บทที่ 707 เรื่องเมื่อก่อนคงทำไม่ได้แล้ว
แต่คิดไม่ถึงว่า พอเวินเที๋ยนเที๋ยนขยับเท่านั้น ไม่คิดว่าจะขยับออกมาจากอ้อมแขนของเขา
อ้อมกอดของจี้จิ่งเชินว่างเปล่า กังวลว่าเวินเที๋ยนเที๋ยนจะได้รับการโจมตี จึงเตรียมที่จะดึงเธอกลับมา แต่กลับพบว่าเวินเที๋ยนเที๋ยนไม่ได้จะออกไปโจมตีกับพวกนั้น
แต่ทันใดนั้นเองเธอก็เปลี่ยนฝั่ง ไปร่วมทีมกับพวกพ่อบ้านแทน
ย้ายไปอยู่กับพวกเขา แล้วเอาลูกบอลหิมะขว้างมาที่ร่างของจี้จิ่งเชิน
หัวไหล่ของจี้จิ่งเชินถูกขว้างมา จึงเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย
เด็กคนนี้นี่ เมื่อครู่นี้ใครที่ยอมสละตัวเองเพื่อคอยคุ้มกันเธอกัน คิดไม่ถึงเลยว่าเธอจะตอบแทนเข้าแบบนี้?
จี้จิ่งเชินเห็นเวินเที๋ยนเที๋ยนที่กำลังโยนมาอย่างมีความสุขนั้น นับดูเธอก็ขว้างมาไม่น้อยเลยเช่นกัน จึงเดินเข้าไปหาลูกบอลหิมะนั่นแล้วมือยาวๆของเขาก็ยื่นออกมา
เวินเที๋ยนเที๋ยนเห็นท่าทางโกรธๆของเขาแล้ว ก็รู้สึกตกใจขึ้นมาแล้วหันหลังเพื่อจะวิ่งหนี
แต่เพิ่งจะก้าวออกไปเพียงก้าวเดียวนั้น ก็ถูกจี้จิ่งเชินจับตัวกลับมาเหมือนกับแมวตัวหนึ่งแล้วดึงมาอยู่ตรงหน้าตัวเอง
เวินเที๋ยนเที๋ยนบิดตัวดิ้นอยู่พักหนึ่ง ไม่สามารถหลุดออกไปได้ จึงรีบขอความช่วยเหลือจากพ่อบ้านที่อยู่ข้างๆ
“พ่อบ้าน! แม่ครัว! ช่วยฉันด้วย! ช่วยด้วยค่ะ!”
แต่พวกเขาเห็นท่าทางของจี้จิ่งเชินแล้ว ใครก็ไม่กล้าเข้าไป ไม่เพียงแต่จะไม่ช่วย พวกเขากลับถอยหลังหลบออกไปกันอีกเสียอย่างนั้น
เวินเที๋ยนเที๋ยนจ้องมองพวกเขาอย่างโกรธๆ จากนั้นจึงถูกจี้จิ่งเชินรวบตัวเอาไว้ในอ้อมกอด
เธอเงยหน้าขึ้นมาหัวเราะ แล้วยอมรับผิดอย่างว่าง่าย
“จี้จิ่งเชิน ฉันผิดไปแล้ว”
จี้จิ่งเชินก้มหน้าลงมามองเธอ ตรงคิ้วของเขายังคงมีเกล็ดหิมะอยู่ เพียงแค่เลิกคิ้วขึ้นมา แต่กลับไม่ยอมปล่อยมือ
“ผิดตรงไหนครับ?”
เวินเที๋ยนเที๋ยนกลืนน้ำลาย แล้วเอ่ยขึ้น : “ฉันไม่ควรทิ้งพี่ไป แล้วไปอยู่ฝั่งเดียวกับพวกพ่อบ้านแล้วมาโจมตีพี่ เมื่อกี้ควรจะยึดมั่นในความคิดของตัวเอง ขวางหน้าพี่เอาไว้!”
“อืม?” จี้จิ่งเชินส่งเสียงออกมาในลำคอ “แล้วอย่างไรต่อครับ?”
ยังมีอะไรต่อด้วยหรือ?
เวินเที๋ยนเที๋ยนประจบออดอ้อนเขาขึ้นมา ช่วยจี้จิ่งเชินปัดเกล็ดหิมะบนศีรษะและตรงไหล่ออก แล้วเขย่งเท้าขึ้นมาจูบลงตรงมุมปากของเขา
“ฉันชอบจี้จิ่งเชินที่สุดอยู่แล้วค่ะ”
เดิมทีคิดว่าแค่นี้ก็คงจะไม่เป็นไรแล้ว แต่คิดไม่ถึงว่าจี้จิ่งเชินกลับเอ่ยขึ้นมา : “คุณคิดว่าแค่นี้ก็จะไม่เป็นไรแล้วหรือครับ?”
ว่าแล้ว เขาก้มตัวลง แล้วหยิบหิมะขึ้นมาบีบให้เป็นลูกบอลหิมะที่มีขนาดใหญ่ แม้กระทั่งมีขนาดใหญ่พอๆกับศีรษะของเวินเที๋ยนเที๋ยนเลยเสียด้วยซ้ำ
เวินเที๋ยนเที๋ยนตกตะลึงขึ้นมาในทันที แล้วเบิกตาขึ้น
จี้จิ่งเชินคงจะไม่ได้จะใช้ลูกบอลหิมะลูกนั้นโยนใส่เธอหรอกใช่ไหม?
เธอตกใจจนถอยหลังออกไป แต่กลับถูกจี้จิ่งเชินดึงตัวเอาไว้
“อย่าคิดหนีเลยครับ”
เวินเที๋ยนเที๋ยนรีบส่ายหน้า
“จี้จิ่งเชิน พี่ใจเย็นๆนะ”
“ผมไม่อยากใจเย็นแล้ว”
จี้จิ่งเชินทิ้งประโยคนี้เอาไว้ แล้วยกลูกบอลหิมะในมือขึ้นสูง เห็นแล้วเหมือนกำลังจะหล่นลงมาแล้ว!
เวินเที๋ยนเที๋ยนตกใจจนรีบหลับตาลง ไม่กล้ามอง
รอจนสักพักหนึ่ง กลับไม่มีลูกบอลหิมะหล่นลงมาอย่างที่เธอคิดเอาไว้
เธอลืมตาข้างหนึ่งขึ้นมาด้วยความสงสัย สิ่งที่เห็นนั้นกลับกลายเป็นใบหน้าที่มีรอยยิ้มของจี้จิ่งเชิน ที่อยู่ตรงหน้าเธอ
ยังไม่ทันรอให้เวินเที๋ยนเที๋ยนมีปฏิกิริยาตอบกลับนั้น จู่ๆทางฝ่ายนั้นก็ก้มลงมาจูบเธอเอาไว้
ลูกบอลหิมะลูกใหญ่ในมือนั้นไม่รู้ว่าถูกโยนลงบนพื้นไปตั้งแต่เมื่อไหร่ มือทั้งสองข้างของจี้จิ่งเชินนั้นโอบอยู่ตรงเอวของเวินเที๋ยนเที๋ยน แล้วอุ้มเธอขึ้นมาจูบเธออย่างลึกซึ้งท่ามกลางพื้นที่ปกคลุมไปด้วยหิมะนี้
พ่อบ้านและแม่ครัวที่ยืนอยู่ไม่ไกลเห็นฉากนี้แล้ว พากันปิดปากหัวเราะ แล้วออกไปจากลานกว้างนั้นไปกันอย่างเงียบๆ ให้ที่นี่เป็นของพวกเขาทั้งสองคนในเวลานี้
จี้จิ่งเชินโอบเธอเอาไว้แน่น แล้วสักพักหนึ่งทั้งสองคนถึงได้แยกออกจากกันในที่สุด
มือทั้งสองข้างของเวินเที๋ยนเที๋ยนวางอยู่ตรงไหล่ของเขา แก้มแดงขึ้นมาเล็กน้อย หายใจเอาอากาศบริสุทธิ์เข้าไปทีละนิด
หันกลับมามองรอบๆ พบว่าพวกพ่อบ้านได้พากันออกไปกันหมดแล้ว
เธอมองจี้จิ่งเชินแล้วบ่นออกมา
“โทษพี่เลย ทำให้คนอื่นตกใจหนีไปกันหมดแล้ว”
จี้จิ่งเชินเลิกคิ้ว
“พวกเขาไม่ได้ตกใจเสียหน่อย แต่ไม่อยากอยู่รบกวนพวกเรามากกว่า นับว่ายังดีที่รู้ว่าควรจะทำอะไร”
ได้ยินแล้ว เวินเที๋ยนเที๋ยนก็รู้สึกเขินขึ้นมาอยู่บ้าง จึงปล่อยจี้จิ่งเชิน
“พี่ปล่อยฉันก่อนสิคะ ฉันอยากรีบกลับไปแล้ว”
พูดจบแล้วก็หันกลับเพื่อจะเดินไป
แต่คิดไม่ถึงว่ายังไม่ทันได้เคลื่อนไหวนั้น ก็ถึงจี้จิ่งเชินดึงตัวกลับมาอีก
เวินเที๋ยนเที๋ยนมองเขาอย่างสงสัย
“ทำไมหรือคะ?”
จี้จิ่งเชินเอ่ยเพียงว่า : “เรื่องเมื่อกี้จะปล่อยไปแบบนี้อย่างนั้นหรือ?”
ได้ยินแล้ว เวินเที๋ยนเที๋ยนก็ยิ่งไม่เข้าใจมากขึ้นไปอีก
“เมื่อกี้ไม่ใช่ว่าพี่……”
จี้จิ่งเชินเอ่ยพูดขึ้น : “เมื่อกี้ก็คือเมื่อกี้ ตอนนี้ต่างหากที่จะเริ่มลงโทษจริงๆแล้ว”
ว่าแล้วเขาก็เดินไปยังด้านหน้า อุ้มเธอขึ้นมา แล้วเดินเข้าไปยังทิศทางด้านในคฤหาสน์
เวินเที๋ยนเที๋ยนเห็นท่าทางแล้วก็ตกใจขึ้นมา
“พี่จะลงโทษยังไงคะ?”
จี้จิ่งเชินก้มลงมอง มองเวินเที๋ยนเที๋ยนด้วยแววตาที่มีรอยยิ้ม
“คุณว่าอย่างไรล่ะ?”
เวินเที๋ยนเที๋ยนเห็นท่าทางเขาแล้วก็พอจะเดาบางอย่างได้
จึงรีบเอ่ยขึ้น : “ถ้าไม่อย่างนั้นเดี๋ยวฉันทำข้าวต้มปลาที่พี่ชอบให้ดีกว่าไหมคะ?”
“ไม่ได้ครับ”
“ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวฉันนวดไหล่ให้พี่ไหม? สองสามวันนี้พี่ทำงานยุ่งมาตลอดเลยจะต้องเหนื่อยมากแน่ๆ”
“ไม่ต้องครับ” จี้จิ่งเชินเอ่ยพูดขึ้นด้วยใบหน้าที่เป็นห่วง : “เรื่องพวกนี้มันเหนื่อยเกินไป เพื่อเป็นการคิดแทนเที๋ยนเที๋ยน ผมจะช่วยหาวิธีลงโทษที่เบาๆและสบายๆให้ดีกว่า”
“การลงโทษแบบนั้นมันสบายตรงไหนกัน?”เวินเที๋ยนเที๋ยนบ่นออกมาอย่างไม่พอใจ
แต่กลับยังไม่ทันได้ขัดนั้น ก็ถูกจี้จิ่งเชินพาขึ้นมาส่งยังห้องนอนแล้ว
จี้จิ่งเชินเอ่ยขึ้นมาอย่างตรงประเด็น : “อยู่บนเตียง นอนเฉยๆ ยังไม่สบายอีกหรือครับ? อย่าโลภสิครับเที๋ยนเที๋ยน”
ทันใดนั้นเองเวินเที๋ยนเที๋ยนกลับรู้สึกว่า งานที่บริษัทค่อยๆสบายขึ้นนั้นดูเหมือนจะไม่ใช่เรื่องดีเท่าไรนัก
เนื่องจากตอนนี้คนบางคนได้เริ่มเรียนรู้ที่จะฉวยโอกาสและเวลาในทุกๆช่วงของชีวิตเป็นแล้ว เริ่มเข้าออกห้องนอนได้อย่างตามอำเภอใจแล้ว
ผ่านไปสองวัน เวินเที๋ยนเที๋ยนก็ยังคงให้ความสนใจกับเรื่องของตระกูลเวินอยู่นั้น แต่จู่ๆกลับได้รับสายจากทางสถานีตำรวจ
เห็นแล้วก็รู้ว่าเป็นเหยียนเจิ้งโทรมา เวินเที๋ยนเที๋ยนคิดว่าผลการพิจารณาคดีจะออกมาแล้วเสียอีก
น้ำเสียงของทางฝั่งเหยียนเจิ้งนั้นจริงจังมาก เมื่อรับสายแล้วก็ถอนหายใจออกมาพลางเอ่ยขึ้น : “คุณเวินครับ ขอโทษด้วยนะครับ เรื่องที่ผมสัญญาไว้กับคุณก่อนหน้านี้ดูเหมือนจะมีการเปลี่ยนแปลงเข้าแล้ว”
ได้ยินคำพูดนี้แล้ว ในใจของเวินเที๋ยนเที๋ยนนั้นก็รู้สึกจมดิ่งลงในทันที
ในช่วงก่อนที่พวกเธอไปสถานีตำรวจ คุณตำรวจเหยียนเจิ้งเคยบอกเอาไว้ เนื่องจากหลักฐานที่หาได้นั้นครบถ้วนเป็นอย่างมาก ดังนั้นครั้งนี้จะต้องสามารถทำให้เวินฉี่และเวินหงไห่ได้รับโทษอย่างแน่นอน
แต่จู่ๆได้ยินแบบนี้แล้ว เวินเที๋ยนเที๋ยนจึงรู้สึกกลัวขึ้นมาทันที หรือว่าตอนนี้ตระกูลเวินจะมีความสามารถที่จะทำให้ตัวเองหลุดพ้นความผิดได้อย่างนั้นหรือ?
“เกิดอะไรขึ้นคะ?”เวินเที๋ยนเที๋ยนรีบเอ่ยถามขึ้น
เหยียนเจิ้งเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ : “เมื่อคืนนี้ เวินฉี่ฆ่าตัวตายที่สถานควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยเพราะคงกลัวจะต้องโทษน่ะครับ”
“อะไรนะคะ?” เวินเที๋ยนเที๋ยนส่งเสียงออกมาด้วยความประหลาดใจ
“ขอโทษด้วยนะครับ เป็นความผิดพลาดของพวกผมเอง”
น้ำเสียงของเหยียนเจิ้งนั้นเต็มไปด้วยความรู้สึกผิด : “เมื่อคืนนี้ตอนที่ตรวจสอบกันรอบสุดท้ายยังไม่มีปัญหาอะไรเลยครับ วันนี้เช้าตอนที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจไปดู ก็พบว่าเขาใช้ผ้าปูที่นอนแขวนคอตายในห้องขังไปแล้วครับ ถ้าหากพวกเราระวังกันกว่านี้หน่อย ก็คงจะไม่เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น”
“ตอนนี้การพิจารณาตัดสินคดีก็กำลังจะสิ้นสุดลงแล้ว เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น ทางทีมตรวจสอบและศาลก็ตกใจอยู่เหมือนกันครับ แต่คุณวางใจได้ครับ เพราะว่าครั้งนี้เกี่ยวข้องกับเงินจำนวนมาก ทางทีมตรวจสอบก็จะยังคงดำเนินการตรวจสอบกันต่อไปครับ”