เมียหวานของประธานเย็นชา – บทที่779 ความตั้งใจที่เหนือบุคคลทั่วไป

บทที่779 ความตั้งใจที่เหนือบุคคลทั่วไป

บทที่779 ความตั้งใจที่เหนือบุคคลทั่วไป

“วันนั้น ตอนที่พวกเธอไปเลือกแหวนกัน ฉันเห็นเข้า…..แล้วฉันก็คิดว่าระหว่างพวกเธอ……ขอโทษจริงๆนะ ฉันผิดเอง”

เวินเที๋ยนเที๋ยนได้ยินแล้ว ก็เข้าใจขึ้นมาทันที

“เธอโทรมาเพราะเรื่องนี้หรือ? ไม่เป็นไรนะ”ว่าแล้ว ก็อดที่จะหัวเราะออกมาไม่ได้ : “พูดมาแบบนี้ หมินอันเกอก็ขอเธอแต่งงานแล้วสินะ?”

หลวนจื่อได้ยินแล้ว ก็รู้สึกเขินอายขึ้นมาทันที แล้วพยักหน้าลง

“อืม”

“ถ้าอย่างนั้นก็ดีแล้วล่ะ คิดไม่ถึงเลยว่าครั้งนี้เขาจะกะทันหันแบบนี้ ก่อนหน้านี้ยังว่าจะต้องเตรียมของอีกตั้งเยอะเลย ดูแล้วหมินอันเกอคงจะใจร้อนจริงๆนะ เป็นยังไงบ้าง? แหวนที่ฉันเลือกไม่เลวเลยใช่ไหม?” เวินเที๋ยนเที๋ยนหัวเราะ

หลวนจื่อที่อยู่ทางปลายสายนั้นยิ่งร้อนใจมากขึ้นกว่าเดิม เธอรีบเอ่ยขึ้น : “เที๋ยนเที๋ยน เธอฟังฉันก่อนนะ ยังจำวันนี้ที่ฉันไปกินข้าวกับเธอได้ใช่ไหม?”

“ขอโทษนะ ก่อนหน้านี้ฉันฟังคำพูดของหล่อนเจียนี อยากจะให้เธอกับจี้จิ่งเชินเกิดความสัมพันธ์กัน…..ก็ ก็เลยใส่ยาเอาไว้ในข้าวต้มของจี้จิ่งเชิน…….”

เวินเที๋ยนเที๋ยนได้ยินแล้ว รอยยิ้มที่อยู่บนใบหน้านั้นแข็งทื่อขึ้นมาในทันที ใบหน้าของเธอนั้นเต็มไปด้วยความตกตะลึง

“เป็นยาที่เธอเอาใส่ลงไปอย่างนั้นหรือ?”

“ขอโทษจริงๆนะ” หลวนจื่อเอ่ยขึ้นอย่างรู้สึกผิด : “ฉันเข้าใจผิดเธอมาตลอด…..ฉันแค่หวังว่าบอกกับเธอตอนนี้จะยังทัน”

เวินเที๋ยนเที๋ยนกลับขมวดคิ้วขึ้นมา

“เดี๋ยวก่อนนะ เมื่อกี้เธอบอกว่า ทั้งหมดนี่หล่อนเจียนีเป็นคนบอกเธอ? เขาติดต่อเธอมาอย่างนั้นหรือ?”

“ใช่” หลวนจื่อยิ่งโทษตัวเอง : “ฉันควรจะบอกพวกเธอให้เร็วกว่านี้หน่อย”

ในใจของเวินเที๋ยนเที๋ยนรู้สึกตกตะลึงเป็นอย่างมาก

ว่ากันเช่นนี้แล้ว ทั้งหมดนี่ก็ล้วนแต่เป็นหล่อนเจียนีที่เป็นการจัดการทุกอย่างเอาไว้แล้ว?

ทำไมเธอจะต้องหลอกหลวนจื่อให้ใส่ยาลงไปในข้าวต้มของจี้จิ่งเชินด้วยกัน?

และยังมีเรื่องที่จู่ๆประจำเดือนของตัวเองก็มาอีก…..

หรือทั้งหมดนี่หล่อนเจียนีจะเป็นคนทำ?

เวินเที๋ยนเที๋ยนคิดได้ถึงตรงนี้แล้ว ทันใดนั้นเองในหัวของเธอก็นึกถึงความเป็นไปได้อย่างหนึ่งขึ้นมา สีหน้าเปลี่ยนไปในทันที แล้วรีบวางสายไป

“เรื่องนี้เดี๋ยวฉันเอาไว้คุยกับเธออีกทีนะ”

ว่าแล้วนั้น เธอก็รีบวิ่งขึ้นไปยังด้านบน

แม่ครัวและพ่อบ้านยังรออยู่ตรงหน้าประตูห้องรับแขก รอให้จี้จิ่งเชินมาเปิดประตูให้ แต่ด้านในนั้นก็ไม่มีเสียงอะไรเลยแม้แต่นิดเดียว

เมื่อเวินเที๋ยนเที๋ยนมาแล้วนั้น ก็มองไปยังบานประตูที่ปิดสนิท แล้วออกคำสั่งด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา

“พังประตูซะ!”

แม่ครัวกับฉวีผิงต่างพากันแสดงอาการงุนงงออกมา

“แต่เมื่อครู่นี้ไม่ได้บอกว่ารอให้คุณหมอมาก่อนหรอกหรือครับ?”

“ไม่ต้องรอแล้ว รีบพังประตูออกให้ฉันตอนนี้เลย!”

น้ำเสียงของเวินเที๋ยนเที๋ยนแข็งกร้าว ฉวีผิงมีสีหน้าปกติขึ้นมาในทันที

“ครับคุณหนู”

เขารีบเรียกบอร์ดี้การ์ดสองคนมา แล้วรวมแรงกันเพื่อพังประตู

ประตูห้องรับรองถูกล็อคเอาไว้ ชนไปสี่ถึงห้าครั้ง ประตูถึงได้ชนจนเปิดออกมาในที่สุด

เมื่อประตูเปิดออกแล้ว เวินเที๋ยนเที๋ยนรีบเดินเข้าไปทันที

ด้านในห้องมืดสนิท ในใจของเวินเที๋ยนเที๋ยนรู้สึกหวาดกลัวมากขึ้นไปอีก

“จี้จิ่งเชิน?”

เธอตะโกนร้องเรียก แต่ด้านในกลับไม่มีการตอบรับใดๆกลับมาเลย

ในใจของเวินเที๋ยนเที๋ยนยิ่งกลัวมากขึ้น แล้วรีบเปิดไฟขึ้น

หารอบหนึ่งแล้ว ถึงได้พบร่างของจี้จิ่งเชินอยู่ข้างๆห้องน้ำ

เขากำลังนั่งอยู่ที่พื้น หลังพิงประตูห้องน้ำ สีหน้าแดงก่ำ หายใจหอบแรง

เวินเที๋ยนเที๋ยนรีบเดินเข้าไป

“จี้จิ่งเชิน พี่ไม่เป็นอะไรใช่ไหม?”

ได้ยินเสียงแล้ว จี้จิ่งเชินถึงได้เงยหน้าขึ้นมา ดวงตาทั้งสองข้างแดง แววตาดูไม่เข้มแข็ง

แล้วซักพักหนึ่ง สายตาถึงได้โฟกัสลงบนใบหน้าของเวินเที๋ยนเที๋ยน

“เที๋ยนเที๋ยน”

น้ำเสียงของเขาทุ้มต่ำและแหบพร่า เขายกมือขึ้นมา

เวินเที๋ยนเที๋ยนรีบจับเขาเอาไว้ รู้สึกว่ามือทั้งสองข้างของเขายังคงร้อนระอุ หัวใจทั้งดวงของเธอนั้นถูกยกขึ้นมา

และเวลานี้เอง ห้องน้ำที่จี้จิ่งเชินเอาหลังพิงอยู่นั้นก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้น ราวกับกำลังมีคนทุบประตูอยู่อย่างไรอย่างนั้น

“ปล่อยฉันออกไป! ปล่อยฉันออกไปนะ! พวกน่ารังเกียจ!”

เสียงนี้ดังขึ้นมา เวินเที๋ยนเที๋ยนก็จำได้แล้ว

ไม่ใช่ใครอื่น หล่อนเจียนีนั่นเอง!

เธออยู่ที่นี่จริงๆด้วย!

จี้จิ่งเชินฝืนยืนขึ้น แล้วเดินโซเซมาทางเวินเที๋ยนเที๋ยน แต่หลังจากนั้นเขากลับสะดุดล้มลง

แล้วเวินเที๋ยนเที๋ยนก็ยื่นมือออกมาประคองเขาเอาไว้

จี้จิ่งเชินพิงอยู่ตรงไหล่ของเธอ มือทั้งสองข้างกอดเอวของเวินเที๋ยนเที๋ยน ใช้แรงรวบตัวเข้ามาทีละนิดๆ

เวินเที๋ยนเที๋ยนถูกเขาบีบเสียจนรู้สึกเจ็บ แต่กลับไม่ได้ปล่อยเขา

จี้จิ่งเชินพิงอยู่ที่หัวไหล่ ลมหายใจร้อนระอุรดอยู่ตรงคอของเธอ

เขาพึมพำกับตัวเอง

“นั่นไม่ใช่เที๋ยนเที๋ยน ไม่ใช่เที๋ยนเที๋ยน…….”

เวินเที๋ยนเที๋ยนได้ยินแล้ว ก็เข้าใจขึ้นมาในทันที

หล่อนเจียนีจะต้องอาศัยช่วงที่จี้จิ่งเชินไม่ได้สติ แอบอ้างว่าเป็นตัวเองเข้ามาอย่างแน่นอน

มิน่าล่ะตอนที่เข้ามาข้างในนี้ไม่ได้เปิดไฟเอาไว้เลย!

เธอหลอกหลวนจื่อด้วยความยากลำบากเพื่อให้หลวนจื่อช่วยเธอวางยา แม้กระทั่งแม้แต่เวินเที๋ยนเที๋ยนเองก็อาจจะถูกเธอวางยาไปด้วย

ทั้งหมดนี่ก็เพื่อวันนี้ กับการปลอมเป็นตัวเองเพื่อไปหาจี้จิ่งเชิน

แต่ต่อให้เธอวางแผนมาดี ต่อให้จี้จิ่งเชินจะสูญเสียการควบคุม ก็ยังคงจำตัวเองได้

ถึงแม้ยาจะควบคุมจิตสำนึกความรู้สึกเอาไว้ และอยู่ในความมืด ก็สามารถแยกแยะออกถึงเวินเที๋ยนเที๋ยนตัวจริงๆ และยังขังตัวหล่อนเจียนีเอาไว้ ส่วนตัวเองก็หลบออกมาอยู่ทางด้านนอก

เวินเที๋ยนเที๋ยนลูบเสื้อผ้าที่อยู่บนร่างของจี้จิ่งเชิน เปียกปอนไปทั้งหมด หัวใจของเธอนั้นยิ่งรู้สึกเจ็บปวดมากขึ้นไปอีก

“จี้จิ่งเชิน ขอโทษนะคะ…….”

จี้จิ่งเชินโอบเอวของเธอเอาไว้แน่น อุณหภูมิที่ร้อนผ่าวแผ่ไปทั่วร่างกาย ยิ่งทำให้รู้สึกตกใจมากขึ้น

มือทั้งสองข้างของเวินเที๋ยนเที๋ยนกอดเอวของเขาเอาไว้ เพื่อประคองตัวเขาเอาไว้ไม่ให้ล้ม

พลางเอ่ยขึ้น : “เดี๋ยวคุณหมอก็จะมาแล้วนะคะ จี้จิ่งเชิน”

จี้จิ่งเชินไม่ได้มีปฏิกิริยาตอบกลับ เพียงแต่เอ่ยเรียกชื่อของเที๋ยนเที๋ยนออกมาครั้งแล้วครั้งเล่า

หล่อนเจียนีที่อยู่ในห้องน้ำก็ยังคงทุบประตูไม่หยุด วางแผนที่จะพุ่งออกมาให้ได้

สายตาของเวินเที๋ยนเที๋ยนมองไปที่ประตูแวบหนึ่ง สายตาเปลี่ยนไปอย่างเย็นชา แล้วออกคำสั่งให้ฉวีผิงและบอร์ดี้การ์ดที่อยู่ทางด้านหลัง

“เอาตัวเธอออกมา แล้วดูไว้ให้ดี อย่าให้หนีไปได้อีก”

ว่าแล้ว ก็พยุงตัวจี้จิ่งเชินพาเดินออกมาทางด้านนอก

ความรู้สึกของจี้จิ่งเชินมีความสับสนวุ่นวาย เขากอดเธอเอาไว้แน่น พรมจูบลงบนคอและใบหูของเวินเที๋ยนเที๋ยนไม่หยุด

เวินเที๋ยนเที๋ยนขมวดคิ้ว แล้วประคองเขาลงมายังด้านล่างอย่างยากลำบาก

พอดีกับที่เวลานี้คุณหมอได้เดินทางมาถึงเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

เวินเที๋ยนเที๋ยนรู้สึกโล่งใจขึ้นมาทันที เห็นคุณหมอที่เดินเข้ามาอย่างรีบร้อน แล้วรีบให้บอร์ดี้การ์ดสองสามคนนั้นประคองจี้จิ่งเชินไปนอนบนโซฟา

ก่อนหน้านี้ทางโทรศัพท์ คุณหมอได้ยินอาการที่เวินเที๋ยนเที๋ยนอธิบายมาอย่างละเอียดแล้ว ยาที่เอามาด้วยนั้นก็มีประสิทธิภาพเป็นอย่างมาก ป้อนเขาอย่างรวดเร็ว

ผ่านไปไม่กี่นาที สภาพอาการของจี้จิ่งเชินก็ผ่อนคลายลงมาเล็กน้อย

คิ้วที่ขมวดกันอยู่นั้นค่อยๆคลายลง แล้วหลับลงอย่างสงบ

เวินเที๋ยนเที๋ยนลูบที่หน้าผากของเขา รู้สึกถึงอุณหภูมิที่ค่อยๆลดลง ถึงได้วางใจขึ้นมาในที่สุด

ฉวีผิงเอ่ยถาม : “คุณหนูครับ พาคุณจี้ขึ้นไปข้างบนไหมครับ?”

เวินเที๋ยนเที๋ยนส่ายหน้า

“ให้เขาพักอยู่ตรงนี้แหล่ะ”

กว่าจี้จิ่งเชินจะหลับลงได้นั้นไม่ใช่เรื่องง่าย เวินเที๋ยนเที๋ยนกังวลว่าการเคลื่อนย้ายตัวเขาจะไปรบกวนเขาเข้าเสียก่อน

พูดไปพลางเอาผ้าห่มที่พ่อบ้านหยิบมานั้นห่มบนร่างของจี้จิ่งเชิน

มองดูจี้จิ่งเชินที่หลับลงอย่างสงบแล้ว เวินเที๋ยนเที๋ยนจึงอดที่จะก้มตัวลงไม่ได้ เธอบรรจงจูบลงบนแก้มของเขา

ตอนที่เงยหน้าขึ้นมาแล้วเห็นหล่อนเจียนีที่อยู่ทางด้านหลัง สายตาของเธอนั้นเยือกเย็นหนาวเหน็บจนเข้ากระดูก

หล่อนเจียนีถูกบอร์ดี้การ์ดลากตัวออกมา เสื้อผ้าบนร่างของเธอนั้นเปียกอยู่ตั้งแต่แรกแล้ว

นั่นเกิดจากที่เธอต้องการจะบุกเข้าไปหาจี้จิ่งเชินในห้องน้ำ

เสื้อผ้ายับเยินอยู่บ้าง ใบหน้ายังคงปรากฏถึงความไม่ยินยอมออกมา

นึกถึงทุกอย่างที่เกิดขึ้นในห้องน้ำเมื่อครู่นี้แล้ว หล่อนเจียนีก็ยิ่งกัดฟันด้วยความโมโห

เมียหวานของประธานเย็นชา

เมียหวานของประธานเย็นชา

Status: Ongoing

“คุณจะคิดแบบนี้ไปถึงเมื่อไรถึงจะกลับบ้านได้?” จี้จิ่งเชินพูดออกมาอย่างจนใจ เขารีบมาที่นี่ทันทีตั้งแต่รับสาย และยืนดูเธอเดินวนคิดเป็นหนูติดจั่นแบบนี้มาครึ่งชั่วโมงแล้ว เธอไม่กล้าออกมา เพราะเธอกลัวว่าถ้าเขารู้เรื่องเข้า เขาจะทำอย่างไร สุดท้ายสิ่งที่เขาทำ คือ จูบหน้าผากของเธอ “ผมเชื่อคุณ… ไม่ต้องอธิบายอะไร ผมก็เชื่อคุณ”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท