บทที่ 452 ไม่ต้องกลัว! โต้ตอบกลับไป!
คล้ายกับว่าสังเกตเห็นสายตาที่แตกต่างของเวินเที๋ยนเที๋ยน จี้จิ่งเชินจึงขมวดคิ้วเล็กน้อย รอยยิ้มบนใบหน้าของเขาก็ได้หายไปทันที
“ ถ้าไม่มีเรื่องอะไรแล้ว คุณก็กลับไปได้แล้ว ”
“ ไม่ ”
เวินเที๋ยนเที๋ยนไม่อยากไป เธอพูดขึ้นอย่างเร่งรีบ: “ ฉันยังมีเรื่องอื่นอีก ”
จี้จิ่งเชินแสดงท่าทางเป็นการเป็นงาน
“ เรื่องอะไร? ”
เวินเที๋ยนเที๋ยนรู้ได้ยังไง?
เธอไม่มีเรื่องอะไรเลยสักนิด แต่เพราะอยากอยู่ที่นี่ต่ออีกนิดหน่อย จึงหาเหตุผลขึ้นมาสะตอนนั้น
คิดอยู่สักพักใหญ่ สายตาของเธอหมุนไปรอบห้องทำงาน
กลั้นเอาไว้สักพัก ถึงค่อยพูดขึ้น: “ ฉันอยากถามนายว่าจงหลีอยู่ไหม? ฉันมีเรื่องจะบอกเขา ”
เพิ่งพูดจบ เวินเที๋ยนเที๋ยนก็รู้สึกเสียใจทีหลัง
ถ้าหากว่าจี้จิ่งเชินเรียกจงหลีให้เข้ามาหาจริงๆ เธอจะทำยังไงล่ะ?
เธอก้มหน้า หลบสายตาจับผิดของจี้จิ่งเชิน และพูดขึ้นอย่างเร่งรีบ: “ ช่าง ช่างเถอะ ฉันไปหาเขาเองก็ได้ ”
พูดจบ เวินเที๋ยนเที๋ยนหมุนตัวกำลังจะเดินออกไป
“ เดี๋ยว ”
ไม่คิดว่าจี้จิ่งเชินจะเรียกเธอไว้เสียก่อน
“ คุณมาหาจงหลี? มีธุระอะไร? ” เขาพูดถามขึ้น
เวินเที๋ยนเที๋ยนเงยหน้ามองอย่างไม่เข้าใจ กลับเห็นจี้จิ่งเชินมีสีหน้าที่ไม่ค่อยดีสักเท่าไหร่
ไม่รู้ว่ากำลังโกรธอะไรอยู่
แต่เธอไม่รู้ว่าตัวเองหาจงหลีมีธุระอะไรนี่สิ
คิดอยู่สักพัก ทำได้เพียงส่ายหน้าไปมา
“ ไม่มีอะไร ฉันไปพูดกับเขาเองดีกว่า ”
ไม่คิดว่าท่าทีของจี้จิ่งเชินจะยืนหยัดเป็นพิเศษ
“ จงหลีติดธุระ ออกไปทำงานข้างนอกแล้ว คุณมีอะไรก็บอกผม ผมจะบอกต่อให้คุณเอง ”
เขาหรี่ตาลงเล็กน้อย คล้ายกับว่าถ้าไม่ถามให้รู้ว่าคือเรื่องอะไร ก็จะไม่ยอมเลิกรา
สำหรับจงหลีแล้ว เวินเที๋ยนเที๋ยนอาจจะไม่รู้ แต่จี้จิ่งเชินกลับจำได้อย่างชัดเจนว่าจงหลีมีความรู้สึกต่อเวินเที๋ยนเที๋ยน
เวินเที๋ยนเที๋ยนมาหาเขาตอนนี้ มีเรื่องอะไร?
พอคิดถึงจุดนี้ จี้จิ่งเชินก็รู้สึกสงสัยอย่างอดไม่ได้ ต้องถามให้รู้ว่ามีอะไรกันแน่?
แต่เดิมที นี่เป็นเพียงแค่ข้ออ้าง ไม่มีคำตอบอะไร
เวินเที๋ยนเที๋ยนไม่รู้ว่าควรจะตอบว่าอะไรเลยจริงๆ เธอชะงักอยู่กับที่ ไม่ได้พูดอะไรอยู่สักพักใหญ่
แต่ในสายตาของจี้จิ่งเชิน กลับกลายเป็นความลับของพวกเขาสองคนไปแล้ว
สีหน้าของเขาจึงเคร่งขรึมขึ้น
“ ตกลงว่าเรื่องอะไร หรือว่าบอกผมไม่ได้? ”
“ ไม่ใช่…… ”
เวินเที๋ยนเที๋ยนพูดอธิบายเสียงเบา
“ แล้วมันคืออะไรล่ะ? ” จี้จิ่งเชินพูดถามอย่างดื้อรั้น ไม่ยอมเลิกรา
เวินเที๋ยนเที๋ยนถูกบีบบังคับจนไม่มีทางเลือก เธอก้มหน้า และพูดขึ้นเสียงเบา: “ ไม่มีอะไร ฉันไม่ได้ต้องการหาเขา ”
แต่น้ำเสียงของเธอเบามาก จี้จิ่งเชินฟังได้ไม่ชัดเจน เขาจึงพูดถามขึ้นอีกครั้ง: “ คุณพูดว่าอะไรนะ? ”
เวินเที๋ยนเที๋ยนถูกบีบบังคับจนไม่มีทางเลือก เธอกำสองมือแน่น เงยหน้าขึ้นมา
และพูดขึ้นเสียงดัง: “ ฉันตั้งใจมาดูนาย! ไม่ได้มาหาเขา! ”
เธอพูดเสียงดัง แทบจะตะโกนตอบ
จี้จิ่งเชินชะงักไปเล็กน้อย หลังจากนั้นก็มองเธออย่างตะลึง
ใบหน้าของเวินเที๋ยนเที๋ยนแดงขึ้นอย่างรวดเร็ว เหมือนแอปเปิ้ลสุก
เธอพูดออกมาจนหมด
“ ฉันกลัวว่าถ้าแอบเข้ามา จะถูกนายไล่กลับ จึงพูดหาเหตุผล ฉันไม่ได้มาหาจงหลี ฉันแค่มาดูนายเท่านั้นเอง ”
สายตาของจี้จิ่งเชินมองมาที่เธออย่างมั่นคง วินาทีต่อมาก็ละสายตาออกไปอย่างอาลัยอาวรณ์
ในรูม่านตาสีดำลึกราวกับบึงน้ำ ซ่อนอารมณ์ที่แม้แต่ตัวเขาเองก็รับรู้ถึงความน่าหวาดกลัวไว้อยู่ในส่วนลึก มันกำลังไหลเชี่ยว ราวกับวินาทีต่อมาจะทะลักออกมา และยึดครองสติปัญญากับอารมณ์ทั้งหมดของเขา
น้ำเสียงของเขาแหบแห้ง
“ คุณก็รู้ว่าผมไม่อยากเจอคุณ ”
“ ฉันรู้ ” เวินเที๋ยนเที๋ยนก้มหน้าลง และพูดตอบเสียงเบา
“ คุณยังมาอีก ” จี้จิ่งเชินพูด
“ ฉัน……ฉัน…… ”
นิ้วของเวินเที๋ยนเที๋ยนเกี่ยวอยู่บนมุมเสื้อ เธอตอบไม่ได้อยู่สักพักใหญ่
