เมียหวานของประธานเย็นชา – บทที่829 อยากร่วมมือกับคุณ

บทที่829 อยากร่วมมือกับคุณ

บทที่829 อยากร่วมมือกับคุณ

เวินเที๋ยนเที๋ยนรู้สึกกังวลอยู่บ้าง ถ้าหากตระกูลหล่อนคัดค้าน หลวนจื่อควรจะทำอย่างไร?

ยิ่งคิดก็ยิ่งร้อนใจ เรื่องเซอร์ไพรส์ที่เธอตั้งท้องก่อนหน้านี้นั้นได้อันตรธานหายไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

เหลือเพียงแค่หัวใจที่เต็มไปด้วยความกังวลเท่านั้น

ในขณะเดียวกันนั้น ทางด้านนอกเมือง

หล่อนเจียนียกกระโปรงขึ้นด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความรังเกียจ เหยียบลงบนทางเล็กๆที่เฉอะแฉะไปด้วยโคลน

“สถานที่แย่ๆแบบนี้ ก็มีคนอยู่ด้วยหรือเนี่ย? คงจะไม่ใช่ว่าข้อมูลผิดหรอกนะ?”

หน้าผากบวมๆของหล่อนเจียนีนั้นเต็มไปด้วยเม็ดเหงื่อ

เธอเช็ดอย่างลวกๆ เครื่องสำอางที่หนาเตอะเปื้อนเหงื่อ ใบหน้ารูปไข่นั้นยิ่งดูจนมุมมากขึ้นไปกว่าเดิม

ไม่ใช่ง่ายๆที่จะหาก้อนหินก้อนใหญ่เพื่อจะหยุดพักได้

แต่เมื่อนั่งลงไปแล้วไม่ทันระวังจึงลื่นไถลไปบนโคลน

โคลนกระเด็นโดนร่างกาย

“นี่เป็นสถานที่บ้าๆอะไรกัน น่าขยะแขยงเกินไปแล้ว!”

หล่อนเจียนีบ่น แต่กว่าจะส่งคนให้ปลอมตัวมาเป็นเธอได้นั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะหลอกสายตาจากคนที่ติดตามเธออยู่

ครั้งนี้ไม่ทำให้สำเร็จตามเป้าหมาย ครั้งต่อกว่าจะออกมาได้อีก ก็ไม่รู้จะเป็นเมื่อไหร่

เธอจึงทำได้เพียงต้องทนกับทั้งร่างที่น่าสะอิดสะเอียนนี้ แล้วหาสถานที่ตามข้อมูลต่อไป

“น่าจะเป็นที่นี่หรือเปล่า?”

เธอก้มลงมองเพื่อเช็คดูกับแผนที่อย่างละเอียด หลังจากที่แน่ใจว่าไม่ผิดแล้วนั้น ก็รีบก้าวเท้าเดินไปทางด้านหน้า

“มีคนอยู่ไหม?”

หล่อนเจียนีเคาะประตูเหล็กโรงงานที่ผุพัง

ไม่มีคนตอบรับ

เธอตะโกนเรียกติดต่อกันอยู่เป็นสิบนาที ก็ยังคงไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆแม้แต่นิดเดียว

“เวินหงไห่ ถ้าคุณอยากจะเจอลูกชายคุณ ก็รีบเปิดประตูให้ฉัน!”

“ออกมาเดี๋ยวนี้!”

เธอไม่เชื่อว่าเวินหงไห่จะไม่อยากได้ลูกชายตัวเองกลับคืนไป?

และเป็นอย่างที่คิด ประตูเหล็กที่เป็นสนิมค่อยๆเปิดออก ปรากฏให้เห็นใบหน้าที่เลอะเทอะมอมแมมของเวินหงไห่

“นี่คุณไม่ได้โกนหนวด ไม่ได้เปลี่ยนเสื้อผ้ามานานแค่ไหนแล้ว?”

หล่อนเจียนีขมวดคิ้วมองเขา ร่างกายที่สกปรกไม่ว่าแล้ว ผมเผ้าที่ยุ่งเหยิงและหนวดเครานั่นเอง ทำให้เธอรู้สึกสะอิดสะเอียนเหมือนกับตอนที่เธอเดินผ่านโคลนเมื่อครู่นี้มาจริงๆ

เวินหงไห่เหลือบมองเธอแวบหนึ่ง และไม่ได้ตอบคำถาม เพียงเอ่ยถามขึ้น : “ลูกชายฉันล่ะ?”

“ลูกชายของคุณ? ลูกชายคุณอยู่ในมือของเวินเที๋ยนเที๋ยนนู่น ฉันไม่มีหรอก!”

“ไม่มีก็ไสหัวไปซะ”

เวินหงไห่กรอกตาขึ้น “อย่ามารบกวนเวลานอนของฉัน!”

ว่าแล้วเขาก็จะปิดประตูลง

แต่ไม่รู้ว่าหล่อนเจียนีไปเอาแรงมาจากไหน เธอผลักเวินหงไห่ แล้วก็เดินเข้ามาด้านในโรงงาน

“อาอาอา นี่อะไรน่ะ!”

เสียงกรีดร้องแหลมสูงของเธอดังก้องอยู่ในโรงงาน

เวินหงไห่เดินเข้าไปมอง แล้วเอ่ยขึ้นมาอย่างไม่ได้สนใจ : “ก็แค่หนู ทำเป็นกระต่ายตื่นตูมไปได้”

“ทำไมที่นี่ถึงมีหนู?”

เดิมทีหล่อนเจียนีอยากที่จะเข้าไปทำความสะอาดคราบสกปรกที่เปื้อนเต็มตัวของเธอเสียหน่อย แต่เมื่อเห็นหนู และความสกปรกภายในโรงงานจึงละทิ้งการตัดสินใจนี้ไปเลย

“ก็ที่นี่เป็นที่รกร้างมาตั้งหลายปีแล้ว กลายเป็นรังหนูไปตั้งแต่แรกอยู่แล้ว ทำไม กลัวแล้วเธอก็ยังจะมาอีกเนี่ยนะ?”

“ฉัน……”

“หล่อนเจียนี ถ้าไม่มีเรื่องอื่นแล้วก็รีบไสหัวไปซะ!”

กับคนตระกูลหล่อน เขาไม่มีความรู้สึกดีๆให้แม้แต่นิดเดียว

ได้ยินแล้ว หล่อนเจียนีก็นั่งลงบนเก้าอี้ไม้ที่อยู่ข้างๆ

“เวินหงไห่ คุณดูตัวคุณเองตอนนี้สิ! วันทั้งวันก็เอาแต่คลุกคลีอยู่กับหนูกับแมลงสาบ”

“ใครจะไปคิด ว่าคุณเคยเป็นถึงคุณชายรองตระกูลเวิน?”

เธอหันมามองเวินหงไห่ ดวงตาแห่งความถากถางปรากฏออกมา

“ถ้าจะมาหัวเราะเยาะฉัน ทำไมไม่ดูสถานการณ์ของตัวเองก่อนบ้าง เธอมีสิทธิอะไรมาพูดกับฉันแบบนี้?”

เขาตกอยู่ในสภาวะสิ้นหวังแล้วก็ตกอยู่ในสภาพที่ต้องหาที่ซุกซ่อนตัวไปทุกหนทุกแห่งจริงๆ

แต่ก็คงไม่ต้องให้คนที่อายุน้อยกว่าของตระกูลหล่อนมาหัวเราะเยาะแบบนี้

และยิ่งไปกว่านั้นสถานการณ์ของหล่อนเจียนีในตอนนี้ เขาเองก็รู้ดีอย่างชัดเจน

รอยยิ้มบนใบหน้าของหล่อนเจียนีนั้นแข็งทื่อ แต่เมื่อนึกถึงแผนการของตัวเองแล้ว ก็ยังคงฝืนทนความไม่พอใจนี้เอาไว้ แล้วยังคงฝืนยิ้มออกมา

“คุณลุงเวิน ฉันคิดว่าคุณเข้าใจผิดแล้วล่ะ ฉันไม่ได้มีความจำเป็นที่จะต้องมาเยาะเย้ยคุณเลย มิเช่นนั้นแล้วฉันเองก็คงจะไม่ต้องมาเป็นแบบนี้เพียงเพราะมาตามหาตัวคุณ” เธอชี้ไปยังคราบสกปรกที่อยู่บนร่างของตัวเอง ท่าทางที่ดูจนตรอกแบบนี้ก็มีความน่าเชื่ออยู่จริงๆ

“ถ้าอย่างนั้นเธอคิดจะทำอะไร?”

“ง่ายมาก อยากจะร่วมมือกับคุณ”

หล่อนเจียนีพูดอย่างตรงไปตรงมา “เวินเที๋ยนเที๋ยนแย่งตระกูลหล่อนไป แล้วก็แย่งตัวลูกชายคุณไปด้วย ว่ากันว่าศัตรูของศัตรูก็คือมิตร ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ทำไมพวกเราไม่ร่วมมือกันล่ะ?”

“ฉันไม่คิดว่าฉันมีค่าพอให้เธอมานึกถึงอะไรแบบนี้นะ”

เวินหงไห่ชำเลืองมองเธอ แววตาปรากฏแสงแห่งความชั่วร้ายแวบขึ้นมา

หลังจากที่ตระกูลเวินล่ม เขาก็เร่ร่อนมาที่นี่

ความเกลียดชังที่มีต่อเวินเที๋ยนเที๋ยนและจี้จิ่งเชิน เขาไม่เคยลืม แม้กระทั่งในความฝันก็ยังอยากที่จะแก้แค้น!

แต่เห็นหล่อนเจียนีแล้ว ในใจเขากลับมีความระแวงอยู่

หล่อนเจียนีถอนหายใจเบาๆ : “ไม่ปิดบังคุณนะ ตระกูลหล่อนถูกเวินเที๋ยนเที๋ยนควบคุม ฉันถูกห้ามเข้าออก เพราะฉะนั้นหลายๆเรื่องที่ฉันเองไม่สามารถทำสำเร็จได้ ฉันจึงจำเป็นต้องหาคนมาช่วย”

“หาคนมาเป็นแพะรับบาปน่ะหรือ?” เวินหงไห่หัวเราะเยาะ “เธอวางแผนได้ดีจริงๆเลยนะ!”

“หลังจากเสร็จเรื่องแล้ว ฉันได้เป็นเจ้าของตระกูลหล่อน ก็จะให้เงินก้อนใหญ่กับคุณ ให้คุณไปอยู่ต่างประเทศได้อย่างอิสระ”

หล่อนเจียนีพูดเสริมท้ายอีกหนึ่งประโยค “แล้วก็ลูกคุณด้วย เวินหมิงเฮ่า”

เวินหงไห่ขมวดคิ้วขึ้นเล็กน้อย

“ฉันรู้ว่าคุณต้องการอะไร พ่อฉันเองก็ถูกเวินเที๋ยนเที๋ยนเล่นงานจนต้องเข้าคุกเหมือนกัน ฉันเกลียดมันเข้ากระดูก จะมาให้ร้ายคุณทำไม?”

“ส่วนภรรยาและลูกชายของคุณ ถ้าคุณคิดจะทำแบบนั้น ก็ให้คุณตัดสินใจเอง”

คำพูดของหล่อนเจียนีนั้นมีแรงดึงดูดเป็นอย่างมาก ทำให้เวินหงไห่อดที่จะไตร่ตรองอย่างรอบคอบไม่ได้

แก้แค้นเวินเที๋ยนเที๋ยนและจี้จิ่งเชิน แย่งตัวเวินหมิงเฮ่ากลับมา ทำให้เหยาเย้นผู้หญิงคนนั้นได้ลิ้มรสกับการหักหลังเขา…..

เรื่องพวกนี้ล้วนแต่เป็นสิ่งที่เขาอยากจะทำทั้งนั้น

ตอนนี้ตัวเองเพียงคนเดียวก็คงจะไม่สามารถทำมันได้สำเร็จ วิธีเดียวนั่นก็คือร่วมมือกับเธอ

หลังจากนั้นไม่นาน เขาก็พยักหน้าลงในที่สุด

“ฉันต้องการของบางอย่าง ตอนนี้จะต้องเริ่มเตรียมตัวแล้ว”

ในวันนั้น เวินหงไห่ก็เร่งปฏิบัติการแล้ว

เขามายังใต้ตึกบริษัทตระกูลหล่อน ใส่หมวกและผ้าปิดจมูก อำพรางตัวเองอย่างแน่นหนา

เงยหน้าขึ้นมาเป็นครั้งเป็นคราว แล้วมองไปยังออฟฟิศของเวินเที๋ยนเที๋ยนด้วยแววตาที่โหดเหี้ยม

เวินเที๋ยนเที๋ยน เธอบีบบังคับฉันเองนะ อย่าหาว่าฉันไร้ความปราณีก็แล้วกัน!

เวินเที๋ยนเที๋ยนวุ่นอยู่กับการทำงาน ไม่ได้รู้สึกเลยว่าตัวเองกำลังถูกคนจ้องมองอยู่

เธอหยิบปากกาแล้วเซ็นชื่อลงในเอกสารด่วนฉบับสุดท้าย

มองดูเวลา เห็นว่ายังมีเวลาอีกหนึ่งชั่วโมงกว่าจะถึงเวลาเลิกงาน

เธอคิดอยู่พักหนึ่ง แล้วถึงส่งข้อความไปหาจี้จิ่งเชิน

“ฉันไปหาหลวนจื่อหน่อยนะคะ ไม่ได้เจอกันเดือนนึงแล้ว คิดถึงเธอขึ้นมาหน่อยแล้ว”

เธอไม่ได้บอกถึงต้นสายปลายเหตุทั้งหมด เธอกลัวว่าเขาจะเป็นกังวล

อีกทั้งเป็นเพราะก่อนหน้านี้เรื่องที่หลวนจื่อวางยาเขา ระหว่างเขากับหลวนจื่อจึงมีความสัมพันธ์ที่ไม่ดีต่อกันเท่าไหร่นัก

ถึงแม้ว่าต่อมาเธอกับหลวนจื่อจะคืนดีกันแล้วก็ตาม แต่จี้จิ่งเชินราวกับว่าจะไม่ค่อยเป็นมิตรกับหลวนจื่อมาโดยตลอด

หลังจากที่ส่งข้อความไปแล้วนั้น ผ่านไปไม่นาน เวินเที๋ยนเที๋ยนก็ได้เสียงข้อความที่ส่งมา

“ให้ผมไปเป็นเพื่อนคุณไหมครับ?”

“ไม่ต้องหรอกค่ะ แค่ไปเยี่ยมเธอเอง ไม่ต้องไปกันเยอะให้ยุ่งยากหรอกค่ะ แล้วอีกอย่าง พี่เองก็คงจะกำลังยุ่งอยู่ด้วย”

เวินเที๋ยนเที๋ยนกดปุ่มส่ง แก้ไขข้อความของตัวเองแล้วกดส่งออกไป

ไม่ใช่ว่าเธอไม่เคยคิดว่า ถ้าหากจี้จิ่งเชินอยู่ด้วย บางทีอาจจะทำให้หลวนจื่อยิ่งเครียดมากขึ้นไปอีก

เมียหวานของประธานเย็นชา

เมียหวานของประธานเย็นชา

Status: Ongoing

“คุณจะคิดแบบนี้ไปถึงเมื่อไรถึงจะกลับบ้านได้?” จี้จิ่งเชินพูดออกมาอย่างจนใจ เขารีบมาที่นี่ทันทีตั้งแต่รับสาย และยืนดูเธอเดินวนคิดเป็นหนูติดจั่นแบบนี้มาครึ่งชั่วโมงแล้ว เธอไม่กล้าออกมา เพราะเธอกลัวว่าถ้าเขารู้เรื่องเข้า เขาจะทำอย่างไร สุดท้ายสิ่งที่เขาทำ คือ จูบหน้าผากของเธอ “ผมเชื่อคุณ… ไม่ต้องอธิบายอะไร ผมก็เชื่อคุณ”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท