เมียหวานของประธานเย็นชา – บทที่ 752 ภรรยาเพียงคนเดียวในชีวิตนี้

บทที่ 752 ภรรยาเพียงคนเดียวในชีวิตนี้

บทที่ 752 ภรรยาเพียงคนเดียวในชีวิตนี้

เวินเที๋ยนเที๋ยนพยักหน้า หันหน้าไปมองหล่อนเจียนี

“ฉันจำได้ว่าผู้ดูแลบ้านช่วยมอบภารกิจใหม่ให้กับเธอ เธอทำสำเร็จแล้วหรือ”

หล่อนเจียนีได้ยินคำพูดนี้แล้ว ก็ไม่พอใจขึ้นมาทันที

“ฉันคิดจะทำอะไรก็ทำอย่างนั้น ต้องให้เธอมาจัดการด้วยหรือ”

เสียงของเวินเที๋ยนเที๋ยนสงบเยือกเย็นเป็นอย่างมาก

“เป็นเธอที่ทำเครื่องเคลือบฝ้าหลางแตก และเป็นคนที่รับปากเสนอการชดใช้ออกมา ไม่ใช่หรือ ก่อนที่จะสิ้นสุดการชดใช้นี้ เธอจำเป็นต้องทำงานตามกฎข้อบังคับ”

เมื่อเวินเที๋ยนเที๋ยนเอ่ยจบ หล่อนเจียนีก็เต้นผางอย่างมีโทสะขึ้นมา

“เธอไม่ต้องมาโกหกฉันอีก ฉันรู้ตั้งนานแล้วว่า แจกันดอกไม้อันนั้นถูกเธอซื้อเอาไว้แล้ว ถูกต้องหรือไม่”

“ในเมื่อเธอซื้อเอาไว้แล้ว ทำไมจะต้องให้ฉันกับคุณแม่ของฉันมาเป็นวัวเป็นม้าให้เธอด้วย เธอมีสิทธิ์อะไรมาสั่งฉัน”

เวินเที๋ยนเที๋ยนมองเธอ แต่ความรู้สึกกลับไม่สะเทือน

“ฉันซื้อเอาไว้ไม่ได้หมายความว่าพวกเธอซื้อเสียหน่อย ก่อนหน้านี้มูลค่าเงินที่พวกเธอต้องชดใช้มีไม่น้อยเลย”

“เธอจงใจ! คิดจะให้พวกเราทำงานให้เธอ ฝันไปเถอะ!”

หล่อนเจียนีเอ่ยแล้วก็เขวี้ยงถ้วยกาแฟลงกับพื้น

เสียงเพล้งดังขึ้น ถ้วยกาแฟแตกเป็นหลายส่วน กาแฟในถ้วยก็เลอะสกปรกบนพรม

เวินเที๋ยนเที๋ยนขมวดคิ้วเล็กน้อย

“นี่เป็นเงื่อนไขที่เธอกับแม่ของเธอรับปากฉันในตอนแรก ไม่ว่าเธอจะยินยอมหรือไม่ ก็ต้องจ่ายค่าตอบแทนออกมาอยู่ดี”

เวินเที๋ยนเที๋ยนเอ่ยจบแล้ว ก็ไม่รอให้เธอตอบ แต่เรียกผู้ดูแลบ้านมาทันที ให้พวกเขาเก็บกวาดสิ่งที่อยู่ในห้องรับแขก

หล่อนเจียนีที่อยู่อีกด้าน ก็ขมึงตามองเธออย่างดุร้าย แทบจะพุ่งเข้าไปตบตีอย่างทนไม่ไหว

“มองฉันทำไมกัน”

เวินเที๋ยนเที๋ยนเอ่ยอย่างไม่พอใจ ยื่นมือไปจับจี้จิ่งเชินที่อยู่ข้างกายไว้ นิ้วมือทั้งสิบประสานกัน

จี้จิ่งเชินตกตะลึงเล็กน้อย ถัดมามุมปากก็ยกขึ้นนิดๆ แววตาเผยร่องรอยขบขันออกมาหลายส่วน

“อิจฉาขนาดนี้เลยหรือ”

ใบหน้าเวินเที๋ยนเที๋ยนแดงเล็กน้อย ไม่ได้ตอบโต้

จี้จิ่งเชินถามอีกว่า “มีความมั่นใจในโครงการนี้ไหม”

เวินเที๋ยนเที๋ยนเพิ่งจะพยักหน้า สายตาทอประกายความมั่นใจออกมาอย่างเต็มเปี่ยม

“อ้างอิงจากการคาดการณ์ของฉันและพวกผู้จัดการหยาง การประมูลราคาในครั้งนี้จะต้องตกเป็นของบริษัทหล่อนซื่อแน่นอน”

“มีความมั่นใจขนาดนี้เขียวหรือ” จี้จิ่งเชินเลิกคิ้ว ถามกลับ

กิจกรรมการประมูลราคาในครั้งนี้ ไม่ได้มีเพียงแค่บริษัทหล่อนซื่อ แต่กระทั่งM.Iบริษัทของจี้จิ่งเชินก็เข้าร่วมด้วยเช่นกัน

ในฐานะที่ทั้งสองตระกูลมีความสัมพันธ์เป็นคู่แข่งกัน

แม้ว่าจี้จิ่งเชินจะเคยให้ข้อมูลเกี่ยวกับโครงการนี้แก่เวินเที๋ยนเที๋ยนไปบางส่วน แต่ในภายหลังกลับไม่ได้ยื่นมือเข้ามาอีก และปล่อยให้เวินเที๋ยนเที๋ยนตัดสินใจด้วยตัวเอง

ในตอนนี้เห็นเธอมีความมั่นใจขนาดนี้แล้ว จี้จิ่งเชินจึงรู้สึกประหลาดใจขึ้นมา แผนการที่พวกเขาสามารถนำออกมาใช้จะเป็นอย่างไรกันแน่นะ

เวินเที๋ยนเที๋ยนตอบด้วยความมั่นใจเต็มเปี่ยมว่า “วางใจเถอะ จะต้องสามารถแย่งชิงการทำโครงการนี้มาจากM.Iบริษัทได้อย่างแน่นอน”

จี้จิ่งเชินยิ้ม พลางเอ่ยว่า “การประมูลราคานี้ไม่ได้มีเพียงแค่M.Iบริษัท ยังมีอีกหลายบริษัทที่เกิดขึ้นมาใหม่แสดงออกได้ไม่เลวด้วย ถ้าถูกพวกเขาเอาไป ก็มีความเป็นไปได้เช่นกัน”

ได้ยินแบบนั้นแล้ว เวินเที๋ยนเที๋ยนก็กังวลขึ้นมา

ในตอนนี้จี้จิ่งเชินถึงได้หัวเราะแล้วเอ่ยว่า “ถ้าหากว่าเที๋ยนเที๋ยนแย่งสู้พวกเขาไม่ได้ ผมสามารถช่วยแก้แค้นให้คุณได้นะ”

เวินเที๋ยนเที๋ยนที่หันหน้าเดินออกไปข้างนอก ได้ยินคำพูดนี้แล้ว ก็เอ่ยอย่างไม่พอใจว่า “พูดแบบนี้ ความหมายของคุณคือบริษัทหล่อนซื่อของพวกเราไม่มีวันเทียบM.Iบริษัทของพวกคุณได้อย่างนั้นสิ”

“แน่นอนว่าไม่ใช่”

จี้จิ่งเชินก้มหน้าลงเล็กน้อย เขยิบเข้าไปใกล้ข้างหูเวินเที๋ยนเที๋ยน เอ่ยเสียงเบาว่า “เที๋ยนเที๋ยนรู้อยู่แท้ๆว่า ขอเพียงแค่คุณเอ่ยปาก ผมก็ไม่กล้าตอบโต้อย่างแน่นอน ไม่ใช่หรือ ในจุดนี้ ก็แพ้แล้ว”

ใบหน้าเวินเที๋ยนเที๋ยนแดงระเรื่อ เอ่ยอย่างอ้ำอึ้งว่า “คุณก็รู้อยู่แท้ๆว่า…….ฉันไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น”

ทั้งสองคนกระซิบกระซาบกันเสียงเบา เดินออกไปด้านนอก การกระทำนั้นดูสนิทสนมและให้การพึ่งพาซึ่งกันและกันเป็นอย่างมาก

ภาพนี้อยู่ในสายตาของหล่อนเจียนีที่อยู่ในห้องรับแขก ทำให้เธอมีโทสะได้ไม่มีที่สิ้นสุด

ทำไมตอนที่จี้จิ่งเชินเผชิญหน้ากับเธอ ไม่ว่าจะทำอะไร พยายามที่จะทำทุกวิถีทาง จี้จิ่งเชินก็ไม่หวั่นไหวแม้แต่น้อย มีเพียงแค่ใบหน้าเย็นชา กระทั่งมองก็ยังไม่มองเธอกัน

แต่ขอเพียงแค่เวินเที๋ยนเที๋ยนปรากฏตัวขึ้นมา เขาก็เปลี่ยนไป อ่อนโยนเสียจนทำให้คนคาดไม่ถึง

เธอไม่เชื่อ!

เวินเที๋ยนเที๋ยนอาศัยอะไรมาเปลี่ยนแปลงเขาได้ ตัวเองจะไม่ได้กัน

ยิ่งเห็นจี้จิ่งเชินอ่อนโยนและเอาใจใส่เวินเที๋ยนเที๋ยนมากเท่าไร เธอก็รู้สึกใจเต้น จะต้องแย่งเขามาให้ได้อย่างแน่นอน

เธอกัดฟันแน่น ในสมองปรากฏโครงการประมูลราคาที่มาจากปากของเวินเที๋ยนเที๋ยนเมื่อครู่นี้ขึ้นมาทันที

หลายวันมานี้เวินเที๋ยนเที๋ยนนั้นออกจากบ้านแต่เช้าและกลับมาในตอนมืดค่ำตลอด แม้ว่าหลังจากกลับมาถึงตระกูลหล่อนแล้ว ก็ยังเข้าไปทำงานต่อในห้องหนังสือ แต่แค่คิดก็รู้แล้วว่า โครงการในครั้งนี้จะต้องมีความสำคัญต่อบริษัทหล่อนซื่อมากแค่ไหน

หล่อนเจียนีหันหน้ามองไปยังทิศทางของห้องหนังสือที่ชั้นบน

ตอนนี้ในห้องหนังสือ น่าจะมีข้อมูลเกี่ยวกับโครงการนี้อยู่บ้างสินะ

เมื่อผู้ดูแลบ้านและคนในห้องรับแขกออกไปแล้ว เธอถึงได้ค่อยๆย่องเบาไปยังทิศทางของห้องหนังสือบนชั้นสอง

ไม่รู้ว่าผู้ดูแลบ้านได้รับคำสั่งจากเวินเที๋ยนเที๋ยนมาหรือไม่ ฉวีผิงจึงเฝ้าห้องหนังสือห้องนี้อย่างเข้มงวด เธอไม่มีโอกาสได้เข้าใกล้เลยแม้แต่น้อย

วันนี้ไม่ง่ายเลยที่จะเห็นว่าฉวีผิงจากไปเพราะมีธุระ เธอจะต้องเข้าไปดูว่าข้างในนั้นซ่อนของล้ำค่าอะไรเอาไว้กันแน่ให้ได้

ถ้าหากว่าสามารถขโมยแผนการประมูลราคาโครงการที่เวินเที๋ยนเที๋ยนเข้าร่วมมาได้ล่ะก็ จะดียิ่งกว่า

เธอคิดแล้ว ก็ค่อยๆเปิดประตูเดินเข้าไป โดยที่ใครก็ไม่พบเห็น

หลังจากหลวนจื่อทานอาหารเสร็จแล้ว ก็เลื่อนอ่านข่าวบนโลกออนไลน์อีกครั้ง

เมื่อเห็นข้อมูลบนอินเทอร์เน็ต ก็สะดุ้งตกใจทันที

ในตอนที่ตัวเองกำลังทานข้าวอยู่นั้น หมินอันเกอก็ได้โพสต์ประกาศข้อมูลอย่างกะทันหัน

เมื่อเปิดออกดู เธอก็เห็นโพสต์นั้นถูกติดไว้อยู่ด้านบนสุด

เพียงแค่แวบเดียว หลวนจื่อก็สะเทือนใจ ในสมองเหลือเพียงแค่เสียงวิ้งวิ้ง

หมินอันเกอโพสต์ประโยคหนึ่งบนบัญชีของตัวเอง

——หลวนจื่อเป็นภรรยาเพียงคนเดียวในชีวิตนี้ของเขา จะไม่มีการเปลี่ยนแปลงเพราะเรื่องใดๆ

ประโยคสั้นๆประโยคหนึ่ง ดึงดูดให้ผู้คนไม่น้อยบนโลกออนไลน์สนทนาพูดคุยกันอย่างดุเดือด

ก่อนหน้านี้ หลังจากที่หลวนจื่อตั้งครรภ์ แม้ว่าจะอยู่ด้วยกันกับหมินอันเกอ แต่เบื้องหน้าก็เห็นว่าท้องเธอโตขึ้นเรื่อยๆ แต่กลับรั้งรอไม่ยอมประกาศข่าวคราวเรื่องการแต่งงาน ผู้คนจึงพากันคาดเดาในใจไม่หยุดหย่อน

รู้สึกเพียงแค่ว่า นี่ก็เป็นเพียงแค่ช่วงระยะเวลาสั้นๆ ไม่ช้าก็เร็วทั้งสองคนก็ต้องเลิกรากัน

แต่ว่าในตอนนี้เห็นคำแถลงการณ์อันเด็ดเดี่ยวของหมินอันเกอแล้ว กลับเป็นการยืนยันตำแหน่งและท่าทีของหลวนจื่ออย่างชัดเจน

หมินอันเกอไม่ชอบเธอไม่ใช่หรือ

ไม่ใช่ว่ารังเกียจเธอหรอกหรือ

ทำไมถึงได้พูดคำพูดแบบนี้ออกมากัน

ถ้าหากถูกคนเข้าใจผิด จะทำอย่างไร

หรือจะบอกว่า ทั้งหมดที่เขาทำนี้ก็เพื่อเด็กอย่างนั้นหรือ

หลวนจื่อจิตใจสับสนวุ่นวาย รีบวางโทรศัพท์มือถือลง และลุกขึ้นยืน หมุนตัวเดินออกไปด้านนอก แต่ในสมองกลับปรากฏประโยคนั้นขึ้นมาไม่ขาดสาย

เธอจินตนาการถึงสีหน้าความรู้สึกของหมินอันเกอในตอนที่พิมพ์ประโยคนี้

เป็นความเฉียบขาดหรือ

หรือว่าถูกบีบบังคับจนไร้หนทางกัน

หลวนจื่อคิ้วขมวดเป็นปม เดินวนไปวนมาอยู่ในสวน และเดินไปอยู่กลางห้องรับแขกอย่างไม่รู้ตัว

รอบด้านไม่มีใครสักคน เธอก้าวเท้าขึ้นไปทางชั้นบน

เพิ่งจะไปถึงชั้นสอง ก็ได้ยินเสียงกุกกักดังขึ้นมา

จู่ๆห้องที่อยู่ห่างจากเธอเพียงไม่กี่ก้าวก็ถูกคนเปิดออกมาจากด้านใน

เที๋ยนเที๋ยนกลับมาไวขนาดนี้เลยหรือ

หลวนจื๋อหันหน้าไปมอง กลับเห็นว่าหล่อนเจียนีค่อยๆเดินย่องเบาออกมาจากด้านใน ในอ้อมแขนกอดซองกระดาษสีน้ำตาลเอาไว้ซองหนึ่ง ไม่รู้ว่าด้านในใส่อะไรเอาไว้

เมียหวานของประธานเย็นชา

เมียหวานของประธานเย็นชา

Status: Ongoing

“คุณจะคิดแบบนี้ไปถึงเมื่อไรถึงจะกลับบ้านได้?” จี้จิ่งเชินพูดออกมาอย่างจนใจ เขารีบมาที่นี่ทันทีตั้งแต่รับสาย และยืนดูเธอเดินวนคิดเป็นหนูติดจั่นแบบนี้มาครึ่งชั่วโมงแล้ว เธอไม่กล้าออกมา เพราะเธอกลัวว่าถ้าเขารู้เรื่องเข้า เขาจะทำอย่างไร สุดท้ายสิ่งที่เขาทำ คือ จูบหน้าผากของเธอ “ผมเชื่อคุณ… ไม่ต้องอธิบายอะไร ผมก็เชื่อคุณ”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท