บทที่ 446 ความวุ่นวายของรายการ
เวินเที๋ยนเที๋ยนรีบวิ่งมา สีหน้าเต็มไปด้วยความรู้สึกผิด
“ ขอโทษที่มาสายค่ะ ในระหว่างการเดินทางเกิดเหตุขัดข้องนิดหน่อย ทำให้เสียเวลาถ่ายรายการไหมคะ? ”
ผู้กำกับโบกมือไปมา และพูดขึ้นอย่างไม่ใส่ใจ: “ ไม่เป็นไร ถึงอย่างไรก็แค่สองนาที สถานที่ก็เพิ่งตกแต่งเสร็จ เริ่มถ่ายตอนไหนก็ได้ ”
พูดจบ เขาก็เรียกคนสองสามคนให้มาพาเวินเที๋ยนเที๋ยนไปแต่งหน้า
เมื่อสักครู่ เธอเดินเข้ามาอย่างเร่งรีบ บนหน้าผากจึงมีเหงื่อเกาะอยู่
เพิ่งเดินเข้าไปในห้องแต่งหน้า นั่งลง และเริ่มแต่งหน้าอย่างรวดเร็ว
ด้านหลังกลับมีเสียงพูดตำหนิดังขึ้น
“ โย ที่แท้ก็ทายาทของตระกูลหล่อนนี่เอง เก่งจริงๆ อยากมาตอนไหนก็มา ยังมีคนของรายการรออยู่อีก หน้าใหญ่สะจริง ”
เวินเที๋ยนเที๋ยนได้ฟังคำคำนั้น เธอก็ขมวดคิ้วนิดหน่อย กลับรู้สึกว่าเสียงเสียงนั้นไม่คุ้นเอาเสียเลย
เข้าร่วมรายการเมื่อสัปดาห์ก่อนๆ เธอไม่เคยได้ยินเสียงเสียงนี้
เธอเงยหน้ามองจากทางกระจกอย่างแปลกใจ
และเห็นว่าด้านหลังเธอก็มีผู้หญิงคนหนึ่งกำลังแต่งหน้าอยู่เหมือนกัน
เงาสะท้อนมาจากในกระจก สามารถเห็นว่าฝ่ายนั้นยังอายุไม่มาก น่าจะไม่เกินสามสิบ หล่อนใส่ชุดกระโปรงสีแดงสดที่ออกแบบให้แนบเนื้อ ทำให้สามารถมองเห็นเรือนร่างสวยงามของหล่อนได้อย่างชัดเจน
ตอนที่เวินเที๋ยนเที๋ยนมองไป ฝ่ายนั้นก็กำลังมองมาเหมือนกัน และกำลังสบตากับเวินเที๋ยนเที๋ยนอย่างไม่หวาดกลัว
พอเห็นสายตาของเวินเที๋ยนเที๋ยน หล่อนก็กลอกตาใส่เวินเที๋ยนเที๋ยนอย่างไม่เกรงใจ และส่งเสียงฮึออกมา
หล่อนยืนขึ้น บิดเอวไปมา และก็เดินออกจากห้องไปอย่างเชื่องช้า
และก็ได้พูดทิ้งท้ายไว้หนึ่งประโยค
“ ช่างเถอะ คนที่ไม่มีเงิน ไม่มีอิทธิพลอย่างพวกเรา ก็ทำได้เพียงเดินตามกฎ แหย่ไม่ได้ แหย่ไม่ได้ ”
พูดจบ เธอก็เดินออกไป
ผลักประตูจนเกิดเสียง และปิดลงอีกครั้ง
ช่างแต่งหน้ามองเวินเที๋ยนเที๋ยนด้วยสีหน้าลำบากใจ และมีท่าทีหวาดกลัว
“ หล่อนคือใคร? ทำไมครั้งก่อนฉันไม่เคยเห็นหล่อน? มาเข้าร่วมรายการเหมือนกันหรอ? ”
ช่างแต่งหน้าพยักหน้า เธอยื่นหน้าเข้ามาใกล้ และพูดขึ้นเสียงเบา
“ เป็นนักเรียนคนเดียวของอาจารย์ฟ่าน เมื่อวานรับโทรศัพท์ อาจารย์ฟ่านไม่สบาย จึงให้ลูกศิษย์ของเธอหลีเจียเวยมาเข้าร่วมแทนค่ะ ”
คล้ายกับว่าเธอนึกอะไรออก สีหน้าบนใบหน้าของเธอจึงเปลี่ยนเป็นตกใจทันที
“หลีเจียเวยอะนะ คุณเวิน คุณไม่รู้จักหรอคะ? ”
เวินเที๋ยนเที๋ยนส่ายหน้าอย่างสงสัย
“ ไม่มีใครแจ้งฉันว่าหล่อนจะมา ”
ช่างแต่งหน้าคิดอยู่สักครู่ และพูดขึ้น: “ ไม่ใช่ล่ะหลีเจียเวยคนนี้เธอไม่ธรรมดาเลยนะคะ ตอนนี้เธอกำลังดังมากๆ และได้หน้าได้ตามากเช่นกันค่ะ ”
“ ช่วงก่อน เธอแยกแยะของปลอมออกอย่างต่อเนื่อง และยังบูรณะโบราณวัตถุที่ทำยากได้อีกด้วย เพราะเธอหน้าตาสวย หุ่นดี แม้แต่คนนอกสายงานก็มักจะชอบเธอกันค่ะ ”
“ งั้นก็ไม่แย่หนิ ”
อาจเป็นเพราะช่วงก่อนที่เธอห่างหายจากวงการวัตถุโบราณมาเป็นเวลานาน จึงไม่ได้ยินข่าวที่เกี่ยวกับหล่อนเลย
ฟังดูแล้วหลีเจียเวยคนนี้ก็เก่งจริงๆด้วย
ช่างแต่งหน้าด้านหลังกลับถอนหอยใจออกมาเบาๆ
“ ทำไมแม้แต่คุณเวินก็พูดแบบนี้ล่ะคะ? ก็แค่บูรณะโบราณวัตถุสองสามชิ้นเอง มีอะไรให้อวดดีกันล่ะ? ”
เธอพูดอย่างแค้นใจ: “ ถ้าไม่ใช่ว่าคุณเวินห่างหายไปช่วงระยะเวลาหนึ่ง ตอนนี้ยังจะมีที่ให้หล่อนยืนอยู่อีกหรอ? ตอนนี้มีแต่คนรู้จักหลีเจียเวย ไม่รู้จักคุณแล้ว ”
“ ตอนนั้น คุณต่างหากที่เป็นคนแรกที่ถูกขนานนามว่าเป็นดาวดวงใหม่ของวงการบูรณะวัตถุโบราณ ไม่คิดว่าจะมาถูกหล่อนแย่งเอาไปชูหน้าชูตา ”
เวินเที๋ยนเที๋ยนเห็นเธอมีท่าทีโกรธเคือง จึงหัวเราะออกมาอย่างกลั้นไว้ไม่อยู่
“ เรื่องแบบนี้ มีอะไรให้น่าเสียดายด้วยหรอ? เดิมที คนที่ทำงานสายงานนี้ก็น้อยอยู่แล้ว เพิ่มมาอีกสักคน ก็เป็นเรื่องดีนี่นา อีกอย่าง หล่อนสามารถบูรณะวัตถุโบราณระดับแรกได้ก็เก่งมากแล้ว มิน่าล่ะทุกคนถึงชอบหล่อน ”
ช่างแต่งหน้าได้ฟัง ก็ขมวดคิ้วทันที: “ คุณเวินคะ แหล่งทรัพยากรกับเบื้องหลังของคุณ มีหรอจะแย่งกลับคืนมาไม่ได้? เมื่อสักครู่ หล่อนยังพูดเหน็บแนมคุณด้วย ฉันดูออกว่าหล่อนตั้งใจ คุณไม่รู้สึกโกรธหรอคะ? ”
“ ทำไมต้องโกรธล่ะ? ”
เวินเที๋ยนเที๋ยนพูดขึ้นนิ่งๆ และยืนขึ้น
“ ยังไงก็รีบไปถ่ายรายการเถอะ ถ้าพูดอีก วันนี้ฉันมาสายจริงๆนั่นแหละ ”
พูดจบ เธอเปลี่ยนชุด และรีบเดินออกไป
ฉากเวทีตกแต่งเสร็จเรียบร้อยแล้ว และอาจารย์ใหญ่อีกสองสามท่านก็นั่งอยู่ในนั้นแล้ว
เพราะว่าห่างหายมาครึ่งปีเต็ม ตำแหน่งของเวินเที๋ยนเที๋ยนจึงลดลง
ถึงแม้ว่าเธอจะมาเข้าร่วมในสถานะตัวแทนของท่านเปิง แต่กลับมีคนดูจำนวนไม่น้อยได้ลืมเธอไปแล้ว เวินเที๋ยนเที๋ยนกลับไม่กังวล เธอนั่งลงที่ตำแหน่งตรงมุมแถวสุดท้าย
เดิมที ทุกวันก็มักจะมีบุคคลจำนวนมากโผล่ขึ้นมาในจอโทรทัศน์ เธอหายไปครึ่งปี ทุกคนก็คงจำเธอไม่ได้แล้ว
รายการต้องการเรตติ้งผู้ชม คงไม่ให้เธอนั่งด้านหน้าอย่างแน่นอน
แต่ตรงข้ามกับผู้ชมหลีเจียเวยที่มาเข้าร่วมแทนอาจารย์ฟ่าน ตอนนี้ได้นั่งอยู่แถวแรกที่ตำแหน่งหน้ากล้อง
เธอใส่ชุดกระโปรงสีแดง โดดเด่นเป็นสง่า
เวินเที๋ยนเที๋ยนเห็นหล่อน เธอก็รู้สึกเป็นกังวลนิดหน่อย
เมื่อก่อน ท่านเปิงไม่ค่อยถูกกับอาจารย์ฟ่าน ไม่คิดว่ามาเข้าร่วมรายการสองครั้ง ทั้งสองจะได้มาถ่ายด้วยกัน
เวินเที๋ยนเที๋ยนทำเพียงมาแทนเขา แต่ทุกครั้งอาจารย์ฟ่าน มักจะพูดยั่วยุ
ถึงแม้ว่าครั้งนั้นยังถือว่าเก็บอาการได้บ้าง แต่ที่เขาถามวันนั้นก็ทำให้เธอไปไม่เป็นเหมือนกัน แต่ผ่านการตัดต่อ จึงทำให้ดูไม่ออกก็เท่านั้น
หวังแค่ว่าลูกศิษย์ของอาจารย์ใหญ่ท่านนี้จะไม่ทำให้เธอลำบากใจก็พอ
แต่พอนึกถึงเรื่องที่เกิดขึ้นในห้องแต่งหน้า เวินเที๋ยนเที๋ยนก็ขมวดคิ้วนิดหน่อย
หวังว่าการถ่ายรายการของวันนี้จะราบรื่นไปได้ด้วยดี
กำลังคิดอะไรเพลินๆ รายการก็เริ่มถ่ายทำแล้ว
ของล้ำค่าชิ้นแรกเพิ่งนำขึ้นมา หลังจากผ่านการชื่นชมแล้ว พิธีกรก็ส่งไมโครโฟนไปให้พวกอาจารย์ใหญ่
อิงตามขั้นตอนของสัปดาห์ก่อนๆ วันนี้เป็นอาจารย์ใหญ่พวกนี้ที่ต้องออกหน้าพูดอธิบาย
แต่ในตอนนี้ อยู่ๆหลีเจียเวยกลับพูดขึ้นอย่างกะทันหัน จึงทำให้ขัดจังหวะการพูดอธิบายของใครหลายๆคน
เธอได้พูดผลวินิจฉัยทั้งหมดออกมาด้วยใบหน้าที่มั่นใจ
เดิมที อาจารย์ใหญ่อีกท่านที่กำลังจะพูด เขาพูดได้ครึ่งเดียวก็ถูกเธอพูดขัดจังหวะ จนทำให้พูดต่อไม่ได้ ตอนนี้ สีหน้าของอาจารย์ใหญ่ท่านนั้นจึงค่อนข้างดูไม่ได้นิดหน่อย
แต่ติดที่ตอนนี้กำลังถ่ายรายการ จึงไม่มีผล
คะแนนแรกถูกหลีเจียเวยแย่งไปแล้ว
เธอยิ้มให้กล้องอย่างลำพองใจ ลูบผมไปมาด้วยสีหน้าที่ยั่วยวน
ในชั่วพริบตาเดียว ผู้ชมที่อยู่ในสถานที่ถ่ายรายการก็ส่งเสียงตะลึงออกมาอย่างอดไม่ได้ เห็นได้ชัดว่าถูกหลีเจียเวยทำให้เป็นแฟนคลับของเธอไปแล้ว
ต่อมา ก็มีของล้ำค่าถูกนำขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง คนอื่นๆไม่มีโอกาสได้พูด ทั้งหมดถูกหลีเจียเวยแย่งโอกาสและพูดไปหมดแล้ว
รายการถ่ายไปได้ครึ่งเดียว หน้าตาทั้งหมดก็ได้ถูกหลีเจียเวยแย่งไปแล้วคนเดียว พวกอาจารย์ใหญ่ที่อยู่ในนี้มีสีหน้าไม่ค่อยดีเท่าไหร่นัก ทุกคนล้วนถูกหลีเจียเวยทำให้ไม่พอใจ
แต่หลีเจียเวยเหมือนไม่รู้หรือไม่สนใจความรู้สึกของพวกเขา เธอยังคงทำตามฉบับของเธอต่อไป
ถึงแม้ว่าพวกอาจารย์ใหญ่จะไม่พอใจเธอ แต่ผู้ชมอีกฝั่งกลับชอบเธอมากๆ
ทุกครั้งที่หลีเจียเวยออกหน้า ทุกคนจะส่งเสียงตะลึงออกมา มักจะโบกธง และตะโกนให้เธอ
กว่าจะทนจนถึงเวลาพักได้ ในที่สุดพวกอาจารย์ใหญ่ก็ทนไม่ไหวแล้ว พวกเขาให้คนไปเรียกหลีเจียเวยมาหา