บทที่ 749 หลวนจื่อเธอสบายดีไหม
ในใจของเวินเที๋ยนเที๋ยนรู้สึกผิดอยู่บ้าง
“ขอโทษด้วย ฉันไม่คิดว่าพวกเขาจะทำแบบนี้กับคุณ ฉันได้จัดงานอื่นให้พวกคุณแล้ว ไม่กี่วันนี้คงไม่มารบกวนคุณอีก แต่ไม่ว่าจะยังไงก็ตาม ฉันหวังว่าคุณจะระวังพวกเขาให้มากขึ้นและอย่าให้หล่อนเจียนีและหลิวเหม่ยหลันหลอกเข้าให้”
หลวนจื่อยิ้มและทำตัวร่าเริงขึ้น
“ฉันรู้ คุณวางใจได้ เมื่อเทียบกับการแบ่งชั้นในวงการบันเทิงแล้ว พวกเขายังไม่เก่งสักเท่าไหร่”
พูดไป เธอก็นึกไปถึงสิ่งที่เห็นในโรงแรมเมื่อวานนี้ รอยยิ้มบนใบหน้าจึงชะงักนิ่ง
เวินเที๋ยนเที๋ยนนั่งลงข้างๆ เธอครุ่นคิด จากนั้นจึงเอ่ยถามอย่างไม่แน่ใจ “คุณได้คุยกับหมินอันเกอหรือยัง? นี่เป็นเรื่องเข้าใจผิดหรือเปล่า? เขาไม่ได้อธิบายอะไรหรือ?”
หลวนจื่อส่ายหัว รอยยิ้มแฝงความขมขื่น
“ฉันยังไม่ได้เจอเขา อีกทั้งยังไม่อยากฟังเขาอธิบาย”
พูดจบ เธอก็หยิบโทรศัพท์มือถือออกมาดูและมีสายโทรเข้ามาพอดี
เป็นหมินอันเกอ
แต่เมื่อหลวนจื่อเห็นชื่อ กลับไม่ยอมรับสาย และเอาแต่มองไปที่หน้าจอ
จนกระทั่งอีกฝ่ายวางสายลง เวินเที๋ยนเที๋ยนถึงค่อยเห็นว่ามีสายที่ไม่ได้รับมากกว่า 40 สาย รวมถึงข้อความกว่าสิบกว่าข้อความบนนั้น ทั้งหมดมาจากหมินอันเกอ
เห็นได้ชัดว่า หมินอันเกอพบว่าหลวนจื่อหายไปจึงได้ตามหาเธอ
“คุณไม่รับหรือ? บางทีอาจจะมีความเข้าใจผิดอะไรอยู่จริงๆ ก็ได้ ให้โอกาสเขาอธิบายอีกสักครั้ง” เวินเที๋ยนเที๋ยนเอ่ย
หลวนจื่อส่ายหัว
“ไม่ใช่ว่าฉันไม่ให้โอกาสเขา และก็ไม่ใช่ว่าฉันไม่เชื่อเขา แต่ว่า…”
เธอถอนหายใจออกมา น้ำเสียงเต็มไปด้วยความเหนื่อยล้า
“เวินเที๋ยนเที๋ยน ฉันเหนื่อยบ้างแล้ว”
เวินเที๋ยนเที๋ยนมองเธออย่างงงงวย และพูดต่อ “ฉันอยู่ข้างๆ หมินอันเกอมานานกว่าสิบปี ในสิบปีนี้ ฉันรอเขามาโดยตลอด รอให้เขาหันมา และไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ในที่สุดฉันก็ได้รับมันแล้ว”
พูดไป เธอก็ก้มหน้าลง จากนั้นจึงยกมือขึ้นลูบท้องที่เนินสูงเบาๆ
“เพียงแต่ พวกนั้นใช้ลูกขโมยมันมา”
“ฉันรู้ ว่าหมินอันเกอจะอยู่ต่อ นั่นเพราะเด็กคนนี้ ฉันผูกมัดอนาคตของเขาเอาไว้ ตอนนี้เขากลับมาในวงการบันเทิงอีกทั้งยังมีความก้าวหน้าอย่างมาก แต่ฉันกลับเหนื่อยขึ้นมาบ้างแล้ว”
“เที๋ยนเที๋ยน ฉันไม่สามารถใช้เด็กคนนี้ผูกมัดเขาเอาไว้ได้ตลอดทั้งชีวิต บางที ฉันควรปล่อยมือ”
เมื่อเวินเที๋ยนเที๋ยนได้ยินคำพูดเหล่านี้ ในใจก็ยิ่งหวาดกลัว
เธอนึกถึงสิ่งที่หลวนจื่อเคยพูดไว้ ตนเองมักจะไล่ตามอยู่ข้างๆ หมินอันเกอมาโดยตลอด รอจนกว่าที่เขาจะรักเธอ
ในเวลานั้น เธอเผชิญหน้าท้าแดด กำหมัดแน่นและประกาศความรักของเธอออกมา แตกต่างจากหลวนจื่อ
หลวนจื่อในตอนนี้ การแสดงออกดูสงบอย่างยิ่ง แต่ความสงบนี้กลับทำให้คนรู้สึกหวาดกลัว ราวกับว่าเธอได้สูญเสียความฝัน และยอมให้กับทุกอย่างแล้ว
เธอรอคอยมากว่าสิบปี จะยอมแพ้ไปแบบนี้จริงๆ หรือ?
ยิ่งไปกว่านั้น ในความเห็นของเวินเที๋ยนเที๋ยน เหตุผลที่หมินอันเกออยู่กับเธอ ไม่ใช่เพียงเพราะลูกของหลวนจื่อ
อย่างเช่นตอนที่หลวนจื่อถูกกลั่นแกล้ง หมินอันเกอออกมาปกป้องเธอ และตนเองก็มองเห็นอารมณ์อื่นในสายตาของหมินอันเกอได้อย่างชัดเจน
เวินเที๋ยนเที๋ยนคิดจะเกลี้ยกล่อม แต่เมื่อเธอเห็นท่าทีของหลวนจื่อ เธอกลับพูดไม่ออก
ช่างเถอะ ช่วงเวลานี้ปล่อยให้หลวนจื่ออยู่ที่นี่ สงบสติอารมณ์สักพักเพื่อคิดทบทวนให้ดี จากนั้นค่อยตัดสินใจก็ไม่เลว
ในขณะที่เวินเที๋ยนเที๋ยนกำลังคิด ฉวีผิงกลับเคาะประตูขึ้น
“มีเรื่องอะไร?” เวินเที๋ยนเที๋ยนหันไปดู
ฉวีผิงมองไปที่หลวนจื่อที่นั่งอยู่อีกด้านของโซฟา จากนั้นจึงค่อยเอ่ยขึ้น “คุณหมินมาแล้ว”
เมื่อได้ยินชื่อนี้ มือของหลวนจื่อก็ขยับ และสุดท้ายกลับไม่เอ่ยพูด
เวินเที๋ยนเที๋ยนมองเธอ จากนั้นจึงยืนขึ้น
“ให้เขาอยู่ในห้องนั่งเล่นก่อน เดี๋ยวฉันจะไปที่นั่น”
พ่อบ้านเอ่ยอย่างลำบากใจ “ขอโทษครับ คุณหมินเข้ามาเองแล้ว…”
เวินเที๋ยนเที๋ยนตะลึงไปเล็กน้อย จากนั้นจึงเตรียมจะลุกขึ้นยืน แต่หลวนจื่อกลับดึงเธอเอาไว้ทันที
“ฉันไม่อยากเจอเขา เที๋ยนเที๋ยน คุณช่วยฉันที…”
เวินเที๋ยนเที๋ยนคิดจะเอ่ยกล่อม เรื่องในตอนนี้ของหลวนจื่อและหมินอันเกอ จะต้องมีความเข้าใจผิดบางอย่างแน่
หากพวกเขาไม่พูดให้ชัดเจน ความเข้าใจผิดนี้ก็จะคงอยู่ตลอดไป ตอนนี้การพบกันเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการอธิบายให้ชัดเจน
แต่เมื่อเห็นหลวนจื่อมีสีหน้าหวาดกลัว เวินเที๋ยนเที๋ยนก็ได้แต่ต้องพยักหน้ารับ
“วางใจเถอะ ฉันจะให้เขาไปก่อน รอจนคุณคิดดีแล้ว พวกคุณค่อยเจอกัน ดีไหม?”
หลวนจื่อพยักหน้า ในใจค่อยสบายใจขึ้นมา จากนั้นจึงนั่งลงเงียบๆ
เวินเที๋ยนเที๋ยนหันกลับมาและเดินตามฉวีผิงไป ก่อนที่เธอจะออกจากสวน เธอก็เห็นว่าหมินอันเกอกำลังเข้ามาอย่างเร่งรีบ
ทันทีที่เขาเห็นเวินเที๋ยนเที๋ยน เขาก็ยิ่งเร่งฝีเท้า
เวินเที๋ยนเที๋ยนเห็นสภาพของเขา ก็ตกใจขึ้นมา
เธอเห็นหมินอันเกอขมวดคิ้วแน่น สติดูเลื่อนลอย บนตัวยังดูสวมชุดที่ถูกรายงานไปเมื่อวานนี้ เป็นชุดที่เขาไปงานเลี้ยงปิดกล้อง
ผมของเขายุ่งเหยิงอยู่บ้าง ท่าทางอดนอนทั้งคืน บนคางมีไรหนวดขึ้นมา ดวงตาของเขาแดงก่ำ ท่าทางซีดเซียว
“หลวนจื่อล่ะ? เธออยู่ด้านใน”
เวินเที๋ยนเที๋ยนเข้ามาขวางหน้าเขา ไม่ยอมให้หมินอันเกอเข้าไป
ดูท่าแล้วไม่ใช่แค่หลวนจื่อที่ทุกข์ทรมาน แต่หมินอันเกอเองก็ต้องทนทุกข์ทรมานเช่นกัน
เวินเที๋ยนเที๋ยนยืนขวางอยู่ตรงหน้าเขา
“นายอย่าเพิ่งเข้าไปเลย หลวนจื่อไม่อยากเจอนายตอนนี้”
เมื่อได้ยินแบบนั้น ดวงตาของหมินอันเกอก็ฉายแววเจ็บปวด ในที่สุดเขาก็ถอยกลับมา สองมือกำแน่น
เวินเที๋ยนเที๋ยนเอ่ย “เมื่อคืนเกิดอะไรขึ้น?”
“ฉัน…”
หมินอันเกอขมวดคิ้ว ยกมือขึ้นลูบหน้าผาก และถอนหายใจออกมา
“เมื่อวานหลังจากที่ฉันและหลวนจื่อออกจากงานก็มีเรื่องขัดแย้งเล็กน้อย บังเอิญกลับที่มีงานเลี้ยงปิดกล้องพอดีก็เลยไปเข้าร่วม ฉัน…”
หลังจากหยุดชะงักไปชั่วขณะ เขาก็ยิ่งเอ่ยอย่างรู้สึกผิดมากขึ้น “ฉันไม่ทันระวังดื่มมากไปหน่อย จนกระทั่งฉันตื่นขึ้นมา ก็พบว่าหลวนจื่อหายตัวไปแล้ว… ข่าวทั้งหมดบนอินเทอร์เน็ตล้วนเป็นเรื่องของฉันกับหลิ่วเฟยเฟย…ฉันหาตัวหลวนจื่ออยู่ทั้งวัน..”
เวินเที๋ยนเที๋ยนขมวดคิ้ว
“ระหว่างนายกับหลิ่วเฟยเฟย…”
“พวกเราไม่มีอะไรระหว่างกันทั้งนั้น” หมินอันเกอเอ่ยอย่างไร้เยื่อใย
แม้ว่าตอนที่ถ่ายหนังหลิ่วเฟยเฟยจะมีความรู้สึกดีๆ กับเขาก็จริง แต่กลับถูกหมินอันเกอปฏิเสธไปแล้ว
ยิ่งไปกว่านั้น แต่เดิมหลิ่วเฟยเฟยก็ไม่ได้ชอบเขาจริงๆ สักนิด เธอแต่ต้องการร่วมมือกับเขาเพื่อกระแสโฆษณา แน่นอนว่าหมินอันเกอนั้นไม่เห็นด้วย
แต่ไม่คาดคิดเลยว่า ในงานเลี้ยงปิดกล้อง เนื่องจากการทะเลาะกันระหว่างตนกับหลวนจื่อก่อนหน้านี้ ทำให้เขาเผลอดื่มไปไม่น้อย และเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น
ก่อนที่จะไปร่วมงานเลี้ยง เขาน่าจะบอกกับผู้จัดการและคนในกองถ่านไปแล้ว ว่าตนเองมานั่งสักพักแล้วจะกลับไป
แต่พวกเขากลับยังปล่อยให้คนอื่นพาตนเองไป ระหว่างนี้ เกรงว่าผู้กำกับเองก็น่าจะเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ด้วย?
ต้องการใช้ข่าวซุบซิบพวกนั้นเพื่อสร้างกระแส
หมินอันเกอยิ่งโกรธมากขึ้น เมื่อพบว่าหลวนจื่อหายไป เขาก็เดาได้ทันทีว่าต้องมีความเกี่ยวข้องกันกับเรื่องนี้
เขาตามหาเธอไปมาหลายแห่ง ในที่สุดก็พบหลวนจื่อ แต่ไม่คาดคิดว่าหลวนจื่อกลับไม่ต้องการพบเขา
หมินอันเกอมองเข้าไปข้างใน และกัดฟันแน่น
“หลวนจื่อเธอ….สบายดีไหม?”