บทที่ 725 เข้าใจความรู้สึกคู่หมั้นของคุณหน่อย
เวลาอยู่ในบริษัท น้อยมากที่ผู้จัดการหยางจะพูดเรื่องส่วนตัว
วันนี้มีจู่ ๆได้ยินคำหยอกล้อจากเขา เวินเที๋ยนเที๋ยนก็เลยหน้าแดงเล็กน้อย
“จี้จิ่งเชินเขาคงไม่เห็นด้วยหรอก?”
ในสายตาเธอ จี้จิ่งเชินให้ความสำคัญกับบริษัทมาตลอด เรื่องส่วนตัวอาจเป็นไปได้ แต่เรื่องนี้เกี่ยวกับอนาคตของทั้งสองบริษัท อีกทั้งหากคนข้างนอกรับรู้เข้า ยากที่จะหลีกเลี่ยงไม่ให้คนเขาพูดกัน
ที่สำคัญไปกว่านั้น เวินเที๋ยนเที๋ยนไม่อยากพึ่งพาความสามารถของจี้จิ่งเชิน ตอนนี้เธอเป็นประธานของบริษัทหล่อนซื่อแบกความหวังและอนาคตทั้งหมอของบริษัทไว้
ตอนนี้งานกำลังเพิ่งจะเข้าที่เข้าทาง จะไปขอให้จี้จิ่งเชินช่วยได้ยังไง?
“มันก็ไม่แน่หรอก” ผู้จัดการหยางยิ้ม “เขาจะรับปากหรือไม่ ประทานเวินไปถามคุณจี้ด้วยตัวเองก็รู้แล้วไม่ใช่หรือ? ”
ผู้จัดการหยางยิ้ม แต่ใจเขามั่นใจมาก
ไม่ต้องพูดถึงเวินเที๋ยนเที๋ยนไปถามด้วยตัวเองหรอก ถึงแม้คุณเวินจะไม่เอ่ยปาก ถ้าหากจี้จิ่งเชินรู้ความเคลื่อนไหวของพวกเขา จะต้องให้ส่วนแบ่งทางการตลาดกับพวกเขาโดยไม่พูดอะไรสักคำ
จริงๆแล้วการตลาดภายในประเทศตอนนี้ใกล้จะถึงจุดอิ่มตัว ยากที่จะบุกเข้าไป ถ้าหากได้รับความช่วยเหลือจากใครสักคน จะต้องดีกว่านี้แน่นอน
ผู้จัดการหยางมีความคิดที่ดี
ในใจของเวินเที๋ยนเที๋ยนกลับคิดถึงเรื่องอื่น
ถึงแม้จะไม่อยากให้จี้จิ่งเชินช่วย แต่ในใจกลับสงสัย จี้จิ่งเชินจะเห็นด้วยจริงหรือ?
“คุณอยากให้ผมตอบตกลงไหม?”
หลังเลิกงาน อยู่ระหว่างทางกลับบ้าน หลังจากที่จี้จิ่งเชินได้ฟังปัญหาของเวินเที๋ยนเที๋ยนแล้ว ก็ไม่ได้รีบตอบ แต่ได้ถามกลับไป
จู่ ๆเวินเที๋ยนเที๋ยนก็ตกอยู่ในห้วงแห่งความคิด ไม่รู้ว่าคำตอบในใจของเธอนั้นคืออะไรกันแน่
จี้จิ่งเชินเห็นว่าเธอไม่ได้ตอบ ก็ไม่ได้บังคับ แต่กลับยิ้มออกมา
“ถ้าหากเวินเที๋ยนเที๋ยนอยากให้ผมตอบตกลง ผมต้องเห็นด้วยแน่นอน แต่ถ้าหากเวินเที๋ยนเที๋ยนไม่อยากให้ผมยื่นมือเข้าไป ผมก็จะไม่ออกคำสั่งแน่นอน ”
แต่เวินเที๋ยนเที๋ยนฟังแล้ว ก็ยังคงสับสน
จี้จิ่งเชินหัวเราะ
“มันตัดสินใจยากขนาดนั้นเลยเหรอ?”
เวินเที๋ยนเที๋ยนพยักหน้า “ทั้งอยากให้คุณตอบตกลง แล้วก็ไม่อยากให้คุณตอบตกลงด้วย……”
การที่ถูกผู้ชายปกป้อง เป็นสิ่งที่ผู้หญิงคาดหวังที่สุดโดยไม่ต้องสงสัย
เขาอดไม่ได้ที่จะถามตัวเองในใจ ตัวเองนั้นอยากได้คำตอบอะไรจากตัวของจี้จิ่งเชิน?
ในด้านความรัก เธอหวังจะได้ยินคำตอบที่หนักแน่นจากปากเขา เพื่อยืนยันว่าตัวเองนั้นสำคัญกว่างาน ในด้านการงานนั้นเป็นสิ่งที่ในใจผู้หญิงทุกคนต้องการจะเอาชนะ
แต่ด้วยเหตุผลและความเคารพในตัวเองกลับไม่อยากให้จี้จิ่งเชินพยักหน้า เพราะว่าแม้แต่เธอ ก็มีความทะเยอทะยานในการทำงาน เธอก็อยากจะประสบความสำเร็จในด้านการงานด้วยความสามารถของตัวเอง
เวินเที๋ยนเที๋ยนขมวดคิ้วเล็กน้อย จมอยู่ในความคิด
จี้จิ่งเชินยกมุมปากขึ้นเล็กน้อย และเขาก็ไม่ได้ถามต่อ
“เที๋ยนเที๋ยนอยากรู้คำตอบแบบไหนยัง? หรือว่ายังรู้ว่าตัวเองนั้นอยู่ตรงไหนของหัวใจผม?”
เวินเที๋ยนเที๋ยนคิดไปมา แล้วหันหน้าไปมองเขา แววตาสับสนเล็กน้อย
จี้จิ่งเชินถอนหายใจแล้วพูด: “เวลาก็ผ่านมานานขนาดนี้แล้ว เที๋ยนเที๋ยนยังไม่รู้ตำแหน่งของตัวเองอีกเหรอ?”
ขณะที่พูด เขาก็ดึงมือของเวินเที๋ยนเที๋ยน มากดทาบไว้บนอกของตัวเอง
ตึกตักๆ
เสียงเต้นของหัวใจดังออกมา
เวินเที๋ยนเที๋ยนเบิกตากว้างเล็กน้อย
จี้จิ่งเชินโน้มตัวไปข้างหน้า มุมปากยกสูงขึ้น แล้วพูดเบาๆใกล้หูของเวินเที๋ยนเที๋ยน “รอให้ถึงวันที่เที๋ยนเที๋ยนกลับไปที่ปราสาท แล้วค่อยบอก”
เวินเที๋ยนเที๋ยนคิดว่าเขาจะบอกคำตอบที่ถูกต้องกับเธอ กลั้นใจรอ แต่คิดไม่ถึงว่าท้ายที่สุดกลับได้คำตอบแบบนี้ เธอมองเขาด้วยความไม่พอใจ
แววตาเง้างอน การเคลื่อนไหวของจี้จิ่งเชินหยุดกะทันหัน สายตาของเขาเปลี่ยนเป็นร้อนแรง ดึงมือของเวินเที๋ยนเที๋ยวไว้แน่น โน้มตัวลง ซุกหัวไปติดกับซอกคอของเธอ
สูดลมหายใจลึกๆ ดมกลิ่นหอมจางๆบนตัวของเวินเที๋ยนเที๋ยน
ตอนแรกอยากจะยับยั้งความร้อนรุ่มในใจ แต่คิดไม่ถึงกลับยิ่งทำให้เลยเถอะไปกันใหญ่
เขาถอนหายใจ: “ไม่อยากส่งคุณกลับไปเลยจริงๆ”
เวินเที๋ยนเที๋ยนฟังแล้ว หันไปมองคฤหาสน์ตระกูลหล่อนที่นอกหน้าต่าง
ถึงหน้าประตูแล้ว จี้จิ่งเชินคงจะไม่แย่งตัวเธอกลับไปอีกใช่ไหม?
แต่พอคิดดีๆ ผู้ชายที่อยู่ตรงหน้าก็เป็นผู้ชายแบบนั้นจริงๆ
เวินเที๋ยนเที๋ยนกังวลใจเล็กน้อย รีบเปิดประตูแล้วพูดว่า “จี้จิ่งเชิน นี่ก็ดึกแล้ว”
ได้ฟังน้ำเสียงที่กังวลใจของเธอ จี้จิ่งเชินก็พูด “วางใจเถอะ ในเมื่อรับปากว่าจะให้คุณกลับมาแล้ว ผมก็จะไม่ขัดขวางคุณกลางคัน แต่ว่าเที๋ยนเที๋ยน……”
เขาพูดเบาๆ ด้วยน้ำเสียงที่อดกลั้น
“รีบๆหน่อยนะ ผมอดทนอย่างลำบากมาก คุณควรจะเห็นใจคู่หมั้นของคุณในเวลาที่เหมาะสม”
พูดพลาง ก็ดึงมือของเวินเที๋ยนเที๋ยนมา กดไว้แน่น
แล้วพูดอย่างมีความหมายลึกซึ้ง “ อีกอย่าง คู่หมั้นตัวน้อยๆก็อดทนอย่างยากลำบากเหมือนกัน”
ใบหน้าของเวินเที๋ยนเที๋ยนเริ่มแดง ราวกับกระต่ายน้อยที่กำลังตกใจ กลอกตาไปมา
ท่าทางที่หลีกเลี่ยง ดูแล้วน่าสงสาร
เธอพูดอย่างตะกุกตะกัก “ดึก ดึกแล้ว ฉันกลับก่อนนะ”
พูดจบ ก็รีบเปิดประตูแล้วลงไป ไม่กล้าแม้แต่จะหันกลับมามอง
เวินเที๋ยนเที๋ยน กลิ่นอายของเวินเที๋ยนเที๋ยนค่อยๆหายไปในอากาศ จี้จิ่งเชินมองคฤหาสน์ที่อยู่ตรงหน้า
จี้จิ่งเชินอดไม่ได้ที่ขมวดคิ้ว
“เหล่าจาง คุณคิดว่าผมทำถูกไหม”
คนขับรถได้ยินคำนี้ ก็อึ้งไปเล็กน้อย
จี้จิ่งเชินเป็นผู้ก่อตั้งและประธานของบริษัทเอ็มไอกรุ๊ป เคยสงสัยการตัดสินใจของตัวเองแบบนี้เมื่อไหร่กัน?
เขาคิด แล้วพูดว่า “คุณหนูหนักแน่นมาก”
จี้จิ่งเชินยิ้มทันที
“ใช่ไง ยัยโง่ตัวน้อยนั้นหนักแน่นมาก”
เวินเที๋ยนเที๋ยนเดินเข้าไป ไม่ทันเห็นร่างของหล่อนเจียนีและหลิวเหม่ยหลัน
ทักทายกับพ่อบ้าน เวินเที๋ยนเที๋ยนคิดว่าในที่สุดทั้งสองคนก็รู้ว่าควรจะหยุด ทันใดนั้นก็คิดถึงเรื่องแผนงานของบริษัทในวันนี้ ในห้องหนังสือน่าจะยังมีข้อมูลบางส่วนอยู่
เธอเดินไปยังชั้นที่มีห้องหนังสืออยู่
เมื่อเดินจนใกล้จะถึงห้องหนังสือ กลับเห็นหล่อนเจียนีทำท่าทางลับๆล่อๆอยู่ที่ประตูห้องหนังสือ ดูเหมือนกำลังจะเปิดประตูเข้าไปเวินเที๋ยนเที๋ยนขมวดคิ้ว
เริ่มตั้งแต่คุณนายหล่อน ห้องหนังสือของตระกูลหล่อนก็ถูกใช้เป็นห้องทำงานของประธานของตระกูลหล่อนมาโดยตลอด ก็เหมือนกับห้องหนังสือของตระกูลเวิน ที่นี่ก็มีเอกสารที่เป็นความลับของตระกูลหล่อนอยู่ไม่น้อยเหมือนกัน
เมื่อเห็นหล่อนเจียนีเดินไปมาอยู่ที่ทางเดินหน้าประตู เวินเที๋ยนเที๋ยนรีบเดินไปข้างหน้า แล้วเรียกเธอไว้
“หล่อนเจียนี เธอมาทำอะไรที่นี่?”
มือของหล่อนเจียนีที่อยู่ตรงประตูหน้าห้องหนังสือ กำลังจะขยับบิดกลอน ได้ยินเสียง ก็รีบหันกลับมา
พอเห็นเวินเถี๋ยนเถี๋ยน ก็สะดุ้งตกใจ แล้วรีบดึงมือกลับมาทันที
สายตาของเวินเที๋ยนเที๋ยนจ้องไปที่มือของเธอ แล้วพูดอย่างจริงจัง “ฉันจำได้ว่าฉันเคยพูดไปแล้ว ห้องหนังสือของฉันห้ามคนอื่นๆเข้าโดยพลการ รวมถึงเธอด้วย”
“ในเมื่อเธอต้องการจะอยู่ที่นี่ ก็ต้องเคารพกฎของตระกูลหล่อน”
หล่อนเจียนีพบว่าการกระทำของเธอถูกจับได้ ก็พูดด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา
“ทำเป็นเรื่องใหญ่ไปได้ ให้ฉันเข้าไป ฉันก็ไม่อยากเข้าไปเลย”
พูดจบ ก็หันหลังแล้วเดินลงไปชั้นล่าง
เวินเที๋ยนเที๋ยนยังยืนอยู่ที่เดิม พ่อบ้านเดินมาจากข้างหน้าพอดี เห็นสีหน้าที่ไม่ปกติของเวินเที๋ยนเที๋ยน ก็ถาม “เป็นอะไรไปครับคุณหนู?”