บทที่815 อยู่ข้างๆเป็นเพื่อนคุณ
“ผมเองก็หวังว่าคุณจะรู้ ไม่ว่าคุณจะทำอะไร ผมจะคอยมองคุณอยู่ข้างหลังเสมอนะครับ”
เวินเที๋ยนเที๋ยนหัวเราะขึ้นมา
“พี่คงไม่ใช่ว่าจะคอยจ้องฉันจากทางข้างหลังอยู่ตลอดหรอกนะคะ?”
“ไม่หรอกครับ”
สองมือของจี้จิ่งเชินโอบกอดเวินเที๋ยนเที๋ยนเอาไว้จากทางด้านหลัง พลางเอ่ยพูดต่อ “ผมโลภนะครับ ไม่ยอมอยู่แค่ข้างหลังคุณหรอก ผมจะคอยอยู่ข้างๆเป็นเพื่อนคุณด้วย”
ได้ยินแล้วนั้น เวินเที๋ยนเที๋ยนก็หน้าแดงขึ้นมาทันที
“เราตกปลากันก่อนดีกว่านะคะ เดี๋ยวจะได้กินข้าวต้มปลากัน ฉันจะทำให้พี่เอง”
“ทำให้ผมแค่คนเดียว” จี้จิ่งเชินพูดเสริม
เวินเที๋ยนเที๋ยนได้ยินแล้ว ก็รู้ว่าเขากำลังพูดถึงอาหงอีก จึงยิ้มพลางเอ่ยขึ้น : “พี่แค่คนเดียวเท่านั้นค่ะ”
เธอเอ่ยขึ้นเบาๆ ใบหน้าแดงระเรื่อ เพื่อเลี่ยงสายตาหยอกล้อของเขา จึงรีบหันกลับมาแสร้งทำเป็นตั้งใจตกปลา
จี้จิ่งเชินเองก็ไม่ได้ขัดเธอ ใส่เหยื่อลงกับคันเบ็ดของตัวเองแล้ว ก็เริ่มตกปลาเช่นกัน
เดิมทีเวินเที๋ยนเที๋ยนคิดว่าตัวเองตั้งใจฟังตอนที่สอนแล้ว จะต้องเอาชนะจี้จิ่งเชินได้อย่างแน่นอน
แต่กลับคิดไม่ถึง ว่าทางตัวเองนี้จะไม่มีการเคลื่อนไหวอะไรเลยแม้แต่นิดเดียว แต่จู่ๆจี้จิ่งเชินกลับลุกขึ้นมา แล้วยกคันเบ็ดขึ้น
ปลาตัวหนึ่งยาวประมาณสามนิ้วกำลังจะถูกเขาเก็บใส่ลงในกระเป๋า
“ว้าว พี่ตกปลาได้เร็วขนาดนี้เลยหรือคะ?”
เวินเที๋ยนเที๋ยนจ้องมองจี้จิ่งเชินเอาปลาออกมา แล้วโยนลงไปในถัง
เธอรู้สึกอิจฉาขึ้นมาทันที
แต่จี้จิ่งเชินกลับเอ่ยพูดขึ้นอย่างมีจุดประสงค์ที่ลึกซึ้ง : “ดูแล้วคืนนี้ผมไม่ต้องนอนโซฟาแล้วล่ะครับ”
เวินเที๋ยนเที๋ยนได้ยินแล้วก็หน้าแดงขึ้นมาทันที แล้วรีบมองไปทางอาหง
เห็นว่าเขากำลังยุ่งอยู่ คงจะไม่ได้ยิน ถึงได้วางใจ
มองจี้จิ่งเชินอย่างตำหนิแวบหนึ่ง ก็คิดอยากจะตกปลาให้ได้
ในที่สุด ทางฝั่งเธอนี้ก็มีการเคลื่อนไหวกับคันเบ็ดของเธอแล้ว
“จี้จิ่งเชิน ฉันเองก็จะตกปลาได้แล้วนะ!”
เธอยืนขึ้นมาด้วยความตื่นเต้น แล้วยกคันเบ็ดขึ้นตามที่อาหงสอนเอาไว้ก่อนหน้านี้
แต่ผลปรากฏว่าตอนที่ดึงขึ้นมานั้น กลับไม่เห็นเงาของปลาเลย
ส่วนเหยื่อของเธอนั้นกลับถูกปลากินไปเรียบร้อยแล้ว
เวินเที๋ยนเที๋ยนมองดูตะขอที่ว่างเปล่าของเธอ ก็แทบอยากจะร้องไห้ออกมา
จี้จิ่งเชินยกริมฝีปากขึ้น เก็บคันเบ็ดมาวางเอาไว้ตรงด้านข้าง แล้วเดินไปข้างๆเวินเที๋ยนเที๋ยน
“ผมช่วยคุณเอง”
เขาเอ่ยพูดขึ้นเบาๆ แล้วนั่งลงข้างๆเวินเที๋ยนเที๋ยน
เขาเข้าไปใกล้ ราวกับว่าจะไม่สามารถแยกกันได้อย่างไรอย่างนั้น
การรับรู้นี้ทำให้เธอต้องรู้สึกอายขึ้นมา
จี้จิ่งเชินเอาเหยื่อขึ้นมาใส่แทนเธอใหม่อีกครั้ง “เอามือมาให้ผมครับ”
เขายื่นมือมา เพื่อส่งสัญญาณให้เวินเที๋ยนเที๋ยนจับมือเขาเอาไว้
“อา? ไม่ใช่ว่าเราจะตกปลากันหรอกหรือคะ?”
เวินเที๋ยนเที๋ยนเอ่ยพูดด้วยเสียงต่ำ แต่ก็ยังคงส่งมือให้เขาอยู่ดี
ไม่มีการลังเล เพียงแค่ไม่รู้ว่าเป็นเพราะสาเหตุอะไร
จี้จิ่งเชินมองดูเวินเที๋ยนเที๋ยนที่เชื่อเขา แล้วแววตาก็ปรากฏรอยยิ้มออกมา
“ผมจะทำให้คุณได้รับรู้ถึงความรู้สึกตอนที่ตกปลาขึ้นมาได้ยังไงล่ะครับ”
เขาดึงมือของเวินเที๋ยนเที๋ยนมา แล้วให้เธอจับตรงส่วนกลางของคันเบ็ด
ส่วนเขาก็โอบมือของเธอเอาไว้ เพื่อจับคันเบ็ดให้มั่นแทนเธอ
เนื่องจากการกระทำเช่นนี้ทำให้พวกเขาทั้งสองคนใกล้ชิดกันมาก แม้กระทั่งใกล้เสียจนรับรู้ได้ถึงลมหายใจของอีกฝ่าย
“คุณหน้าแดงแล้วครับ”
จี้จิ่งเชินก้มหน้าลง ลมหายใจอุ่นๆรดลงบนใบหูของเวินเที๋ยนเที๋ยน
เธออยากจะเอามือขึ้นมาลูบใบหน้าของตัวเองอย่างไม่รู้ตัว แต่มือกลับถูกจี้จิ่งเชินจับเอาไว้แน่น ชักมือออกมาไม่ได้เสียอย่างนั้น
“พี่ พี่เข้ามาใกล้เกินไปแล้ว…..”
เวินเที๋ยนเที๋ยนไม่กล้าสบตาเขาตรงๆ แล้วตัวเองก็แสร้งทำเป็นกำลังมองผิวน้ำอยู่
แต่ความจริงแล้ว สายตาที่ยังคงมองอยู่ของอีกฝ่ายนั้นทำให้เธอไม่สามารถที่จะเพิกเฉยไปได้เลย
“พี่ต้องตั้งใจหน่อยสิคะ อาหงบอกว่า…..”
“อาหงบอกว่าต้องพร้อมใจช่วยกันทำ ถึงจะสำเร็จได้ ตอนนี้เราก็ไม่ใช่ว่ากำลังพร้อมใจช่วยกันทำอยู่หรอกหรือครับ?” ดวงตาดำสนิทของจี้จิ่งเชินยังคงจ้องมองเวินเที๋ยนเที๋ยนอยู่เช่นเดิม โดยไม่ยอมให้คลาดสายตาไปแม้แต่นิดเดียว
“อาหงพูดแบบนี้ที่ไหนกันคะ?” เวินเที๋ยนเที๋ยนโต้แย้งขึ้นมาเบาๆ
จี้จิ่งเชินได้ยินเสียงเธอแล้ว ก็หัวเราะขึ้นมา
“ไม่ใช่อาหงที่พูด แต่เป็นสามีของคุณพูดเอง เป็นอย่างไรครับ?”
ใบหูของเวินเที๋ยนเที๋ยนร้อนผ่าว แล้วมองไปยังอาหงที่อยู่ทางด้านหลัง แต่กลับพบว่าไม่รู้ว่าเขาหายไปตั้งแต่ตอนไหนแล้ว
“อาหงล่ะคะ?”
จี้จิ่งเชินได้ยินแล้ว จึงยิ้มออกมาพลางเอ่ยขึ้น : “บางทีเขาอาจจะไม่อยากอยู่รบกวนพวกเราก็ได้นะครับ”
เวินเที๋ยนเที๋ยนที่กำลังจะพูดอะไรออกมานั้น จู่ๆจี้จิ่งเชินก็ยกคิ้วขึ้นมา
หลังจากนั้นเธอก็รู้สึกว่าคันเบ็ดกำลังสั่น
“มีปลามากินเบ็ดแล้ว!”
แววตาของเวินเที๋ยนเที๋ยนเปล่งแสงแห่งความตื่นเต้นนี้ออกมา ทั้งตกใจทั้งดีใจ
“อย่าลนลานสิครับ” จี้จิ่งเชินบีบมือของเวินเที๋ยนเที๋ยนเอาไว้ด้วยแววตานิ่งๆ “รอก่อนนะครับ”
เวินเที๋ยนเที๋ยนไม่ได้ซักถามกับการตัดสินใจของเขา
เพื่อให้เป็นการจับคันเบ็ดให้อยู่นั้น จี้จิ่งเชินจึงเปลี่ยนท่าทาง
แขนทั้งสองข้างอ้าออกแล้วโอบร่างของเธอเอาไว้
ระยะห่างของทั้งสองคนใกล้และแนบชิดกันยิ่งขึ้น
จี้จิ่งเชินบอกให้รอ เวินเที๋ยนเที๋ยนเองก็ไม่ได้เอ่ยพูดอะไรออกมาเช่นกัน กลัวว่าจะส่งผลกระทบต่อสมาธิของเขา
แต่รออยู่ซักพัก ก็ไม่เห็นเขาทำอะไรเลย
จนเวินเที๋ยนเที๋ยนแทบจะคิดว่า ที่เขาพูดมาว่ารอก่อนนั้น ก็เพื่อที่จะคงท่าทางที่ดูคลุมเครือเช่นนี้เอาไว้
และทันใดนั้นเอง จี้จิ่งเชินก็ขยับตัวแล้ว
ความเร็วที่เขายกเบ็ดขึ้นมานั้นรวดเร็วมาก เร็วเสียจนเวินเที๋ยนเที๋ยนยังไม่ได้มีปฏิกิริยาตอบกลับเลยเสียด้วยซ้ำ
หลังจากนั้นหางปลาตัวหนึ่งก็โผล่ออกมาจากผิวน้ำ เกี่ยวอยู่ตรงตะขอที่ปลายเบ็ด
เธอมองฉากนี้ด้วยความตกตะลึง “ตกได้แล้ว?”
ไม่คิดว่าจะตกได้เร็วขนาดนี้?
อีกทั้งดูแล้วปลาตัวนี้ยังตัวใหญ่กว่าตัวที่จี้จิ่งเชินตกขึ้นมาก่อนหน้านี้เสียด้วยซ้ำ
“ใช่แล้ว นี่เป็นปลาที่เที๋ยนเที๋ยนตกขึ้นมาได้ไงครับ”
จี้จิ่งเชินไม่ได้ปลดลงมา แต่ช่วยเธอเอาปลาตัวนั้นลงมาแล้วโยนลงไปในถัง
เขายิ้มแล้วมองเธอ เวินเที๋ยนเที๋ยนจึงละสายตาออกมาอย่างอายๆ
ถ้าไม่มีจี้จิ่งเชิน เธอเองก็คงจะทำไม่สำเร็จใช่หรือเปล่า?
ถ้าหากเธอตกปลาคนเดียว ตอนที่รู้สึกว่าปลามากินเบ็ดเมื่อครู่นี้ เธอจะต้องยกเบ็ดขึ้นมาทันทีอย่างแน่นอน
หลังจากนั้นก็จะเป็นเหมือนกับครั้งแรก ที่ปล่อยปลาหนีไปได้……
“ถ้าไม่มีพี่ ฉันก็คงจะไม่มีทางตกปลาได้เลย”
เวินเที๋ยนเที๋ยนเอ่ยพูดขึ้นอย่างสูญเสียความมั่นใจไปบ้าง
เดิมทีเธอคิดว่าตัวเองตั้งใจฟังตอนสอนแล้ว จะสามารถชนะเขาได้เสียอีก ใครจะคิดว่าการตกปลาจะยากขนาดนี้กัน
ทั้งๆที่ตอนเธอเห็นอาหงกับจี้จิ่งเชินตกปลานั้น ก็ดูเหมือนกับง่ายมากเลยเสียอย่างนั้น
เพียงแค่เขายกมือ ก็มีปลาติดเบ็ดแล้ว
“อยากชนะผมขนาดนั้นเลยหรือครับ?”
จี้จิ่งเชินเช็ดหยดน้ำบนใบหน้าเวินเที๋ยนเที๋ยนอย่างขำๆ คงจะเป็นตอนที่ปลาตกลงไปแล้วกระเด็นใส่หน้าเธอ
เวินเที๋ยนเที๋ยนหลับตาลง เพื่อเป็นการรับกับสัมผัสของเขา
และเวลานั้นเองจู่ๆเธอก็รู้สึกว่าจะแพ้หรือชนะก็ไม่สำคัญเลย
ขอเพียงแค่จี้จิ่งเชินอยู่ด้วยกันกับเธอ ไม่ว่าจะทำอะไร ก็ล้วนได้รับความสนุกทั้งนั้น
เธอจึงส่ายหน้า “ไม่ว่าจะเป็นปลาที่พี่ตกขึ้นมาได้หรือว่าฉันตกขึ้นมาได้ คนที่อยู่รอบข้างเห็น ก็ล้วนแต่เป็นปลาของพวกเราสองสามีภรรยาที่ตกขึ้นมาได้ทั้งนั้นแหล่ะค่ะ”
คำพูดนี้ถึงแม้จะดูตะกุกตะกักไปบ้าง แต่ตอนที่เวินเที๋ยนเที๋ยนพูดนั้น ไม่ได้รู้สึกเคอะเขินแม้แต่นิดเดียวเลยเช่นกัน
ดวงตาของจี้จิ่งเชินยิ่งเป็นประกายมากขึ้นกว่าเดิม
เขาชอบฟังเวินเที๋ยนเที๋ยนพูดแบบนี้
“ใช่ครับ พวกเราสามีภรรยาตกขึ้นมาด้วยกัน”
จี้จิ่งเชินพยักหน้าลงอย่างจริงจัง เขาเน้นที่คำว่า “พวกเราสามีภรรยา”
สายตาที่ร้อนราวกับกองไฟนั้น ดูเหมือนต้องการจะพิมพ์เอาไว้ในตา และในหัวใจของตัวเองอย่างไรอย่างนั้น
“อืม!” เวินเที๋ยนเที๋ยนพยักหน้าลง แล้วยิ้มออกมาอย่างดีใจ
ใครตกปลาขึ้นมาได้มันมีอะไรที่แตกต่างกันล่ะ?
พวกเขาเป็นสามีภรรยากัน ต้องอยู่ด้วยกันไปตลอด ของตัวเองก็เหมือนกับของจี้จิ่งเชิน