บทที่ 720 นกกาเหว่าแย่งรัง
เมื่อก่อนพวกเขาจะก่อเรื่องอย่างไร ฉวีผิงก็ทนได้ แต่ตอนนี้เธอว่าร้ายเวินเที๋ยนเที๋ยน จะทนได้อย่างไรกัน
ใครๆ ก็รู้ว่าความสัมพันธ์ของเวินเที๋ยนเที๋ยนกับตระกูลเวินนั้นขัดแย้งกัน บวกกับเวินฉี่จบชีวิตตนเองในคุก เวินหงไห่ก็หายไปอย่างไม่มีร่องรอย ทั้งตระกูลเวินล่มสลายไปแล้ว
ถึงตอนนี้ พวกเขายังพูดเรื่อยเปื่อยถึงเลือดตระกูลเวินอีกครึ่งหนึ่งของเวินเที๋ยนเที๋ยนบุกเข้ามาในบ้านของตระกูลอย่างเปิดเผย จะไม่ให้เขาโกรธได้อย่างไร?
“พวกคุณ…..”
เขาก้าวขึ้นไปข้างหน้ากำลังจะอ้าปากพูด กลับถูกเวินเที๋ยนเที๋ยนขวางเอาไว้
เธอส่ายหน้าให้ฉวีผิงเล็กน้อย หมุนตัวเดินเข้าไปหาทั้งสองคนตรงหน้า
ที่จริงแล้วหล่อนเจียนีก็ถือเป็นคนตระกูลหล่อน ถ้าออกไปแล้ว เกรงว่าต้องลงเอยที่ข้างถนน
ยิ่งไปกว่านั้น ต่อให้ตนไล่ทั้งสองคนออกไป ทั้งคู่คงคิดหาร้อยพันวิธีกลับมาอีกอยู่ดี?
เวินเที๋ยนเที๋ยนคิดแล้วจึงเอ่ยปาก: “ในเมื่อพวกคุณอยากอยู่ที่นี่ต่อก็อยู่ แต่ถ้าพวกคุณอยากอยู่ที่นี่ ต้องรักษากฎของที่นี่”
หล่อนเจียนีกับหลิวเหม่ยหลันสบตากัน เอ่ยอย่างไม่พอใจ: “คุณอยากพูดอย่างไรก็พูดไป อย่างไรพวกเราก็ไม่ไปเด็ดขาด”
พูดจบก็โบกมือลุกขึ้นยืนแล้วหมุนตัวจากไป
พ่อบ้านขมวดคิ้วมองพวกเขา พูดอย่างกังวลใจ: “จะไม่ไล่พวกเขาออกไปจริงเหรอ? ต้องรายงานคุณนายหล่อนไหม?”
เวินเที๋ยนเที๋ยนส่ายหน้า
“คุณแม่กำลังพักผ่อนที่บ้านพักตากอากาศ ร่างกายพึ่งฟื้นฟูขึ้นนิดหน่อย ไม่เอาเรื่องพวกนี้ไปรบกวนเธอดีกว่า สองวันนี้ฉันก็จะย้ายกลับไปแล้ว อยู่ที่นี่สักพัก ค่อยคิดหาทาง”
ฉวีผิงพยักหน้า กำลังจะพูด ก็สังเกตเห็นถึงคำเรียกขานที่ออกมาจากปากของเวินเที๋ยนเที๋ยนเมื่อสักครู่
คุณแม่
เขาเบิกตากว้างอย่างแปลกใจ ผ่านไปสักพัก ถึงยิ้มออกมา รับร้อนพยักหน้า
“ได้ จะให้คนไปจัดการเดี๋ยวนี้”
พูดด้วยรอยยิ้มเต็มใบหน้าแล้วหมุนตัวจากไป
เวินเที๋ยนเที๋ยนกลับมาที่ปราสาทเก่าอีกครั้ง บอกการตัดสินใจของตนกับจี้จิ่งเชิน
หลังจากได้ยินว่าหลิวเหม่ยหลันกับหล่อนเจียนีอยู่ที่คฤหาสน์ของตระกูลหล่อน จี้จิ่งเชินก็ไม่วางใจ
แต่เวินเที๋ยนเที๋ยนกลับพูดว่า: “นั่นเป็นบ้านของฉัน จะให้นกกาเหว่ามาแย่งรังได้อย่างไร?”
“ฉันต้องกลับไปแน่นอน วางใจเถอะ จะไม่เกิดเรื่องอะไรหรอก ฉันจะหาวิธีหาที่ทางให้พวกเขาก็ได้แล้ว”
จี้จิ่งเชินเห็นเธอตัดสินใจแน่วแน่แล้ว จึงได้แต่ต้องเห็นด้วย
“ถ้าเกิดเรื่องอะไรขึ้นต้องบอกผม ห้ามแบกไว้คนเดียว”
“รู้แล้ว คุณวางใจเถอะ”
เวินเที๋ยนที๋ยนเอ่ยกลั้วหัวเราะ: “คุณลืมแล้วเหรอ ตอนที่ถ่ายภาพยนตร์ก่อนหน้านี้ หล่อนเจียนี้ก็ทำอะไรฉันไม่ได้ใช่ไหม? ฉันตอนนี้ไม่ใช่คนที่ใครจะมารังแกก็ได้แล้ว”
เวินเที๋ยนเที๋ยนพูดพลางยกกำปั้นขึ้นชกไปมา ให้จี้จิ่งเชินเห็นว่าตนนั้นเก่งแค่ไหน
จี้จิ่งเชินเห็นท่าทางของเธอ จึงยิ้มบางเบา ยกมือขึ้นดึงเวินเที๋ยนเที๋ยนเข้ามากอด
“ต่อให้เที๋ยนเที๋ยนเก่งแค่ไหน ผมก็วางใจไม่ลง”
“คุณไม่ต้องเป็นห่วง” เวินเที๋ยนเที๋ยนพูดโน้มน้าว: “อีกอย่าง แม่ครัวก็บอกแล้วไม่ใช่เหรอ ว่าถ้าจะแต่งงาน ฉันต้องกลับไปที่ตระกูลหล่อนก่อน?”
จี้จิ่งเชินพยักหน้า เอ่ย: “ในเมื่อเป็นแบบนั้น ถ้าอย่างนั้นผมก็ต้องตักตวงช่วงเวลาสุดท้ายไหม”
“อะไรนะ?”
สองมือของจี้จิ่งเชินจับเอวเธอแน่นขึ้นเล็กน้อยแล้วจูบเธอ
เวินเที๋ยนเที๋ยนรีบผลักออก
“เดี๋ยวสิ ไม่ได้พูดว่าจะย้ายของไปที่ตระกูลด้วยกันกับฉันเหรอ?”
“ตอนนี้ยังมีเวลาอีกเยอะ ไม่รีบ”
จี้จิ่งเชินพูดพลางปิดปากเวินเที๋ยนเที๋ยนอีกครั้ง จูบเธออย่างลึกซึ้ง
“ยังเหลือเวลาอีกเยอะ ไม่ส่งคุณไปตระกูลหล่อนก่อนเวลาที่นัดไว้แน่นอน”
เดิมนัดไว้เวลาจะออกเดินทางตอนห้าโมงเย็น แต่สุดท้ายก็ล่าช้าแล้วล่าช้าอีก
จนกระทั่งท้องฟ้ามืดลง ในที่สุดเวินเที๋ยนเที๋ยนก็เป็นอิสระ
จี้จิ่งเชินกอดเอวเธอไว้ คิดว่าต้องส่งเวินเที๋ยนเที๋ยนไปแล้วนั้น ที่ปราสาทเก่าจะไม่มีการเคลื่อนไหวของเวินเที๋ยนเที๋ยน ตอนเช้าหลังจากตื่นขึ้นมาก็ไม่เจอ จี้จิ่งเชินรู้สึกเสียดายขึ้นมาเล็กน้อยในทันที
“อีกสองวันผมค่อยส่งคุณไปไหม?”
เวินเที๋ยนเที๋ยนที่ได้ยินก็ถลึงตาให้เขาอย่างรวดเร็ว
“ไม่ได้! คุณตกลงแล้ว อีกอย่างที่ตระกูลหล่อนนั้นฉันยังไม่วางใจ ต้องไปดู”
จี้จิ่งเชินยังไม่ค่อยพอใจเล็กน้อย กอดเอวเวินเที๋ยนเที๋ยนไว้แน่น ราวกับสุนัขตัวโตกำลังออดอ้อน
เวินเที๋ยนเที๋ยนยกมือตบไหล่ของเขา พูดหน้าแดง: “ถ้าไม่ไหวจริงๆ ถึงตอนนั้นฉันกลับมาค้างสักสองสามวัน หรือคุณจะไปที่ตระกูลหล่อน…..”
เมื่อได้ยินประโยคนั้น จี้จิ่งเชินเงยหน้าขึ้นมองหน้าแดงฝาดของเวินเที๋ยนเที๋ยน
“พูดอย่างนี้ เวินเที๋ยนเที๋ยนกำลังเชิญชวนผมอยู่เหรอ?”
เวินเที๋ยนเที๋ยนหน้าแดงขึ้นอีกเล็กน้อย สายตาตาหลุกหลิกไปมา
“ไม่ใช่สักหน่อย และคุณตกลงแล้วว่าวันนี้จะไปส่งฉันกลับไป เดิมตกลงไว้ห้าโมง ตอนนี้ท้องฟ้ามืดหมดแล้ว”
“ในเมื่อมืดแล้ว ไม่รอถึงพรุ่งนี้แล้วค่อยไปดีกว่า”
จี้จิ่งเชินคิดหาทางสุดความสามารถ ให้เวินเที๋ยนเที๋ยนอยู่ต่ออีกสักหน่อย แจ่เวินเที๋ยนเที๋ยนวันนี้กลับได้ตัดสินใจแน่นอนแล้ว
“ไม่ได้ ฉันคุยกับฉวีผิงแล้ว ว่าจะเข้าไปวันนี้ พวกเขาต้องรออยู่แน่เลย”
ได้ยินแบบนั้น จี้จิ่งเชินจึงส่งเวินเที๋ยนเที๋ยนขึ้นรถ
เมื่อมาถึงที่ด้านนอกคฤหาสน์ของตระกูลหล่อนตอนนั้นก็เป็นเวลาดึกแล้ว
พ่อบ้านหลายคนยังคงรอเวินเที๋ยนเที๋ยนอยู่จริงๆ ช่วยกันยกของลงจากรถ
จี้จิ่งเชินและเวินเที๋ยนเที๋ยนเข้าห้องรับแขกไป เห็นหล่อนเจียนีกับหลิวเหม่ยหลันนั่งอยู่ข้างในก็ขมวดคิ้ว
หล่อนเจียนีเห็นจี้จิ่งเชินกลับตาวาว รีบร้อนนั่งลง แสร้งทำท่าทางหยาดเยิ้ม ชายตามองไปที่จี้จิ่งเชิน
“คุณจี้ ไม่ได้ยินมาก่อนเลยว่าคุณจะมา? ไม่อย่างนั้นจะให้พวกเขาเตรียมอาหารเย็นไว้ให้เรียบร้อย กวาดเร็วๆ คุณดูสิตรงนี้สกปรกขนาดไหน ก็ไม่รู้ว่าคนพวกนั้นเก็บกวาดกันอย่างไร? ต้องโดนสั่งสอนจริงๆ”
ฉวีผิงที่เดินตามมาข้างได้ยินแบบนั้น สายตาก็กวาดมองไปที่พื้น แล้วหัวเราะในลำคอออกมา
ขยะบนพื้นพวกนั้นล้วนเป็นฝีมือของแม่ลูกคู่นั้น ก็นั่งทิ้งอยู่ตรงนี้ทั้งวันไม่ใช่เหรอ? ยังจะมีความสามารถไปโทษคนอื่นได้!
แต่เขากลับไม่ได้พูดอะไร เพียงสั่งให้เหล่าคนงานที่กำลังไม่พอใจนั้น ยกของเข้ามา
จี้จิ่งเชินได้ยินเธอพูดแต่กลับไม่สนใจ แม้กระทั่งสายตาก็ไม่มองไปที่เธอ เพียงแค่กวาดตามอง แล้วหันกลับไปมองทางเวินเที๋ยนเที๋ยน
“วันนี้ไม่อยากให้ผมอยู่ค้างกับคุณจริงเหรอ?”
เวินเที๋ยนเที๋ยนคิดไม่ถึงว่าเขาจะกล้าพูดแบบนี้ต่อหน้าคนหลายคน ใบหน้าจึงแดงระเรื่อ
มองไปทางหล่อนเจียนีกับหลิวเหม่ยหลัน แล้วจึงพูดเสียงเบา: “ไม่ต้อง คุณรีบกลับไปเลย”
“เที๋ยนเที๋ยนช่างไร้น้ำใจ ใช้เสร็จแล้วก็ทิ้ง”
“ที่ไหนกัน?” เวินเที๋ยนเที๋ยนแย้งอย่างไม่พอใจ
จี้จิ่งเชินหัวเราะ: “ก็ไม่ใช่ใช้แล้วเหรอ? เมื่อกี้ตอนอยู่ที่ปราสาทเก่า ยัง…….”
เวินเที๋ยนเที๋ยนได้ยินก็ตกใจเบิกตากว้างทันที รีบร้อนปิดปากจี้จิ่งเชิน
“ไม่ต้องพูดแล้ว”
เธออายจนหน้าแดงไปหมด
จี้จิ่งเชินหัวเราะออกมา แล้วจูบกลางฝ่ามือเวินเที๋ยนเที๋ยนเบาๆ
“แม้ว่าคืนนี้จะอยู่ด้วยไม่ได้ แต่พรุ่งนี้ผมจะมารับไปบริษัทด้วยกัน”