เมียหวานของประธานเย็นชา – บทที่ 614 ประธานจี้รอนานแล้ว

บทที่ 614 ประธานจี้รอนานแล้ว

บทที่ 614 ประธานจี้รอนานแล้ว

ตระกูลหล่อนมีกิจการที่ใหญ่โตจึงไม่สามารถปล่อยทิ้งไว้โดยขาดคนดูแลนานอย่างนี้ได้ เพราะตอนนี้คุณนายหล่อนได้รับบาดเจ็บ เวินหงหยู้เลยต้องคอยดูแลอยู่ข้างๆ ไม่ห่าง จึงทำให้หาคนมาดูแลบริษัทแทนไม่ได้

ถึงแม้เวินเที๋ยนเที๋ยนจะรับปากแล้วว่าจะเริ่มลงมือดูแลตระกูลหล่อนเอง แต่ตอนนี้เธอก็ยังมีหน้าที่รับผิดชอบทีมชี้แนะเลยไม่ไหนไม่ได้สักพัก

แต่โชคดีที่ช่วงนี้บริษัทของตระกูลหล่อนยังไม่มีการเคลื่อนไหวอะไร หลังจากที่เวินเที๋ยนเที๋ยนทำงานของทีมชี้แนะเสร็จเลยสามารถกลับไปที่บริษัทหล่อนซื่อ

หลังจากที่รู้ว่าเวินเที๋ยนเที๋ยนจะได้อยู่ต่ออีกสักระยะ คนที่ดีใจที่สุดเห็นทีจะเป็นเหล่าพนักงานทั่วทั้งบริษัทบริษัทเอ็มไอกรุ้ป

ตั้งแต่รู้ว่าเวินเที๋ยนเที๋ยนมา บรรยากาศในที่ทำงานก็ดีขึ้นไม่น้อยและไม่ต้องระแวดระวังตัวเหมือนเหมือนก่อน

เวินเที๋ยนเที๋ยนและทีมชี้แนะได้ร่วมกันทำงานกับพนักงานของบริษัทเอ็มไอกรุ้ป ต่างร่วมแรงร่วมใจกันผลักดันโครงการสุดท้ายไปยังทั่วโลก

ตอนนี้ทุกคนในบริษัทเอ็มไอกรุ้ปต่างก็งานยุ่งจนเท้าแทบไม่ติดพื้นเพราะต้องทุ่มเทให้กับโครงการนี้

แต่พอเวินเที๋ยนเที๋ยนมาถึง ประธานจี้ผู้เข้มงวดและเย็นชาดุจดังน้ำแข็งก็อารมณ์ดีขึ้นมากเลย

ถึงแม้ว่าภาระงานจะหนักหน่วง แต่ในสายตาของพนักงานทุกคน เมื่อเทียบงานหนักกับความรู้สึกที่ต้องกดดันอยู่ตลอดเวลาอย่างเมื่อก่อนแล้ว นี่มันสวรรค์ชัดๆ และประสิทธิภาพในการทำงานก็ยังดีขึ้นมากอีกด้วย

หลังจากที่ใช้ความพยายามอย่างไม่หยุดพักมานานหลายวัน ในที่สุดพวกเขาก็ได้คัดเลือกโครงการที่สมบูรณ์แบบและเหมาะกับบริษัทเอ็มไอกรุ้ปมากที่สุดออกมา หลังจากที่จัดการเสร็จแล้วก็วางมันลงตรงหน้าของเวินเที๋ยนเที๋ยน

ภายหลังจากที่ตรวจสอบอย่างละเอียดแล้ว ก็ค่อยๆมีรอยยิ้มปรากฏขึ้นบนใบหน้าและพยักหน้าอย่างพอใจ

“โอเคแล้ว ส่งไปที่ห้องทำงานท่านประธานเถอะ”

พอพูดเสร็จเวินเที๋ยนเที๋ยนก็ก้มหน้าก้มตาทำงานต่อไป แต่มือค้างกลางอากาศอยู่ตั้งนานฝ่ายนั้นก็ยังชักช้ายืดยาดไม่ยอมรับไปสักที

เวินเที๋ยนเที๋ยนเงยหน้าขึ้นมองอย่างไม่เข้าใจ เห็นแค่ว่าคนทั้งสองกำลังยืนยิ้มกริ่มอยู่ตรงหน้า

มองเธอแต่กลับไม่ยอมขยับ

เวินเที๋ยนเที๋ยนก็ยิ่งสงสัยมากขึ้นไปอีก

“ทำไม? ยังมีตรงไหนไม่ถูกต้องเหรอ?”

ทั้งสองส่ายหน้าแล้วมองเวินเที๋ยนเที๋ยนแบบยิ้มๆ

“พวกเราคิดว่าให้หัวหน้าทีมอย่างคุณเอาโครงการฉบับนี้ไปให้คงจะเหมาะสมกว่า!”

“ฉัน?”

เวินเที๋ยนเที๋ยนมองพวกเขาอย่างสงสัย

แต่ทั้งสองคนกลับยิ้มแล้วมองหน้ากันในแววตายังมีแววล้อเลียนอยู่นิดหน่อย

“หัวหน้าทีม หลายวันมานี้คุณยุ่งอยู่กับงาน แล้วประธานจี้ก็เป็นฝ่ายลงมาหาคุณทุกครั้ง ดังคำกล่าวที่ว่าควรปฏิบัติต่อผู้อื่นเสมือนที่ผู้อื่นปฏิบัติต่อตัวเรา หัวหน้าทีมครั้งนี้คุณควรเป็นฝ่ายไปหาประธานจี้บ้างนะ”

“ใช่ ไม่อย่างนั้นประธานจี้ไม่น่าสงสารแย่เหรอ”

พวกเขาบอกไม่ได้ว่าทุกๆ ครั้งที่ประธานจี้มาที่ห้องทำงานของทีมชี้แนะก็มักจะมีท่าทีที่อาลัยอาวรณ์ไม่อยากจากไป จนแม้แต่พวกเขาเองก็ยังทนดูไม่ได้

ใครๆ ก็รู้กันว่าประธานจี้รอมาตลอดว่าสักวันเวินเที๋ยนเที๋ยนจะเป็นฝ่ายไปหาเขาบ้าง

แต่หัวหน้าทีมของพวกเขากลับเห็นงานสำคัญมาก ขอเพียงอยู่ในเวลาทำงานก็มักจะปัดเรื่องส่วนตัวออกไปให้หมด

ไม่มีวิธีอื่นแล้ว คงมีแต่พวกเขาเท่านั้นที่ช่วยได้

ในเมื่อชอบทำงานแบบนี้ อย่างนั้นก็ไปหาเขาด้วยเรื่องงานก็แล้วกัน

ทั้งสองคนดีดลูกคิดในใจไว้แล้ว

เมื่อได้ยินแบบนี้ สองแก้มของเวินเที๋ยนเที๋ยนก็แดงระเรื่ออย่างรวดเร็วและยิ่งแดงเพิ่มขึ้นไปอีก

สองคนนี้เวลาอยู่ที่ทำงานก็ชอบหยอกล้อเรื่องความสัมพันธ์ของเวินเที๋ยนเที๋ยนกับจี้จิ่งเชินประจำ

เห็นได้ชัดเลยว่าสองคนนี้ตั้งใจ

พอเห็นเวินเที๋ยนเที๋ยนหน้าแดง ทั้งสองก็ยิ่งมีความสุข

แล้วก็หยอกล้อว่า: “หัวหน้าทีม ขอแค่คุณไปหาประธานจี้ด้วยตัวเอง ก็จะรู้เลยว่า ทุกครั้งที่เขาจากไปมีสีหน้าที่น่าสงสารขนาดไหน เห็นได้ชัดเลยว่าเขารอให้คุณเป็นฝ่ายไปหา อย่างนี้แล้วคุณก็ช่วยเพิ่มเติมความปรารถนาให้ประธานจี้หน่อยเถอะ”

เวินเที๋ยนเที๋ยนชะงักไปชั่วครู่พร้อมด้วยสีหน้าที่แดงก่ำสุดขีดแล้ว

“พวกเธอพูดจาเหลวไหลอะไรกัน…ทำไมฉันถึงมองไม่ออกล่ะ!”