ปรกติ ตอนที่เข้าร่วมรายการ เผชิญหน้ากับกล้องถ่ายภาพเธอยังพูดได้อย่างไม่กระวนกระวาย เวลานี้ก็แค่อยู่ภายใต้สายตาของจี้จิ่งเชิน กลับเปลี่ยนเป็นติดอ่าง แถมความคิดยังพันกันยุ่งเหยิงอีกด้วย จึงหาต้นสายปลายเหตุไม่เจอเลยสักนิดเดียว
พูดไปตั้งนาน กลับพูดสาเหตุออกมาไม่ได้
จี้จิ่งเชินถอนหายใจออกมาช้าๆ
“ ช่างเถอะ ”
“ คุณกลับไปเถอะ ครั้งหน้าถ้ายังอยากมาอีก ก็อย่าอ้างชื่อจงหลีอีก ”
เวินเที๋ยนเที๋ยนได้ยินคำคำนี้ เธอก็เงยหน้าขึ้นมาอย่างดีใจ
“ งั้นฉันก็มาหานายได้อีกใช่ไหม? ”
ได้ยินประโยคนี้ ในที่สุดจี้จิ่งเชินก็ดึงสติกลับมาได้ และตอบสนองกลับมาด้วยเช่นกัน
เมื่อสักครู่ ตัวเองเกือบใจอ่อนตอบตกลงเงื่อนไขของเธอเพียงเพราะสีหน้าหดหู่ที่อยู่บนหน้าของเวินเที๋ยนเที๋ยนไปแล้ว
“ แน่นอนว่าไม่ได้ ” เขารีบพูด
และเป็นแบบนั้นจริงๆ ต่อมาเขาก็เห็นสีหน้าของเวินเที๋ยนเที๋ยนหดหู่ลง
เขารู้สึกขมขื่น
แต่เวินเที๋ยนเที๋ยนกลับพูดขึ้นอย่างไม่ยอมแพ้: “ งั้นฉันมาหาจงหลีดีกว่า ”
“ ไม่ได้ ” จี้จิ่งเชินพูดปฏิเสธอย่างเผด็จการ
เวินเที๋ยนเที๋ยนทำปากแบนอย่างน้อยใจ สุดท้ายก็ก้มหน้าลง
หลังจากที่สายตาของเธอละจากไปแล้ว สีหน้าของจี้จิ่งเชินถึงได้ปรากฏรอยยิ้มขึ้นเล็กน้อย แม้แต่ลายเส้นของอวัยวะทั้งห้าก็อ่อนโยนลงเช่นเดียวกัน
มีแค่ตอนที่เวินเที๋ยนเที๋ยนไม่เห็นเท่านั้น เขาถึงกล้าแสดงสีหน้าแบบนี้ออกมา
เพราะว่าผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้าคนนี้ เป็นคนที่ถ้ารู้สึกมีความหวังสักนิด เธอก็จะไม่ยอมปล่อยไปอย่างเด็ดขาด
“ ผมจะให้คนพาคุณไปส่ง ต่อไปก็ไม่ต้องมาที่นี่อีก ”
มองเวินเที๋ยนเที๋ยนหมุนตัวอย่างอาลัยอาวรณ์ ในที่สุดเธอก็ยอมกลับไป
ประตูปิดลงอีกครั้ง จี้จิ่งเชินถึงค่อยเก็บสายตาลง
หลังจากที่เวินเที๋ยนเที๋ยนออกจากบริษัทเอ็มไอกรุ้ปแล้ว หลังจากนั้นเธอเพิ่งนึกออกว่าตัวเองยังถามไม่รู้เลย ว่าตกลงแล้วจี้จิ่งเชินได้คุยอะไรกับหลีเจียเวยกันแน่?
ตอนกลางคืนของวันนั้น
หลีเจียเวย ก็ได้แถลงข่าวบนอินเตอร์เน็ต
เดิมที หล่อนรับรองกับจี้จิ่งเชินไว้ว่าจะให้ความกระจ่างกับเรื่องนี้
แต่รอจนหล่อนแถลงข่าวเสร็จแล้ว ถึงพบว่ามันไม่ได้เป็นแบบที่ตกลงกันไว้เลย
ภายนอกหล่อนได้ห้ามแฟนคลับของหล่อนให้ใจเย็นลงจริงๆ ไม่ให้ทะเลาะกันเพราะเรื่องนี้อีกแล้ว
แต่ความเป็นจริง ในตัวอักษรกลับมีข่าวรั่วไหลว่า: เป็นเพราะหล่อนถูกบังคับ ถึงได้แถลงข่าวนี้
ข่าวนี้ถูกเผยแพร่ออกไป ก็ได้เกิดข้อพิพาทขึ้นทันที
เรื่องเมื่อครั้งก่อนยังไม่สงบลง กลับเหมือนโยนยาเร่งใส่ลงไป ยิ่งเผยแพร่ก็ยิ่งวุ่นวาย
ต่อเนื่องกันหลายวัน บนโลกอินเตอร์เน็ตตลบไปด้วยเสียงก่นด่า ล้วนกำลังประณามเวินเที๋ยนเที๋ยนกันทั้งนั้น
ทางฝั่งนี้ ถึงแม้ว่าเวินเที๋ยนเที๋ยนจะไม่มีพลังของทหารเรือกับพลังของแฟนคลับ แต่ไม่นาน กลับมีพลังที่แข็งแกร่งพรั่งพรูออกมา และตอบโต้เหล่าบรรดาทหารเรือนับร้อยกลับไป
ถ้ามีคนตรวจสอบตำแหน่ง ip ของทุกคน จะพบว่าแกนสำคัญของพลังแข็งแกร่งนี้ ล้วนมาจากบริษัทเอ็มไอกรุ้ปทั้งสิ้น
หลังจากที่รู้ว่าเวินเที๋ยนเที๋ยนถูกทหารเรือโจมตี คนในบริษัทก็ทนต่อไปไม่ไหวแล้ว และได้ทำสงครามกับพวกทหารเรือเหล่านั้นด้วยตัวเอง
ตอนที่จี้จิ่งเชินประสบอุบัติเหตุ เป็นเวินเที๋ยนเที๋ยนที่ดูแลบริษัท และรวบรวมพละกำลังขึ้นมาอีกครั้ง
ถ้าไม่มีเวินเที๋ยนเที๋ยน ก็จะไม่มีพวกเขาในวันนี้
ถึงแม้ว่าจะไม่ได้รวบรวมคน แต่พวกพนักงานกลับใช้หมายเลขบัญชีของตัวเองด่ากับคนที่อยู่ในอินเตอร์เน็ตอย่างไม่ได้นัดหมาย
ตอนพวกเขาด่า ไม่มีใครใช้คำหยาบคายเลยสักคน พวกเขาด่าอย่างมีระดับ จับเส้นสายของเหตุการณ์ได้อย่างชัดเจน และโต้กลับคำพูดที่ฝ่ายตรงข้ามพูดออกมาทั้งหมดอย่างไม่ไยดี
และในตอนนี้ พลังแข็งแกร่งอีกหนึ่งพลังก็ได้ถูกปลุกขึ้นมาอย่างเงียบๆ
ตอนที่เวินเที๋ยนเที๋ยนแสดงความสามารถตอนเข้าร่วมรายการ ในขณะเดียวกันเธอก็ได้รับความรักใคร่จากผู้ชมจำนวนไม่น้อย
เพียงแค่เธอไม่ได้โผล่หน้าออกมาเป็นเวลานาน บวกกับคนจำนวนไม่น้อยก็เริ่มยุ่งจากงาน
เพราะส่วนมากคนเหล่านั้นล้วนเป็นคนที่แต่งงานกับสร้างกิจการของตัวเอง และไม่มีความสนใจมาพลัดหลงในโลกอินเตอร์เน็ต
ผ่านไปหลายวัน พวกเขาถึงจะรู้เรื่องนี้
จึงทำให้พวกเขาไม่พอใจเป็นอย่างยิ่ง
ถ้าอยากรังแกเวินเที๋ยนเที๋ยน ก็ข้ามตัวพวกเขาไปก่อน!