เมียหวานของประธานเย็นชา – บทที่ 527 คุณแน่ใจว่าคุณเป็นคนซ่อมแซมเหรอ

บทที่ 527 คุณแน่ใจว่าคุณเป็นคนซ่อมแซมเหรอ

บทที่ 527 คุณแน่ใจว่าคุณเป็นคนซ่อมแซมเหรอ

“เป็นไปไม่ได้!”

หลีเจียเวยพูดเสียงดังขึ้นมากะทันหัน ขัดจังหวะของอาจารย์ที่กำลังพูดอยู่

เธอพุ่งเข้ามาด้วยความไม่พอใจ มองดูต้นสำริดที่อยู่ตรงหน้าและหัวเราะด้วยเสียงที่เยือกเย็น

“แผ่นใบไม้ที่เยอะแยะขนาดนี้ เธอจะสามารถทำมันสำเร็จคนเดียวได้ยังไง? ต้องมีคนช่วยเธอแน่ๆ! ท่านคิดว่าพวกเราทุกคนเป็นคนโง่เหรอ?”

เธอหันมามองอาจารย์ทั้งหลาย พูดอย่างประชดประชัน: “นี่เป็นเรื่องที่พวกท่านกับเวินเที๋ยนเที๋ยนสมรู้ร่วมคิดกันใช่ไหม?”

คำพูดทั้งหมด ทำให้ผู้ชมทั้งหลายต่างเงียบลง

จากที่พวกเขาฟังดู คำพูดของหลีเจียเวยก็มีเหตุผล

แผ่นเครื่องเคลือบที่แตกเป็นชิ้นเยอะขนาดนี้ ซ่อมเสร็จภายในสามวัน มันเป็นเรื่องที่ไม่มีทางจะทำได้

ยิ่งไม่ต้องพูดถึงว่าเวินเที๋ยนเที๋ยนเป็นคนซ่อมแซมเองคนเดียวทั้งหมด

คนไม่น้อยที่คิดว่า เธอน่าจะแค่ทำบางส่วนเท่านั้น

ถึงแม้ในใจจะคิดแบบนี้ แต่เพราะคำพูดที่พูดออกมานั้นเป็นอาจารย์อาวุโสที่ได้รับการยอมรับนับถืออย่างสูง ไม่มีใครกล้าคัดค้าน

“ไอ้โง่!” ฟังคำพูดของหลีเจียเวยแล้ว ท่านอาจารย์โมโหจนตะคอกด่าไปหนึ่งคำและพูดอย่างไม่พอใจ: “พวกคุณรู้อะไร? คุณดูต้นสำริดนี้ดีๆอีกครั้ง นี่ไม่ใช่คนธรรมดาสามารถซ่อมแซมได้!”

“ช่างซ่อมเครื่องเคลือบคนเดิมของพิพิธภัณฑ์พระราชวังแห่งชาติป่วยเข้าพักรักษาตัวอยู่โรงพยาบาลก่อนหน้าอาทิตย์ที่แล้ว ไม่มีทางจะมายุ่งเกี่ยวได้ พวกเราหาทั่วเมืองแล้ว คนที่เราหามีเพียงเวินเที๋ยนเที๋ยนคือคนเดียวที่มีความสามารถในการซ่อมแซมเครื่องเคลือบและสำริดทองแดง ดังนั้นจึงเชิญเธอไป”

“ในพิพิธภัณฑ์พระราชวังแห่งชาติ ในเวลาสามวันนี้มีกล้องวงจรปิด ไม่มีใครเคยช่วยเธอ ถ้าพวกคุณไม่เชื่อ ไปดูกล้องวงจรปิดได้!”

อาจารย์ท่านอื่นได้ยินแล้ว ต่างพยักหน้า

เพื่อที่จะซ่อมแซมต้นสำริดต้นนี้ เวินเที๋ยนเที๋ยนอยู่ที่พิพิธภัณฑ์พระราชวังแห่งชาติสามวันสามคืนเต็มๆ ขยันขันแข็งกว่าคนอื่นๆ

อาจารย์ท่านอื่นไม่ค่อยคุ้นเคยกับเครื่องเคลือบสำริดพวกนี้ หลังจากที่ช่วยกันซ่อมแซมโครงสร้างของต้นสำริดนี้แล้ว ก็ไม่สามารถช่วยอะไรได้อีก

ตอนนั้นเห็นเวินเที๋ยนเที๋ยนเหนื่อยขนาดนี้ พวกเขาต่างก็ห่วงใยเอ็นดูเธอ ตอนนี้เห็นเธอถูกคนใส่ร้ายเช่นนี้ จึงยิ่งโมโห

อาจารย์หลายๆท่านใช้ชื่อเสียงของตนเองเป็นประกัน ในที่สุดท่านชมที่อยู่ด้านล่างเวทีจึงยอมเชื่อ

แต่หลีเจียเวยก็ยังไม่ยอมเชื่อ

“ไม่มีทาง! ไม่มีทางเป็นไปได้เด็ดขาด!”

เธอยกมือขึ้นมาโบกอย่างแรง แววตาจ้องอยู่ที่ต้นสำริดนั่น อยากจะเอามันมาเจาะดู

“ถึงแม้ว่าจะสามารถทำเสร็จภายในเวลาสามวันก็จริง แต่ก็ไม่สามารถรับประกันคุณภาพได้ ใครจะรู้ว่าใบไม้ที่ถูกซ่อมแล้วจะเป็นยังไงบ้าง?”

“หุบปาก!”

ท่านเปิงตะโกนด่า: “คนที่ไม่มีฝีมือ อีกทั้งยังไม่มีคุณสมบัติพื้นฐานของนักบูรพาวัตถุโบราณไม่มีสิทธิ์เอ่ยปากพูด คุณลืมตาโตๆและดูให้ละเอียดดีๆ อะไรคือนักบูรพาขั้นสูง!”

ในใจของหลีเจียเวยไม่พอใจมาก กัดฟันไว้แน่นๆ สีหน้าน่าเกลียดหน้าบึ้ง

เธอเดินเข้าไปใกล้ๆต้นสำริดนั่นจริงๆ จากนั้นตรวจดูใบไม้พวกนั้นอย่างละเอียด

เวินเที๋ยนเที๋ยนเห็นท่าทางของเธอ แล้วก็เอ่ยปากพูด: “คุณตรวจดูให้ละเอียดได้ ถ้าคุณสามารถหารอยตำหนิบนใบใดใบหนึ่งในนั้น การแข่งขันในวันนี้ถือว่าฉันแพ้”

“เธอพูดแบบนี้เองนะ!” หลีเจียเวยกัดฟันพูด

บนใบหน้าของเวินเที๋ยนเที๋ยนมั่นใจมาก ไม่กลัวเธอตรวจสอบเลยแม้แต่นิด

เห็นสีหน้าท่าทางของเธอเช่นนี้แล้ว หลีเจียเวยยิ่งโกรธมาก กำมือไว้แน่นๆ เล็บที่แหลมคมทิ่มเข้าไปบนฝ่ามือ เริ่มตรวจสอบอย่างละเอียด

หนึ่งใบ

สองใบ

ตรวจสอบดูทุกใบที่สามารถจับต้องมองเห็นได้ แต่กลับไม่เห็นมีใบไหนที่มีรอบแตกเลย

คาดไม่ถึงว่า สวยสมบูรณ์ไม่มีที่ติเลย!

“เป็นไปไม่ได้!”

เธอตกใจและก้าวถอยหลังไปหนึ่งก้าว แต่กลับสะดุดกับรองเท้าส้นสูง จนล้มลงไปนั่งบนพื้น

“สามวัน ไม่มีใครสามารถทำได้… …” เธอพึมพำอยู่คนเดียว

“แต่ว่าฉันทำได้”

น้ำเสียงของเวินเที๋ยนเที๋ยนมีความภูมิใจ

ทำงานมาสามวันสามคืนเต็ม แลกกับผลงานแห่งความสำเร็จ

สีหน้าของหลีเจียเวยเปลี่ยนแล้วเปลี่ยนอีก ความจริงถูกเปิดเผยออกมาทีละนิด สุดท้ายก็กระจ่าง จนเธอหน้าซีดเซียว

แต่ผ่านไปแค่ครู่เดียว เธอก็นึกถึงอะไรอีกครั้งและรีบลุกขึ้นมาทันที

“ถึงแม้จะเป็นเช่นนี้ ฝีมือของแจกันทรงกลมที่ฉันซ่อมแซมก็สวยสมบูรณ์เหมือนกัน”

“แจกันทรงกลมของเธอเหรอ?”

เวินเที๋ยนเที๋ยนพูดซ้ำอีกหนึ่งครั้ง หันหน้าไปมองเธอ “คุณแน่ใจว่าเป็นของคุณเหรอ?”

หลีเจียเวยยังไม่รู้ความคิดลึกๆในคำพูดของเธอ พูดด้วยความมั่นใจ: “ใช่ ถูกต้อง! ฉันเป็นคนซ่อมเอง คุณสามารถทำได้ถึงระดับนี้ไหม?”

“ฝีมือการซ่อมแซมของแจกันทรงกลมพวกนี้ แม้แต่อาจารย์ของคุณยังชมเชยไม่หยุด เทคนิคการซ่อมแซมขั้นสูงสุดของประเทศในขณะนี้!”

เวินเที๋ยนเที๋ยนได้ยินดังนั้นแล้ว ทนต่อไปไม่ไหวจนหัวเราะออกมา

“คุณแน่ใจจริงๆเหรอว่าแจกันนั้นคุณเป็นคนซ่อมแซม? ทำไมฉันจำได้ว่า? ตอนที่มันอยู่ในมือของฉัน ก็ถูกฉันซ่อมเสร็จจนร้อยละแปดสิบไปแล้ว สุดท้ายถึงส่งไปถึงมือของคุณ?”

ได้ยินคำนี้แล้ว ทั้งห้องส่งเสียงดังวุ่นวายขึ้นมาอีกครั้ง

อะไรนะ?

แจกันทรงกลมนั่น ช่างที่ซ่อมมันจริงๆแล้วคือเวินเที๋ยนเที๋ยน?

ซ่อมเองถึงแปดสิบเปอร์เซ็นต์ แล้วส่งต่อไปให้หลีเจียเวย?

แต่ว่าตั้งแต่ที่มีข่าวรายงานออกมา หลีเจียเวยบอกมาตลอดว่า งานซ่อมแซมแจกันใบนี้ เธอเป็นผู้รับผิดชอบเองทั้งหมด ซ่อมเองคนเดียวทั้งหมด

หลีเจียเวยส่ายหัวและในใจร้อนรนขึ้นมาทันที

เวินเที๋ยนเที๋ยนทำไมถึงรู้เรื่องพวกนี้?

หรือเธอจะเป็นคนเดิมที่ซ่อมแซมแจกันนี้จริงๆ?

เป็นไปไม่ได้!

ไม่มีทางเป็นไปได้!

บนโลกนี้ทำไมถึงมีเรื่องบังเอิญขนาดนี้?

เธอส่ายหัว อารมณ์เสียขึ้นมาทันที

“หลักฐานล่ะ? คุณมีหลักฐานอะไร? ทั้งๆที่แจกันใบนั้นฉันเป็นคนซ่อมมันเสร็จด้วยตนเอง!”

“คุณอยากได้หลักฐานอะไร?” เวินเที๋ยนเที๋ยนยังไม่พูดอะไร ท่านจางก็เดินขึ้นมาจากด้านหลัง

เขามองดูหลีเจียเวยจากหัวจรดเท้าและพูดว่า: “ผมว่าคุณทำไมถึงจองหองขนาดนี้? ที่แท้ก็เพราะได้แจกันทรงกลมใบนี้มาจากมือของเฟิงหมิง”

“ตอนแรกเฟิงหมิงมาขอร้องผม ให้ผมมอบแจกันใบนี้ให้เวินเที๋ยนเที๋ยนซ่อมแซม เพียงแต่ว่าหลังจากนั้น เพราะว่านังหนูมีเหตุผลบางอย่าง ไม่ยอมซ่อมต่อไป ในตอนนั้นผมเคยได้เห็นกับตาตนเอง แจกันใบนี้ถูกซ่อมแซมจนเกือบเสร็จแล้ว เหลือเพียงแต่ขั้นตอนเล็กๆสุดท้าย นั่นเป็นส่วนที่นักบูรพาวัตถุโบราณทุกคนก็สามารถทำได้เช่นกัน จากนั้นก็ถูกส่งต่อไปถึงมือคุณ?”

ท่านจางเชิดใส่หลีเจียเวยด้วยแววตาที่ไม่พอใจยิ่งนัก

“คุณทำเพียงขั้นตอนสุดท้ายที่ง่ายๆ แล้วเอาความดีความชอบมาให้ตนเองทั้งหมด? เก่งกาจจริงๆเลย”

น้ำเสียงเต็มไปด้วยความประชดประชันและเปิดเผยความจริงออกมาทั้งหมด

หลีเจียเวยหยุดชะงัก สีหน้าซีดขาวกว่าเดิมจนไม่มีแม้แต่สีเลือด

ท่านผู้ชมทั้งหมดยิ่งตกตะลึง ที่แท้ทั้งหมดนี้เวินเที๋ยนเที๋ยนเป็นคนทำเองทั้งหมดจริงๆ!

แต่กลับถูกหลีเจียเวยแย่งเอาผลประโยชน์ไปให้ตนเองทั้งหมด

แบบนี้ยังไม่พอ ช่วงนี้ยังหน้าด้านไม่มียางอาย โฆษณาในรายการทีวีไปทั่วว่าตนเองเก่งขนาดไหน

ยิ่งโง่ไปกว่านั้นก็คือ ยังท้าแข่งกับคนซ่อมแซมที่แท้จริง หาเรื่องให้ตนเองเสียหน้าชัดๆ?

นึกถึงเช่นนี้แล้ว คนที่อยู่ด้านล่างเวทีต่างหัวเราะเยาะเย้ยกันขึ้นมา

สีหน้าของหลีเจียเวยเปลี่ยนไปจนน่าเกลียดมาก หน้าบูดหน้าเบี้ยว จนถึงกับเริ่มตัวสั่น

เธอจะคิดได้ยังไง เวินเที๋ยนเที๋ยนก็คือช่างซ่อมแซมคนก่อน?

ไม่อย่างนั้น เธอจะไม่มีทางยื่นคำขอเช่นนั้นหรอก!

ตอนนี้เห็นเสียงหัวเราะเยาะของท่านผู้ชมและอาจารย์หลายๆท่านที่ใช้สายตารังเกียจมองเธอ ในใจของเธอทั้งกลัว ทั้งหวาดผวา รีบหันไปขอความช่วยเหลือและมองไปทางอาจารย์ฟ่าน หวังว่าจะให้ความช่วยเหลือตนเองบ้าง

เมียหวานของประธานเย็นชา

เมียหวานของประธานเย็นชา

Status: Ongoing

“คุณจะคิดแบบนี้ไปถึงเมื่อไรถึงจะกลับบ้านได้?” จี้จิ่งเชินพูดออกมาอย่างจนใจ เขารีบมาที่นี่ทันทีตั้งแต่รับสาย และยืนดูเธอเดินวนคิดเป็นหนูติดจั่นแบบนี้มาครึ่งชั่วโมงแล้ว เธอไม่กล้าออกมา เพราะเธอกลัวว่าถ้าเขารู้เรื่องเข้า เขาจะทำอย่างไร สุดท้ายสิ่งที่เขาทำ คือ จูบหน้าผากของเธอ “ผมเชื่อคุณ… ไม่ต้องอธิบายอะไร ผมก็เชื่อคุณ”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท