เวินเที๋ยนเที๋ยนพอเห็นบอดี้การ์ดที่คุ้นเคย ก็เดาได้แล้วว่า จี้จิ่งเชินมาแล้ว
ได้ยินแบบนี้ ก็พยักหน้า เดินตามพวกเขาไปหลังเวที มาถึงห้องเดียวกับการแข่งขันครั้งก่อน พอเข้าไป ก็เห็นจี้หยู๋ชิงรออยู่ด้านในแล้ว
“แม่จ๋า!”
จี้หยู๋ชิงเห็นเธอแล้ว ก็ตะโกนอย่างตื่นเต้น
วิ่งไปทางเวินเที๋ยนเที๋ยน และกางแขนออก
“สวดยอก! สวดยอก!” เขาพูดจาออดอ้อน
ปกตินิสัยของจี้หยู๋ชิงเฉยๆมาก น้อยครั้งที่จะมีอารมณ์ตื่นเต้นแบบนี้
แต่เพราะวันนี้พอเห็นการแข่งขันของเวินเที๋ยนเที๋ยนกับมัตสึโมโตะ ฮิโรฮิโตะ ถึงได้ตื่นเต้นแบบนี้
ยิ่งไปกว่านั้นเมื่อกี้ตอนอยู่ระหว่างทาง ยังถามเกี่ยวกับจี้จิ่งเชินไม่หยุด ว่าควรจะพูด “สุดยอด” สองคำนี้ยังไง
เรียนมาตลอดทาง ก็ถึงได้ออกเสียง “สวดยอก” ไม่ค่อยชัดเท่าไหร่แต่ก็พอฟังออก
เวินเที๋ยนเที๋ยนได้ยินแล้ว ก็ตกใจเล็กน้อย แต่ประหลาดใจมากกว่า
“ใครสอนลูกเนี้ย”
จี้หยู๋ชิงชี้ไปที่จี้จิ่งเชินอย่างไม่สบอารมณ์
จี้จิ่งเชินเห็นสีหน้าของเขา ก็ขมวดคิ้ว รู้สึกเหนื่อยใจ
เด็กคนนี้ ใช้เสร็จก็ทิ้งเลยนะ
เสียแรงที่ตัวเองสอนเขาอย่างอดทนตลอดทั้งทาง
ไม่คิดเลยว่าจะลืมเร็วขนาดนี้
จี้จิ่งเชินมองค้อนเขา จี้หยู๋ชิงไม่กลัวหรอกนะ สายตามีแต่เวินเที๋ยนเที๋ยนคนเดียว ดวงตาเขาเปล่งประกาย มองเธอเป็นไอดอลตั้งนานแล้ว
ตั้งแต่เวินเที๋ยนเที๋ยนเข้าแข่งขัน ทุกการแข่งเขาก็รู้สึกตะลึงมาก เปิดโลกทัศน์มากด้วย ที่แท้แม่ก็มีภาพแบบนี้ด้วย
จี้จิ่งเชินเห็นแล้ว ก็ไม่รู้ว่าการแข่งครั้งนี้เป็นเรื่องดีหรือไม่ดี
ตั้งแต่ดูการแข่งแล้ว เวินเที๋ยนเที๋ยนก็ยกระดับกลายเป็นคนที่จี้หยู๋ชิงนับถือที่สุด ไม่เกี่ยวอะไรกับจี้จิ่งเชินเขาเลย
เห็นตอนนี้เขากอดเวินเที๋ยนเที๋ยน มองเขาด้วยสายตาเปล่งประกาย
ในใจรู้สึกหึง ก็ยื่นมือไปจับเขาขึ้นมา โอบกอดเอาไว้
จี้หยู๋ชิงขัดขืนยังไง ก็ไม่ยอมปล่อยมือ
ไม่สนใจการขัดขืนเล็กน้อยนั้น จี้จิ่งเชินถามว่า: “เธอไม่เป็นไรนะ? ต้องไปตรวจสอบที่โรงพยาบาลหรือเปล่า?”
เวินเที๋ยนเที๋ยนได้ยินแล้ว ก็เข้าใจทันที
“นายรู้แล้วเหรอ?”
“เรื่องใหญ่แบบนี้ ฉันจะไม่รู้ได้ยังไง?”
จี้จิ่งเชินพูด: “ฉันรู้จากพ่อบ้านว่าเธอให้เขาไปตรวจสอบสิ่งของ ก็พอเดาได้แล้วล่ะ”
เวินเที๋ยนเที๋ยนพยักหน้า พูดด้วยรอยยิ้มว่า: “นายวางใจได้ น้ำที่วางยานั้นฉันไม่ได้ดื่ม ยังดีที่ก่อนหน้านี้นายเตือนฉันเอาไว้ ไม่งั้นคงเกิดเรื่องแน่”
จี้จิ่งเชินขมวดคิ้วเป็นปม เรื่องนี้ไม่ได้ง่ายเหมือนที่เวินเที๋ยนเที๋ยนคิด
ตอนแรกคิดว่านี่เป็นแข่งแลกเปลี่ยนในโลกวิชาการ แต่ไม่คิดว่า มีคนเจตนาร้ายอยู่เช่นกัน และเกือบทำให้เวินเที๋ยนเที๋ยนเป็นอันตราย
วันนี้เธออาจจะดื่มน้ำที่วางยาถ่ายเข้าไป พรุ่งนี้อาจจะเป็นยาพิษก็ได้……
พอนึกถึงยาพิษสองคำนี้ จี้จิ่งเชินก็กำหมัดแน่นทันที
นัยน์ตาสีดำนั้นมืดมนลง เย็นเหมือนน้ำแข็ง
เขาจะไม่ให้เกิดเรื่องซ้ำรอยได้! และจะไม่ให้เวินเที๋ยนเที๋ยนเป็นอันตรายอีก!
เรื่องนี้ จี้จิ่งเชินตัดสินใจแล้ว
เวินเที๋ยนเที๋ยนกลับไม่รู้เลยว่าจี้จิ่งเชินคิดอะไรอยู่ เธอถอนหายใจ
“การแข่งวันนี้นายก็เห็นแล้วใช่ไหม? ฝีมือการบูรณะของมัตสึโมโตะ ฮิโรฮิโตะถือว่าใช้ได้เลย แต่กลับมีใจอยากชนะมากเกินไป จึงทำให้เลือกใช้ทางผิด ฉันเคยเจอเหตุการณ์แบบนี้มาเยอะแล้ว น่าเสียดายจริงๆ”
“อันที่จริง ถ้าวันนี้เขาไม่ได้คิดถึงแต่เรื่องเวลาออกฤทธิ์ของยาถ่าย ด้วยความสามารถจริงของตัวเอง ก็อาจจะชนะฉันได้นะ”
จี้จิ่งเชินได้ยินแล้ว ก็รู้สึกเหนื่อยใจ สายตาเต็มไปด้วยความเอ็นดู
“เขาเกือบทำร้ายเธอ เธอยังพูดแบบนี้อีก?”
เวินเที๋ยนเที๋ยนยิ้มและพูดว่า: “นี่ก็เป็นเรื่องจริง ฝีมือการบูรณะระหว่างฉันกับเขาสูสีกันมาก”
พึ่งพูดจบ จี้หยู๋ชิงก็ส่งเสียงอีอีอาอาขึ้นมา
เวินเที๋ยนเที๋ยนไม่เข้าใจ
แต่จี้จิ่งเชินกลับเข้าใจที่เขาพูด จึงอธิบายว่า: “เขาจะบอกว่า เธอเก่งที่สุด”
“อืม!”
จี้หยู๋ชิงพยักหน้าอย่างแน่วแน่
เวินเที๋ยนเที๋ยนได้ยินแล้ว ก็หัวเราะ ลูบหัวจี้หยู๋ชิงเบาๆ
“เสี่ยวหยู๋ชิงก็เก่งเหมือนกัน”
จี้จิ่งเชินกลับกระตุกยิ้มพูดว่า: “ไม่รู้ว่าเรียนมาจากไหน ตัวแค่นี้ก็รู้จักประจบแล้ว”
“ฮึ!”
จี้หยู๋ชิงไม่พอใจมาก เขาจับมือเวินเที๋ยนเที๋ยน เข้าไปอยู่ในอ้อมกอดเธออีกครั้ง
หันหลังไป หันก้นให้จี้จิ่งเชิน ไม่สนใจเข้าอีก
เห็นท่าทีเขาแบบนี้ จี้จิ่งเชินก็กัดฟันกรอด
และในตอนนี้เอง ประตูห้องก็ถูกเคาะเสียงดัง
จี้จิ่งเชินชะงัก เงยหน้าไปมอง
ยังไม่รอพวกเขาได้พูด ด้านนอกก็มีเสียงที่คุ้นเคยดังขึ้น
“เที๋ยนเที๋ยน? เที๋ยนเที๋ยน? เธออยู่ด้านในไหม?”
เป็นหลวนจื่อ
เวินเที๋ยนเที๋ยนหันไปมองอย่างตกใจ
ปกติตอนที่ตัวเองแข่ง หลวนจื่อก็ทำงาน อยู่ที่แฟชั่นโชว์ตลอด ดังนั้นจึงทำได้แค่เป็นดูจากการออกอากาศหรือถ่ายทอดสด
พอแข่งเสร็จแล้ว ก็จะพูดคุยกับเธอตลอด
ไม่คิดว่า วันนี้เธอจะมาได้
พอประตูเปิดออก หลวนจื่อก็เดินเข้ามา และยังอุ้มโดร์โดร์มาด้วย
โดร์โดร์มัดผมหางม้าน่ารัก บนหัวยังติดกิ๊บรูปผีเสื้อ น่ารักเหมือนตุ๊กตาในการ์ตูน
ยิ้มอ่อนๆ ดวงตาก็โค้งๆ มุมปากยังมีลักยิ้มน่ารักสองข้างอีก ใครเห็นก็ต้องหลงใหลทั้งนั้น
เธอเดินเข้ามา ก็ไปตามหารอบๆห้อง
พอเห็นจี้หยู๋ชิง รอยยิ้มก็กว้างขึ้นไปอีก ดีใจกางแขนออก
“ชิงชิง ชิงชิง”
หลวนจื่อเดินไปถึงครึ่ง ก็ได้ยินโดร์โดร์เรียกแต่จี้หยู๋ชิง ก็ทำเป็นไม่พอใจ ทำแก้มป่อง
“โดร์โดร์ ทำไมถึงคิดถึงแต่จี้หยู๋ชิงล่ะ? แม่อุ้มลูกมา เหนื่อยมากเลยนะ!”
โดร์โดร์ได้ยินแล้ว ก็รีบหันไปกอดคอหลวนจื่อไว้ จุ๊บแก้มเธอหลายครั้ง
“แม่จ๋า โดร์โดร์รักแม่จ๋าที่สุดแล้วนะ”
หลวนจื่อก็พอใจ
“ต้องแบบนี้สิ”
ว่าแล้ว ก็อุ้มเธอไปตรงหน้าเวินเที๋ยนเที๋ยน
เวินเที๋ยนเที๋ยนเห็นเด็กคู่นี้ ก็อดไม่ได้หัวเราะออกมา ไม่เคยเห็นแม่คนไหนหึงลูกสาวแบบนี้เลย
แต่เรื่องแบบนี้ในบ้านของเธอ ก็เกิดขึ้นกับจี้จิ่งเชินและจี้หยู๋ชิงบ่อยๆไม่ใช่เหรอ?
ก็ไม่แปลกแล้วล่ะ
“วันนี้เธอมาได้ยังไงกัน? ไม่มีงานแล้วเหรอ?”
หลวนจื่อพยักหน้าพูดว่า: “พึ่งรับแฟชั่นโชว์ไป หลังจากสองสามวันนี้ มีเวลาพักผ่อนสองวัน ฉันเลยตั้งใจซื้อตั๋ว พาโดร์โดร์มาดูการแข่งขัน”
“เธออยู่ในงานตลอดเลยเหรอ?” เวินเที๋ยนเที๋ยนพูดขึ้นอย่างตะลึง: “ทำไมไม่บอกฉันก่อนล่ะ?”
หลวนจื่อเกาหัวอย่างรู้สึกผิด
“พวกเราออกมาช้าน่ะ การแข่งขันเริ่มต้นไม่กี่นาที ค่อยมาถึง แต่การแข่งขันวันนี้ก็ตื่นเต้นมากเลยนะ เกือบแพ้เลย ยังดีที่ฝีมือเธอดีกว่า”
เธอยกแขนขึ้น พูดอย่างตื่นเต้นว่า: “ฉันบอกแล้วไง ไม่มีปัญหาแน่นอน”