เมียหวานของประธานเย็นชา – บทที่789 ฉันเข้าใจผิดพวกเธอ

บทที่789 ฉันเข้าใจผิดพวกเธอ

บทที่789 ฉันเข้าใจผิดพวกเธอ

สุดท้ายแล้ว เวินเที๋ยนเที๋ยนก็ยังตอบตกลงกับข้อเรียกร้องของจี้จิ่งเชิน

พระเจ้ารู้ว่าเธอมองเห็นคำว่าน้อยใจนี้ได้อย่างไรจากผู้ชายตัวสูงเกือบร้อยเก้าสิบคนนี้

หลังจากนั้นสองวัน เคอเหยียนรุ่ยทางนั้นก็ส่งข่าวคราวมา ให้เธอไปลองชุดแต่งงาน

เวินเที๋ยนเที๋ยนกลัวว่าเรื่องที่เธอแอบสั่งตัดชุดแต่งงานนี้จะถูกจี้จิ่งเชินรู้เข้า อยู่ด้วยกันกับเขาตั้งแต่เช้า จนกระทั่งถึงช่วงบ่ายสองโมง

อยู่ด้วยกันจนครบหกชั่วโมง

“ตอนบ่ายฉันมีธุระ พี่อยู่บ้านดีๆนะคะ รอฉันกลับมา”

เวินเที๋ยนเที๋ยนยิ้มออกมาอย่างทะเล้น

ราวกับว่าจี้จิ่งเชินเพิ่งจะดึงสติกลับมาได้ จึงเลิกคิ้วขึ้น

“แท้ที่จริงแล้วเที๋ยนเที๋ยนก็วางแผนเอาไว้นี่เอง”

เธอยกยิ้มขึ้นอย่างพอใจ จี้จิ่งเชินรับปากเธอเอาไว้แล้ว เพียงแค่อยู่ด้วยกันให้ครบหกชั่วโมงในทุกๆวันก็ได้แล้ว

วันนี้ครบหกชั่วโมงแล้ว จี้จิ่งเชินก็ไม่ได้มีเหตุผลที่จะต้องออกไปข้างนอกกับเธอ

เป็นแผนการที่สมบูรณ์แบบ!

เวินเที๋ยนเที๋ยนกดไลค์ให้ตัวเองอยู่ในใจ

“ดูแล้วคุณดูเหมือนจะดีใจมากเลยนะครับ”

น้ำเสียงที่ดูเคร่งขรึมน่าสะพรึงกลัวของจี้จิ่งเชินดังขึ้นจากทางด้านหลังของเวินเที๋ยนเที๋ยน

แต่เธอกลับไม่ได้สนใจ

“ถ้าอย่างนั้นคุณจี้จิ่งเชินคะ ขอให้มีความสุขกับช่วงบ่ายนะคะ!”

เวินเที๋ยนเที๋ยนแลบลิ้นออกมาอย่างทะเล้น

ท่าทางที่ดูพอใจเล็กๆเช่นนี้ ทำให้จี้จิ่งเชินอดที่จะใจอ่อนไม่ได้

“ถ้าอย่างนั้นเที๋ยนเที๋ยนก็ไปเถอะครับ อย่าลืมกลับมาเร็วๆล่ะ ผมรออยู่ที่บ้านนะ”

“อืม”

ใบหน้าของเวินเที๋ยนเที๋ยนแดงขึ้นมา

แววตาของจี้จิ่งเชินดูกล้ำกลืนฝืนทน

“ถ้าไม่อย่างนั้นสามีของคุณอาจจะกลายเป็นก้อนหินที่เอาแต่เฝ้ารอภรรยากลับมาเอานะครับ”

เวินเที๋ยนเที๋ยนถูกเขาหยอกล้อจนหัวเราะออกมา โบกมือเพื่อเป็นการบอกลาเขา

“เดี๋ยวสิครับ จะไปแบบนี้เลยหรือ?”

จี้จิ่งเชินยกมือขึ้นมาขวางเธอเอาไว้

เวินเที๋ยนเที๋ยนเอ่ยถามอย่างระแวง : “ยังมีอะไรอีกคะ?”

จี้จิ่งเชินชี้ไปยังใบหน้าด้านข้างของตัวเอง

“แล้วรางวัลของก้อนหินที่เอาแต่เฝ้ารอภรรยากลับมาล่ะ”

ใบหูของเวินเที๋ยนเที๋ยนร้อนผ่าว แล้วเขย่งปลายท้ายขึ้นมาหอมแก้มข้างขวาของเขาไปหนึ่งที “ได้แล้วหรือยังคะ?”

จี้จิ่งเชินคิดแล้ว

“ดูเหมือนจะยังไม่พอนะครับ……”

“ฉันไปแล้วนะ!”

เวินเที๋ยนเที๋ยนรีบเอ่ยขึ้น แล้วหันหลังเดินออกไป

จี้จิ่งเชินมองตามส่งเวินเที๋ยนเที๋ยนออกไปจากคฤหาสน์ตระกูลหล่อน ดวงตามีรอยยิ้มเป็นประกายปรากฏขึ้น

เวินเที๋ยนเที๋ยนนับว่าตบตาผ่านด่านไปได้แล้ว เธอเรียกรถเพื่อมุ่งไปยังสตูดิโอของเคอเหยียนรุ่ย

แต่ระหว่างทางนั้นกลับได้รับสายจากหลวนจื่อเข้า

เวินเที๋ยนเที๋ยนมองดูหน้าจอที่แสดงขึ้นมา ปลายนิ้วของเธอยังคงวนอยู่ระหว่างปุ่มกดรับและกดวาง

ในใจของเธอเองก็กำลังต่อสู้ดิ้นรนอย่างดุเดือดด้วยเช่นกัน

ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม เธอกับหลวนจื่อนั้นก็เป็นเพื่อนพี่น้องที่ดีต่อกัน มิตรภาพหลายปีขนาดนี้บอกจะลบล้างกันไปแล้วจะลบกันได้ง่ายๆได้อย่างไรกัน?

แต่หลวนจื่อวางยาจี้จิ่งเชิน…..

ทุกครั้งที่เธอคิดจะยกโทษให้นั้น ในหัวของเธอก็อดที่จะนึกท่าทางของจี้จิ่งเชินในตอนนั้นขึ้นมาเองไม่ได้

ถึงแม้จะไม่ต้องถามจริงๆ แต่ก็คงจะไม่มีวิธีที่จะสามารถเผชิญหน้ากับเธอได้เหมือนเมื่อก่อนอีกแล้ว

“คุณครับ โทรศัพท์มือถือของคุณดังอยู่นะครับ”

คนขับรถอดที่จะเตือนเธอไม่ได้

เวินเที๋ยนเที๋ยนถึงได้ดึงสติกลับมา ปลายนิ้วสั่น เสียงเรียกเข้านั้นหยุดลงไปแล้ว

หนึ่งนาทีผ่านไปแล้ว เธอไม่ทันได้กดรับสาย โทรศัพท์มือถือก็สายตัดไปโดยอัตโนมัติ

ไม่รู้ทำไม เธอถึงรู้สึกโล่งใจ

และผ่านไปไม่นานนัก รถก็มาจอดอยู่ตรงด้านหน้าสตูดิโอของเคอเหยียนรุ่ย ที่นี่ไม่ได้รับว่าเป็นเขตที่เจริญรุ่งเรืองอะไรนัก ช่วงบ่ายๆก็จะเงียบสงบอย่างเห็นได้ชัด

เธอเพิ่งจะลงมาจากรถ กลับเจอกับคนที่คิดไม่ถึงว่าจะได้เจอกันแบบนี้

“เที๋ยนเที๋ยน!”

เป็นเสียงของหลวนจื่อนั่นเอง!

เวลานั้นเวินเที๋ยนเที๋ยนยืนอยู่ตรงนั้นอย่างทำอะไรไม่ถูก เธอไม่รู้ว่าตัวเองควรจะหนีไปหรือว่าอยู่ต่อดี

ถ้าหากเธอวิ่งหนีไป หลวนจื่อจะต้องตามเธออย่างแน่นอน…..

เธอตั้งท้องอย่างชัดเจนขนาดนั้น ท้องโตแบบนี้หากเกิดอะไรขึ้นมาจะทำอย่างไร?

เมื่อกำลังลังเลอยู่นั้น หลวนจื่อก็มาอยู่ตรงหน้าเวินเที๋ยนเที๋ยนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

“เที๋ยนเที๋ยน ฉัน ในที่สุดฉันก็รอจนได้เจอเธอแล้ว!”

หลวนจื่อกอดเวินเที๋ยนเที๋ยนเอาไว้ด้วยความตื่นเต้น มือทั้งสองข้างของหลวนจื่อที่สั่นเทาอยู่นั้นส่งอารมณ์ความรู้สึกที่ยากต่อการควบคุมแบบหนึ่งมาให้เธอ

“หลวนจื่อ เธอมาที่นี่ได้ยังไง?”

เวินเที๋ยนเที๋ยนมองไปบริเวณรอบๆ : “หมินอันเกอรู้หรือเปล่า?”

หลวนจื่อในตอนนี้ถึงเวลาในช่วงปลายๆของการตั้งครรภ์แล้ว สามารถเกิดอะไรขึ้นได้ง่าย และยิ่งไปกว่านั้นยังเสี่ยงต่อการแท้งอีกด้วย

“เที๋ยนเที๋ยน ฉันรู้ว่าตอนนี้พูดอะไรไป เธอก็คงจะไม่สามารถทนฟังได้ ฉันไม่ได้ขอให้เธอต้องยกโทษให้ฉัน แต่ฉันหวังว่าเธอจะอยู่คุยกับฉัน จะเพียงแค่ไม่กี่ประโยคก็ได้!”

หลวนจื่อจับมือเวินเที๋ยนเที๋ยนเอาไว้แน่นอย่างกลัวว่าเธอจะปฏิเสธตัวเอง

ท่าทางที่ดูระวังนั้น ทำให้ในใจของเวินเที๋ยนเที๋ยนนั้นรู้สึกเป็นห่วง

“ฉันไม่ได้บอกว่าจะไม่ยกโทษให้เธอ….”

เวินเที๋ยนเที๋ยนเอ่ยขึ้นมาอย่างยากลำบาก

ได้ยินเช่นนั้นแล้ว หลวนจื่อกลับยังไม่ได้ปล่อยมือเธอ

ถึงแม้ว่าเวินเที๋ยนเที๋ยนจะพูดแบบนี้ แต่หลวนจื่อรู้ ว่าระหว่างตัวเองกับเธอก็คงจะไม่สามารถกลับไปเป็นแบบเมื่อก่อนได้

เธอกัดฟันแล้วเอ่ยพูดขึ้นกับเวินเที๋ยนเที๋ยน : “วันนี้เธอมาลองชุดแต่งงานใช่ไหม?”

“อืม” เวินเที๋ยนเที๋ยนพยักหน้า

แต่หลวนจื่อกลับเอ่ยขึ้น : “ฉันมารอเธอที่นี่หลายวันแล้ว”

เวินเที๋ยนเที๋ยนได้ยินแล้วนั้น ก็รู้สึกตกตะลึงขึ้นมาในทันที

เธอคิดว่าเคอเหยียนรุ่ยได้เบอร์โทรศัพท์มือถือของเธอมาจากหลวนจื่อ หลวนจื่อก็คงจะรู้เรื่องนี้ ทำไมถึงได้มารออยู่ที่นี่ตั้งหลายวันแบบนี้กัน?

“เธอ……”

หลวนจื่อยิ้มเจื่อนๆพลางเอ่ยขึ้น : “ฉันอยากจะไปหาเธอ แต่ก็ไม่กล้าไปที่คฤหาสน์ตระกูลหล่อน รู้ว่าเธอจะต้องมาที่นี่อย่างแน่นอน ก็เลยมารอเธอที่นี่ทุกวันน่ะ”

“ทำไมเธอถึงไม่ถามเคอเหยียนรุ่ยล่ะ?”

“เธอคิดว่าฉันเป็นคนที่จะเอาข้อมูลของลูกค้าให้คนอื่นไปทั่วแบบนั้นรึไง?”

เคอเหยียนรุ่ยเดินออกมาจากสตูดิโอ เอ่ยขึ้นด้วยท่าทางที่ไม่ดีงามเท่าไรนัก

เวินเที๋ยนเที๋ยนมองเขาอย่างงงๆ

“หลวนจื่อไม่รู้ว่าเธอจะมาเมื่อไหร่” เคอเหยียนรุ่ยเหลือบมองไปยังท้องที่ยื่นออกมา แล้วเอ่ยพูดต่อ “เขารู้เพียงแค่ว่าเธอจะมาลองชุดแต่งงาน เพราะฉะนั้นก็เลยมารอเธออยู่ที่นี่ตลอด”

“วันนี้เป็นวันที่สามแล้ว ใครเกลี้ยกล่อมเธอก็ไม่ยอมไปเลย”

ได้ยินแล้ว ใบหน้าของเวินเที๋ยนเที๋ยนนั้นก็ปรากฏความตกใจออกมา

“เธอบ้าไปแล้วหรือเปล่า? ตอนนี้เธอเป็นผู้หญิงที่กำลังต้องท้องอยู่นะ ไม่นอนอยู่ที่บ้าน แต่เธอมาทำอะไรที่นี่!”

