บทที่ 636 ปฏิเสธอย่างใจดำ
แม้ว่าเวินเที๋ยนเที๋ยนจะไม่เข้าว่าทำไมจี้จิ่งเชินถึงโมโห แต่ได้ยินคำขู่แบบนั้น จึงส่ายหน้าอย่างรู้ความ
จี้จิ่งเชินยิ้มอย่างพอใจ
พอดีกับไฟแดงได้เปลี่ยนเป็นไฟเขียวแล้ว ในที่สุดเขาก็สตาร์ทรถอีกครั้งแล้วค่อย ๆ ขับออกไป
แต่ในใจเวินเที๋ยนเที๋ยนยังเต็มไปด้วยความสงสัย ไม่รู้ว่าทำไมจี้จิ่งเชินถึงโกรธ
แต่ปัญหานี้ยังติดคาอยู่ในหัว แต่ก็ถูกเธอปัดทิ้งไป เพราะต่อไปเธอยังมีเรื่องที่สำคัญกว่า
ตอนนี้ปัญหาเรื่องผู้กำกับกับคนเขียนบทเรียบร้อยไปแล้ว ตอนนี้เรื่องสำคัญอีกเรื่องที่ยังไม่แน่นอน ก็คือนักแสดง
นักแสดงชื่อดังมีกำลังทำยอดขายจากความนิยมมากมาย ถ้าหากต้องการเอื้อมถึงยอดขายที่สัญญากับพวกกรรมการไว้ เลือกนักแสดงชื่อดังมาแสดงภาพยนตร์เป็นวิธีที่ดีที่สุด
แม้ว่าประธานหล่อนจะปล่อยข่าวนั้นออกมา ไม่มีดาราที่มีชื่อเสียงในวงการคนไหนยอมแสดงหนังเรื่องนี้ แต่เวินเที๋ยนเที๋ยนกลับไม่กังวล
เพราะก่อนหน้านั้น ในใจเธอมีคนที่เหมาะสมที่เลือกไว้อยู่แล้ว
ที่ชานเมืองหลวง แม้จะไกลจากศูนย์กลางเมืองกว่าปราสาทเก่าของจี้จิ่งเชิน มีวิลล่ากลุ่มพิเศษอยู่
ในกลุ่มวิลล่าพิเศษนี้มีวิลล่าอยู่น้อยมาก แต่วิลล่าแต่ละหลังมีพื้นที่กว้างขวาง
ต้นไม้สูงกั้นระหว่างวิลล่า และการเข้าไปในวิลล่านั้นต้องผ่านการตรวจความปลอดภัยที่แน่นหนา
วิลล่าที่นี่สามารถปิดกั้นนักข่าวได้ทั้งหมด คนที่พักอยู่ที่นี่ล้วนเป็นนักการเมืองนักแสดง อยากซื้อวิลล่าที่นี่ ไม่เพียงแค่ต้องมีเงินทองร่ำรวย แต่ต้องมีการแนะนำจากคนภายในและคนฐานะระดับสูงอีกด้วย
หลังจากผ่านการตรวจสอบที่ซับซ้อนแล้ว ถึงจะสามารถมีสิทธิ์เข้าพักอาศัยที่นี่ได้
ครั้งหนึ่งเคยมีข่าวแบบนี้เกิดขึ้น นักการเมืองคนหนึ่งเพราะทำผิดถูกประกาศจับ แต่หลังจากที่ตำรวจได้ค้นเขาหาทุกที่แล้ว แต่กลับไม่พบร่องรอยของเขาอยู่เป็นเวลานาน
จนครึ่งปีต่อมา ในที่สุดถึงได้รับแจ้ง ว่าเขาซ่อนตัวอยู่ในวิลล่ากลุ่มนี้ ถึงสามารถจับกุมกลับไปได้
เพียงพอที่จะเห็นแล้วว่ารักษาความลับและสิ่งอำนวยความสะดวกของพื้นที่วิลล่านี้สมบูรณ์แบบขนาดไหน
อยู่ที่นี่ ถ้าคุณไม่ยินยอม ไม่ว่าจะเป็นนักข่าวหรือตำรวจล้วนอย่าได้คิดย่ำกรายเข้ามา กลายเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดของเหล่านักแสดงที่ต้องการเลี่ยงปาปารัสซี่
เวินเที๋ยนเที๋ยนเข้าประตูไปแล้ว ผ่านการตรวจสอบตัวตนที่ซับซ้อน รอจนกระทั่งเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยข้างในแจ้งหมินอันเกอ
จนเขามารับด้วยตนเอง ถึงจะสามารถเข้าไปข้างในวิลล่าได้
ก่อนที่เธอจะมาได้บอกกับทั้งสองคนไว้แล้ว แต่ไม่ได้บอกเวลาที่จะมาให้แน่นอน
หมินอันเกอทันทีที่ได้ยินว่าเป็นเธอ ตกใจเต็มประดา
“ฉันไม่คิดว่าเธอจะมาเร็วขนาดนี้”
เขาพูดพลางรับเอาของในมือเวินเที๋ยนเที๋ยนมา แล้วพาเธอเดินเข้าไปข้างใน
เมื่อก่อนเวินเที๋ยนเที๋ยนเคยมาเยี่ยมหลวนจื่อ คุ้นเคยดีกับทะเลสาบขนาดใหญ่และป่ารอบ ๆ
“ช่วงนี้หลวนจื่อสบายดีไหม?”
ได้ยินดังนั้น รอยยิ้มบนใบหน้าของหมินอันเกอก็แปลกไปไม่น้อย สุดท้ายก็พยักหน้า
เวินเที๋ยนเที๋ยนเห็นแล้ว ก็ไม่ได้ถามลงรายละเอียดอีก
หลายสิบปีที่ผ่านมาหมินอันเกอ ถือว่าหลวนจื่อเป็นน้องสาวของตัวเองมาตลอด แต่ตอนนี้สถานะกับเปลี่ยนไปกะทันหัน ไม่ต้องพูดถึงในท้องของหลวนจื่อยังมีลูกอีกหนึ่งคน ความสัมพันธ์ทั้งหมดพังทลาย เรื่องนี้ต้องการเวลาอีกมากในการปรับตัว
เวินเที๋ยนเที๋ยนเดินไปข้างหน้าพร้อมพูด: “คุณช่วงนี้ได้รับงานอะไรไหม?”
ได้ฟังแบบนั้น รอยยิ้มบนใบหน้าของหมินอันเกอก็ขมขื่นขึ้นอีก
“หลังจากเรื่องนั้น ผมก็สิ้นสุดสัญญากับบริษัทหวนฉิวแล้ว หยุดสัญญางานร่วมงานกะทันหันไปไม่น้อย หลังจากจ่ายค่าเสียหายแล้ว แน่นอนงานทั้งหมดก็ถูกระงับไปเช่นกัน”
ตอนนั้นหมินอันเกอมีตัวแทนว่าสิบคน เพื่อชดใช้ค่าเสียหาย เขาจ่ายเงินเก็บไปมากกว่าครึ่ง
จำได้ว่าตอนอยู่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าเมื่อยังเด็ก หมินอันเกอเคยพูดว่า ความปรารถนาสูงสุดของเขาคือเป็นนักแสดง ยืนอยู่ภายใต้แสงสปอตไลท์
เพื่อความฝันนี้ เขาเพียรพยายามกว่าสิบปี ตอนนี้กลับล้มเหลว ความเจ็บปวดในใจนี้ใครจะสามารถเข้าใจได้?
เวินเที๋ยนเที๋ยนคิดไปคิดมา อดไม่ได้ที่จะถาม: “คุณยังอยากกลับเข้าวงการบันเทิงไหม?”
หมินอันเกอฟังได้ยินคำนี้แล้ว การเคลื่อนไหวชะงักอยู่ที่เดิม
เวินเที๋ยนเที๋ยนเดินไปข้างหน้าสองก้าว พบว่าเขาไม่ได้ตามมาด้วย จึงหันกลับไปมองเขา
หมินอันเกอมองเธอ ดูเหมือนว่ากำลังแยกแยะความจริงของประโยคนี้
สักพัก ในที่สุดก็เอ่ยปาก น้ำเสียงเต็มไปด้วยความขมขื่น
“ตอนนี้ จะมีใครมาชวนผม?”
ทั้งหมดของนักแสดงนั้นมาจากแฟนคลับ ความรุ่งโรจน์ของหมินอันเกอตอนนั้นแฟนคลับสร้างขึ้นทีละน้อย แต่ตอนนี้เขาเงียบเหงา ก็เพราะแฟนคลับพากันหายจากไป
น้ำสามารถพยุงเรือให้ลอยได้ ก็สามารถทำให้เรือคว่ำได้เหมือนกัน มันคือกฎเกณฑ์
ตอนนี้ไม่มีแฟนคลับสนับสนุน ไม่มีสปอนเซอร์ใดที่จะเชิญเขาร่วมแสดงละคร หรือเป็นพรีเซนเตอร์
เรื่องแบบนี้ไม่สามารถเกิดขึ้นได้อยู่แล้ว
โดยเฉพาะช่วงเวลานี้ เขามีแผนการอย่างอื่นแล้ว
บางทีผ่านช่วงเวลานี้ไป เมื่อตัวเองและหลวนจื่อไม่เป็นที่จับตามองของผู้คนแล้ว เขาก็สามารถออกจากวงการบันเทิงได้ ไปทำงานเป็นพนักงานบริษัทได้
แม้ว่าที่เงินเก็บของเขาจะไม่น้อย แต่ก็ไม่สามารถใช้เงินไปวัน ๆ ได้ ยิ่งตอนนี้มีหลวนจื่อและลูกเพิ่มมาอีก
ยืนอยู่บนเวทีเป็นความปรารถนาตั้งแต่เด็กจนโตของตัวเอง ประสบการณ์หลายมีที่ผ่านมา สำหรับเขาก็ถือว่าเพียงพอมากแล้ว
พูดจบ เขาก็หันไปยิ้มจาง ๆ ให้เวินเที๋ยนเที๋ยน ดูเหมือนกับว่าต้องการปลอบเธอว่าตัวเองนั้นไม่เป็นไร
แต่รอยยิ้มนี้สำหรับเวินเที๋ยนเที๋ยนแล้ว เต็มไปด้วยความขมขื่น
หมินอันเกอเลิกล้มความฝันของตัวเอง
เวินเที๋ยนเที๋ยนขมวดคิ้ว ครุ่นคิดแล้วพูดจุดประสงค์ของตัวเองออกมา
“ที่จริงแล้วฉันมาครั้งนี้ ยังมีเรื่องสำคัญอีกเรื่องหนึ่ง”
พูดพลาง เธอหมุนตัวมา แววตาจริงจังขึ้นเล็กน้อย พูดอย่างเอาจริงเอาจัง
“บริษัทหล่อนซื่อกำลังจัดเตรียมภาพยนตร์ฉายปีใหม่นี้ ฉันเป็นผู้สร้าง ตอนนี้ตกลงกับคนเขียนบทและผู้กำกับแล้ว ขาดนักแสดงชายคนหนึ่งพอดี…..”
พูดถึงตรงนี้ หมินอันเกอก็เดาได้ว่าเธอต้องการพูดอะไรต่อไป
เขามองเวินเที๋ยนเที๋ยนอย่างตกใจ เห็นว่าเธอไม่ได้ล้อเล่น จึงขมวดคิ้วขึ้นอย่างลำบากใจ
เงียบไปสักพัก ไม่การตอบกลับใด ๆ แต่กลับส่ายหน้าน้อย ๆ
“เรื่องที่คุณกับประธานหล่อนพนันกัน ผมก็ได้ยินมาเหมือนกัน การแข่งขันแบบนี้ต้องการยอดขายและรางวัลไม่ใช่เหรอ? เลือกนักแสดงดังระดับประเทศเป็นวิธีที่ดีที่สุด มีแรงสนับสนุนจากแฟนคลับของพวกเขา น่าจะประสบความสำเร็จ”
“ผมไม่อยากเป็นตัวถ่วงคุณ”
หมินอันเกอพูดตามความจริง
ตัวเขาเองยังมีข่าวด้านลบเรื่อย ๆ บวกกับเรื่องของหลวนจื่อ แฟนคลับของเขาได้พากันจากไปตั้งนานแล้ว เหลืออยู่ไม่เท่าไหร่
ตอนนี้เขาไม่ได้ปรากฏตัวในวงการนานแล้ว แฟนคลับที่คอยสนับสนุนยิ่งน้อยลงไปอีก
การเดิมพันยอดขายนี้ ถ้าเขารับเป็นนักแสดงนำชาย มีแต่ทำร้ายกับเวินเที๋ยนเที๋ยนเท่านั้น
แม้ว่าเขาจะอยากช่วยมาก มีใจแต่กำลังไม่พอ
ยิ่งรู้ถึงความสำคัญของการเดิมพันนี้ เขายิ่งเข้าร่วมไม่ได้