“ดังคำกล่าวที่ว่า คนในมองไม่ออกแต่คนนอกอย่างพวกเรากลับมองได้ทะลุปรุโปร่ง หัวหน้าทีม คุณอย่าลังเลอีกเลย รีบขึ้นไปให้ประธานจี้ของพวกเราประหลาดใจเถอะ”

พอพูดจบแล้วก็ลากเวินเที๋ยนเที่ยนขึ้นมาแล้วพาเธอที่ประตู

เวินเที๋ยนเที๋ยนไม่ทันได้พูดได้จาก็ถูกพวกเขาลากออกมาข้างนอกแล้ว

ในใจยังมีความลังเลอยู่เล็กน้อย

“เดี๋ยวก่อน ฉัน…”

เธอกำลังจะหันไปอธิบายก็ถูกพวกเขายัดสมุดโครงการเล่มนั้นใส่ในมือ

จากนั้นทั้งคู่ก็ยืนบังประตูเสียมิด ไม่ยอมให้เธอกลับเข้าไป

ตามด้วยยิ้มกริ่มแล้วเอ่ยว่า: “หัวหน้าทีม รีบไปเถอะ ไม่แน่ว่าประธานจี้อาจจะรอคุณอยู่ชั้นบนแล้วก็ได้”

ทั้งคู่ยิ้มออกมาอย่างภาคภูมิใจสุดๆ ส่วนเวินเที๋ยนเที๋ยนก็ได้แต่ถอนหายใจออกมาอย่างจนปัญญา

ก่อนจะเหลือบมองสมุดโครงการแวบหนึ่ง แล้วเดินไปที่ลิฟต์

ก็แค่ไปส่งเอกสาร คงไม่เป็นไรหรอกมั้ง?

ห้องทำงานของจี้จิ่งเชินตั้งอยู่บนชั้นสูงสุดของบริษัทเอ็มไอกรุ้ป เลยจำเป็นต้องใช้ลิฟต์ส่วนตัวขึ้นไป

เวินเที๋ยนเที๋ยนก็กำลังคิดถึงเรื่องที่ตัวเองกลับมาทำงานที่บริษัทเอ็มไอกรุ้ป เธอยุ่งอยู่กับการเตรียมงานของทีมชี้แนะมากว่าครึ่งเดือนแล้ว

อย่างแรกเลยคืองานยุ่งจริงๆ อย่างที่สองคืออยากรีบทำงานนี้ให้จบจะได้กลับไปรับช่วงต่อกิจการของตระกูลหล่อนได้อย่างราบรื่น

ดังนั้นจนถึงตอนนี้ เธอก็ยังไม่เคยไปที่ห้องทำงานที่อยู่ชั้นบนสุดของท่านประธานเลยสักครั้งและก็ยังไม่เคยเป็นฝ่ายไปหาจี้จิ่งเชินอีกด้วย

เวินเที๋ยนเที๋ยนกำลังคิดไปด้วยพร้อมเดินเข้าลิฟต์ ในตอนที่ยกมือขึ้นเตรียมจะกดปุ่มลิฟต์นั้น จู่ๆ ก็แตะโดนใครบางคนเข้า เธอจึงรีบชักมือกลับมา

แล้วกำลังจะขอโทษ แต่ฝ่ายนั้นกลับพูดขึ้นมาเสียก่อน

“เที๋ยนเที๋ยน?”

เวินเที๋ยนเที๋ยนหันกลับไปมองเมื่อได้ยินคำเรียกชื่อนี้และก็เห็นจงหลียืนอยู่ในลิฟต์

เขามองเวินเที๋ยนเที๋ยนด้วยสีหน้าที่ประหลาดใจและดีใจ

“ไม่ได้เจอกันนานเลยนะ”

หลังจากที่พูดออกไป สีหน้าก็แปรเปลี่ยนเป็นซับซ้อนและชำเลืองมองเวินเที๋ยนเที๋ยนสักพัก จนในที่สุดก็ได้เบนสายตาแล้วหลุบตาของตนเองลง

“คุณเวิน คุณก็กำลังจะไปหาท่านประธานใช่ไหม?”

เวินเที๋ยนเที๋ยนพยักหน้า ก่อนจะยกมือขึ้นกดปุ่มชั้นบนสุดพร้อมเอ่ย: “ฉันจำเป็นต้องเอาข้อมูลโครงการในครั้งนี้ไปให้เขาดู”

ท่าทางของจงหลีดูระแวดระวังเล็กน้อย

“ผมก็จะไปหาประธานจี้เช่นกัน มีบางความคิดเห็นของบริษัทที่จำเป็นต้องส่งให้เขาตรวจสอบ”

เวินเที๋ยนเที๋ยนยิ้มแล้วพยักหน้า จากนั้นในลิฟต์ก็ตกอยู่ในความเงียบอีกครั้ง ไม่มีใครพูดอะไรกัน

ผ่านไปนานจนอากาศเริ่มจะจับตัวเป็นน้ำแข็ง

จู่ๆ เวินเที๋ยนเที๋ยนก็นึกขึ้นได้ว่าจี้จิ่งเชินเคยพูดถึงเรื่องนี้กับเธอ

ในตอนนั้นเขาก็แย่งตัวจงหลีมาจากบริษัทอื่นด้วยการแข่งขันเช่นกัน

ในขณะที่คิดเธอก็ควบคุมความอยากรู้ของตัวเองไม่ได้แล้วถามออกมา

พอจงหลีฟังเสร็จแล้วพยักหน้า ใบหน้าก็ดูมีรอยยิ้มที่แฝงความหมายเพิ่มขึ้นมา

“ใช่ครับ ตอนนั้นประธานจี้แย่งผมมาจากบริษัทอื่นโดยการแข่งขันจริงๆ”

“จริงเหรอ?”

เวินเที๋ยนเที๋ยนขยับใบหน้างามเข้ามาใกล้ ดวงตาที่เปล่งประกายเล็กน้อยนั้นแฝงไปด้วยความตื่นเต้น

“พวกนายแข่งอะไรกันเหรอ?”

ในขณะที่เธอเข้ามาใกล้นั้น จงหลีกลับดูประหม่าขึ้นมาและค่อยๆ เดินถอยหลังไป อยากจะหลบเลี่ยงสายตาของเวินเที๋ยนเที๋ยน จึงเบนสายตามองไปรอบๆ แทนโดยไม่มองเวินเที๋ยนเที๋ยน

แต่จู่ๆ ดูเหมือนจะนึกอะไรที่น่าสนใจออก จึงยิ้มบางๆ

“เป็นการแข่งขันที่น่าสนใจมากจริงๆ

เมียหวานของประธานเย็นชา

เมียหวานของประธานเย็นชา

Status: Ongoing

“คุณจะคิดแบบนี้ไปถึงเมื่อไรถึงจะกลับบ้านได้?” จี้จิ่งเชินพูดออกมาอย่างจนใจ เขารีบมาที่นี่ทันทีตั้งแต่รับสาย และยืนดูเธอเดินวนคิดเป็นหนูติดจั่นแบบนี้มาครึ่งชั่วโมงแล้ว เธอไม่กล้าออกมา เพราะเธอกลัวว่าถ้าเขารู้เรื่องเข้า เขาจะทำอย่างไร สุดท้ายสิ่งที่เขาทำ คือ จูบหน้าผากของเธอ “ผมเชื่อคุณ… ไม่ต้องอธิบายอะไร ผมก็เชื่อคุณ”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท