บทที่ 572 เรียนว่ายน้ำ
เธอยังไม่ได้เดินเข้าไปด้านในห้องครัว เพิ่งเดินเข้าไปใกล้ เธอก็เห็นร่างเปลือยท่อนบนของจี้จิ่งเชิน บนเอวของเขามีผ้าขนหนูคาดไว้อย่างหลวมๆ คล้ายกับมันสามารถหลุดลงมาได้ทุกเวลา
ฝีเท้าของเวินเที๋ยนเที๋ยนหยุดชะงักทันที ชั่วขณะ เธอไม่รู้ว่าควรเดินเข้าไปหรือหยุดอยู่กับที่ดี
เอวของเธอยังรู้สึกปวดเมื่อย พอนึกถึงขั้นตอนที่จี้จิ่งเชินทรมานเธอเมื่อคืนแล้ว เธอก็รู้สึกกลัวนิดหน่อย และทำให้ไม่กล้าเดินเข้าไป
อีกทั้งตรงที่เธอยืนอยู่ยังสามารถมองเห็นรอยข่วนที่อยู่บนแผ่นหลังของจี้จิ่งเชินได้อย่างชัดเจน และเธอก็เป็นคนทิ้งรอยพวกนั้นไว้เอง
ใบหน้าของเวินเที๋ยนเที๋ยนยิ่งแดงมากกว่าเดิม
และตอนนี้ จี้จิ่งเชินที่เพิ่งทำอาหารกลางวันเสร็จก็ได้หันกลับมา พอเขาเห็นเธอ เขาก็ยกยิ้มอย่างอ่อนโยนทันที
“ หิวหรือยัง? ”
ตอนนี้ดวงอาทิตย์ลอยขึ้นสูงแล้ว แสงแดดสว่างไสวสะท้อนเข้ามาจากนอกหน้าต่างมาตกลงบนตัวของจี้จิ่งเชิน ทำให้รอยยิ้มบนใบหน้าของเขายิ่งอบอุ่นมากขึ้น
อยู่ๆเวินเที๋ยนเที๋ยนก็รู้สึกว่าความเหนื่อยล้าบนตัวได้หายไปจนหมดสิ้น ลมอ่อนๆพัดผ้าม่านหน้าต่างที่ยาวจรดพื้นให้เปิดออกนิดหน่อย ทำให้รู้สึกเย็นสบาย
ผู้ชายตรงหน้าเหมือนสิ่งมีชีวิตมหัศจรรย์ ที่ตอนนี้สามารถมีแสงวูบวาบเหมือนกับพระเจ้า ทำให้คนอยากเข้าไปใกล้อย่างอดไม่ได้
แต่ก็สามารถกลายร่างเป็นสัตว์ป่าได้เหมือนเมื่อคืนเช่นกัน และทำให้คนร้องทรมานอย่างต่อเนื่อง
ถูกสายตาของจี้จิ่งเชินมองอยู่สักพักใหญ่ เวินเที๋ยนเที๋ยนก็หน้าแดงนิดหน่อย และแก้มของเธอก็เปลี่ยนเป็นสีชมพูอ่อนๆทันที
“ อือ ” เธอพยักหน้าเหมือนกระต่ายขาวที่ถูกหลอกล่อ แต่ยังไงเธอก็เดินเข้าไปหาเขาอยู่ดี
บนโต๊ะมีอาหารสองสามอย่างเตรียมไว้แล้ว ถึงแม้ว่าหน้าตาจะไม่ได้ดีที่สุด แต่สำหรับคนที่หิวมากอย่างเวินเที๋ยนเที๋ยน นี่เป็นอาหารเลิศรสที่อร่อยที่สุดแล้ว
ยิ่งไม่ต้องพูดถึง จี้จิ่งเชินเป็นคนทำอาหารเหล่านี้เอง
ไม่นาน เวินเที๋ยนเที๋ยนก็พบว่าหนึ่งในนั้นยังมีเมนูปลาที่เธอชอบกินที่สุดอีกด้วย
จี้จิ่งเชินไม่ชอบกินปลา นอกจากเวินเที๋ยนเที๋ยนเป็นคนทำ ตอนอื่นเขาแทบไม่กินเลย ต่อให้ตัวเองทำอาหารเองก็ไม่มีข้อยกเว้นเช่นกัน
อีกอย่าง พูดได้ว่าเขาเกลียดกลิ่นคาวปลามาก แต่วันนี้กลับเป็นคนทำเมนูนี้ให้เธอ
คิดได้ดังนั้น เวินเที๋ยนเที๋ยนก็รู้สึกอบอุ่นใจทันที พอเห็นจี้จิ่งเชินเอากับข้าวเมนูสุดท้ายมาวางบนโต๊ะ ท้องของเธอก็ร้องอย่างให้ความร่วมมือทันที
“ กินเลยไหม? ”
“ อือ ”
เวินเที๋ยนเที๋ยนพยักหน้า เธอกำลังจะนั่งลง หางตาของเธอกลับเห็นว่าจี้จิ่งเชินก็นั่งลงเช่นเดียวกัน
พอเธอหันกลับมา ก็เห็นผิวของเขาเปลือยเปล่าอยู่ด้านนอก ชั่วขณะ เธอจึงไม่รู้ว่าควรมองไปที่ไหนดี
“ นาย นายจะทานข้าวทั้งแบบนี้หรอ? ”
จี้จิ่งเชินกลับทำหน้าประมาณว่ามันควรจะเป็นแบบนี้อยู่แล้ว
“ ที่นี่ไม่มีคนอื่น ”
ก็รู้อยู่ว่าเวินเที๋ยนเที๋ยนหน้าบาง จี้จิ่งเชินยังตั้งใจจ้องเธออีก และเขาก็เห็นว่าสายตาของเธอเลิ่กลั่ก แก้มแดงอมชมพู เห็นแล้วยิ่งทำให้คนรู้สึกคันหัวใจ
เวินเที๋ยนเที๋ยนเม้มปากเล็กน้อย หลังจากนั้นเธอก็ก้มหน้าลง และแทบจะเอาหัวมุดลงไปในจานข้าวอยู่แล้ว
“ แต่มีฉันนี่นา ”
“ คุณไม่ใช่คนอื่น ” จี้จิ่งเชินพูดอย่างใจกว้าง
เวินเที๋ยนเที๋ยนรู้สึกจนปัญญา ตอนนี้คิดซะว่าเธอเป็นคนอื่นหน่อยไม่ได้หรือไง?
“ ยิ่งไปกว่านั้น…… ” จี้จิ่งเชินพูดต่อ: “ ไม่ใช่ว่าคุณไม่เคยเห็นสักหน่อย เมื่อคืนคุณยังลูบคลำอยู่เลย เห็นหลังผมหรือยัง? ทั้งหมดคือรอยที่คุณทำไว้…… ”
ใบหน้าของเวินเที๋ยนเที๋ยนร้อนขึ้นทันที คล้ายกับเธอถูกเผาทั้งตัวอย่างนั้นแหละ
“ นาย นายไม่ต้องพูดแล้ว…… ”
จี้จิ่งเชินเผลอยิ้มออกมา
เมื่อคืน เวินเที๋ยนเที๋ยนยังมีท่าทีไม่ยอมแพ้อยู่เลย พอมาวันนี้กลับเปลี่ยนเป็นกระต่ายขาวตัวน้อยที่ทั้งนุ่มทั้งน่ารักไปเสียแล้ว
“ ไม่ใช่ว่าเมื่อคืนยังปีกกล้าขาแข็งอยู่หรือไง? ทำไมตอนนี้ถึงเขินอายได้ขนาดนี้ล่ะ? ”
เวินเที๋ยนเที๋ยนหมดคำจะพูดไปชั่วขณะ เธอก้มหน้าไม่พูดจา
เห็นเธอเขินแล้ว ถ้าเขายังพูดต่อ คงไม่ต้องกินข้าวกันพอดี จี้จิ่งเชินจึงลุกขึ้นยืน
เขายืดเส้นยืดสายนิดหน่อย หลังจากนั้นก็พูดขึ้น: “ คุณกินไปก่อน ผมจะไปใส่เสื้อผ้า อีกสักครู่ผมจะพาคุณไปที่ชายหาด ”
เวินเที๋ยนเที๋ยนพยักหน้า รอจนด้านหลังไม่มีเสียงแล้ว เธอจึงหันกลับไปมอง พอเห็นว่าเขาเดินออกไปแล้ว เธอถึงได้โล่งใจขึ้น
ถ้าไปที่ชายหาดที่เป็นนอกบ้าน คงไม่เป็นอะไรหรอกมั้ง?
ยิ่งไปกว่านั้น เมื่อสักครู่เธอก็ได้เลือกกระโปรงที่มิดชิดที่สุดในตู้เสื้อผ้าออกมาหนึ่งตัวอีกด้วย
พอคิดถึงตรงนี้ ใจที่เป็นกังวลของเวินเที๋ยนเที๋ยนถึงค่อยคลายลง หลังจากนั้นเธอก็กินข้าวได้อย่างสบายใจ
ทานอาหารกลางวันเสร็จ จี้จิ่งเชินก็เปลี่ยนเสื้อผ้าง่ายๆสบายๆ และพาเวินเที๋ยนเที๋ยนเดินไปข้างนอก
ตอนนั้น สาเหตุอย่างหนึ่งที่ทำให้จี้จิ่งเชินตัดสินใจซื้อเกาะเล็กๆเกาะนี้ ก็เพราะหาดทรายของที่นี่สวยมาก
เม็ดทรายเปล่งประกายแสงสีทองภายใต้แสงแดด ดุจดั่งสวรรค์
ยิ่งไปกว่านั้นเกาะเกาะนี้เป็นทรัพย์สินส่วนตัว ชายหาดทั้งหมดจึงเป็นของพวกเขา
ยังไม่ได้เดินเข้าไปใกล้ พอเห็นหาดทรายสีทองนั้น เวินเที๋ยนเที๋ยนก็เบิกตากว้างอย่างดีใจ และรีบวิ่งไปทางนั้นทันที
เดิมที เธอคิดว่าเสื้อผ้าที่ตัวเองใส่มิดชิดพอแล้ว แต่เธอกลับไม่รู้ว่าเนื้อผ้าของกระโปรงตัวนี้พิเศษมาก
ตอนไม่ขยับมันจะเชื่อฟังมาก แต่ถ้าขยับตัวแรงๆเหมือนตอนนี้ที่เธอกำลังวิ่ง เนื้อผ้าที่บางเบาก็จะปลิวไปตามการกระทำ
ขาสองข้างที่ขาวผ่องและเรียวยาวก็ได้โผล่ออกมาด้านนอกทันที
จี้จิ่งเชินเดินตามอยู่ด้านหลังเธอ เขาหรี่ตาลงเล็กน้อย ก็สามารถมองเห็นรอยจูบที่อยู่ด้านในได้อย่างชัดเจน
ดวงตาลึกของเขาได้มืดสลัวลงอีกครั้ง
ผ่านไปสักครู่ เวินเที๋ยนเที๋ยนก็วิ่งมาถึงบนหาดทราย เธอถอดรองเท้า ทำให้สองเท้าของเธอจมลงไปในทราย เธอรู้สึกสบายจนหรี่ตาลงนิดหน่อย
จี้จิ่งเชินตามหลังเธอไปติดๆ ฝีเท้าของเขาไม่ได้หยุดลง แต่เดินตรงไปที่ชายทะเล หลังจากนั้นเขาก็ถอดเสื้อออก
เขาเพิ่งลงน้ำ หลังจากนั้นก็หันไปมองเธอ
เห็นเวินเที๋ยนเที๋ยนยืนนิ่งอยู่กับที่ ไม่ขยับไปไหน เขาจึงพูดขึ้น: “ มานี่สิ ”
เวินเที๋ยนเที๋ยนรีบโบกมือทันที
“ ฉันว่ายน้ำไม่เป็น ”
แต่จี้จิ่งเชินกลับพูดต่อ: “ ผมสอนคุณเอง ”
เวินเที๋ยนเที๋ยนว่ายน้ำไม่เป็น ตอนเด็กๆเธอเคยเรียน แต่เรียนยังไงก็ยังว่ายไม่เป็นอยู่ดี เธอจึงไม่เรียนมันซะเลย
ถ้าไม่ใช่เพราะแบบนี้ ตอนที่เธอถูกบังคับให้ลงทะเล เธอก็คงจะไม่สำลักน้ำจนเกือบเอาชีวิตไม่รอดแบบนั้น
ที่จี้จิ่งเชินซื้อเกาะเกาะนี้ นอกจากมอบให้เป็นของขวัญของเวินเที๋ยนเที๋ยน ภายในเวลาสองวันนี้ เขายังตั้งใจจะสอนให้เธอว่ายน้ำเป็นอีกด้วย
ถ้าเกิดอุบัติเหตุจริงๆ เธอจะได้ช่วยตัวเองได้
เรื่องแบบนั้น เขาไม่อยากให้เธอประสบพบเจอเป็นครั้งที่สองอีกแล้ว
เวินเที๋ยนเที๋ยนขมวดคิ้ว เธอยังคงรู้สึกลังเลอยู่นิดหน่อย
ประสบการณ์ตกทะเลและสำลักน้ำเมื่อครั้งก่อน ยังทำให้เธอรู้สึกหวาดกลัวอยู่
เธอมองมหาสมุทรที่กว้างสุดลูกหูลูกตา หลังจากนั้นก็ไม่ได้เดินไปด้านหน้า แต่กลับเดินถอยหลังแทน
เห็นความกลัวของเธอ จี้จิ่งเชินจึงเป็นฝ่ายเดินมาหาเธอเอง
“ ผมรู้ว่าคุณกลัว แต่ถ้ามีครั้งต่อไป ถ้าไม่มีใครช่วยคุณ เที๋ยนเที๋ยน…… ”
เวินเที๋ยนเที๋ยนเม้มริมฝีปากแน่น เธอมองสายตาเป็นห่วงของจี้จิ่งเชิน และหันไปมองมหาสมุทรสีครามเข้ม
เธอสูดหายใจเข้าลึกๆ หลังจากนั้นก็พูดขึ้น: “ เรียนก็ได้ มีนายอยู่คงไม่เป็นอะไรหรอกมั้ง ”
จี้จิ่งเชินยิ้มเล็กน้อย ต่อมาเขาก็พูดขึ้น: “ ดีมาก งั้นก็ถอดเสื้อผ้าออกก่อนสิ ”
เดิมที เวินเที๋ยนเที๋ยนยังรู้สึกกังวลนิดหน่อย แต่พอได้ยินคำพูดประโยคนี้ เธอก็เงยหน้ามองเขาอย่างตกใจทันที
“ ว่าไงนะ ”
จี้จิ่งเชินพูดขึ้น: “ ตอนนี้คุณใส่กระโปรงอยู่ จะเรียนได้ยังไงล่ะ? ”
เวินเที๋ยนเที๋ยนก้มลงมองกระโปรงที่เลยหัวเข่าของตัวเองนิดหน่อย เห็นเขากำลังยิ้มบางๆ ชั่วขณะ เธอจึงเกิดความสงสัย หรือว่าการเรียนว่ายน้ำก็เป็นหนึ่งในแผนการของจี้จิ่งเชินเช่นกัน
เห็นเธอยังไม่เข้าใจ จี้จิ่งเชินจึงพูดเร่ง: “ เร็วสิ ถ้ายังไม่ทำเวลาอีก ท้องฟ้าก็จะเปลี่ยนสีแล้วนะ หรือคุณอยากให้ผมช่วย?