บทที่ 651 ดูซิว่าต่อไปพวกแกจะทำยังไง
“ผู้จัดการอะไร? ทำไมพวกเราไม่เคยได้ยินเลย”
อีกฝ่ายกลับพูดแทรกเข้ามาด้วยความโมโหอย่างมาก
“พวกคุณไม่แจ้งอะไรก่อนเลยก็มาถ่ายทำที่นี่? ฝันไปเถอะ! ฉันจะบอกพวกคุณ ภายในวันนี้ต้องย้ายของทุกอย่างออกจากที่นี่ พื้นที่เขตนี้ให้กองถ่ายอื่นเช่าตั้งนานแล้ว ไม่มีที่ให้พวกคุณแล้ว!”
“เป็นไปไม่ได้! ก่อนหน้านั้นได้เจรจากับพวกเขาไว้เรียบร้อยแล้ว”
พวกพนักงานหลายคนรู้สึกไม่พอใจอย่างยิ่ง เดินหน้าเข้าไปสองสามเก้า ทั้งสองฝ่ายเกือบจะตีกันขึ้นมา
อีกฝ่ายตะโกนขึ้นมาด่าอย่างดุร้าย
“พวกเราก็แค่ทำตามคำสั่งของเจ้านาย ถ้าพวกคุณไม่พอใจ ก็ขึ้นไปคุยกับผู้จัดการของเราโดยตรง ตอนนี้รีบๆย้ายของออกไปให้เร็วที่สุด”
ตอนแรกพวกเขากำลังจะเริ่มถ่ายทำกันแล้ว การเปลี่ยนแปลงอย่างกะทันหัน ทำให้พวกเขาต้องหยุดชะงัก ในใจยังคงรู้สึกไม่พอใจ
เห็นพนักงานยังไม่ขยับ ทันใดนั้นคนกลุ่มนั้นก็หยิบท่อนไม้ออกมาจากด้านหลัง ไม่พูดอะไรเลย ก็ทุบสิ่งของและกล้องวีดีโอที่วางไว้บนพื้น ทั้งทุบทั้งขว้าง!
ทุบไปด้วย ตะโกนด่าไปด้วย
“บอกให้พวกคุณรีบๆออกไป พวกคุณได้ยินรึเปล่า? รีบๆไสหัวออกไปซะ! ที่นี่ไม่ใช่พื้นที่ของพวกคุณ!”
พวกพนักงานถูกข่มขู่จนถอยหลังไป ตกใจทำอะไรไม่ถูก
แค่แป๊บเดียว ทุกอย่างในกองถ่ายถูกทุบขว้างจนระเนระนาด
จากนั้นคนกลุ่มนั้นก็ออกจากที่ตรงนั้น ก่อนไปยังพูดจาข่มขู่ไว้
“อีกหนึ่งชั่วโมงพวกเราจะกลับมาดู ถ้าพวกคุณยังไม่ไปอีก คอยดูจะทุบอีกรอบ!”
รอคนพวกนั้นไปแล้ว ในกองถ่ายก็ส่งเสียงดังขึ้นมา
“ตกลงมันยังไงกันแน่?”
“ไหนบอกว่าเซ็นสัญญากันแล้ว?”
“ภาพยนตร์ฉากนี้เป็นส่วนที่สำคัญที่สุดเลยนะ ถ้าไม่ได้ถ่ายทำที่นี่ แล้วจะไปถ่ายที่ไหน?”
“แปลก ฉันจำได้ว่าครั้งก่อนได้เจรจากันเรียบร้อยแล้วจริงๆนะ ตกลงคนพวกนั้นคือใคร?”
“เห้ย! เครื่องมือของฉันถูกทุบจนเสียหมดเลย ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไปทำยังไงดีล่ะ?”
เวินเที๋ยนเที๋ยนยืนอยู่ด้านหน้าสุด มองดูด้านหลังของคนพวกนั้นเดินออกไป ขมวดคิ้วขึ้น
ความกังวลของตนเองในก่อนหน้านี้ได้กลายเป็นเรื่องจริงจริงๆ
เธอจำได้อย่างชัดเจน ตอนนั้นตนเองได้คุยกับผู้จัดการของสตูดิโอที่นี่เรียบร้อยดีแล้ว ว่าจะขอเช่าใช้พื้นที่นี้เป็นเวลาหนึ่งเดือน ยังจ่ายค่ามัดจำและค่าประกันแล้วด้วย
แต่ว่าตอนนี้เพิ่งจะเข้ามาถ่ายวันแรก อีกฝ่ายก็กลับใจกะทันหันอย่างนี้ ลืมสัญญาทุกอย่างจนหมด
จะบอกว่าเบื้องหลังไม่มีคนสั่งการ เธอไม่เชื่อแน่นอน!
พนักงานทุกคนไม่รู้ควรทำอย่างไรดี จึงเดินเข้าไปถาม
“คุณเวินครับ ตอนนี้พวกเราควรทำยังไงดี?”
เวินเที๋ยนเที๋ยนมองทุกคนและพูด: “พวกคุณรออยู่ที่นี่ก่อน ฉันไปคุยกับผู้จัดการสตูดิโอที่นี่ก่อน น่าจะติดปัญหาอะไรสักอย่าง”
พูดจบแล้วพยักหน้าให้ทุกคน จากนั้นเดินตรงไปที่สำนักงานของผู้จัดการสตูดิโอ
ช่วงก่อน เวินเที๋ยนเที๋ยนได้คุยเรื่องเช่าพื้นที่นี้กับผู้จัดการแล้ว ตอนนั้นอีกฝ่ายยังตอบตกลงอย่างรวดเร็ว
ตอนนี้กลับเปลี่ยนแปลงความคิดอย่างกะทันหัน ยังบอกว่าเช่าให้กองถ่ายอื่นไปแล้ว ทำให้ไม่อาจยอมรับได้
เวินเที๋ยนเที๋ยนเคาะประตูของสำนักงาน ผู้จัดการที่อยู่ด้านในเงยหน้าขึ้นมาดู
เห็นเป็นเวินเที๋ยนเที๋ยน สีหน้าเปลี่ยนไปและดูซับซ้อนทันที รีบหลบสายตาอย่างรวดเร็ว
“คุณเวิน ทำไมถึงมาที่นี่ครับ?”
เขาฉีกปากยิ้มๆด้วยความฝืน
เวินเที๋ยนเที๋ยนไม่ทักทายอะไรเขามากมาย ยังไม่ยอมนั่งลงด้วย
ก้าวขาเดินเข้ามาด้วยและพูดไปด้วย: “อาทิตย์ก่อน ฉันเคยคุยกับคุณเรื่องการเช่าพื้นที่ที่นี่ ตอนนั้นคุณตอบตกลงอย่างรวดเร็ว เงินประกันและค่าเช่าที่ก็จ่ายตามกฎระเบียบหมด แล้วทำไมเมื่อกี้ถึงมีคนมาไล่พวกเราออกไปและบอกว่าทำตามคำสั่งของคุณ ยังทุบอุปกรณ์และเครื่องมือเสียหายไม่น้อย”
“ตกลงมันยังไงกันแน่?”
ได้ยินคำนี้แล้ว ผู้จัดการของสตูดิโอแววตากระพริบๆขึ้นมาทันที รีบลุกขึ้นมายืน ทำหน้าทำตาใสซื่อ
“อะไรนะ? พวกมันกล้าทุบข้าวของด้วยเหรอ!”
“คุณเวินครับ คุณอย่าเพิ่งโกรธครับ เดี๋ยวผมไปสั่งสอนพวกมันดีๆ มีอะไรคุยกันดีๆได้ ทำไมต้องลงไม้ลงมือ?”
เวินเที๋ยนเที๋ยนพอฟังคำพูดของเขาออก เหมือนมีลับลมคมใน ขมวดคิ้วและกล่าว: “พูดแบบนี้ หมายความว่าคุณเป็นคนสั่งให้คนพวกนั้นไปไล่พวกเรางั้นเหรอ?”
“อันนี้……”
ผู้จัดการขมวดๆคิ้วและยิ้มๆ “ผมไม่ได้สั่งให้พวกเขาลงมือทำแบบนั้นนะ เรื่องนี้โทษผมไม่ได้”
เวินเที๋ยนเที๋ยนไม่อยากฟังพวกเขาอธิบาย แค่พูดว่า: “คุณรับเงินค่ามัดจำและค่าเช่าของพวกเราแล้ว ทำไมต้องไล่พวกเราอีก ก่อนหน้านี้คุยกันเรียบร้อยแล้วไม่ใช่เหรอ?”
ผู้จัดการพยักๆหน้าด้วยสีหน้าที่ลำบากใจ
“ใช่คุยกันเรียบร้อยแล้ว แต่เรื่องมันมีการเปลี่ยนแปลงอย่างกะทันหันหน่อย หลังจากที่พวกคุณคุยกับผมแล้ว ก็มีกองละครอีกที่หนึ่ง ต้องการเช่าพื้นที่ให้ได้ ฝ่ายโน้นเป็นผู้มีอำนาจอยู่เบื้องหลัง ผมไม่กล้าปฏิเสธ”
“คุณเวินครับ ผมดูความต้องการของคุณแล้ว สตูดิโอที่อื่นก็มีสิ่งก่อสร้างที่เหมือนๆกันไม่น้อย พวกคุณลองไปที่อื่นดูเถอะ ได้ไหมครับ? ค่ามัดจำและเงินประกันผมคืนให้ทั้งหมด ของที่เสียทั้งหมดผมชดใช้ให้ อย่างนี้ได้ไหมครับ?”
เวินเที๋ยนเที๋ยนขมวดคิ้วแน่นๆ พยายามใจเย็นลง
“พูดแบบนี้คือ คุณจะกลับใจอย่างแน่นอน ไม่เช่าพื้นที่ให้พวกเราแล้วใช่ไหม?”
ผู้จัดการของสตูดิโอยิ้มๆด้วยความลำบากใจ
“อันนี้……พวกเราก็ไม่รู้จะทำยังไง คุณเวินครับ ขอโทษจริงๆนะครับ วันหลังคุณยังมีภาพยนตร์เรื่องใดก็ตาม ขอแค่คุณบอก ผมต้องเหลือไว้ให้คุณอย่างแน่นอน”
เวินเที๋ยนเที๋ยนสามารถดูสีหน้าท่าทางของเขาออกได้อย่างชัดเจน ว่าเขาแค่กำลังตอบปากรับคำไปอย่างนั้น ไม่มีความจริงใจแม้แต่นิดเดียว เรื่องที่เจรจากันไว้ดีๆ จู่ๆก็เปลี่ยนแปลงกะทันหัน ต้องมีคนกลางมาหาเรื่องแกล้งเธอแน่ๆ
“ฉันรู้แล้ว”
น้ำเสียงของเธอใจเย็นลง พูดจบก็เดินตรงออกไปด้านนอก
ผู้จัดการเห็นเวินเที๋ยนเที๋ยนออกไปแล้ว ค่อยรู้สึกโล่งใจ หยิบมือถือบนโต๊ะขึ้นมาและโทรหาใครสักคน
พอโทรติด ถึงแม้อีกฝ่ายมองไม่เห็นกัน เขาก็ยิ้มๆให้ น้ำเสียงเต็มไปด้วยความเจ้าเล่ห์
“ท่านผู้จัดการหล่อนครับ ผมได้ทำตามคำสั่งของท่านให้ไล่พวกเขาออกไปแล้วนะครับผม”
“ไม่มีปัญหา พวกเขาไม่มีทางหาสตูดิโอที่ไหนได้อย่างแน่นอน ใช่ครับ ที่อื่นผมก็ได้จัดการคุยไว้เรียบร้อยแล้ว”
“ท่านวางใจ ท่านวางใจได้ครับ”
“แน่นอน งั้นการอนุมัติงานในวันข้างหน้ารบกวนท่านด้วยนะครับ”
พูดจบ เขาถึงวางสายโทรศัพท์ด้วยความพึงพอใจในที่สุด
ส่วนอีกฝ่ายหนึ่ง เวินเที๋ยนเที๋ยนเดินออกมาจากห้องสำนักงานผู้จัดการของที่นั่น
ยังไม่ทันกลับไปถึงกองถ่าย ก็เจอกับหล่อนเจียนีก่อน
เธอเหมือนรู้ว่ากองถ่ายต้องเจอกับปัญหาอย่างแน่นอน กำลังรออยู่กลางทาง
เห็นเวินเที๋ยนเที๋ยนปรากฏตัวปุ๊บ บนใบหน้ายิ้มแปลกๆ
“ทำไม? แม้แต่สตูดิโอสถานที่ถ่ายทำก็ยังเจรจาไม่จบอีกเหรอ?”
“ฉันเคยบอกแล้ว ภาพยนตร์ของพวกเธอไม่มีทางถ่ายทำได้สำเร็จลุล่วงไปด้วยดีหรอก ดูซิว่าต่อจากนี้พวกเธอจะทำยังไง!”
เธอเดินขึ้นมาอย่างได้ใจ
เวินเที๋ยนเที๋ยนไม่อยากสนใจเธอ แววตาไม่ขยับแม้แต่น้อย ยังขนลุกและเดินเลี่ยงไปอีกข้าง เตรียมจะกลับไปยังกองถ่าย
แต่ว่าหล่อนเจียนีรู้ตัวว่าตนเองถูกมองข้าม จึงรีบเดินตามมาอย่างไม่พอใจและเดินตามหลังเวินเที๋ยนเที๋ยน
“เป็นไง? ถ้าเธอยอมขอโทษฉันซะดีๆ ยกน้ำชามาให้ล่ะก็ บางทีฉันอาจจะช่วยออกหน้าไปคุยให้เธอได้”