เวินเที๋ยนเที๋ยนร้อนใจเป็นอย่างมาก สุขภาพร่างกายของหลวนจื่อนั้นเดิมทีก็ไม่ดีอยู่แล้ว…..

“ฉันคิดว่าเธอจะต้องมาลองชุดแต่งงาน ฉัน….ฉันอยากจะเจอหน้าเธอ ฉันอยากจะพูดขอโทษกับเธอ”

หลวนจื่อเม้มปาก กลั้นน้ำตาที่กำลังจะเอ่อล้นออกมาเอาไว้

“เฮ้อ” เคอเหยียนรุ่ยถอนหายใจออกมา แล้วเอ่ยขึ้น : “ถ้าพวกเธอไม่ถือล่ะก็ เข้ามาคุยกันก่อนดีกว่า ชุดแต่งงานเตรียมเอาไว้เรียบร้อยแล้ว สามารถลองได้ตลอดเวลาเลยนะ”

ว่าแล้วเขาก็หันหลังกลับเข้าสตูดิโอไป

เวินเที๋ยนเที๋ยนมองไปยังเบื้องหลังที่เดินออกไปของเคอเหยียนรุ่ย จากนั้นก็มองไปยังหลวนจื่อ

หลวนจื่อเองก็กำลังมองเธออยู่เช่นกัน

สายตาประสานกัน เธอไม่ได้พลาดจากสายตาแห่งความละอายใจและความปรารถนาในดวงตาของหลวนจื่อ

เวินเที๋ยนเที๋ยนเงียบไปพักหนึ่ง แล้วถึงได้เอ่ยพูดกับเธอขึ้นมา : “เข้าไปข้างในก่อนแล้วค่อยว่ากันนะ”

หลวนจื่อพยักหน้าตาม มือขวายื่นไปตรงข้อพับแขนของเวินเที๋ยนเที๋ยน

เวินเที๋ยนเที๋ยนก็ไม่ได้ปฏิเสธ แล้วประคองเธอพาเดินเข้าไปในสตูดิโอ แล้วนั่งลงตรงห้องพักผ่อนที่อยู่ข้างๆ

หลังจากเรื่องนั้นแล้ว นี่เป็นครั้งแรกที่เวินเที๋ยนเที๋ยนได้มานั่งเผชิญหน้ากันซึ่งๆหน้าแบบนี้

“ขอโทษนะเที๋ยนเที๋ยน ฉันเข้าใจพวกเธอผิดเอง”

หลวนจื่อทำลายบรรยากาศที่เป็นความรู้สึกทำตัวไม่ถูกนี้ระหว่างพวกเธอลง

เวินเที๋ยนเที๋ยนเงียบ เธอไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไรดี

แม้ว่าจะมีความคับข้องใจและคำถามมากมาย เธอเองก็ไม่สามารถพูดออกมาได้เช่นกัน

เธอไม่ยอมให้หลวนจื่อต้องทุกข์ยากลำบากหรอก

เมียหวานของประธานเย็นชา

เมียหวานของประธานเย็นชา

Status: Ongoing

“คุณจะคิดแบบนี้ไปถึงเมื่อไรถึงจะกลับบ้านได้?” จี้จิ่งเชินพูดออกมาอย่างจนใจ เขารีบมาที่นี่ทันทีตั้งแต่รับสาย และยืนดูเธอเดินวนคิดเป็นหนูติดจั่นแบบนี้มาครึ่งชั่วโมงแล้ว เธอไม่กล้าออกมา เพราะเธอกลัวว่าถ้าเขารู้เรื่องเข้า เขาจะทำอย่างไร สุดท้ายสิ่งที่เขาทำ คือ จูบหน้าผากของเธอ “ผมเชื่อคุณ… ไม่ต้องอธิบายอะไร ผมก็เชื่อคุณ”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท