บทที่839 ผมจะช่วยคุณเอง
สถานที่ทำข้อตกลงกันในครั้งที่สอง ก็คือที่ภูเขาเซียงซาน เพียงแต่เปลี่ยนเป็นอีกสถานที่หนึ่ง ดูเป็นที่ที่ปิดบังอำพรางได้มากกว่าก่อนหน้านี้เสียอีก
จี้จิ่งเชินกังวลว่าจะถูกเวินหงไห่พบเบาะแสร่องรอยเสียก่อน จึงเคลียร์บอร์ดี้การ์ดที่อยู่รอบๆออกไปก่อน แล้วพาเพียงแค่เหยาเย้นกับเวินหมิงเฮ่าไป
ช่วงเวลาเช้าตรู่ หมอกหนายังคงไม่กระจายหายไป
ครั้งนี้จี้จิ่งเชินเพิ่งจะเดินทางมาถึง เดินผ่านหมอกหนามาก็เห็นร่างของเวินหงไห่แล้ว
เขามาถึงก่อนเวลา
จี้จิ่งเชินขมวดคิ้ว มือที่อยู่ข้างๆลำตัวนั้นกำแน่นขึ้นมาทันที
ค่อยๆเข้ามาใกล้ขึ้น อีกร่างหนึ่งก็ค่อยปรากฏตัวขึ้นตรงหน้าเขา
ร่างนั้นนอนอยู่บนก้อนหินที่อยู่ข้างๆ ดูเหมือนกับจะไม่ได้สติ……
นั่นคือเวินเที๋ยนเที๋ยน!
จี้จิ่งเชินหายใจติดขัด แล้วรีบก้าวไปด้านหน้า
“หยุด!” เสียงของเวินหงไห่ที่แฝงการข่มขู่เอาไว้ดังขึ้นในทันที
ขาของจี้จิ่งเชินนั้นจึงต้องหยุดลง ไม่กล้าเคลื่อนไหว กลัวว่าเขาจะทำอันตรายเวินเที๋ยนเที๋ยน
“คนฉันก็พามาแล้ว แกปล่อยตัวเที๋ยนเที๋ยนเดี๋ยวนี้!”
สายตาของจี้จิ่งเชินนั้นจับจ้องไปยังร่างของเวินเที๋ยนเที๋ยน
ความกังวลที่มีนั้นไม่ยอมให้พลาดไปได้
เวินหงไห่ดึงตัวเวินเที๋ยนเที๋ยนที่อยู่ทางด้านหลังมา แล้วดึงเสื้อผ้าของเธอเอาไว้ พลางตะโกน : “ให้เมียกับลูกฉันมานี่ก่อน”
จี้จิ่งเชินขมวดคิ้วขึ้น ไม่ได้เคลื่อนไหว
เห็นเขาไม่มีปฏิกิริยาตอบกลับแล้ว ทันใดนั้นเองเวินหงไห่ก็หยิบมีดปลายแหลมขึ้นมาจากตรงหน้าอก แล้วจ่อไว้ตรงคอของเวินเที๋ยนเที๋ยน
“เร็ว! ไม่อย่างนั้นฉันจะฆ่าเธอซะ!”
แสงจันทร์ส่องมายังมีดปลายแหลม เวินเที๋ยนเที๋ยนถูกเขาดึงจนต้องเงยหน้าขึ้น
ดวงตาทั้งสองข้างของเธอปิดสนิท สีหน้าซีดขาว ไม่มีแรงที่จะขัดขืนเลยแม้แต่นิดเดียว
ในใจของจี้จิ่งเชินนั้นกระตุกขึ้นมาทันใด
“อย่า!”
เขาก้าวไปข้างหน้าหนึ่งก้าวอย่างร้อนรน “ฉันจะให้พวกเขาไปตอนนี้เลย อย่าทำร้ายเที๋ยนเที๋ยน”
เห็นท่าทางที่ตื่นกลัวของเขาแล้ว เวินหงไห่กลับหัวเราะออกมาอย่างพอใจ
นับตั้งแต่ที่ตระกูลเวินพ่ายแพ้ เวินหงไห่ก็ได้รับแต่สายตาที่มองด้วยความดูถูกเหยียดหยามตลอดทั้งวัน คิดไม่ถึงว่าวันนี้จะได้มาเห็นอาการที่ตื่นกลัวแบบนี้ของจี้จิ่งเชิน
ในใจเขานั้นมีความสุขมาก จึงหัวเราะออกมาเสียงดัง
“คิดไม่ถึงเลยว่าแกจะมีวันนี้ด้วย!”
เวินเที๋ยนเที๋ยนถูกทำให้สั่นไหว เธอขมวดคิ้ว แล้วค่อยๆลืมตาขึ้น
หมอกหนาบดบังสายตาของเธอ
เวินเที๋ยนเที๋ยนขมวดคิ้ว รับรู้ถึงความเจ็บปวดที่ยังคงรู้สึกจี๊ดขึ้นมาที่ช่วงท้อง
ทำไมเวินหงไห่ถึงได้พาเธอมาที่นี่?
เดี๋ยวก่อน…..
ท่ามกลางหมอกหนานี้ ดูเหมือนจะมีคนอยู่ด้วย!
เธอหรี่ตาลงเล็กน้อย แล้วมองไปอย่างละเอียด
ร่างของคนๆนั้นดูคุ้นตาเป็นอย่างมาก…..
ดูเหมือนกับ…..
จี้จิ่งเชิน!
เวินเที๋ยนเที๋ยนลืมตาขึ้นมาอย่างรวดเร็ว!
คิดไม่ถึงเลยว่านี่เป็นการพาตัวเธอมาเปลี่ยนตัวกัน….
ในที่สุดเธอก็ได้เห็นจี้จิ่งเชินแล้ว!
“จี้จิ่งเชิน?”
ร่างกายของเธอนั้นไม่มีแรงเลยตั้งแต่แรกแล้ว เสียงก็ยิ่งอ่อนลงด้วยเช่นกัน
แต่ต่อให้เป็นเช่นนี้ จี้จิ่งเชินที่ยืนอยู่ตรงข้ามก็ยังคงได้ยินเสียงที่แผ่วเบานี้อยู่
เป็นเสียงที่เบามาก เบาบางเสียจนแทบจะไม่ได้ยิน
ทันทีที่จี้จิ่งเชินได้ยิน ก็รู้สึกเจ็บปวดที่หัวใจขึ้นมาในทันที ราวกับมีตะปูเหล็กแหลมทิ่มเข้าไปอย่างไรอย่างนั้น
มือของเขากำหมัดแน่น ปลายนิ้วจิกลงไปบนฝ่ามือ มีเลือดจางๆไหลซึมออกมา
“เที๋ยนเที๋ยน! ผมเองครับ!”
“ไม่ต้องกลัวนะ ไม่เป็นอะไรนะครับ”
“ผมจะช่วยคุณเอง เชื่อใจผมนะ”
ได้ยินเสียงนี้ หัวใจที่เหมือนกับถูกห้อยอยู่บนที่สูงนั้นค่อยๆสงบลงในเวลานี้ เป็นความอุ่นใจที่ไม่เคยมีมาก่อน
ใบหน้าของเธอค่อยๆปรากฏรอยยิ้มที่อ่อนโยนและสบายใจออกมา
“ฉันไม่เป็นอะไรค่ะ พี่ไม่ต้องเสียใจนะ”
ถึงแม้จะมองไม่เห็นใบหน้าของจี้จิ่งเชิน แต่เธอเองก็รู้ ว่าเวลานี้ใบหน้าของจี้จิ่งเชินจะต้องเต็มไปด้วยความเจ็บปวดรวดร้าวอย่างแน่นอน
เธอทำใจไม่ได้ที่จะต้องเห็นจี้จิ่งเชินเสียใจ
เพราะตัวเองต้องมาลำบาก
ในใจของจี้จิ่งเชินรู้สึกเจ็บปวด
ทุกๆคำล้วนแต่เป็นเหมือนกับมีดที่ทิ่มแทงเข้าไปในหัวใจเขา
“เที๋ยนเที๋ยน ผม……”
เขาที่เพิ่งจะเอ่ยขึ้นมา ทันใดนั้นเองเวินหงไห่กลับลากเวินเที๋ยนเที๋ยนเข้ามา แล้วขัดพวกเขาขึ้นด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา
“ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่พวกแกจะมาคุยกัน จี้จิ่งเชิน ส่งพวกเขามาให้ฉันเดี๋ยวนี้!”
จี้จิ่งเชินกัดฟันแน่น เป็นเพราะใช้แรงมากเกินไปทำให้เส้นเลือดผุดขึ้นมาตรงหน้าผาก
“ฉันรู้แล้ว”
น้ำเสียงของเขาทุ้มต่ำเป็นอย่างมาก เขาหันไปมองทางเหยาเย้นกับเวินหมิงเฮ่า
เหยาเย้นพยักหน้าลงอย่างกังวล
เวินหงไห่เข้าใจจุดอ่อนของจี้จิ่งเชิน
เพียงแค่ควบคุมตัวเวินเที๋ยนเที๋ยนเอาไว้ เขาก็ไม่กลัวจี้จิ่งเชินจะเล่นตุกติกอะไรแล้ว
“พวกเราจะปกป้องเที๋ยนเที๋ยน ใช่ไหมครับเฮ่าเฮ่า?”
เธอก้มหน้าลงมองลูกชาย
เวินหมิงเฮ่าพยักหน้าแรงๆ “ผมจะปกป้องพี่เที๋ยนเที๋ยนครับ!”
จี้จิ่งเชินก้าวท้าวแล้วพาทั้งสองคนเดินไปทางนั้น ค่อยๆเข้าใกล้เวินหงไห่มากขึ้น
“ให้พวกเขามาก่อน” เวินหงไห่เอามีดจ่ออยู่ตรงใบหน้าเวินเที๋ยนเที๋ยน แล้วยื่นเสนอความต้องการอีกครั้ง
“เร็วๆ!”
จี้จิ่งเชินไม่มีวิธีอื่น จึงทำได้เพียงพยักหน้าลง
เหยาเย้นถึงได้พาตัวเวินหมิงเฮ่าเดินไป
จนกระทั่งมาถึงข้างๆเวินหงไห่ แต่เขากลับไม่ปล่อยตัวเวินเที๋ยนเที๋ยน
จี้จิ่งเชินเอ่ยพูดขึ้นอย่างร้อนใจ : “ตอนนี้แกปล่อยตัวเวินเที๋ยนเที๋ยนได้แล้วมั้ง?”
แต่เวินหงไห่กลับหัวเราะขึ้นมาอย่างพอใจ
“แกเป็นห่วงเธอขนาดนั้นเลย? ถ้าอย่างนั้นฉันจะปล่อยตัวเธอไปดีหรือเปล่านะ?”
เขาแกว่งมีดในมือ
“แกเข้ามาสิ”
จี้จิ่งเชินไม่เข้าใจว่าคำพูดนี้หมายความว่าอะไร แต่เพื่อความปลอดภัยของเวินเที๋ยนเที๋ยน เขาก็ยังคงเดินเข้าไป
“พอแล้ว!”
จู่ๆเวินหงไห่ก็ตะโกนเรียกเขา แล้วมองไปรอบๆ พลางพูดเยาะเย้ยขึ้น : “ให้บอร์ดี้การ์ดที่อยู่รอบๆวางสิ่งที่อยู่ในมือลงซะ ไม่อย่างนั้นฉันไม่รับประกันชีวิตของเวินเที๋ยนเที๋ยนนะ”
เวินเที๋ยนเที๋ยนขมวดคิ้วขึ้น ความเจ็บปวดตรงช่วงท้องทำให้เธอหน้าซีด เม็ดเหงื่อหยดลงมาจากหน้าผาก
เห็นท่าทางของเธอแล้ว จี้จิ่งเชินรู้สึกหายใจไม่ออก ไม่กล้าขยับอีก
“แกจะทำอะไรกันแน่?”
เวินหงไห่หัวเราะเยาะขึ้นมา
“ง่ายมาก ฉันเองก็อยากให้แกได้ลองรับรู้ความรู้สึกในช่วงที่ผ่านมาแบบฉันบ้างยังไงล่ะ”
เวินเที๋ยนเที๋ยนได้ยินประโยคนี้แล้ว ก็ขมวดคิ้วขึ้นมาอย่างกังวล
“คุณจะทำอะไรน่ะ? อย่าทำร้ายจี้จิ่งเชินนะ!”
เวินหงไห่ยกมือขึ้น แล้วฟาดหลังมือลงบนหน้าของเวินเที๋ยนเที๋ยนหนึ่งที
เพียะ!
เสียงที่ชัดเจนดังขึ้นมา
จี้จิ่งเชินกัดฟัน
“หยุด! หยุดเดี๋ยวนี้!”
“แกอยากจะให้ฉันทำอะไรกันแน่?”
เห็นท่าทางที่เคร่งเครียดของเขา เวินเที๋ยนเที๋ยนถึงได้หยุดการกระทำของตัวเองลง
“ฉันต้องการให้แกบอกกับทุกคน ให้แกสละบริษัทเอ็มไอกรุ้ปทิ้ง แล้วโอนมาให้ฉัน……”
เขาเงยหน้าหัวเราะขึ้นมาอย่างอิ่มอกอิ่มใจ
แต่สีหน้าของจี้จิ่งเชินนั้นกลับไม่ได้มีความลังเลเลยแม้แต่นิดเดียว
“ง่านแค่นี้เองอย่างนั้นหรือ?”
เวินหงไห่อึ้งไปพักหนึ่ง แล้วยิ่งพาลโมโหมากขึ้นไปอีก
“ง่าย? ในเมื่อแกรู้สึกว่ามันง่ายนัก ก็รีบออกคำสั่งไปตั้งแต่ตอนนี้เลยสิ!”
จี้จิ่งเชินไม่แม้แต่จะกระพริบตา หยิบโทรศัพท์มือถือออกมาทันที แล้วเตรียมที่จะออกคำสั่ง
สายตาของเขานั้นจ้องมองไปที่ร่างของเวินเที๋ยนเที๋ยนอยู่ตลอด ไม่เคลื่อนย้ายไปไหนเลยแม้แต่นิดเดียว
“ฉันขอสั่งว่าตั้งแต่ตอนนี้เป็นต้นไป บริษัทเอ็มไอกรุ้ปทิ้ง……”
“พูดเร็วๆเข้า! รีบพูดสิ! แกจะต้องเอาทุกอย่างมาให้ฉัน!” เขาตะโกนขึ้นมาอย่างตื่นเต้น
แกร๊ก
และทันใดนั้นเองที่เวลานี้จู่ๆก็มีเสียงแผ่วเบาเสียงหนึ่งดังขึ้น
เวินหงไห่ที่กำลังจับตัวเวินเที๋ยนเที๋ยนเอาไว้อยู่นั้น จู่ๆก็ถูกปืนกระบอกหนึ่งจ่ออยู่ที่ศีรษะ
ปากกระบอกปืนที่เย็นเฉียบนี้ให้สัมผัสที่รุนแรง ราวกับว่าจะทำให้เลือดของเขาแข็งตัวขึ้นมาอย่างไรอย่างนั้น
เขาไม่กล้าทำอะไรผลีผลาม เพียงแค่ค่อยๆหันหน้ามาเพียงเท่านั้น
เห็นเหยาเย้นที่กำลังถือปืนอยู่ในมือ ก็เบิกตาขึ้นด้วยความตกใจ
“เหยาเย้น คุณทำอะไรน่ะ? คุณบ้าไปแล้วใช่ไหม?”