บทที่ 665 อยู่เหนือการควบคุม
หลังจากการลงคอลัมน์บนเว็บไซต์ ตัวอย่างภาพยนตร์ก็ถูกปล่อยออกไป และได้รับคำชื่นชมในทันที
ทั่วทั้งประเทศ ราวกับทุกคนล้วนรับรู้ว่าภาพยนตร์เรื่องนี้กำลังจะเข้าฉาย และเริ่มแสดงออกถึงความชื่นชอบในใจ
เมื่อเห็นเช่นนี้ หล่อนเจียนีผู้ติดตามทุกการเคลื่อนไหวของภาพยนตร์เรื่องนี้กลับโกรธขึ้นมาอย่างมาก
เธอมองไปที่รายงานในมือ ยิ่งมองก็ยิ่งโมโห
“ให้ตายเถอะ! ก็แค่วิดีโอความยาว 5 นาที ถึงกับทำให้คนเหล่านี้บ้าคลั่งขึ้นมาได้! ”
“ฉันไม่เชื่อว่าความเห็นชาวเน็ตพวกนี้หรอก จะต้องเป็นทหารน้ำ (มือรับจ้างโพสต์ข้อความ) ของเวินเที๋ยนเที๋ยนแน่ อย่าคิดว่าฉันไม่รู้! ”
เมื่อดูความคิดเห็นบนอินเทอร์เน็ต เธอก็กัดฟันแน่น
“ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไป เธอจะต้องชนะแน่ …”
เมื่อนึกถึงเรื่องนี้ หล่อนเจียนีก็ยืนขึ้นอย่างไม่พอใจ และเดินออกไปข้างนอกพร้อมกับคอมพิวเตอร์ จากนั้นจึงตรงไปที่ห้องหนังสือของหล่อนเจี้ยนกั๋ว
เธอวางคอมพิวเตอร์ไว้ตรงหน้าเขาแล้วเริ่มบ่นอย่างไม่พอใจ
“คุณพ่อ คุณยังมัวแต่ยุ่งอยู่กับเรื่องบริษัทอีกหรือ? เวินเที๋ยนเที๋ยนกำลังจะชนะแล้ว พ่อดูข้อมูลพวกนี้แล้วมีประโยชน์อะไรกัน?”
“ถ้าเราปล่อยให้เธอชนะเกมนี้จริง พวกเราจะไม่มีอะไรเหลืออยู่อีกเลย”
“เกิดอะไรขึ้น? ”
หล่อนเจี้ยนกั๋วไม่ได้ให้ความสนใจกับข่าวทางอินเทอร์เน็ตมากนัก ดังนั้นเขาจึงไม่ได้รับรู้สถานการณ์ล่าสุดของเวินเที๋ยนเที๋ยน
เขาจำได้แค่คร่าวๆ ว่าผู้คนบนอินเทอร์เน็ตกำลังคว่ำบาตรภาพยนตร์เรื่องนี้ ต่อมาจึงแน่ใจว่าอีกฝ่ายจะพ่ายแพ้ ดังนั้นจึงเริ่มเตรียมตัวรับงานในบริษัทอย่างวางใจ
ตอนนี้ได้ยินคำพูดของหล่อนเจียนีเขาก็กลับสู่ความเป็นจริงทันทีและรับคอมพิวเตอร์ขึ้นมา จากนั้นมองไปที่หน้าจอ
เมื่อได้เห็นคำชื่นชมยกย่องรวมถึงความคาดหวังของชาวเน็ตเหล่านั้น ในใจเขาก็แตกตื่นขึ้นมา
“นี่มันเกิดอะไรขึ้น? เมื่อวานยังคว่ำบาตรอยู่เลยไม่ใช่หรือ? ทำไมชั่วข้ามคืนถึงได้เปลี่ยนไปแบบนี้”
“พ่อ! พ่อไม่รู้อะไรเลย! ไม่กี่วันที่ผ่านมาจู่ๆ เวินเที๋ยนเที๋ยนก็ปล่อยตัวอย่างหนังออกไป พอชาวเน็ตได้ดูก็เปลี่ยนความคิดในตอนแรกไปจนหมดและหันมาสนับสนุนพวกเขาแทน! อีกทั้งยังบอกว่าจะพาญาติและเพื่อนๆ ไปดู ถ้ามันเกิดขึ้นจริงๆ พวกเราจบเห่แน่แล้ว ”
เธอจับมือของ หล่อนเจี้ยนกั๋ว” พ่อ พ่อยังไม่รีบคิดวิธีอีก”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ หล่อนเจี้ยนกั๋วก็หน้านิ่วคิ้วขมวด
ไม่คาดคิดเลยว่า มาจนถึงเวลานี้เวินเที๋ยนเที๋ยนจะยังสามารถหาทางออกได้!
เขาไม่มีทางปล่อยให้เธอชนะ!
ตอนนี้สิ่งที่เขามีอยู่ในมือเขาถูกเตรียมพร้อมมานานแล้ว ก่อนหน้านั้น เขาคาดการณ์ไว้ว่าเวินเที๋ยนเที๋ยนจะต้องพ่ายแพ้อย่างแน่นอน ดังนั้นจึงได้เตรียมเงินส่วนหนึ่งของบริษัทออกมาไว้แล้ว
หากเวินเที๋ยนเที๋ยนกลับมานั่งตำแหน่งประธานอีกครั้ง จะต้องตรวจสอบพบความผิดปกติอย่างแน่นอน
ความผิดฐานยักยอกเงินกองกลางนั่นหนักไม่ใช่น้อย!
สีหน้าของเขาน่าเกลียดอย่างยิ่ง แต่ตอนนี้เหลือเวลาเพียงไม่กี่วันก่อนที่ภาพยนตร์ของพวกเขาจะออกฉาย อีกทั้งยังไม่มีหนทางเปลี่ยนความคิดของคนเหล่านี้ได้
เดี๋ยวก่อน!
ทันใดนั้น หล่อนเจี้ยนกั๋วก็นึกขึ้นมาได้ เขาเอ่ยทันที “บางทีอาจจะยังมีวิธีอื่น”
พูดไป เขาก็หยิบโทรศัพท์มือถือที่อยู่ข้างๆ ขึ้นมาและกดหมายเลขโทรออก
“ใช่ ฉันเอง ฉันยุ่งนิดหน่อย ต้องการความช่วยเหลือจากคุณ … ”
หลังจากนั้นไม่นาน เขาก็วางสายอย่างรีบร้อน
หลังจากโทรติดต่อกันมากกว่าสิบครั้ง หล่อนเจี้ยนกั๋วก็วางโทรศัพท์ลงอีกครั้ง เมื่อเงยหน้าขึ้นมาอีกครั้งดวงตาของเขาก็เต็มไปด้วยความสมใจและความมั่นใจ
เขายืนยันกับ หล่อนเจียนี”ไม่ต้องห่วง คราวนี้แม้ว่าชาวเน็ตเหล่านั้นจะคิดสนับสนุนเธอก็ไม่มีโอกาสแล้ว ในเมื่อเวินเที๋ยนเที๋ยนได้จากโลกใบนี้ไปแล้ว ฉันจะไม่ให้เธอได้มีโอกาสกลับมาอีก”
หล่อนเจียนีได้ฟัง แม้ว่าเธอจะไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น
แต่เมื่อมองไปที่ท่าทางมั่นใจของ หล่อนเจี้ยนกั๋วเธอก็พยักหน้าด้วยความพึงพอใจ
“พ่อ ครั้งนี้พ่ออย่างโกหกหนูอีกนะ”
“แน่นอน.”
ไม่กี่วันต่อมา ภาพยนตร์เรื่อง“แสงจางๆ”ซึ่งอำนวยการสร้างโดยเวินเที๋ยนเที๋ยนและนำแสดงโดยหมินอันเกอก็เข้าโรง
ทุกคนล้วนอยากรับชมในทันที ดังนั้นจึงรีบไปที่โรงภาพยนตร์เพื่อซื้อตั๋วและเตรียมที่จะเพลิดเพลินไปกับภาพยนตร์ที่พวกเขารอคอย
แต่เมื่อไปถึงที่นั่น มีชาวเน็ตจำนวนไม่น้อยกลับพบว่า พวกเขาไม่สามารถหาหนังเรื่อง“แสงจางๆ”ที่โรงภาพยนตร์ได้เลย!
ถึงขนาดที่วิ่งหาไปเกือบทั้งเมือง ก็ยังไม่มีโรงไหนที่มี!
หากไม่มีรอบฉาย แน่นอนว่าย่อมไม่สามารถซื้อตั๋วเข้าโรงภาพยนตร์ได้
หลายคนเริ่มมีสถานการณ์เดียวกัน เพียงชั่วครู่ ก็มีการร้องเรียนบนอินเทอร์เน็ต
หลายคนเริ่มโต้กลับ เหตุใดภาพยนตร์ที่ถูกโปรโมตอย่างใหญ่โตในก่อนหน้านี้ กลับไม่มีการเคลื่อนไหวอะไรเลย?
หลังจากที่เวินเที๋ยนเที๋ยนทราบข่าว เธอก็ตรวจสอบโรงภาพยนตร์หลายแห่งอย่างรีบร้อนในทันที และพบว่ามีโรงภาพยนตร์น้อยกว่า 1 ใน 10 ของโรงภาพยนตร์ทั้งหมดในประเทศที่ฉายหนังของเธอ
อย่างไรก็ตาม จากตารางหนังและสัญญาภาพยนตร์ก่อนหน้านี้ โรงภาพยนตร์มากกว่า95%ล้วนมีท่าทีเต็มใจที่จะฉายหนังเรื่องนี้ ทำไมจู่ๆ พวกเขาถึงได้เปลี่ยนใจกะทันหันตอนที่หนังเปิดตัวจริงๆ ขึ้นมา?
เมื่อเป็นอย่างนี้ ขาวเน็ตที่หาที่ดูหนังไม่ได้ จะเข้าไปกระทบบ็อกซ์ออฟฟิศได้อย่างไร?
เป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์แล้ว แต่บ็อกซ์ออฟฟิศของภาพยนตร์กลับอยู่ในระดับต่ำมาก
แม้ว่าทุกคนที่ได้ชมภาพยนตร์เรื่องนี้จะให้คะแนนสิบเต็มสิบ และชื่นชมอย่างไม่ขาดปาก ถึงขนาดไปดูซ้ำสองสามรอบ แต่ก็ยังมีคนจำนวนมากที่ไม่สามารถหาซื้อตั๋วได้!
พอไม่สามารถหาหนังเรื่องโปรดมาดูได้ และทำได้แค่มองดูคำชื่นชมทางอินเทอร์เน็ตอย่างตาปริบๆ ทำให้ชาวเน็ตหลายคนเริ่มไม่พอใจมากขึ้นเรื่อย ๆ
หลังจากการตรวจสอบ ถึงค่อยพบว่า โรงภาพยนตร์ส่วนใหญ่ที่ฉายล้วนหนังเก่าเมื่อหลายเดือนก่อน อีกทั้งยังมีหลายโรงที่ว่างอยู่ แต่ทำไมถึงไม่ยอมเล่นหนังเรื่องนี้กัน?
ชาวเน็ตที่ทั้งร้อนใจและโกรธแค้น จึงถึงขั้นเข้าไปพบประธานโรงหนังโดยตรง
ไม่คาดคิดว่าประธานคณะกรรมการหลายคนที่กำลังวางแผนจะไปดูเรื่อง“แสงจางๆ”หลังจากได้ยินเรื่องนี้พวกเขาก็ไม่พอใจอย่างมากและสอบถามผู้จัดการภาพยนตร์โดยตรง
ผู้จัดการภาพยนตร์ที่ตอนแรกได้รับคำสั่งของประธานหล่อนให้กดรอบฉายลง ไม่คาดคิดว่าประธานกรรมการจะมาถามถึงเรื่องนี้กับเขาโดยตรง พอเห็นแบบนี้ก็ร้อนรนขึ้นมาแล้ว
หลังจากพยายามกดรอบฉายไปอีกสัปดาห์ ในที่สุดเขาก็ไร้หนทางและได้แต่เปิดโรงฉายขึ้นมาในที่สุด
ในใจของเขาคิด หากเปิดแค่โรงเดียว ก็คงจะไม่มีปัญหาอะไร
แต่เขากลับไม่คาดคิดว่า ทันทีที่ฉายออกไป ก็ไม่มีทางควบคุมได้อีก!
ชาวเน็ตจำนวนมากได้ยินเรื่องนี้จากประธานโรงภาพยนตร์ ก็รีบมาที่โรงภาพยนตร์ด้วยความตื่นเต้นทันที
แต่เมื่อมาถึงที่โรงหนัง พวกเขากลับพบว่ามีเพียงโรงเดียวที่เปิดฉาย อีกทั้งตลอดทั้งวันก็ฉายเพียงแค่รอบเดียวเท่านั้น!
แฟนๆ หลายหมื่นคนรู้สึกว่าพวกเขากำลังถูกหลอก ดังนั้นจึงเกรี้ยวกราดขึ้นมา และเมื่อเห็นว่ามีโรงฉายที่ยังว่างอยู่ก็ทำการเรียกร้องยืนกรานให้ผู้จัดการเปิดมันออก
เมื่อมองเห็นแฟนๆ ที่กำลังเกรี้ยวกราด ผู้จัดการก็ตกใจอย่างยิ่ง เขาได้แค่เปิดโรงฉายที่ยังว่างอยู่ตามที่ถูกแฟนๆ บังคับ
หลังจากผ่านพ้นเรื่องนี้ไป ผู้ชมที่ได้ดูภาพยนตร์เรื่องนี้ถึงค่อยกลับไปอย่างพอใจ
อย่างไรก็ตามมีผู้คนมากมายที่ได้ยินเรื่องนี้และมาที่โรงภาพยนตร์ แต่โรงฉายกลับไม่มีโรงว่างเหลืออยู่อีก ทุกโรงทุกรอบเต็มแน่น และมีคนอีกไม่น้อยที่ต้องรออยู่ด้านนอก
จนผู้จัดการแทบจะหาเวลาปิดโรงหนังไม่ได้เสียด้วยซ้ำ
เนื่องจากมีโรงหนังในเมืองเปิดฉายขึ้นมาเป็นครั้งแรก บ็อกซ์ออฟฟิศที่พุ่งขึ้นสูงลิบก็ทำให้ผู้คนในที่อื่นพุ่งเข้ามาด้วยเช่นกัน
แม้ว่าตนจะสัญญากับประธานหล่อนไปแล้วก็จริง แต่ในเมื่อตอนนี้มีคนแหกกฎแล้ว พวกเขาเองก็ไม่ต้องกลัวอะไรอีก
ยิ่งไปกว่านั้น มีเงินมาให้แต่ไม่รับ แบบนี้สิถึงจะเรียกว่าโง่?
ดังนั้น ไม่นานนักโรงภาพยนตร์ก็ค่อยๆ ทยอยเริ่มฉายหนังเรื่อง“แสงจางๆ”!
