เมียหวานของประธานเย็นชา – บทที่ 930 เข้มงวดเกินไป?

บทที่ 930 เข้มงวดเกินไป?

บทที่ 930 เข้มงวดเกินไป?

ในปราสาทเก่า

จี้หยู๋ชิงโตขึ้นทุกวัน ใบหน้ากลมเล็กที่มักหน้านิ่งอยู่ตลอดเวลานั้นคล้ายกับจี้จิ่งเชินในวัยเด็กเป็นอย่างมาก

พ่อบ้านทำราวกับว่าเป็นหลายชายของตัวเองวิ่งตามอยู่ด้านหลังจี้หยู๋ชิงทุกวัน

แม่ครัวยิ่งไปกันใหญ่ รักและทะนุถนอมเป็นอย่างมาก เตรียมพร้อมทำอาหารอร่อยๆ ให้นายน้อยตลอดทั้งวันยี่สิบสี่ชั่วโมง

เพราะจี้หยู๋ชิงเคยดื่มซุปของเธอแล้วยิ้มอยู่สองวินาที

เวินเที๋ยนเที๋ยนเพียงสอนจี้หยู๋ชิงพูดอยู่ซ้ำๆ ทุกวัน แต่จี้หยู๋ชิงกลับยังคงปิดปากแน่น

ตอนนี้ดีขึ้นแล้ว ไม่ร้องไห้ไม่งอแงไม่พูด รอยยิ้มก็ตระหนี่กว่าจะให้กันสักครั้ง

หากไม่ใช่เพราะหมอได้ตรวจซ้ำแล้วซ้ำอีกเพื่อยืนยันว่าเส้นเสียงของเขาไม่มีปัญหา เวินเที๋ยนเที๋ยนคงคิดว่าจี้หยู๋ชิงมีปัญหาทางร่างกายไปแล้ว

เมื่อทานข้าวเสร็จ เวินเที๋ยนเที๋ยนก็พาจี้หยู๋ชิงไปอาบแดดในสวน

จี้จิ่งเชินให้คนเตรียมผ้าห่มผืนเล็ก ที่ห่มไว้ที่ตัวลูกได้พอดีขณะกำลังพักผ่อน

พื้นที่กว้างขวางของปราสาทเก่า สนามหญ้าโดยรอบถูกตัดแต่งเรียบร้อยแล้ว ตอนนี้เป็นช่วงต้นฤดูร้อน เห็นพื้นที่สีเขียวไกลสุดสายตา ทำให้รู้สึกสบายทั้งร่างกายและจิตใจ

สวนดอกไม้ขนาดใหญ่ล้อมรอบปราสาทเก่า สวนดอกกุหลาบไม้เลื้อย และน้ำตกหินต่างๆ ที่ติดกับกำแพงของปราสาทเก่า ยังมีคฤหาสน์หรูหราสำหรับสุนัข

นั่นคือคฤหาสน์หลังเล็กที่เวินเที๋ยนเที๋ยนซื้อกลับมาให้ลูกสุนัขลายด่างของจี้หยู๋ชิง

หลังจากผ่านการปลูกฝังความรักมาระยะหนึ่งแล้ว จี้หยู๋ชิงก็ปฏิบัติกับลูกสุนัขไม่เหมือนเดิมเล็กน้อย ไม่ได้มองข้ามอีกต่อไปแล้ว

แต่เล่นกันเป็นครั้งคราวเท่านั้น

แม้กระทั่งลูบคลำลูกสุนัขก็หาได้ยาก ถ้าหากว่ามี มื้อเย็นของวันนั้นก็จะมีปริมาณเพิ่มมากขึ้นเล็กน้อย

เวินเที๋ยนเที๋ยนวางจี้หยู๋ชิงลงแล้วก็นั่งลงอ่านหนังสือต่ออยู่ข้างๆ

นี่เป็นครั้งแรกที่เธอได้เห็นเครื่องเคลือบสีดำที่ท่านเปิงกับท่านจางมอบให้มา จึงต้องศึกษาอย่างรอบคอบ

เสี่ยวหยู๋ชิงคลานได้แล้ว แต่ก็ขยับตัวทำน้อยมาก

ทุกครั้งที่เวินเที๋ยนเที๋ยนอยากให้เขาคลานเข้ามาหา ต้องหลอกล่อแล้วหลอกล่ออีกถึงจะสำเร็จ

กำลังออกมาได้ไม่นานหลังจากนั้น ลูกสุนัขลายด่างก็ดมกลิ่นออกจากบ้านมา ส่ายหางแล้วมองไปที่เจ้านายตัวน้อย

“หยู๋ชิงนิวนิวยังไม่ได้ทานอาหารเลย”

นิวนิวคือชื่อใหม่ของลูกสุนัขลายด่าง

เวินเที๋ยนเที๋ยนรับอาหารสุนัขหนึ่งถุงจากพ่อบ้านมา จับมือของจี้หยู๋ชิงแล้วพูดกับเขา

“ชิงชิง อยากให้อาหารมันด้วยตัวเองไหม?”

ชี้ไปที่ชามที่อยู่ในมุม เวินเที๋ยนเที๋ยนยังดูว่าจี้หยู๋ชิงสามารถเข้าใจคำพูดของเธอได้หรือไม่

น่าเสียดายที่จี้หยู๋ชิงแค่ปราดตามอง

นิวนิวกลับวิ่งไปคาบชามอาหารของตัวเองมาอย่างกระตือรือร้น วางลงข้างหน้าและมองจี้หยู๋ชิงอย่างคาดหวัง

มือเล็กของจี้หยู๋ชิงกำอาหารเม็ดแล้วปล่อยลงในชาม

มีแค่ไม่กี่เม็ดเท่านั้นนิวนิวกินเสร็จในพริบตาเดียว

“มา พวกเราให้อาหารนิวนิวด้วยกันเถอะ” เวินเที๋ยนเที๋ยนนั่งยองๆ จับมือเล็กของจี้หยู๋ชิงเทอาหารเม็ดของในชามจำนวนหนึ่ง

มือเล็กที่อ่อนนุ่มในมือ เวินเที๋ยนเที๋ยนเหม่อลอยไปเล็กน้อย

ในสวนยังไก่บางอยู่ไม่กี่ตัว ส่งเสียงร้องแล้ววิ่งมาแย่งอาหารลูกสุนัข

จี้หยู๋ชิงพุ่งไปข้างหน้า ขาเล็กๆ ทำท่าเตะออกไป ทำให้พวกไก่ตกใจวิ่งกระเจิงไปคนละทาง ในที่สุดเขาก็หัวเราะออกมา แล้วไล่ตามไก่ไป

เวินเที๋ยนเที๋ยนได้ยินเสียงหัวเราของจี้หยู๋ชิง ในใจก็รู้สึกผ่อนคลายลงเล็กน้อย

จี้หยู๋ชิงไล่ตามไก่ไป ในตอนนั้นระบบให้น้ำอัตโนมัติในสวนเปิดอยู่ สปริงเกอร์หมุนแล้วพ่นน้ำพุเย็นๆ ออกมา

จี้หยู๋ชิงวิ่งไปที่ตรงนั้นพอดี น้ำพรมใส่ศีรษะเขาก็หยุดฝีเท้าลง

เวินเที๋ยนเที๋ยนเห็นดังนั้นจึงรีบเข้าไปอุ้มเขาไปไว้ที่ที่น้ำสาดไปไม่ถึง ตรงนี้แสงแดดกำลังดี

“อยู่ตรงนี้ อย่าไปไหน”

เมื่อเห็นหยดน้ำบนศีรษะของเขา เวินเที๋ยนเที๋ยนก็หมุนตัวรีบวิ่งกลับไปที่ห้องโถงใหญ่ เธอจำได้ว่าบนโซฟามีผ้าขนหนูผืนหนึ่งวางอยู่

จี้หยู๋ชิงที่เปียกโชกไม่ได้ร้องไห้ แต่กลับจ้องไปที่เงาของต้นไม้ใหญ่ที่พาดผ่าน

จี้หยู๋ชิงอยากเข้าไปดู กำลังจะยกเท้าขึ้น ก็คิดถึงคำพูดของเวินเที๋ยนเที๋ยนเที๋ยน ให้เขาอยู่นิ่งๆ

จึงได้แต่จ้องบริเวณนั้นต่อไป

เวินเที๋ยนเที๋ยนเช็ดตัวให้จี้หยู๋ชิง ผมหยิกทั้งศีรษะถูกเช็ดจนยุ่งเหยิงไปมา

เจ้าหนุ่มน้อยหลบเลี่ยงเงื้อมมือของแม่ แต่เวินเที๋ยนเที๋ยนกลับอยากแกล้งอีก แล้วจั๊กจี้เขายิ้มๆ

จี้หยู๋ชิงเม้มริมฝีปากสีแดงสดแน่น

“เฮอะ ฉันไม่เชื่อหรอก”

เวินเที๋ยนเที๋ยนใช้นิ้วมือไว้ที่ริมฝีปากแล้วเป่า ก่อนจะจั๊กจี้เขาต่อ

จี้หยู๋ชิงหลบซ้ายขวาด้วยรอยยิ้ม กลั้นหัวเราะไม่ไหวอีกต่อไป ในที่สุดก็หัวเราะออกมาเสียงดัง

พ่อบ้านและแม่ครัวมองผ่านหน้าต่างที่สูงจากพื้นจรดเพดานในห้องโถงใหญ่ แม่กับลูกชายกอดกันในลานบ้าน หัวเราะอย่างมีความสุข

ทั้งสองคนสบตากัน แล้วลอบยิ้มให้กันอย่างรู้กัน

ในคืนนั้นเวินเที๋ยนเที๋ยนยังอารมณ์ดีตุ๋นซุปเนื้อปลาด้วยตัวเองใช้เนื้อปลาที่ไม่มีก้าง จี้หยู๋ชิงก็สามารถดื่มได้

จี้จิ่งเชินมองจี้หยู๋ชิงที่กำลังก้มหน้าก้มตาดื่มน้ำซุป บอกให้ช้าๆ ด้วยสีหน้านิ่งเรียบ พลางยกนิ้วโป้งให้เวินเที๋ยนเที๋ยน

นานแล้วที่ไม่ได้ดื่มซุปเนื้อปลาของเวินเที๋ยนเที๋ยน รสชาติยังคงสดอร่อยเหมือนเดิม

ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นประโยชน์ของจี้หยู๋ชิง

จี้จิ่งเชินเคืองเป็นอย่างมาก ก่อนหน้านี้เขาเคยอ้อนอยากกินซุปเนื้อปลาที่เวินเที๋ยนเที๋ยนทำเอง

วันต่อมาก็ได้ดื่มจริงๆ แต่ว่าเขาลองชิมก็รู้แล้วว่านี่คือฝีมือของแม่ครัว

และเวินเที๋ยนเที๋ยนกำลังยุ่งอยู่กับการเลือกเสื้อผ้าให้จี้หยู๋ชิง

เขาส่ายหน้า รีบดื่มซุปในถ้วยจนหมด

เพราะจี้หยู๋ชิงที่อยู่ตรงหน้าดื่มของตัวเองหมดแล้ว แล้วส่งถ้วยให้กับเวินเที๋ยนเที๋ยนที่อยู่ข้าง อยากจะดื่มอีกถ้วยหนึ่ง

เห็นลูกชายของตัวเองให้เกียรติต้องการดื่มอีกถ้วยขนาดนี้ เวินเที๋ยนเที๋ยนจึงตักให้เขาอีกครึ่งถ้วย

จี้จิ่งเชินเองก็ดื่มซุปในถ้วยรวดเดียวจนหมด แล้วยื่นถ้วยไปตรงหน้าเวินเที๋ยนเที๋ยน

บอกใบ้ว่าเขาก็ต้องการให้เธอตักซุปให้

ซุปอยู่ตรงกลางระหว่างทั้งสองคนแท้ๆ กลับต้องการให้ตัวเองตักให้

เวินเที๋ยนเที๋ยนยิ้มอย่างจนใจ ตักให้เขาถ้วยใหญ่ คนขี้หึงตรงหน้าถึงจะพอใจ

“ทานข้าวอย่าส่งเสียงดัง”

จี้จิ่งเชินได้ยินจี้หยู๋ชิงดื่มน้ำซุปเสียงดัง จึงเอ่ยบอกหน้านิ่ง

แม้ว่าจี้หยู๋ชิงยังพูดไม่ได้ แต่เห็นได้ชัดว่าสามารถเข้าใจท่าทางอีกฝ่ายจากน้ำเสียงได้ สามารถเข้าใจคำพูดได้บางคำ

สายตาสั่นไหว ท่าทางดื่มน้ำซุปก็เงียบลงไปมาก

“นั่งหลังตรง ยืดอกเงยหน้า”

จี้จิ่งเชินตามด้วยเอ่ยปากแก้ไขท่านั่งที่กดเป็นก้อนกลมของเขาทันที

แต่ตอนนี้จี้หยู๋ชิงอายุเพียงหนึ่งขวบครึ่งเท่านั้น แม้ว่าจะคลานได้แล้ว แต่ถ้าจะให้นั่งหลังตรงนั้น ความจริงแล้วยังคงลำบากอยู่เล็กน้อย……

เวินเที๋ยนเที๋ยนกำลังจะเอ่ยโน้มน้าว เจ้าหนุ่มน้อยได้ยินดังนั้น ก็ยืดหน้าอดของตัวเองขึ้นช้าๆ แผ่นหลังค่อยๆ ตั้งตรง

เวินเที๋ยนเที๋ยนหรี่ตามองจี้จิ่งเชินอย่างไม่พอใจ แต่ก็ไม่ได้เอ่ยปากโต้แย้งอะไร

รอกระทั่งจี้หยู๋ชิงหลับไปแล้ว จี้จิ่งเชินจึงดึงเวินเที๋ยนเที๋ยนเข้ามาอธิบาย

“คุณคิดว่าผมเข้มงวดกับหยู๋ชิงเกินไปใช่ไม่ใช่?”

เวินเที๋ยนเที๋ยนพยักหน้า ยังคงโกรธเพราะเรื่องนี้

เด็กเล็กขนาดนั้น แค่ขวบนิดๆ ต้องเข้มงวดขนาดนั้นเลยเหรอ?

“เขายังเด็ก”

“ต้องสอนตั้งแต่เด็กๆ” พูดพลางใช้นิ้วบีบปลายจมูกเธอ นี่เป็นการกระทำที่ใกล้ชิดระหว่างทั้งสองคน ทุกครั้งที่จี้จิ่งเชินบีบจมูกเธอแบบนี้ ความโกรธของเธอก็หายไปหมดแล้ว

เมียหวานของประธานเย็นชา

เมียหวานของประธานเย็นชา

Status: Ongoing

“คุณจะคิดแบบนี้ไปถึงเมื่อไรถึงจะกลับบ้านได้?” จี้จิ่งเชินพูดออกมาอย่างจนใจ เขารีบมาที่นี่ทันทีตั้งแต่รับสาย และยืนดูเธอเดินวนคิดเป็นหนูติดจั่นแบบนี้มาครึ่งชั่วโมงแล้ว เธอไม่กล้าออกมา เพราะเธอกลัวว่าถ้าเขารู้เรื่องเข้า เขาจะทำอย่างไร สุดท้ายสิ่งที่เขาทำ คือ จูบหน้าผากของเธอ “ผมเชื่อคุณ… ไม่ต้องอธิบายอะไร ผมก็เชื่อคุณ”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน