บทที่ 515 ฉันไม่อยากยอมแพ้
หลีเจียเวยคิดไว้แล้วว่า เป็นไปไม่ได้ที่เวินเที๋ยนเที๋ยนจะสามารถบรรลุถึงงานฝีมือที่สูงมากของแจกันทรงกลมใบนั้นได้!
คิดแล้ว นางก็ยิ้มแบบเยือกเย็น
ความมั่นใจที่เวินเที๋ยนเที๋ยนแสดงออกมาตอนนี้ มันก็แค่กำลังขู่นางเท่านั้น
นึกว่านางจะกลัว?
ตลกมาก!
“ดี! ในเมื่อคุณมีความมั่นใจขนาดนี้ งั้นถึงเวลานั้นค่อยดูกันดีๆก็แล้วกัน ว่าตกลงใครกันแน่ที่เก่งกว่า ให้คนดูทุกคนเป็นพยานให้พวกเรา”
“คนดูทุกคน?หมายความว่าไง?”
หลีเจียเวยยิ้มแบบได้ใจ
“ฉันนัดกับทางผู้จัดรายการเรียบร้อยแล้ว หลังจาก3วัน การแข่งขันของพวกเราจะออกอากาศสดพร้อมกันทั่วประเทศ เพื่อแจ้งผลการแข่งขันให้ทุกคนทราบ คุณกล้ามั้ย?”
เวินเที๋ยนเที๋ยนฟังจบ ในที่สุดก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมา
“คุณแน่ใจ?”
“แน่นอน!”
หลีเจียเวยยังคิดว่าเธอกลัว ยิ้มแล้วพูดประชดว่า:“ทำไม?คุณกล้ามั้ย?”
“อันนี้มันไม่ใช่ปัญหา”
เวินเที๋ยนเที๋ยนโบกมือ พูดแบบมีความทำอะไรไม่ถูกเล็กน้อย:“ในเมื่อเป็นแบบนี้ ฉันก็จะเข้าร่วมอย่างตรงเวลา”
“งั้นก็ดี”
หลีเจียเวยพูดไปคำหนึ่ง หันหน้ามองไปยังจี้จิ่งเชิน แล้วยิ้มแบบมีเสน่ห์
“หวังว่าถึงเวลาคุณจี้จะให้เกียรติมาในงาน เพื่อเป็นพยานให้พวกเรา”
มุมปากของจี้จิ่งเชินยกขึ้นเล็กน้อย ไม่มีรอยยิ้มในดวงตา
ตั้งแต่ต้นจนจบ สายตาไม่เคยหยุดอยู่บนตัวของหลีเจียเวย น้ำเสียงเยือกเย็นทิ่มกระดูก
“ในเมื่อภรรยาของผมจะเข้าร่วม ผมก็ต้องไปอย่างแน่นอน”
ได้ยินคำนี้ สีหน้าของหลีเจียเวยก็ค่อยๆเปลี่ยน
“ถึงเวลาค่อยพบกันก็แล้วกัน”
นางหันหลัง เหยียบรองเท้าส้นสูงแล้วเดินจากไปด้วยท่าทางที่ไม่เกรงกลัวสิ่งใด
นักข่าวหลายคน ก็ใบหน้าเต็มไปด้วยความปิติ
เวินเที๋ยนเที๋ยนและหลีเจียเวยยิ่งมีปัญหากันมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งดีต่อพวกเขา
เพียงแค่มีหัวข้อที่ดึงดูดคนได้มากพอ ยอดขายนิตยสารก็ต้องเพิ่มขึ้น
พวกเขาถ่ายเหตุการณ์ที่เกิดตรงนี้ไว้อย่างรวดเร็ว หันหลังแล้วกลับสำนักพิมพ์ไป แล้วตีพิมพ์การท้าทายครั้งนี้ออกไป
ด้วยเหตุนี้ในเวลาเดียวกัน ทางผู้จัดก็กำลังเตรียมตัวกันอย่างคึกคักเร่าร้อน
เมื่อท่านเปิงได้ยินถึงการแข่งขันครั้งนี้ ทันใดนั้นก็ขมวดคิ้วอย่างเป็นกังวล
เวินเที๋ยนเที๋ยนเห็นท่าทางของเขาดูไม่ตื่นเต้นเหมือนปกติ แต่กลับมีความลังเล แล้วถามว่า:“ท่านเปิง ท่านรู้สึกว่าฉันใจร้อนมากไปใช่หรือไม่?”
ท่านเปิงหันหน้าไปมองเวินเที๋ยนเที๋ยน กำลังพิจารณาอยู่
“ก่อนที่แจกันทรงกลมชิ้นนั้นออกรายการได้เคยเชิญฉันไปตรวจชม เทคนิคการซ่อมแซมมันดีมากจริงๆ ขนาดฉันก็ยังคิดไม่ถึง ว่าหลีเจียเวยจะมีความสามารถที่สูง สามารถซ่อมแซมได้สมบูรณ์ขนาดนี้ ฉันมีความกังวลจริงๆ”
เวินเที๋ยนเที๋ยนกลับตะลึงเล็กน้อย
ใช่แล้ว เมื่อก่อนตอนที่เธอซ่อมแซมแจกันชิ้นนั้น เคยรับปากกับท่านจาง ว่าจะไม่บอกท่านเปิง
เพราะฉะนั้น แม้แต่ท่านเปิงก็ยังไม่รู้ว่า คนที่ซ่อมแซมแจกันชิ้นนั้นจริงๆ ก็คือเธอเวินเที๋ยนเที๋ยน
ไม่แปลกเลยที่จะกังวลขนาดนี้……
ได้ยินท่านเปิงเป็นห่วงตัวเองขนาดนี้ ใบหน้าของเวินเที๋ยนเที๋ยนค่อยๆแดงระเรื่อ
“ท่านเปิง แล้วท่านว่าเทคนิคการซ่อมแซมของแจกันชิ้นนั้นเป็นเช่นไร?”
ใบหน้าท่านเปิงเต็มไปด้วยความจริงจัง
“เทคนิคการซ่อมแซมของแจกันชิ้นนั้น น่าจะอยู่เหนือคุณ น่าจะเทียบเท่าฉันมั้ง คุณผลีผลามรับการท้าทายครั้งนี้ไว้ แล้วยังมีการออกอากาศสด เกรงว่าจะมีความอันตรายเล็กน้อย”
พูดแล้ว เขาหันหน้ามาถาม:“ใช่แล้ว สาวน้อย ตอนนี้การซ่อมแซมของคุณเป็นอย่างไงแล้ว?”
เมื่อกี๊เวินเที๋ยนเที๋ยนถูกชมจนเกรงใจเล็กน้อย บนใบหน้ามีความแดงเล็กน้อย
พูดแบบเจียมเนื้อเจียมตัว:“น่าจะยังใช้ได้มั้ง?”
แต่ว่าท่านเปิงฟังแล้ว กลับกลายเป็นกังวล
“นี่ควรทำเช่นไรถึงจะดี?ถ้าหากแพ้แล้ว มันไม่เป็นการทำให้ผู้หญิงคนนั้นยิ่งเหิมเกริมเหรอ?”
ระหว่างท่านเปิงกับอาจารย์ฟ่าน เดิมทีก็มีความเรื่องส่วนตัวที่ผิดใจกันเล็กน้อย โดยปกติก็ไม่ชอบหน้ากัน
ในโลกของวัตถุโบราณ ชื่อเสียงท่านเปิงก็เหนือกว่าอาจารย์ฟ่าน มาวันนี้ถ้าหากว่าเวินเที๋ยนเที๋ยนแพ้แล้ว อาจารย์ฟ่านก็จะยิ่งเหิมเกริม
คิดถึงตรงนี้ แน่นอนว่าเวินเที๋ยนเที๋ยนต้องพูดว่า:“ท่านเปิง ท่านวางใจได้เลย การแข่งขันครั้งนี้ ฉันไม่มีทางแพ้แน่นอน”
ปกติเวินเที๋ยนเที๋ยนจะเป็นคนถ่อมตัวอย่างมาก น้อยครั้งมากที่จะแสดงท่าทีแบบนี้ออกมา
ท่านเปิงหยุดลง อดไม่ได้ที่จะหันหน้ามามองหล่อน “คุณมีความมั่นใจ?”
เวินเที๋ยนเที๋ยนพยักหน้า
“ไม่อย่างนั้นฉันก็คงไม่รับคำท้าทายนี้ไว้”
“ดี!”
ท่านเปิงตบมือ“ในเมื่อคุณมีความมั่นใจในตัวเองขนาดนี้ วันนั้นฉันจะถึงที่นั่นเพื่อเป็นกำลังใจให้! ดีที่สุดคือสู้จนเขาไม่มีโอกาสพลิกฟื้น ให้พวกเขาได้ดู อะไรที่เป็นเทคนิคการซ่อมแซมวัตถุโบราณที่แท้จริง หล่อนจะได้ไม่มาโม้ต่อหน้าฉัน”
“รู้แล้วค่ะ”
ในวันนั้น ขณะที่เวินเที๋ยนเที๋ยนเริ่มเตรียมตัว ทางด้านของหลีเจียเวยก็ได้ให้คนส่งข่าวมาอีก
แม้ว่าการแข่งขันของทั้งสองต้องดำเนินอยู่ในการออกอากาศสด แต่เพราะว่าการซ่อมแซมวัตถุโบราณจำเป็นต้องใช้เวลาจำนวนมาก ทำให้รายการมีการจำกัดเวลา ก่อนที่รายการจะเริ่มให้เวินเที๋ยนเที๋ยน ทำผลงานออกมาก่อนชิ้นหนึ่ง ที่เทียบได้กับผลงานการซ่อมแซมของแจกันทรงกลมชิ้นนั้น
เมื่อได้ยินข่าวนี้ เวินเที๋ยนเที๋ยนยังพูดไม่จบ พ่อบ้านก็ใจร้อนแล้ว
“มันจะเป็นไปได้ไง? เห็นได้ชัดว่านี่เป็นการบังคับใจคนอื่นให้ทำในสิ่งที่ทำไม่ได้!”
ทุกคนรู้กันดี การบูรณะวัตถุโบราณจำเป็นต้องใช้เวลาและกำลังมากมาย รอยร้าวบนแจกันโบราณชิ้นนั้น ดูก็รู้ว่าต้องเสียเวลาไปไม่ใช่น้อย ก่อตัวด้วยเวลาและกำลัง จึงจะซ่อมแซมได้สมบูรณ์
แล้วตอนนี้ก็เหลือเวลาอีกแค่3วัน เวินเที๋ยนเที๋ยนจะสามารถทำผลงานที่เทียบเท่าแจกันทรงทรงชิ้นนั้นได้?
“นี่มันจงใจแกล้งกันชัดๆ!”
แม่ครัวโกรธจัด พูดกับเวินเที๋ยนเที๋ยนว่า:“คุณหนูคะ ฉันว่าคุณไม่ต้องไปแล้ว นี่มันเห็นกันอยู่แล้วว่าจงใจรังแกกัน!”
“เวลาสองวันในการซ่อมแซมวัตถุโบราณชิ้นหนึ่ง ทำไมนางไม่ไปเอง?”
ทั้งสองไม่พอใจ
แล้วเวินเที๋ยนเที๋ยนก็มองดูบัตรภารกิจในมือ ลำบากใจเหมือนกัน
แจกันชิ้นนั้น เธอใช้เวลา2เดือนเต็มๆถึงจะซ่อมแซมเสร็จ
ตอนนี้มีเวลาแค่3วัน จะสามารถทำออกมาเหมือนกันได้อย่างไร แม้แต่ผลงานที่เหนือกว่า?
หลีเจียเวยคงเตรียมการมาตั้งนานแล้ว ไม่สามารถชนะนางได้อย่างแน่นอน
แต่ว่า เธอตอบรับมาแล้ว ก็จำเป็นต้อง ยิ้มสู้!
“คุณหนู ทำอย่างไงดี?จะเชิญคุณผู้ชายไป……”
พ่อบ้านหันหน้าแล้วมองเวินเที๋ยนเที๋ยนอย่างกังวล อยากให้จี้จิ่งเชินออกหน้าแก้ปัญหา
เวินเที๋ยนเที๋ยนส่ายหัว
“ไม่ต้องแล้ว ในเมื่อนี่คือการแข่งขันของฉัน งั้นฉันก็ต้องเป็นคนมาจัดการ”
พูดแล้ว เธอค่อยๆตั้งตาไตร่ตรอง แล้วตามด้วย รีบร้อนถือบัตรภารกิจออกบ้านไป
ตระกูลเปิง
ท่านเปิงมองบัตรภารกิจในมือเธอแล้ว ก็ทำหน้ามุ่ย
“น่าเกลียดชัง! ผู้หญิงคนนี้เป็นอย่างอาจารย์ของนางจริงๆด้วย ทำได้แค่แทงข้างหลัง!แบบนี้ก็ชัดเจนแล้วว่า มันคือภารกิจหนึ่งที่ให้คุณไม่สามารถทำสำเร็จได้”
“สาวน้อย ครั้งนี้……”
“ท่านเปิง ฉันไม่อยากยอมแพ้” ยังไม่รอท่านเปิงพูดเสร็จ เวินเที๋ยนเที๋ยนก็พูดขึ้นมา
ท่านเปิงได้ยินแล้ว ก็ถูกน้ำเสียงอันหนักแน่นของหล่อนทำให้ประหลาดใจ แล้วหันหน้ามองมา
ในดวงตาของเวินเที๋ยนเที๋ยนมีแสงแห่งความหนักแน่นกระพริบอยู่
“ฉันไม่อยากยอมแพ้ ต้องมีวิธีอย่างอื่น”
“แต่ว่าซ่อมแซมวัตถุโบราณภายใน2วัน นี่มันเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว ต่อให้เป็นฉันก็ตาม……”
กำลังพูดอยู่ ก็มีเสียงของคนๆหนึ่งดังมาจากด้านนอกอย่างกะทันหัน
“ท่านเปิง ท่านอยู่มั้ย?ท่านเปิง?”
ฝ่ายตรงข้ามบุกเข้าประตูใหญ่อย่างเสียงดัง เดินตรงไปด้านในโดยตรง
เสียงดังมาแต่ไกล เวินเที๋ยนเที๋ยนได้ยินเสียงนี้แล้ว รู้สึกราวกับว่าเคยรู้จักกัน อดไม่ได้ที่จะหันหน้าไปมอง
ต่อมา เห็นรูปร่างที่ซูบผอม คนแก่ที่หลังค่อยๆค่อมเดินเข้ามาจากด้านนอก
ผมเผ้ายุ่งเหยิง บนใบหน้ายังคงไว้หนวดเครา มีดวงตาคู่หนึ่งที่สว่างไสว!