิ่งขึ้น
“คุณดื้อดึงไม่ยอมรับผิด”
พูดจบ เธอก็สะบัดมือเจียงหยู่เทียนออก หมุนตัวเดินไปที่จี้จิ่งเชิน
พอเขาออกไป ในที่สุดเจียงหยู่เทียนก็ละสายตา
“แบบนี้ จี้จิ่งเชินอยากจะควบคุมบริษัทเอ็มไอกรุ้ปอีกครั้ง ก็ไม่ง่ายแล้วสินะ?ชื่อเสียงไม่ดี อะไรก็ไม่มี”
เวินหงไห่ที่ยืนอยู่ข้างๆก็ดื่มไวน์แดงอย่างช้าๆ
พูดอย่างมั่นใจ:“คุณได้ทิ้งร่องรอยอะไรไว้ไหม?”
ได้ยินคำนี้ เจียงหยู่เทียนก็แข็งไปทั้งตัว
เวินหงไห่พูดต่อ:“เด็กนั่น คุณจัดการดีแล้วจริงๆเหรอ?”
เจียงหยู่เทียนพยักหน้า
“ถ้าคนนั้นไม่พูด คงไม่มีอะไรผิดพลาด”
แต่เวินหงไห่ยังไม่วางใจ พูดเตือน:“เตรียมให้พร้อมดีที่สุด อย่าให้พวกเขาหาเจอได้”
พูดไป ก็เหลือบมองเจียงหยู่เทียน“ถ้าคุณไม่วางใจ เอาลูกมาให้ผมได้”
เจียงหยู่เทียนหันไปมองเขาอย่างหวาดกลัว เวินหงไห่พูดเสียงทุ้ม
พูดต่อ:“แค่มีคนตายผมถึงวางใจ”
เจียงหยู่เทียนฟัง สูดลมหายใจ
“หรือว่าคุณต้องการ……”
เธอไม่กล้าพูดต่อ แต่มองไปที่ท่าทางของเวินหงไห่ ก็เข้าใจทุกอย่าง ทันใดนั้นหน้าก็ซีดเหมือนกระดาษ
ถึงเธอจะไม่รู้สึกอะไรกับลูกคนนี้ อีกฝ่ายตายหรืออยู่ ไม่มีผลอะไรกับเธอ
แต่ เสือยังไม่คิดจะทำร้ายลูกตัวเองเลย
หรือว่าต้องทำอย่างนี้จริงๆ?
เหมือนจะมองความลำบากใจของเธอออก เวินหงไห่ยื่นมือไปตบไหล่เธอ
“ถ้าคุณไม่อยาก ส่งให้ผมได้”
พูดจบ เขาก็จัดชุดสูทของตัวเอง หันออกไป แต่ทิ้งคำพูดไว้ลอยๆว่า
“คืนพรุ่งนี้ เอาเด็กมา ผมจัดการเอง”
เจียงหยู่เทียนยืนนิ่งที่เดิม กัดฟันแน่น
ลังเลพักหนึ่ง ในที่สุดก็พยักหน้า
“โอเค”
คาวมชั่วร้ายเป็นประกายในแววตาเธอ
ก็แค่ลูกลับๆ ไม่เกี่ยวอะไรกับเธอ
แค่เด็กนั่นตาย ทุกอย่างที่เธอต้องการก็อยู่ในมือ
เวินเที๋ยนเที๋ยนตามหลังจี้จิ่งเชินออกมาจากห้องงานเลี้ยง หาเขาเจอที่สวนกุหลาบหน้าปราสาท
จี้จิ่งเชินกับจงหลีอยู่ข้างๆน้ำพุ ไม่รู้กำลังพูดอะไร
เวินเที๋ยนเที๋ยนจะเข้าไปใกล้ ก็ได้ยินเสียงของจงหลี
“ประธานจี้ คุณเวินอยู่ในงานตลอด ไม่เป็นไรใช่ไหม?”
เวินเที๋ยนเที๋ยนได้ยินพวกเขาพูดถึงตัวเอง การเคลื่อนไหวหยุดทันที ยืนอยู่ที่เดิม ฟังอย่างระมัดระวัง
จี้จิ่งเชินเงียบอยู่พักหนึ่ง จึงพูด
น้ำเสียงมีความทำอะไรไม่ถูก
“เดี๋ยวให้พ่อบ้านส่งกลับไป ต่อไปอย่าให้เธอมาที่ปราสาทอีก บริษัทเอ็มไอกรุ้ป หรือสถานที่ใดๆของผม ไม่ให้เธอเข้ามาหมด”
จงหลีฟัง ดูเหมือนจี้จิ่งเชินต้องการจะตัดความสัมพันธ์กับเวินเที๋ยนเที๋ยนจริงๆ ขมวดคิ้วเล็กน้อย ไม่เข้าใจมากขึ้น
“ผมไม่เข้าใจ ประธานจี้ ทำไมคุณทำแบบนี้?”
เวินเที๋ยนเที๋ยนรอเขามานานขนาดนี้ ทุกวัน จงหลีต่างเห็นเธอผ่านมันไปได้กับตา
ตอนนี้แค่คิดถึงท่าทางตอนนั้นของเวินเที๋ยนเที๋ยน จงหลีก็ปวดใจสุดๆ
เหมือนจะฟังความรู้สึกในคำพูดของเขาออก จี้จิ่งเชินหันไปเล็กน้อย สายตามองไปที่จงหลีเบาๆ ทันใดนั้นก็คมกริบ
เขายังจำได้ ความรักของจงหลีต่อเวินเที๋ยนเที๋ยน……
“เรื่องพวกนี้ เธอไม่ต้องเข้ามาจะปลอดภัยที่สุด”ในที่สุดจี้จิ่งเชินก็อธิบาย
จงหลียังไม่เข้าใจ เหมือนจะยังอยากโน้มน้าว แต่ถูกจี้จิ่งเชินตัดบทก่อน
“คุณไม่ต้องพูดแล้ว เรื่องนี้ผมคิดดีแล้ว สภาพผมตอนนี้ คุณว่า จะเอาอะไรมาให้เวินเที๋ยนเที๋ยนได้?ตอนนี้เธอ เป็นถึงทายาทของตระกูลเวินกับตระกูลหล่อน ……”
จี้จิ่งเชินมีรอยยิ้มขมขื่น
จากตัวตนของเวินเที๋ยนเที๋ยนตอนนี้ พอที่จะหาคนที่เข้ากับเธอได้ คนนั้นไม่ใช่ตัวเองแน่นอน
ตอนนี้เขา ก็แค่คนพิการคนหนึ่ง
แม้แต่คนทั่วไปคนหนึ่งก็เทียบไม่ได้
เวินเที๋ยนเที๋ยนยืนอยู่หลังดอกไม้คนเดียว พอได้ยินประโยคนี้ ใบหน้าก็สั่นไหว
เพราะแบบนี้ไหม?
เพราะแบบนี้ จี้จิ่งเชินจึงรีบไล่เธอไป