เมียหวานของประธานเย็นชา – บทที่ 594 การตั้งถิ่นฐานใหม่

บทที่ 594 การตั้งถิ่นฐานใหม่

บทที่ 594 การตั้งถิ่นฐานใหม่

“ฉันจะช่วยเขาหาที่ปักหลักให้เขา เพื่อที่เขาจะได้ไม่รบกวนคุณ”

จี้จิ่งเชินเพิ่งจะพูดจบ เวินหมิงเฮ่าที่ซ่อนตัวอยู่ด้านหลังเหยาเย้นก็กรีดร้องขึ้นทันที

“ผมไม่ไป! ”

เหยาเย้นขมวดคิ้วและนิ่งคิดอยู่ครู่หนึ่ง “เป็นที่ไหนคะ?”

“สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าเฉินซี”

เมื่อได้ยินคำพูดของเขา เหยาเย้นก็นิ่งเงียบ

เธอรู้ว่าสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าเฉินซีตั้งขึ้นโดยเวินเที๋ยนเที๋ยน ถ้าหากเวินหมิงเฮ่าถูกส่งไปที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าเธอก็จะมีสมาธิในการทำงานให้เสร็จขึ้นจริงๆ

ยิ่งไปกว่านั้น คนที่มีตาก็ล้วนดูออก ว่าที่จิ่งเชินมาที่นี่ก็เพราะเรื่องเมื่อวานนี้

สำหรับนิสัยของเวินหมิงเฮ่า เธอเองก็อ่อนใจเช่นกัน ถ้าหากสามารถแก้ไขมันได้บ้าง ก็ถือเป็นเรื่องที่ดี

เมื่อเห็นว่าเธอยังคงลังเล จี้จิ่งเชินก็กล่าวต่อ “การรักษาความปลอดภัยในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าสมบูรณ์แบบ ตราบใดที่เขาไม่ออกไปข้างนอกเองสุ่มสี่สุ่มห้า ก็จะไม่มีทางเกิดเรื่องขึ้น คนตระกูลเวินก็คงไม่คาดคิดเช่นกันว่าเขาจะอยู่ในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า”

เหยาเย้นเริ่มตื่นเต้น

เธอหันไปมองเวินหมิงเฮ่าที่อยู่ข้างหลังตนก่อนจะพยักหน้าในที่สุด

แต่เวินหมิงเฮ่ากลับระเบิดในทันที

“ผมไม่ไป! ฉันไม่อยากไปบ้านเด็กกำพร้าที่ไหนทั้งนั้น! ”

เขาเกรี้ยวกราดขึ้นมา และคว้าแก้วบนโต๊ะเขวี้ยงลงบนพื้นจน

จี้จิ่งเชินมองเขาอย่างเย็นชา และไม่มีท่าทีใดๆ

ในชั่วพริบตา บนพื้นก็เต็มไปด้วยเศษแก้วที่ถูกเขาปาออกมา

จี้จิ่งเชินยกมือขึ้นเล็กน้อย บอดี้การ์ดสองคนจึงเข้ามาจากด้านนอก จากนั้นจึงจับเวินหมิงเฮ่าที่กำลังอาละวาดเดินออกไป

เมื่อเหยาเย้นเห็น ในใจก็รู้สึกอดทนไม่ไหวอยู่บ้าง และเดินตามไป

แต่สุดท้ายเธอก็ไม่ได้เปลี่ยนใจ เมื่อเห็นเวินหมิงเฮ่าถูกพาไป เธอก็เช็ดน้ำตาที่หางตา แต่ไม่พูดอะไรออกมาอีก

ในที่สุดเมื่อเด็กถูกส่งตัวไป จี้จิ่งเชินก็หันหลังกลับ

เมื่อเวินเที๋ยนเที๋ยนตื่นขึ้นมา และรู้ว่าเวินหมิงเฮ่าถูกส่งตัวไป ก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจเฮือกหนึ่ง

การส่งไปสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าเป็นวิธีที่ไม่เลว แต่เธอก็ยังคงกังวลเกี่ยวกับจี้จิ่งเชินอยู่

จี้จิ่งเชินออกไปก่อนแล้ว เวินเที๋ยนเที๋ยนนอนไปถึงตอนบ่าย โชคดีที่วันนี้ไม่ใช่วันเริ่มงานอย่างเป็นทางการอีกทั้งกลุ่มผู้แนะแนวเองก็ไม่จำเป็นต้องถึงงานตามเวลาแต่อย่างใด

หลังเวินเที๋ยนเที๋ยนทานอาหารเช้าเสร็จ เธอก็ค่อยรีบออกไป

ในเวลานี้ที่ตระกูลเวิน เมื่อเวินฉี่รู้เวินเที๋ยนเที๋ยนและอาจารย์ฟ่านได้กลายเป็นหัวหน้ากลุ่มผู้แนะแนว และมีอำนาจเช่นเดียวกัน ก็โมโหเป็นฟืนเป็นไฟขึ้นมา

เพิ่งจะถูกเวินฉี่ด่าไปอย่างรุนแรง สีหน้าของเวินหงไห่ก็ดูไม่ได้อย่างยิ่ง พอออกจากบ้านและเห็นอาจารย์ฟ่านยืนรออยู่ที่หน้าประตู ก็ไม่ได้มีการไว้หน้าอะไรต่อไป

เขาไม่สนใจอาจารย์ฟ่านและเตรียมตัวขึ้นรถ แต่อาจารย์ฟ่านกลับรีบวิ่งเข้ามา

“คุณชายรองของตระกูลเวิน คุณฟังฉันอธิบายก่อน”

เมื่อได้ยินดังนั้น เวินหงไห่ก็ระเบิดขึ้นมาทันที เขาตวาดเสียงดัง

“คุณจะอธิบายยังไง? ตอนแรกเป็นคุณที่บอกว่าคุณสามารถควบคุมได้ทั้งทีมแนะนำ แล้วตอนนี้ล่ะ? เมื่อคืนคุณยังไปเอ่ยพูดคุยกับเวินเที๋ยนเที๋ยนอีก ผมไม่รู้แล้วว่าสรุปคุณอยู่ข้างใครกันแน่!”

อาจารย์ฟ่านอธิบายอย่างรวดเร็ว “ฉันเองก็ลำบากเหมือนกัน เวินเที๋ยนเที๋ยนรู้ดีว่าฉันกำลังทำอะไรอยู่ ถ้าเธอพูดออกไปต่อหน้าผู้จัดงาน แม้กระทั่งหัวหน้ากลุ่มผู้แนะแนวฉันก็เป็นไม่ได้แล้ว”

เวินหงไห่ยังคงมีสีหน้าเคร่งเครียด

“อย่างนั้นคุณจะทำยังไง? มีเวินเที๋ยนเที๋ยนอยู่ เธอจะกลายเป็นอุปสรรคในแผนของพวกเรา นี่เป็นความยุ่งยากที่เธอหาเข้ามาเอง เธอก็ต้องจัดการเอง”

อาจารย์ฟ่านรีบพยักหน้าอย่างรวดเร็ว

“แน่นอน ฉันคิดเอาไว้แล้ว หลังจากนี้อีกสามวัน ฉันจะทำให้เวินเที๋ยนเที๋ยนต้องรีบม้วนเสื่อกลับบ้านไป ถึงเวลานั้นกลุ่มแนะแนวทั้งหมดจะอยู่ภายใต้การควบคุมของฉัน และแผนของเราจะเป็นไปอย่างราบรื่น”

เพราะความมั่นใจของอาจารย์ฟ่าน เวินหงไห่จึงค่อยๆ สงบลงและพยักหน้า

“ได้ ผมจะรอข่าวจากคุณ”

