บทที่ 638 เพื่อคุณ
เวินเที๋ยนเที๋ยนเล่าเรื่องการเดิมพันของเธอกับประธานหล่อนและสิ่งที่เธอได้เตรียมไว้ทั้งหมด ไม่คิดจะหลอกเธอ
หลวนจื่อฟังอย่างเงียบ ๆ มีความจริงจังและตั้งใจที่หาได้ยากบนหน้าเธอ
“เธอเต็มใจให้โอกาสนี้กับหมินอันเกอไหม?”
“แน่นอน” เวินเที๋ยนเที๋ยนยืนยัน: “เขาเป็นพระเอกคนสำคัญของฉัน พูดได้เลยว่าภาพยนตร์เรื่องนี้สร้างขึ้นมาเพื่อเขาโดยเฉพาะ”
เวินเที๋ยนเที๋ยนพูดต่อ: “น่าเสียดายที่เมื่อกี้ฉันคุยกับเขา หมินอันเกอบอกกับฉันว่า เขาไม่รับบทละครนี้”
“ใช่ไหม?”
หลวนจื่อไม่ได้ตกใจ เดาความคิดของหมินอันเกอได้แล้ว
“บางทีเพราะเขาไม่อยากเป็นตัวถ่วงเธอ?”
ทั้งสองกำลังคนพูด หมินอันเกอเดินจากวิลล่ามาหา มาถึงข้าง ๆ หลวนจื่อ
“มีลมพัดแล้ว กลับก่อนเถอะ”
เวินเที๋ยนเที๋ยนถึงรู้ว่าเย็นมากแล้ว ลมตอนเย็นพึ่งพัดมา
“ฉันกลับก่อนนะ ไว้ค่อยมาเยี่ยมเธอใหม่”
พูดเสร็จ เธอก็หันไปทางหมินอันเกอ แล้วพูดอีกครั้ง: “เรื่องที่ฉันคุยกับคุณเมื่อกี้ หวังว่าคุณจะพิจารณาอย่างจริงจัง”
หมินอันเกอไม่ได้ตอบตรง ๆ เพียงแต่พยักหน้าเล็กน้อย
แต่มองท่าทางเขาแล้ว ไม่ได้อยากรับบทภาพยนตร์นี้
เวินเที๋ยนเที๋ยนไม่ได้ดึงดันอีก แต่กลับออกจากวิลล่าเลย
ทันทีที่เธอไป หมินอันเกอพาหลวนจื่อกลับเข้าวิลล่าไป
ตั้งแต่หลวนจื่อตั้งครรภ์ หมินอันเกอก็รับผิดชอบงานบ้านเองทั้งหมด
หลังทานมื้อเย็นเรียบร้อยแล้ว หมินอันเกอจัดการของในห้องครัวเรียบร้อยแล้ว
ทันทีที่เข้ามาห้องนั่งเล่น เห็นหลวนจื่อนั่งอยู่บนโซฟากำลังเปิดอ่านอะไรบางอย่างอยู่
เมื่อเดินเข้าไปใกล้ พบว่าในมือเธอคิดไม่ถึงว่าจะเป็นบทที่เวินเที๋ยนเที๋ยนให้มา
หมินอันเกอชะงักไป ก่อนจะเดินเข้าไปหา
“พวกนี้เป็นของที่ใช้ไม่ได้ ผ่านไปสักสองวันผมจะเอาไปคืนเที๋ยนเที๋ยน”
เขาพูดพลางยกมือขึ้นเตรียมรับเอาบทละครจากในมือหลวนจื่อ กลับถูกเธอชักหลบอย่างรวดเร็ว
หลวนจื่อก้มหน้า ไม่ได้เงยหน้ามองเขา
“คุณอ่านบทภาพยนตร์นี้หรือยัง?”
หมินอันเกอชะงักไป ก่อนจะส่ายหน้า
ก่อนหน้านี้หลังจากที่ได้รับมาจากเวินเที๋ยนเที๋ยน เขาก็ไม่ได้เปิดเลย หลังจากนี้ก็ไม่อยากเปิดดูบทภาพยนตร์ว่าเป็นอย่างไรกันแน่
เขากลัวว่าถ้าตัวเองอ่านแล้วจะใจเต้น แต่ในใจก็รู้ดีว่า ตามสภาพการณ์ของตัวเองตอนนี้แล้ว รับร่วมงานนี้ไม่ได้อยู่แล้ว เกรงว่าจะเป็นการทำร้ายเวินเที๋ยนเที๋ยน
“บทนี้ไม่เลวเลย สร้างสรรค์มาเพื่อคุณโดยเฉพาะ ถ้าเปลี่ยนเป็นคนอื่น ไม่สามารถแสดงความรู้สึกนั้นออกมาได้เลย!” หลวนจื่อพูดต่อ
หมินอันเกอขมวดคิ้วเล็กน้อย
“แล้วยังไง? ตอนนี้นักแสดงวงการภาพยนตร์มีมากมาย ยิ่งไปกว่านั้นความสำคัญกับอิทธิพลนัดแสดงมากกว่าความสามารถ สามารถกระตุ้นแฟนคลับให้ซื้อตั๋วภาพยนตร์ได้ ถึงจะทำกำไร”
พูดถึงตรงนี้ เขาก็ยิ้มอย่างฝืด ๆ
“ต่อให้แสดงได้ดีแค่ไหน ไม่มีแรงสนับสนุนจากแฟนคลับก็เปล่าประโยชน์”
ฟังจบ หลวนจื่อก็เงียบลง
หมินอันเกอคิดว่าตัวเองพูดโน้มน้าวเธอได้สำเร็จแล้ว หมุนตัวเตรียมออกไป เสียงเธอก็ดังขึ้นมาจากด้านหลัง
“แต่ว่า เมื่อก่อนไม่ได้บอกฉันแบบนี้”
ได้ยินแบบนั้น หมินอันเกอก็นิ่งไป
หมุนตัวกลับมา เห็นหลวนจื่อในที่สุดก็ละสายตาออกจากบท เงยหน้ามองมาที่เขา
“ฉันจำได้ว่าเมื่อตอนที่กำลังรู้จักกัน คุณบอกฉัน คุณอยากยืนอยู่ได้สปอตไลท์ อยากเป็นนักแสดง คุณบอกว่าสิ่งสำคัญของนักแสดงก็คือฝีมือการแสดงที่ยอดเยี่ยมระดับมืออาชีพ แล้วตอนนี้ล่ะ?”
เธอขึ้นเสียงเล็กน้อย แล้วสบตาหมินอันเกอ
“ตอนนี้คุณคิดว่ากำลังแฟนคลับของคนคนหนึ่งสำคัญกว่าฝีมือการแสดง?”
หมินอันเกอขมวดคิ้ว นัยน์ตาสีน้ำตาลสั่นไหวเล็กน้อย
“นี่เป็นประสบการณ์ที่ผมสั่งสมในวงการบันเทิงมามากกว่าสิบปี ไม่มีแฟนคลับก็เป็นดาราไม่มีตัวตน เทียบกับฝีมือการแสดงและความสามารถแล้ว กำลังของแฟนคลับนั้นแข็งแกร่งกว่า!”
“แต่ก็ยังมีนักแสดงบางที่ไม่มีที่ไม่มีแฟนคลับคลั่งไคล้ ไม่มีรูปลักษณ์สวยงาม แต่พวกเขามีฝีมือการแสดงที่ยอดเยี่ยม ก็ประสบความสำเร็จได้เหมือนกัน ดาราที่คุณชอบมากก็…..”
“แต่ผมไม่ใช่พวกเขา!” หมินอันเกอขึ้นเสียงขัดคำพูดของหลวนจื่อ
หน้าอกของเขากระเพื่อมขึ้นลงรุนแรง อารมณ์เริ่มปั่นป่วน
แต่หลวนจื่อกับไม่ได้หยุดเพราะเหตุแค่นั้น
“ดังนั้นคุณก็เลยสงสัยในตัวเองเหรอ?”
เสียงของเธอค่อย ๆ ดุดันขึ้น
หลวนจื่ออ่านบทแล้ว เข้าใจประโยคนั้นของเวินเที๋ยนเที๋ยน
บทภาพยนตร์นี้มีเพียงหมินอันเกอเท่านั้นที่สามารถแสดงได้ ไม่มีคนอื่นเหมาะสมกับตัวละครนี้เท่าเขา
เธอไม่อยากผูกมัดหมินอันเกอเธออยากช่วยเขากลับขึ้นเวทีใหม่อีกครั้ง
นี่เป็นโอกาสที่ดีมาก หมินอันเกอไม่ควรยอมแพ้
เธอพูดโน้มน้าว แต่หมินอันเกอกลับไม่ได้คิดจะแสดง
สูดลมหายใจเข้าลึกแล้วหันหน้าไป หมินอันเกอเองก็สงบลงมาก
“คุณรู้ไหมว่าภาพยนตร์เรื่องนี้มีความหมายกับเวินเที๋ยนเที๋ยนแค่ไหนไหม? ถ้าเกิดแพ้ เธอไม่เพียงแค่สูญเสียโอกาส แต่หมายถึงทั้งบริษัท! เพราะแบบนี้ ผมเลยไม่สามารถทำร้ายเธอมากกว่านี้!”
