เมียหวานของประธานเย็นชา – บทที่876 เที๋ยนเที๋ยนที่รัก

บทที่876 เที๋ยนเที๋ยนที่รัก

บทที่876 เที๋ยนเที๋ยนที่รัก

“สิทธิที่จะรู้? เทียบกับร่างกายของคุณแล้ว มันไม่คุ้มที่จะพูดถึงเลยเสียด้วยซ้ำ!”

ถึงแม้น้ำเสียงของจี้จิ่งเชินจะไม่ค่อยดีเท่าไหร่นัก แต่กลับไม่ได้เสียงดัง

การกระทำที่เขากำลังจับมือของเวินเที๋ยนเที๋ยนเอาไว้อยู่นั้นก็มีความอ่อนโยนอยู่มากเช่นกัน

เวินเที๋ยนเที๋ยนไม่ได้สังเกตรายละเอียดเหล่านี้ หรือบางทีเธอจะสังเกตเห็น แต่ไม่ได้สนใจอะไรมากนัก

เธอสนใจเรื่องจดหมายของหลวนจื่อมากกว่า

“แต่ถ้าหากฉันเป็นกังวล ก็จะไม่ดีต่อร่างกายนะคะ ถ้าไม่อย่างนั้นสู้ให้พี่บอกฉันมาดีกว่า ฉันก็จะไม่ต้องคิดมากขนาดนั้น”

ได้ยินแล้ว สีหน้าของจี้จิ่งเชินก็ยิ่งดูแย่ขึ้นกว่าเดิม

เวินเที๋ยนเที๋ยนเรียนรู้ที่จะใช้ร่างกายของตัวเองมาขู่เขาแล้ว!

ใบหน้าที่เคร่งขรึมของจี้จิ่งเชินนั้นไม่ได้เอ่ยพูดอะไรออกมา เวินเที๋ยนเที๋ยนก็อ่านความคิดของเขาไม่ออก จึงเอ่ยถามออกมาอย่างตรงไปตรงมา : “พี่ได้รับจดหมายของหลวนจื่อแล้วใช่ไหมคะ?”

“………….”

จี้จิ่งเชินไม่พูด เพียงแค่ใช้สายตาที่ลึกซึ้งจ้องมองเธอ

ดูแล้วคงจะได้รับแล้วสินะ

เวินเที๋ยนเที๋ยนคิดไตร่ตรองว่าจะเกลี้ยกล่อมจี้จิ่งเชินอย่างไร ถึงจะให้เขาเอาจดหมายออกมา

“ฉันขออ่านหน่อยได้ไหมคะ อ่านแวบเดียวก็ได้?”

เธอยื่นนิ้วชี้ออกมา ทำเป็นท่าทางเลข 1

จี้จิ่งเชินไม่พูดออกมาซักคำ แล้วก็ไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆด้วยเช่นกัน

ดูแล้วคงจะไม่ยอม

เวินเที๋ยนเที๋ยนทำได้เพียงต้องพิงหัวเตียงไป แล้วถอนหายใจออกมา “ไม่รู้ว่าทางหลวนจื่อจะเป็นยังไงบ้าง โรงพยาบาลจะตรวจให้เธอดีหรือเปล่า?”

น้ำเสียงที่เป็นกังวลของเธอนั้นทำให้จี้จิ่งเชินรู้สึกไม่พอใจยิ่งนัก “ทำไมโรงพยาบาลถึงจะไม่ตรวจให้เธอล่ะครับ?”

“แต่ว่าตรวจอะไรบ้างล่ะคะ?” เวินเที๋ยนเที๋ยนเม้มปาก “ไม่รู้ว่าเธอจะเจ็บหรือเปล่า…….”

“…………”

“ตำแหน่งทารกในครรภ์จะตรงหรือยัง จะมีผลต่อการคลอดหรือเปล่า?”

ในที่สุดจี้จิ่งเชินก็ยอม “คุณชนะแล้วเวินเที๋ยนเที๋ยน ตอนนี้ไม่อนุญาตให้คิดเรื่องอะไรมั่วๆพวกนี้แล้วนะ!”

ว่าแล้ว เขาก็เอาจดหมายที่อยู่ในซองที่สวยงามส่งให้เวินเที๋ยนเที๋ยน

เวินเที๋ยนเที๋ยนกำลังจะหยิบไป ก็ถูกเขาเอากลับไปเสียก่อน

“ผมอ่านให้คุณฟังเอง”

อ่านจดหมายก็ย่อมจะเปลืองแรงมากว่าการฟังอยู่แล้ว จี้จิ่งเชินจึงตัดสินใจที่จะอ่านจดหมายให้เวินเที๋ยนเที๋ยนฟังเอง

ส่วนการเขียนจดหมายนั้น ก็ให้เขาเป็นคนเขียนแทนได้

เวินเที๋ยนเที๋ยนได้ยินแล้ว ก็รีบห้ามขึ้นมา “ไม่ได้นะคะ!”

นั่นหลวนจื่อเขียนให้เธอเชียวนะ การติดต่อปฏิสัมพันธ์กันระหว่างพวกเธอจะให้ผู้ชายอย่างจี้จิ่งเชินมาเห็นได้อย่างไรกัน?

แต่เสียดายที่ช้าไปเสียแล้ว

จี้จิ่งเชินฉีกซองจดหมายเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แล้วหยิบจดหมายที่อยู่ในซองออกมา

“เที๋ยนเที๋ยนที่รัก”

จี้จิ่งเชินใช้น้ำเสียงทุ้มต่ำที่เซ็กซี่ของตัวเอง อ่านคำขึ้นต้นออกมา

เวินเที๋ยนเที๋ยนกุมหน้าผากทันที

“ฉันอ่านเองได้ไหม พี่ไม่ต้องอ่านแล้ว!”

เวินเที๋ยนเที๋ยนหน้าแดง

จี้จิ่งเชินถือจดหมายอยู่ พลางเอ่ยถามเธอขึ้นด้วยความสงสัย : “ไม่ใช่ว่าคุณเองก็เคยได้ยินผมอ่านวรรณกรรมนี่นา?”

อ่านวรรณกรรม?

นั่นมันเหมือนกันเสียที่ไหน!

เธอได้ยินจี้จิ่งเชินอ่านวรรณกรรม ตัวเองก็ไม่ได้รู้สึกว่าตัวละครเป็นตัวแทนของเรา แต่ได้ยินเขาอ่านจดหมายที่หลวนจื่อเขียนถึงตัวเองแล้ว มันเป็นความรู้สึกอีกแบบนึงเลย

น่าอายเกินไปแล้ว!

“ไม่ได้ๆ จี้จิ่งเชิน พี่ให้ฉันอ่านเองเถอะนะคะ ฉันรับประกันว่าจะไม่ทำให้ตัวเองเหนื่อยเลย!”

เพียงแค่อ่านจดหมายฉบับเดียวเท่านั้น เธอไม่ได้ทำมาจากกระดาษเสียหน่อย จะเป็นไปได้อย่างไรที่แม้แต่แรงที่จะอ่านจดหมายฉบับเดียวก็จะยังไม่มีเลยแบบนั้น?

ต่อให้จะรู้สึกเหนื่อย เธอเองก็ไม่สามารถให้จี้จิ่งเชินอ่านได้เหมือนกัน นี่เป็นจดหมายที่หลวนจื่อเขียนให้เธอเชียวนะ เธอเชื่อว่าแม้แต่หมินอันเกอก็ยังไม่เคยได้อ่านเสียด้วยซ้ำ!

เสียงของเวินเที๋ยนเที๋ยนนั้นขาดหายไปเพราะความอ่อนเพลีย

แต่กลับดูมีความออดอ้อน

จี้จิ่งเชินมองเธออย่างเงียบๆ แล้วมองแววตาที่อ้อนวอนของร้องของเธอ

ครุ่นคิดอยู่พักหนึ่ง ก็ยังเลือกที่จะยอม “ผมให้คุณอ่านก็ได้…..”

พูดมาถึงตรงนี้ เขาตั้งใจที่จะเว้นวรรค แล้วเหลือบมองเวินเที๋ยนเที๋ยนโดยที่เธอไม่ทันได้สังเกตเห็น

เป็นเพราะคำพูดของเขานั้นทำให้แววตาของเธอเป็นประกายขึ้นมา แม้แต่ดูจะมีชีวิตชีวาขึ้นมาอีกด้วย

ไม่อยากให้เขาอ่านให้เธอฟังขนาดนี้เลยหรือ?

จี้จิ่งเชินรู้สึกไม่สบอารมณ์อยู่บ้าง

“ถ้าหากร่างกายของคุณรับไม่ไหวอีกล่ะก็ ครั้งต่อไปผมจะไม่เอาจดหมายของหลวนจื่อให้คุณอีกแล้วนะครับ”

ช่องว่างที่จะให้ปรึกษากันซักหน่อยก็ไม่มีเลย

เวินเที๋ยนเที๋ยนมองชายหนุ่มที่ย้ำแล้วย้ำอีกตรงหน้า แล้วต้องพยักหน้าลงอย่างเชื่อฟัง “ตอนนี้พี่จะเอาจดหมายให้ฉันได้หรือยังคะ?”

เธออยากรู้จะแย่อยู่แล้วว่าหลวนจื่อเขียนอะไรมาให้เธอ

จี้จิ่งเชินจึงหยิบกระดาษจดหมายนั้นขึ้นมา

เวินเที๋ยนเที๋ยนที่จดจ้องอยู่กับจดหมายฉบับนั้น เหมือนกับเด็กตะกละที่กำลังให้ความสนใจกับลูกอมที่ชอบอยู่อย่างไรอย่างนั้น

เขาอดที่จะยกริมฝีปากขึ้นอย่างขำๆไม่ได้

“ให้คุณครับ” จี้จิ่งเชินยังคงไม่วางใจอยู่บ้าง พลางสั่งขึ้นมาอีก “จำสิ่งที่ผมบอกเอาไว้นะ”

เวินเที๋ยนเที๋ยนถือจดหมายแล้วพยักหน้าลงติดๆกัน

จดหมายถูกแกซองออกไปแล้ว และยังถูกจี้จิ่งเชินอ่านไปประโยคนึงแล้วด้วย

แต่ก็ไม่สามารถที่จะขัดขวางอารมณ์แห่งความสุขนี้ของเวินเที๋ยนเที๋ยนได้เลยแม้แต่นิดเดียวเช่นกัน เธออ่านเนื้อหาในจดหมายตั้งแต่ต้นจนจบหนึ่งครั้ง

สีหน้าท่าทางของเธอนั้นดูจดจ่อเป็นอย่างมาก ราวกับกำลังทำเรื่องใหญ่เรื่องหนึ่งอยู่เลยอย่างไรอย่างนั้น

“อ่านจบหรือยังครับ?”

จี้จิ่งเชินมองเวินเที๋ยนเที๋ยนอย่างสงสัย

ในจดหมายฉบับนี้ เป็นกระดาษแค่แผ่นเดียว อย่างมากๆก็มีตัวอักษรประมาณร้อยกว่าตัวเท่านั้น

แต่เวินเที๋ยนเที๋ยนกลับอ่านไปเป็นสิบนาที!

เขาไม่ได้เอ่ยพูด เป็นเพราะสีหน้าของเวินเที๋ยนเที๋ยนนั้นนับว่าไม่ได้แย่ แล้วก็ไม่ได้ดูเหนื่อยจากการอ่านจดหมายด้วย

เพียงแต่ตัวอักษรร้อยกว่าตัวอ่านสิบนาที……

เธอแทบจะท่องจดหมายฉบับนี้ได้แล้วล่ะมั้ง?

จากเสียงกระตุ้นของจี้จิ่งเชิน เวินเที๋ยนเที๋ยนก็วางจดหมายลงด้วยความอาลัยอาวรณ์

แม้ว่าจี้จิ่งเชินจะไม่ได้เอ่ยถามเนื้อหาในจดหมาย แต่เธอก็ยังคงแบ่งปันความสุขออกมาด้วยความเคยชิน

“หลวนจื่อบอกว่าตำแหน่งทารกในครรภ์เธอตรงแล้วนะคะ เพียงแค่ต้องดูแลครรภ์ให้ดีก็ไม่มีอันตรายอะไรแล้ว!”

เวินเที๋ยนเที๋ยนเอ่ยออกมาด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความดีใจ

จี้จิ่งเชินอืมตอบรับ เดิมทีสถานการณ์ของหลวนจื่อนั้นไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรอยู่แล้ว ก่อนหน้านี้เขากับหมินอันเกอเข้าใจสถานการณ์นี้ที่โรงพยาบาลกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

เวินเที๋ยนเที๋ยนเองต่างหากที่ทำเรื่องนี้เป็นเหมือนกับภัยพิบัติอย่างไรอย่างนั้น

คิดเช่นนี้แล้ว จี้จิ่งเชินก็กลัวว่าเธอจะยังเป็นกังวลอยู่ จึงเอ่ยพูดขึ้นมา “หลวนจื่อแข็งแรงมาก คุณไม่ต้องเป็นห่วงเธอหรอกครับ”

เวินเที๋ยนเที๋ยนพยักหน้าลงเล็กน้อย ในจดหมายหลวนจื่อก็พูดกับเธอแบบนี้เหมือนกัน

ให้เธอไม่ต้องเป็นกังวล

ถึงแม้ว่าในใจจะเข้าใจ ว่าร่างกายของหลวนจื่อนั้นคงจะได้รับการดูแลเป็นอย่างดี แต่ก็ยังคงรู้สึกเป็นกังวลอยู่บ้างไม่มากก็น้อย

แต่ตรงจุดนี้ เธอจะไม่แสดงอาการออกมา เพื่อเลี่ยงการที่จี้จิ่งเชินจะว่าเธออีก

เวินเที๋ยนเที๋ยนกระพริบตาใส่จี้จิ่งเชิน “อยากจะรบกวนพี่ให้ช่วยหยิบกระดาษกับปากกาให้ฉันหน่อยได้ไหมคะ?”

เธอพูดออกมาอย่างเกรงใจ

แล้วจี้จิ่งเชินจะยอมได้อย่างไร

“ผมให้คุณอ่านจดหมายแล้ว ส่วนเรื่องการเขียนจดหมาย ให้เป็นหน้าที่ผมนะ”

ว่าแล้ว จี้จิ่งเชินก็เอาจดหมายที่อยู่ในมือของเวินเที๋ยนเที๋ยนมา “คุณแค่อ่าน ผมเขียนเอง”

เขาพับจดหมายลง แล้วใส่ลงไปในซองจดหมายที่เปิดแล้ว

จากนั้นก็เอาซ่อนไว้ในกระเป๋า

เวินเที๋ยนเที๋ยนตกตะลึงตาค้างจนพูดไม่ออก “พี่ พี่ทำอะไรน่ะ?”

“เพื่อป้องกันไม่ให้คุณอดใจไม่ไหวแล้วหยิบออกมาอ่านซ้ำอีกไงครับ” จี้จิ่งเชินลุกขึ้น “ผมจะเก็บมันให้ดี รอให้ร่างกายของคุณดีแล้วอยากจะอ่านยังไงก็ได้หมด”

เวินเที๋ยนเที๋ยน : “……….”

รู้สึกร้อนตัวอยู่บ้าง

ทำไมจี้จิ่งเชินถึงรู้ว่าเธอจะอาศัยตอนช่วงที่เขาไม่อยู่อ่านจดหมายอีกกัน?

เธอเอาแต่นอนอยู่บนเตียงแบบนี้มันน่าเบื่อเกินไปแล้วจริงๆ กลัวว่าเธอจะเหนื่อย จี้จิ่งเชินก็เก็บสื่อที่เธอเอาไว้อ่านฆ่าเวลาก่อนหน้านี้ออกไปหมด

แม้แต่กระดานโกโมกุและเกมลูโดก็ไม่ให้เธอเล่นอีกด้วย

ได้อ่านจดหมายหลวนจื่อทั้งที เธอก็ยังหวังว่าจะอาศัยมันฆ่าเวลาได้บ้าง

ผลปรากฏว่าถูกจี้จิ่งเชินเก็บไปอีก

เมียหวานของประธานเย็นชา

เมียหวานของประธานเย็นชา

Status: Ongoing

“คุณจะคิดแบบนี้ไปถึงเมื่อไรถึงจะกลับบ้านได้?” จี้จิ่งเชินพูดออกมาอย่างจนใจ เขารีบมาที่นี่ทันทีตั้งแต่รับสาย และยืนดูเธอเดินวนคิดเป็นหนูติดจั่นแบบนี้มาครึ่งชั่วโมงแล้ว เธอไม่กล้าออกมา เพราะเธอกลัวว่าถ้าเขารู้เรื่องเข้า เขาจะทำอย่างไร สุดท้ายสิ่งที่เขาทำ คือ จูบหน้าผากของเธอ “ผมเชื่อคุณ… ไม่ต้องอธิบายอะไร ผมก็เชื่อคุณ”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท