บทที่ 475 ยืนได้แล้ว
เฟิงหมิงรักษารอยยิ้มบนใบหน้าอย่างฝืนๆ แต่สายตาของเขากลับเปลี่ยนเป็นลุกลี้ลุกลนไปแล้ว
“ อาจเป็นคนที่สร้างคฤหาสน์แอบลดวัสดุให้น้อยลง และทำให้เกิดเป็นโพรงที่พื้นก็ได้ มีอะไรแปลกไปหรือไง? ”
“ แค่นี้หรอ? ”
สายตาของจี้จิ่งเชินเต็มไปด้วยความสงสัย
“ ผนังที่ชั้นสามตกลงมาอย่างชัดเจน แต่ระยะห่างของพื้นที่ชั้นสี่กลับยกขึ้นเกือบครึ่งเมตร รวมกันแล้วคงจะเมตรกว่า ตกลงว่ามันคือที่ไหน? หรือว่าซ่อนอะไรไว้อยู่กันแน่? ”
สีหน้าของเฟิงหมิงเปลี่ยนไปทันที
“ ประธานจี้ นี่คุณหมายความว่าอะไร? ”
“ ง่ายมาก พาผมไปดูพื้นที่เมตรกว่าที่ยื่นออกมา จะดูว่ามันถูกคุณใช้ทำอะไร? หรือว่าสร้างเป็นห้องอำพราง? และเวินเที๋ยนเที๋ยนก็อยู่ในนั้น? ”
“ คุณพูดเหลวไหล! ไม่มีหลักฐานก็อย่าพูดใส่ร้ายคนอื่น! การก่อสร้างของคฤหาสน์ตระกูลเฟิงทำเสร็จตั้งแต่เมื่อสิบกว่าปีก่อน ส่วนทำไมถึงออกแบบแบบนี้ แล้วมันเกี่ยวอะไรกับผมล่ะ? ”
“ ในเมื่อเป็นแบบนี้ คุณก็คงจะไม่ถือสาที่จะให้พวกเราเข้าไปค้นหาใช่ไหม? ”
พูดจบ ไม่รอให้เฟิงหมิงอนุญาต เขาก็สั่งให้พวกบอดี้การ์ดพาเขาลงไปที่ชั้นล่างอย่างรวดเร็ว
เมื่อสักครู่ ตอนที่ขึ้นมาชั้นบน เขาเห็นว่าด้านหลังบันไดมีร่องรอยบางๆอยู่
ถ้าเดาไม่ผิด ที่นั่นก็คงเป็นทางเข้าของห้องห้องนั้น
พวกบอดี้การ์ดรีบปฏิบัติการอย่างรวดเร็ว พวกเขาพาจี้จิ่งเชินมาถึงที่ด้านหลังของบันได จี้จิ่งเชินพลิกภาพวาดที่อยู่บนผนังภาพนั้น และพบว่าด้านหลังได้ซ่อนประตูแคบๆไว้อยู่จริงๆด้วย
สายตาของจี้จิ่งเชินเปลี่ยนเป็นแหลมคมมากยิ่งขึ้น
“ คุณเฟิง คุณบอกผมได้ไหมว่านี่มันเกิดอะไรขึ้น? ”
พูดจบ ไม่รอให้เฟิงหมิงได้พูดอธิบาย เขายกมือผลักประตูเข้าไปดัง “ ปัง ”
ในห้องเตี้ยๆมีครบทุกอย่าง เพียงแต่ของทุกอย่างถูกทุบจนแหลกละเอียด ส่วนที่แตกออกมาก็เกลื่อนไปทั่วห้อง บนเตียงก็ยุ่งเหยิงไม่แพ้กัน
จี้จิ่งเชินยืนดูจากตรงทางเข้า ก็เห็นเชือกที่ทำจากผ้าปูที่นอนยื่นจากหัวเตียงลงไปนอกหน้าต่าง
วิธีนี้ไม่ใช่เวินเที๋ยนเที๋ยนแล้วจะเป็นใครล่ะ?
สายตาของเขาเป็นประกาย และรีบควบคุมรถเข็นเข้าไปใกล้ทันที
เวินเที๋ยนเที๋ยนกำลังค่อยๆข้ามจากชั้นสี่ไปที่ชั้นสามอย่างยากลำบาก เพราะระยะห่างห่างจากพื้นดินพอสมควร เธอจึงต้องระวังไม่ให้ตัวเองร่วงตกลงไปจนได้รับบาดเจ็บ ไม่อย่างนั้นอาจจะถูกจับตัวได้อีกครั้ง
เธอค่อยๆเคลื่อนที่ทีละนิด
ท้องฟ้ามืดค่ำแล้ว ด้านนอกก็มีลมพัดมาเล็กน้อย
ไม่นาน ความเร็วของลมยิ่งอยู่ยิ่งแรงขึ้น ผ้าปูที่นอนขนาดใหญ่โบกสะบัดไปตามแรงลม
ทุกครั้งที่ลมพัดผ่าน เวินเที๋ยนเที๋ยนที่ห้อยอยู่ด้านบนก็จะถูกพัดจนแกว่งไปมา
เธอตกใจจนรีบจับผ้าปูที่นอนไว้แน่น หลังจากนั้นก็เงยหน้ามอง
เหตุการณ์แบบนี้ ทำให้เธอนึกถึงตอนที่เธออยู่ที่ปราสาท และอยากจะหนีออกมาจากในห้องนอน
มันเหมือนกับตอนนี้เลย
วันนั้นเธอลงถึงพื้นได้อย่างราบรื่น แล้วครั้งนี้ล่ะ?
เธอกำลังคิดอะไรเรื่อยเปื่อย ลมกลับพัดแรงขึ้น
ทั้งตัวเธอห้อยอยู่บนผ้าปูที่นอน เหมือนตั๊กแตนที่อยู่บนเชือก แกว่งไปแกว่งมา และหาจุดรวบรวมแรงไม่เจอ
ผ้าปูที่นอนเสียดสีกับหน้าต่าง เกิดเป็นเสียงขึ้น ชวนให้คนรู้สึกหวาดกลัว และคล้ายกับมันสามารถฉีกขาดได้ทุกเมื่อ
ในใจของเวินเที๋ยนเที๋ยนรู้สึกเป็นกังวล เธอไม่รู้ว่าควรกลับขึ้นไป หรือว่าลงไปด้านล่างต่อดี
ตอนที่เธอกำลังลังเล อยู่ๆก็เกิดเสียง “ แควก ” ขึ้น!
บนหัวมีเสียงเสียงหนึ่งดังขึ้น!
เวินเที๋ยนเที๋ยนตกใจ เธอจึงรีบเงยหน้าขึ้นไปมอง
ผ้าปูที่นอนที่กำลังเสียดสีกับหน้าต่างกำลังขาดออกจากกันทีละนิด!
เธอตกใจจนตัวกระตุกนิดหน่อย หลังจากนั้นก็กำลังจะปีนกลับขึ้นไป แต่พอเธอขยับตัว ความเร็วในการฉีกขาดของผ้าปูที่นอนก็ยิ่งเร็วขึ้นทันที
แย่แล้ว!
ต้องตกลงไปแน่ๆ!
เวินเที๋ยนเที๋ยนใจสั่นนิดหน่อย ทั้งตัวของเธอชุ่มไปด้วยเหงื่อ แม้แต่ขนตามตัวก็ยังลุกซู่ขึ้นทันที
เธอยื่นมือออกไป แต่ก็สายไปเสียแล้ว!
ทำได้เพียงมองผ้าปูที่นอนขาดออกจากกันทีละนิด!
จี้จิ่งเชินเข้าไปในห้อง พอเขาเห็นผ้าปูที่นอนที่มัดกับหัวเตียง ใจที่กำลังเป็นกังวลก็ร่วงหล่นทันที
ยัยซื่อบื้อ ใช้วิธีเดียวกันหนีออกไปอีกแล้ว ครั้งที่แล้วทำให้เขารู้สึกกลัว ถ้าครั้งนี้เป็นอะไรไป จะทำยังไง?
ความคิดนี้เพิ่งปรากฏขึ้นในหัว ผ้าปูที่นอนที่อยู่ตรงหน้าก็เกิดเป็นเสียง “ แควก ”!
จี้จิ่งเชินมีสีหน้าเปลี่ยนไปนิดหน่อย แม้แต่อวัยวะทั้งห้าก็บิดเบี้ยวไปด้วยเช่นกัน
ในขณะที่แทบจะเกิดเสียงขึ้น เขาก็รีบปฏิบัติการอย่างรวดเร็ว เขารีบควบคุมรถเข็น คิดอยากจะเข้าไปดึงผ้าปูที่นอนกลับมา
แต่ความเร็วของรถเข็นกลับไม่สามารถก้าวข้ามระยะห่างภายในห้องไปได้!
พวกบอดี้การ์ดก็เห็นสถานการณ์ของเวินเที๋ยนเที๋ยนเช่นกัน พวกเขาจึงรีบเข้าไป แต่ไม่ได้สังเกตถึงผนังที่ต่ำและเตี้ยของห้องห้องนี้ จึงทำให้หัวของพวกเขาชนเข้ากับด้านบน
พวกเขารูปร่างสูงใหญ่ ต้องก้มตัวถึงจะสามารถเข้ามาได้ การกระทำของพวกเขาถูกพันธนาการ ความเร็วในการลงมือจึงช้าลงไปตามๆกัน
เห็นผ้าปูที่นอนใกล้จะขาดออกจากกันแล้วเต็มทน จี้จิ่งเชินกัดฟัน และรีบเคลื่อนที่อย่างรวดเร็ว
ตอนที่เขาใกล้จะถึงที่หน้าต่าง ก็ได้ยินเสียงสั่นเสียงหนึ่ง!
กำลังกลัว!
ผ้าปูที่นอนขาดออกเป็นสองท่อน!
ร่วงตกลงไป!
รูม่านตาของจี้จิ่งเชินรัดกันแน่นทันที ในหัวของเขาเหลือเพียงความคิดหนึ่งความคิด
ช่วยเธอ!
ไม่ว่าจะยังไง ก็ต้องช่วยเวินเที๋ยนเที๋ยนให้ได้
มือสองข้างของเขากระทุ้งไปบนรถเข็น หลังจากนั้นเขาก็ออกแรง
วินาทีต่อมา ทั้งตัวของจี้จิ่งเชินก็ลุกขึ้นยืนจากบนรถเข็น!
สองขาของเขารีบวิ่งไปด้านหน้าอย่างรวดเร็ว เหมือนกับลูกศรที่พุ่งไปด้านหน้า
ทุกก้าวที่เขาเดินเหมือนเหยียบลงไปบนตะปูที่มีความยาวสองถึงสามเซนติเมตร ทะลุไปตั้งแต่ใต้เท้าจนถึงหัวเข่า!
กระดูกหน้าแข้งที่เพิ่งถูกเชื่อมติดกันผิดตำแหน่งอีกครั้ง มันหักเป็นสองท่อน และแทงเข้าไปในผิวหนังตามการวิ่งของเขา
เจ็บมาก!
แต่จี้จิ่งเชินกลับไม่หยุดลง เขาถึงกับเพิ่มความเร็วขึ้น!
เพราะถ้าเขาช้าไปสักวินาทีเดียว ก็อาจจะเสียเวินเที๋ยนเที๋ยนไป!
เขากัดฟัน ทุ่มเทแรงกาย และตะครุบไปด้านหน้า ครึ่งตัวของเขากระโดดออกจากหน้าต่าง เขายื่นมือออกไป!
การกระทำของเขาทำสำเร็จ!
วินาทีสุดท้าย เขาสามารถจับมุมของผ้าปูที่นอนเอาไว้ได้!
ตัวของเวินเที๋ยนเที๋ยนเริ่มร่วงตกลงไปแล้ว ตอนที่เธอแน่ใจว่าตัวเองจะต้องร่วงตกลงไปนั้น ตัวของเธอกลับสั่นไหวอย่างรุนแรง และหยุดลงในที่สุด
คล้ายกับว่าผ้าปูที่นอนถูกอะไรดึงไว้อยู่?
เวินเที๋ยนเที๋ยนเงยหน้ามอง หน้าที่ขาวซีดปะทะเข้าไปในตาของเธอ
เธอเบิกตากว้าง มองคนที่โผล่มาตรงหน้าอย่างไม่เชื่อสายตาตัวเอง
“ จี้จิ่งเชิน? ทำไมคุณมาอยู่ที่นี่? ”
จี้จิ่งเชินที่อยู่ตรงหน้ามีสีหน้าขาวซีดจนน่ากลัว แทบจะโปรงใสเต็มทน สองตาของเขาแดงก่ำ
เพิ่งผ่านไปไม่กี่วินาทีสั้นๆ ก็สามารถมองเห็นเม็ดเหงื่อที่เกาะอยู่บนหน้าผากของเขา และไหลลงมาจากปลายจมูกตามการกระทำของเขา
คล้ายกับเขากำลังอดกลั้นความเจ็บปวดที่ไม่สามารถอดทนได้
แต่ต่อให้เป็นแบบนี้ พอได้ยินเสียงของเวินเที๋ยนเที๋ยน เขายังคงเผยรอยยิ้มที่แทบจะมองไม่เห็นออกมาอย่างฝืนๆ
“ ผมมารับภรรยาของผมกลับบ้าน ”
ความเจ็บปวดที่แล่นมาจากขาทั้งสองข้างแทบจะทำให้เขาไม่สามารถทนต่อไปได้ กระดูกที่แตกละเอียดแทงเข้าไปในกล้ามเนื้อ ใช้สองขานี้วิ่งมา เป็นความเจ็บปวดที่คนธรรมดาจินตนาการไม่ถึง
แต่ตอนนี้พอเห็นว่าเวินเที๋ยนเที๋ยนถูกเขาช่วยไว้ได้แล้ว ในใจของจี้จิ่งเชินก็เต็มไปด้วยความดีใจ
โชคดีที่เขาสามารถรั้งเวินเที๋ยนเที๋ยนไว้ในวินาทีสุดท้าย……
โชคดี……
ถ้าให้เธอร่วงตกลงไปจากชั้นที่สูงถึงขนาดนี้จริงๆ เธอคงจะได้รับบาดเจ็บสาหัสอย่างแน่นอน