ได้ยินแบบนี้ หัวใจหลวนจื่อแสบร้อนขึ้นมา
เพราะทั้งสองชอบกัน ดังนั้นต่อให้หมินอันเกอรู้ว่านี่เป็นโอกาสที่ดี ก็ไม่เต็มใจที่จะยอมรับ
จนถึงตอนนี้ เขารักเวินเที๋ยนเที๋ยนมาตลอด
แต่ต่อให้เป็นแบบนั้น หลวนจื่อก็ไม่ยอมแพ้
เธอกดความเจ็บปวดในใจลง พูดอย่างมุ่งมั่น: “คุณรู้ได้ยังไงว่าตัวเองจะล้มเหลว?”
“เที๋ยนเที๋ยนเอาบทมาให้ถึงมือคุณด้วยตนเอง ต้องคิดมาอย่างดีแล้ว หรือคุณคิดว่าเธอเป็นคนหุนหันพลันแล่น?”
พูดเสร็จ เธอก็วงบทในมือลงบนโต๊ะ เปิดไปที่หน้าแรก
“หมินอันเกอ ฉันอยากให้คุณกลับไปยืนบนเวที ไม่อยากผูกมัดคุณ อย่าทำให้ฉันรู้สึกผิดแบบนี้ ได้ไหม?”
หลวนจื่อไม่กล้าแม้แต่จะมองสีหน้าของหมินอันเกอ หมุนตัวออกไปแล้ว
หมินอันเกอยืนอยู่ที่เดิม ไม่ขยับตัวอยู่นาน
สายตาของเขาหยุดอยู่ที่บทภาพยนตร์ที่วางอยู่บนโต๊ะ จ้องอยู่นาน
เสียงของหลวนจื่อดังอยู่ข้างหูอยู่ตลอดเวลา
ผ่านไปสักพัก ในที่สุดเขาก็เดินเข้าไป หยิบบทที่วางอยู่บนโต๊ะขึ้นมา เปิดอ่านหน้าแรก
ตอนแรกเขายังไม่เต็มใจ คิ้วขมวดเล็กน้อย คิดจะเปิดดูผ่าน ๆ ให้เป็นคำอธิบายกับหลวนจื่อ
แต่เขาค่อย ๆ ถูกเรื่องราวในบทภาพยนตร์ดึงดูดให้จมดิ่งลงไป
สายตาของเขายิ่งจดจ่อ ไม่ได้สังเกตเลยว่าเวลาได้ผ่านไปเท่าไหร่แล้ว
ตลอดทั้งคืน หมินอันเกอพลิกอ่านบทจนจบ
จนท้องฟ้าค่อย ๆ สว่าง ในที่สุดถึงเงยหน้าขึ้นมา
บนโต๊ะที่อยู่ข้างหน้า มีชาแดงร้อนวางอยู่ถ้วยหนึ่ง
หลวนจื่อยืนอยู่หน้าเขา ราวกับว่าคาดไว้อยู่แล้วว่าถ้าเขาเปิดอ่านบท ก็จะหลงใหลไปกับมัน!
ตอนนี้เป็นเวลาเช้าตรู่แล้ว แสดงส่องผ่านหน้าต่างยาวจรดพื้นมาที่ร่างของหลวนจื่อ
เธอหน้าตาสวยงาม อวัยวะบนใบหน้ายังดูอ่อนเยาว์ แต่แววตาของเธออ่อนโยน มีความเป็นผู้ใหญ่และเซ็กซี่
หมินอันเกออึ้งไปชั่วขณะ
หลวนจื่อยิ้มน้อย ๆ
“เป็นอย่างไรบ้าง?”
เสียงทำให้หมินอันเกอหลุดจากภวังค์
เขาสูดลมหายใจเข้าลึก ปิดบทละครฉบับนั้นอีกครั้ง สายตาเด็ดเดี่ยวแน่วแน่
“ผมยอมรับงานภาพยนตร์เรื่องนี้”
หลวนจื่อที่เดาผลลัพธ์ได้ตั้งนานแล้ว หัวเราะออกมา
หลังจากนั้นก็ได้ยินเสียงกระซิบของหมินอันเกอ
“เพื่อคุณ”