บทที่ 856 ฉันรู้ว่าคุณจะต้องรับปากแน่
เวินเที๋ยนเที๋ยนยืนหยัดแบบนี้ จี้จิ่งเชินเป็นห่วงว่าจะส่งผลกระทบต่อร่างกายของเธอจึงไม่ได้พยายามให้ยอมแพ้เรื่องเด็กอีกต่อไป
เขาเพียงแค่บอกกับเธอ “ไม่ว่าผมจะคิดอย่างไร ผมก็จะไม่ทำร้ายคุณ คุณวางใจทานได้เลย ผมไม่ได้ใส่อะไรอย่างอื่นลงไป คุณเชื่อผมได้”
“……” เวินเที๋ยนเที๋ยนเงียบไปไม่พูดอะไร
“คุณต้องทำให้ร่างกายดีขึ้น เที๋ยนเที๋ยน”
ในที่สุดเวินเที๋ยนเที๋ยนก็พยักหน้า
แม้ว่าเธอจะรู้ว่าจี้จิ่งเชินไม่มีทางเห็นที่เธอพยักหน้า
จี้จิ่งเชินพูดจบแล้วไม่ได้รับการตอบรับจากเวินเที๋ยนเที๋ยนจึงกลับไป
วันต่อมา เขามาส่งของบำรุงด้วยตัวเอง
เวินเที๋ยนเที๋ยนคิดไม่ถึงว่าจี้จิ่งเชินจะมาด้วยตัวเอง ทันทีที่เปิดประตูก็ชะงักค้างอยู่ตรงนั้น
จี้จิ่งเชินจึงถือโอกาสแทรกตัวเข้ามา
“คุณ……”
“วางใจเถอะ ผมแค่เอาของบำรุงมาส่ง แล้วมาดูคุณด้วย”
เส้นเลือดฝอยในดวงตาเขาสามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน
ซีดเซียวกว่าเมื่อก่อนมาก
เวินเที๋ยนเที๋ยนใจอ่อนในทันที “นั่งเถอะ”
จี้จิ่งเชินนั่งลงบนเก้าอี้อย่างรวดเร็ว ราวกับกลัวว่าเวินเที๋ยนเที๋ยนจะไล่เขาไป
“……”
เวินเที๋ยนเที๋ยนชะงักไป มุมปากยกขึ้นอย่างอดไม่ได้ “ฉันจะไปรินน้ำให้คุณ”
“ผมทำเอง”
จี้จิ่งเชินตัดใจให้เวินเที๋ยนเที๋ยนไปทำเรื่องพวกนี้ไม่ได้
ขณะที่พูด ทันใดนั้นเวินเที๋ยนเที๋ยนก็รู้สึกวิงเวียน
“คุณไม่เป็นไรนะ?”
จี้จิ่งเชินรีบประคองเธอไว้
เวินเที๋ยนเที๋ยนส่ายหน้า “ไม่เป็นไร แค่เวียนหัวนิดหน่อย”
“คุณนั่งพักเถอะ”
จี้จิ่งเชินพยุงเธอไปนั่งที่เก้าอี้อย่างเป็นห่วง
หลังจากนั้นไม่นานจี้จิ่งเชินก็ถือน้ำอุ่นออกจากห้องครัวมาหนึ่งแก้ว
“ดื่มน้ำสักหน่อย”
เขามองเวินเที๋ยนเที๋ยนอย่างสงสาร “กลับไปกับผมเถอะ คุณอยู่ที่นี่คนเดียว ผมไม่วางใจเลย”
เวินเที๋ยนเที๋ยนส่ายหน้า กลับได้ยินที่จี้จิ่งเชินพูดต่อ “พ่อบ้านกับแม่ครัวโทษตัวเองอยู่ทุกวันว่าไม่ได้ดูแลคุณให้ดี ทุกวันกินไม่ได้นอนไม่หลับ พวกเขาคิดถึงคุณมาก”
“……ฉันก็เหมือนกัน”
เวินเที๋ยนเที๋ยนได้ยินแบบนั้นก็คิดถึงท่าทางเศร้าสร้อยของพ่อบ้านกับแม่ครัว
เธอจากมาโดยไม่ลา คาดว่าพวกเขาก็คงเป็นห่วงมาก
“ยังมีพ่อตาแม่ยายอีก ผมไม่ได้บอกเรื่องที่คุณหายตัวไปกับพวกเขา แต่ก็ยากที่จะรับประกันว่าพวกเขาจะเห็นโฆษณาในโทรทัศน์นั่นไหม”
จี้จิ่งเชินกุมมือเวินเที๋ยนเที๋ยนแล้วพูดอย่างจริงใจ “กลับไปกลับผมเถอะ……”
“คุณรับประกันว่าจะไม่ให้ฉันทอดทิ้งลูก?”
เวินเที๋ยนเที๋ยนขัดคำพูดของจี้จิ่งเชินขึ้น
จี้จิ่งเชินเงียบอยู่นาน ในตอนที่เวินเที๋ยนเที๋ยนคิดว่าเขาจะไม่รับปากแล้ว ในที่สุดจี้จิ่งเชินก็พยักหน้าช้าๆ
“คุณเห็นด้วยแล้ว?”
เธอมองจี้จิ่งเชินอย่างแปลกใจ
“ผมรับปากคุณ ถ้าไม่ถึงขั้นที่ไม่มีทางไปต่อแล้ว ผมไม่มีทางทิ้งเขา ขอแค่คุณกลับไปกับผม”
จี้จิ่งเชินพูดอย่างจริงจัง
เขาจับมือของเวินเที๋ยนเที๋ยนไว้แน่น นัยน์ตาเต็มไปด้วยความเจ็บปวด
“โอกาสสี่สิบเปอร์เซ็นต์ ผมจะคว้ามันไว้กับคุณ”
เวินเที๋ยนเที๋ยนไม่ได้คิดมาก เมื่อเขารับปากแล้วก็มีความสุขมาก เผยรอยยิ้มเป็นครั้งแรกในช่วงหลายวันมานี้
“เยี่ยมไปเลย! ฉันรู้ว่าคุณจะต้องรับปากแน่!”
จี้จิ่งเชินกลับไม่ได้มองในแง่ดีเหมือนเธอ กระตุกมุมปากขึ้นอย่างฝืนใจ
โอกาสสี่สิบเปอร์เซ็นต์ จะได้จริงๆ เหรอ?
ไม่ว่าอย่างไรตอนนี้เวินเที๋ยนเที๋ยนก็ยอมกลับไปกับเขาแล้ว
“ถ้าอย่างนั้นตอนนี้ก็เก็บของกลับไปกับผมได้แล้วใช่ไหม?”
จี้จิ่งเชินมองเวินเที๋ยนเที๋ยนอย่างคาดหวัง
“อืม” เวินเที๋ยนเที๋ยนยิ้มตอบ
กำลังจะไปเก็บข้าวของ
เมื่อลุกขึ้นทันใดนั้นก็รู้สึกวิงเวียนขึ้นมาอย่างรุนแรง!
ภาพสุดท้ายตรงหน้าเธอ หยุดอยู่ที่ใบหน้าที่เปลี่ยนไปอย่างฉับพลันของจี้จิ่งเชิน
……
กลิ่นยาฆ่าเชื้อที่คุ้นเคย ทำให้เวินเที๋ยนเที๋ยนรู้สึกตัวในทันทีว่าตัวเองได้กลับมาที่โรงพยาบาลอีกแล้ว
เธอยกมือลูบหน้าท้องของตัวเองโดยไม่รู้ตัว
“เที๋ยนเที๋ยน คุณฟื้นแล้ว”
เสียงของจี้จิ่งเชินดังขึ้นข้างๆ เธอ
ทำให้เธอรู้สึกถึงที่พึ่งพิง
“ลูก ลูกของฉันเป็นอย่างไรบ้าง?”
เธอมองจี้จิ่งเชินด้วยแววตาเจือความวิตกกังวล
“ไม่ต้องห่วง ลูกไม่เป็นไร”
จี้จิ่งเชินกุมมือเธอ เอ่ยปลอบเสียงเบา “คุณไม่ต้องห่วง เรื่องที่ผมรับปากคุณแล้ว ต้องทำได้แน่”
เขารับปากเวินเที๋ยนเที๋ยนแล้ว ไม่ถึงวินาทีสุดท้ายก็จะไม่ทำอะไรเด็กเด็ดขาด
ได้ยินที่จี้จิ่งเชินพูดแบบนี้ ในที่สุดเวินเที๋ยนเที๋ยนก็โล่งใจ “ขอบคุณ”
“คุณดูแลสุขภาพให้ดี ก็เป็นคำขอบคุณที่ดีที่สุดสำหรับผมแล้ว”
จี้จิ่งเชินมองเธออย่างจนใจ
เขาไม่อยากเห็นเวินเที๋ยนเที๋ยนนอนนิ่งไม่ขยับอยู่ในห้องผู้ป่วยอีกแล้วจริงๆ
เที๋ยนเที๋ยนของเขา ควรจะมีสุขภาพที่ดี ไม่มีอะไรให้กังวล ไม่ใช่เหมือนกับตอนนี้ที่ต้องหลบเขาไปไกลขนาดนี้
เวินเที๋ยนเที๋ยนเก็บอาการอย่างอายๆ เรื่องนี้ที่จริงแล้วเธอก็ทำไม่ถูก ไม่ควรหนีออกไปโดยที่ไม่ได้ปรึกษากับจี้จิ่งเชินก่อน
แต่ตอนนั้นเธอถูกจี้จิ่งเชินทำให้ตกใจจริงๆ
ได้ยินว่าเขาจะลงมือกับลูก ไม่ทันได้คิดอะไรมากก็หนีออกมาแล้ว
ตอนนี้คิดๆ ดูแล้วตัวเองนั้นบุ่มบ่ามเกินไปจริงๆ
ไม่ว่าเกิดอะไรขึ้น เธอควรถามความคิดเห็นของจี้จิ่งเชินก่อน
บางทีเรื่องอาจจะไม่ยุ่งยากขนาดนี้
“คุณพ่อคุณแม่โทรมาแล้ว ตอนบ่ายพวกเขาจะมาเยี่ยมคุณ”
“พวกเขาจะมาเยี่ยมฉัน?”
ได้ยินดังนั้นเวินเที๋ยนเที๋ยนก็หลุดแสดงสีหน้าแปลกใจออกไป
จี้จิ่งเชินพยักหน้าเบาๆ “พวกเขาเห็นข่าวที่ผมตามหาคุณแล้วได้ยินว่าคุณเข้าโรงพยาบาล เลยพากันเป็นห่วงมาก”
“ขอโทษ เพราะฉันไม่ดีเอง”
ถ้าไม่ใช่เพราะเธอ จี้จิ่งเชินก็ไม่ต้องเป็นห่วง พ่อแม่ของเธอก็ไม่ต้องรีบมา
ไม่รู้ว่าแม่ครัวกับพ่อบ้านรู้ข่าวการกลับของเธอมาหรือยัง
“อย่าโทษตัวเอง เพราะผมคิดน้อยเอง”
จี้จิ่งเชินพูดด้วยน้ำเสียงอบอุ่น “แต่คุณต้องรับปากผม ต่อไปอย่าออกจากบ้านที่โดยไม่ได้รับอนุญาต”
“อืม ต่อไปไม่อีกแล้ว”
เวินเที๋ยนเที๋ยนยิ้ม จับมือจี้จิ่งเชินไว้แน่น
“แค่พวกเราพยายามด้วยกัน ต้องไม่มีปัญหาแน่”
เธอวางมือลงบนหน้าท้องเบาๆ เอ่ยเสียงกระซิบ “ใช่ไหม ลูก? ต้องพยายามด้วยกันนะ”
ในตอนบ่าย หล่อนหลีและเวินหงหยู้ก็มาที่โรงพยาบาลเพื่อเยี่ยมเวินเที๋ยนเที๋ยน
ทั้งสองคนรีบร้อนมา เมื่อเห็นท่าทางของเวินเที๋ยนเที๋ยนก็ทุกข์ใจเป็นอย่างยิ่ง
“ผมยกลูกสาวให้คุณ คุณกลับทำให้เธอกลายเป็นแบบนี้! คุณจะให้ผมวางใจให้เธอไปอยู่กับคุณอีกได้อย่างไร?”
เวินหงหยู้เป็นคนที่อ่อนโยนมาตั้งแต่ไหนแต่ไร เป็นครั้งแรกที่เวินเที๋ยนเที๋ยนเห็นเขาโกรธขนาดนี้
จี้จิ่งเชินก้มหน้าเอ่ย “ผมผิดเอง ต่อไปผมจะดูแลเที๋ยนเที๋ยนให้ดี”
“พ่อคะ พ่ออย่าโทษเขาเลย เพราะหนูไม่ดีเอง”
เวินเที๋ยนเที๋ยนรีบดึงแขนเสื้อของเวินหงหยู้ไว้ ในขณะเดียวกันก็ส่งสายตาขอความช่วยเหลือให้หล่อนหลี
หล่อนหลีเข้าใจความหมาย จึงพูดเกลี้ยกล่อม “เรื่องของเด็กๆ เขา คุณอย่ากังวลไปเลย”
เวินหงหยู้ยังไม่วางใจให้เวินเที๋ยนเที๋ยนกลับไปอยู่กับจี้จิ่งเชิน หล่อนหลีจึงยื่นข้อเสนอที่เป็นกลางให้ “ให้เที๋ยนเที๋ยนอยู่ที่ตระกูลหล่อนเถอะ พวกเราจะย้ายไปเร็วๆ นี้ จะได้ดูแลเธออยู่ใกล้ๆ”
ย้ายไปที่ตระกูลหล่อน?
เวินเที๋ยนเที๋ยนลังเล แต่ก็ไม่ได้โต้แย้ง
แม้ว่าจี้จิ่งเชินจะบอกว่าไม่คัดค้านที่เธอจะคลอดลูกอีกแล้ว แต่ถ้าถึงวินาทีสุดท้ายมาจริงๆ เกรงว่าจี้จิ่งเชินจะยังไม่ยอมให้ตัวเองเสี่ยงอันตราย