พูดจบเขาก็ขึ้นรถไปทันที

อาจารย์ฟ่านเฝ้าดูรถของเวินหงไห่ค่อยๆ จางหายไปจนสุดถึงค่อยถอนสายตากลับมา

เมื่อนึกถึงเวินเที๋ยนเที๋ยน ดวงตาของเธอก็ดูน่ากลัวขึ้นมาหลายส่วน

เมื่อเวินเที๋ยนเที๋ยนมาถึงที่ประชุม งานก็ยังคงไม่ได้เริ่มอย่างเป็นทางการ

หลายอย่างยังอยู่ในระหว่างการก่อสร้าง การประชุมครั้งนี้จะดำเนินต่อไปเป็นเวลาหนึ่งเดือน อีกทั้งยังมีโครงการใหม่ให้ติดตามอยู่เรื่อยๆ และกลุ่มแนะแนวของเวินเที๋ยนเที๋ยนก็มีเพื่อช่วยเหลือให้โครงการเหล่านี้เป็นไปอย่างราบรื่น

ทันทีที่เธอเข้าไปในสำนักงาน เธอก็เห็นคนหลายคนกำลังนั่งพูดคุยกันอยู่

ผู้จัดงานได้กล่าวไว้ก่อนหน้านี้แล้วว่า พวกเขาจะเชิญผู้ช่วยหลายคนมาเข้าร่วมกับกลุ่มแนะแนว

เวินเที๋ยนเที๋ยนกวาดสายตามอง จากนั้นจึงเห็นใบหน้าที่คุ้นเคยอยู่หนึ่งถึงสองคน ล้วนเป็นคนที่เธอเคยเจอมาก่อน

สมควรเป็นสมาชิกคนอื่นๆ ที่ได้รับเชิญจากผู้จัดงาน

เมื่อเห็นว่ามีคนเข้ามา คนในนั้นก็หันหน้ามามองเธอ แต่กลับไม่ได้สนใจเธอ และหันมาพูดกับคนอื่นต่อ

เวินเที๋ยนเที๋ยนพบว่าในคนเหล่านี้ มีบางคนนั่งอยู่คนเดียวที่มุมห้อง และมีคนสองหรือสามคนกำลังสนทนากัน ราวกับว่าพวกเขาถูกแบ่งออกเป็นกลุ่มเล็กๆ หลายกลุ่ม

ในสาขาการบูรณะโบราณ ความสัมพันธ์ระหว่างอาจารย์นักวัตถุโบราณนั้นไม่อาจเรียกได้ว่ากลมกลืนมากนัก

ถ้าหากสองอาจารย์นักวัตถุโบราณเป็นผู้มาจากสาขาเดียวกัน บอกได้เลยว่านี่เหมือนกับขิงก็ราข่าก็แรง ไม่มีใครยอมใคร ในทำนองเดียวกัน ลูกศิษย์ของพวกเขาเองก็มองกันอย่างไม่รื่นหูรื่นตาไปด้วย

ไม่รู้เหมือนกันว่าเป็นเพราะผู้จัดงานไม่ได้ทำการตรวจสอบให้ดีก่อนที่จะเชิญพวกเขามาที่นี่หรือเปล่า ตอนนี้เวินเที๋ยนเที๋ยนมองไปและเห็นว่ามีอาจารย์หลายคนที่กำลังตั้งท่าเป็นศัตรูกัน

คนเหล่านี้ปกติก็ไม่มองหน้ากันอยู่แล้ว นับประสาอะไรกับการร่วมมือกันในตอนนี้

เวินเที๋ยนเที๋ยนมองไปที่คนเหล่านั้น จากนั้นจึงถอนหายใจอย่างอดไม่ได้

ดูเหมือนว่างานนี้ บางทีอาจจะไม่ราบรื่นนัก

เธอเดินไปดู และเห็นข้อมูลชิ้นหนึ่งวางอยู่บนโต๊ะ ดูเหมือนจะเป็นโครงการแรกที่ถูกตัดสินใจในการประชุม

เวินเที๋ยนเที๋ยนพลิกดู โครงการนี้เกี่ยวข้องกับการถ่ายทอดสดวัฒนธรรมของราชวงศ์ซาง แต่มันกลับถูกวางไว้ที่นี่และไม่มีใครสนใจ

“โครงการนี้ถูกส่งมาถึงเมื่อไหร่?”

ทันทีที่เธอพูดขึ้น ทั้งห้องก็เงียบลง และมีหลายคนหันหน้ามามอง

เวินเที๋ยนเที๋ยนเอ่ยปาก “นี่เป็นกิจกรรมในการพัฒนาและส่งเสริมวัฒนธรรมของราชวงศ์ซาง ไม่ทราบว่าใครสันทัดบ้าง?”

“แน่นอนว่าเป็นฉัน! ” เพิ่งจะพูดจบ ก็มีคนรีบตะโกนขึ้นมา

เธอก้าวไปข้างหน้า และพูดต่อ “สิ่งที่มีชื่อเสียงที่สุดในราชวงศ์ซางคือเครื่องทองสัมฤทธิ์ ฉันและอาจารย์ของฉันทำการวิจัยเรื่องเครื่องทองสัมฤทธิ์มานานหลายสิบปี นี่จะต้องเป็นงานที่ทำได้อย่างประสบผลสำเร็จแน่นอน”

ระหว่างที่พูดไป เธอก็ต้องการแย่งโครงการในมือของเวินเที๋ยนเที๋ยนมา

ยังไม่ทันที่มือจะได้แตะโดนข้อมูลโครงการ ระหว่างนั้นก็มีคนขัดขึ้นมากลางคัน

“เธออย่ามาล้อเล่น! หากพูดถึงเครื่องทองสัมฤทธิ์ ฉันและแล้วอาจารย์ของฉันต่างหากที่เก่งที่สุดในเรื่องนี้ เธอลืมพวกเราไปหรือเปล่า? อาจารย์ของเธอหากจะเทียบกับอาจารย์ของฉันเห็นทียังคงต้องไปเล่นงานวิจัยอีกหลายสิบปี? คนที่สันทัดที่สุดจริงๆ ก็คือฉัน! ”

ทั้งสองคนที่ปรากฏอยู่ตรงหน้าพวกเขา เป็นลูกศิษย์ของอาจารย์สองคนที่กำลังเขม่นกันอยู่ตรงข้าม

แต่โครงการแรกอย่างเครื่องทองสัมฤทธิ์ พวกเขาสองคนก็ทะเลาะกันขึ้นมาแล้ว

อย่างไรก็ตาม คนอื่นๆ ในห้องกลับไร้ท่าทีใดๆ สองมือกอดอกอย่างพร้อมจะดูละครสนุกๆ

เวินเที๋ยนเที๋ยนขมวดคิ้ว

เครื่องทองสัมฤทธิ์ของราชวงศ์ซางนั้นมีชื่อเสียงอย่างมาก แค่รูปปั้นทองสัมฤทธิ์สี่หยางก็มากเพียงพอที่จะทำให้นักสะสมและนักประวัติศาสตร์ทั้งในและต่างประเทศต้องตกตะลึง

การพัฒนาวัฒนธรรมของราชวงศ์ซาง ควรจะพัฒนาไปสู่ด้านเครื่องทองสัมฤทธิ์ด้วยเช่นกัน

เพียงแต่โครงการขนาดใหญ่แบบนี้ เพียงคนสองคนไม่สามารถดำเนินการได้สำเร็จ มีเพียงแค่คนสองคนยอมทำงานร่วมกันเท่านั้น

อย่างไรก็ตามทั้งสองคนนี้แค่มองกันก็พร้อมจะต่อสู้กันทุกเมื่อ ไม่มีความเป็นไปได้ที่จะร่วมมือกันได้เลย

เมียหวานของประธานเย็นชา

เมียหวานของประธานเย็นชา

Status: Ongoing

“คุณจะคิดแบบนี้ไปถึงเมื่อไรถึงจะกลับบ้านได้?” จี้จิ่งเชินพูดออกมาอย่างจนใจ เขารีบมาที่นี่ทันทีตั้งแต่รับสาย และยืนดูเธอเดินวนคิดเป็นหนูติดจั่นแบบนี้มาครึ่งชั่วโมงแล้ว เธอไม่กล้าออกมา เพราะเธอกลัวว่าถ้าเขารู้เรื่องเข้า เขาจะทำอย่างไร สุดท้ายสิ่งที่เขาทำ คือ จูบหน้าผากของเธอ “ผมเชื่อคุณ… ไม่ต้องอธิบายอะไร ผมก็เชื่อคุณ”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท