“คุณรู้ได้ยังไง?”
“เมื่อกี้ฉันเห็นมีผู้หญิงต่างชาติคนหนึ่งพยุงคุณจี้เข้ามาในโรงแรม” เธอยกหน้าขึ้นมามองเวินเที๋ยนเที๋ยนแล้วถาม “คุณเวิน ความสัมพันธ์ของพวกคุณยังดีอยู่ใช่ไหม?”
“ก็ดีอยู่นะ”
เวินเที๋ยนเที๋ยนพยักหน้า ไม่ได้กังวลเลยสักนิด
แต่พนักงานหน้าเคาน์เตอร์กลับพูดเสริมาอีก “คุณเวิน ไม่ใช้ฉันจะว่านะแต่คุณต้องระวังหน่อย เมื่อกี้ฉันเห็นผู้หญิงคนนั้นพิงอยู่บนตัวจี้จิ่งเชินอย่างอ่อนช้อย ความสัมพันธ์ทั้งสองคนสนิทสนมกันมากแถมยังบอกอีกว่าห้ามให้คนอื่นเห็นพวกเขา ฉันว่าพวกเขาต้องมีพิรุธอะไรสักอย่าง!”
เวินเที๋ยนเที๋ยนยิ้ม
“คุณดูละเอียดดีนะเนี่ย”
แน่นอน ฉันเห็นชัดเจนสองตาเลย!”
จี้หยู๋ชิงที่อยู่ในอ้อมกอดเวินเที๋ยนเที๋ยนฟังด้วยความตั้งใจ ใบหน้าแสดงถึงความโมโหและกำหมัดเล็กแน่น
ติงต๊อง——
ลิฟต์มาถึงชั้นสาม เวินเที๋ยนเที๋ยนก้าวเท้าเดินออกไป
มาถึงหน้าประตูห้อง314
“ที่นี่ไง พวกเขาอยู่ในห้องนี้!”
พยักงานหน้าเคาน์เตอร์ดูโมโหมากกว่าเวินเที๋ยนเที๋ยนอีก
แต่เวินเที๋ยนเที๋ยนกลับใจเย็นมาก
“ฉันรู้แล้ว คุณกลับไปทำงานต่อได้แล้วและเรื่องนี้ห้ามบอกใครเด็ดขาด”
พนักหน้าเคาน์เตอร์ลังเลหนึ่งวินาที จากนั้นค่อยพยักหน้าและหันหลังเดินออกไป
เวินเที๋ยนเที๋ยนค่อยก้มหัวมามองจี้หยู๋ชิง
“ไป พวกเราเข้าไปดูข้างในกัน”
ยกมือขึ้นวางลงบนลูกบิดประตูแล้วผลักเบาๆ
ประตูไม่ได้ล็อก
เวินเที๋ยนเที๋ยนพึ่งเดินเข้าไปหนึ่งก้าว ก็ได้ยินน้ำเสียงอ่อนช้อยดังขึ้นมา
“คุณจี้~คุณเบาหน่อย~”
“จิ่งเชิน~ไม่เอาแบบนี้นะ~”
เวินเที๋ยนเที๋ยนได้ยินเสียงนี้และก้าวเท้าเดินไปทางต้นเสียง
“อ้อแอ้!” ทันใดนั้นจี้หยู๋ชิงก็ตะโกนร้องออกมาด้วยความโมโห
เวินเที๋ยนเที๋ยนพึ่งเดินเข้ามาในห้องก็เห็นภาพนั้นในห้องพอดี
แอนนี่ถอดเสื้อไปแล้วครึ่งหนึ่ง นอนอยู่บนเตียงอย่างอ่อนช้อยและใบหน้าสวยเพริศพริ้ง
อีกด้านของบนเตียง จี้จิ่งเชินนอนราบอยู่บนนั้น สายตายังเผยความมืนมัวเล็กน้อยและเสื้อสูทท่อนบนโดนถอดออดมาแล้ว
ตอนเขายกหน้าขึ้นมาเห็นเวินเที๋ยนเที๋ยน ทันใดนั้นสีหน้าก็ลุกลี้ลุกลนทันที
“เที๋ยนเที๋ยน?”
จี้จิ่งเชินรีบลุกขึ้นยืนอย่างร้อนรน
เวินเที๋ยนเที๋ยนที่ยืนอยู่หน้าประตู มองดูสองคนนั้นที่อยู่บนเตียงไม่ขยับตัวเลย
แอนนี่ราวกับพึ่งเห็นเวินเที๋ยนเที๋ยนตอนนี้ รีบลุกขึ้นมาและทำท่าทีตกใจ
“คุณเวิน? คุณมาที่นี่ได้ยังไง?”
“เรื่องมันไม่ใช่อย่างที่คุณคิดนะ”
เธอพูดไปด้วยพร้อมกับรีบมาข้างจี้จิ่งเชิน เหมือนทั้งตัวนอนคว่ำอยู่บนตัวเขา
ท่าทางดูเหมือนไม่ใช่อย่างที่ปากเธอพูดออกมาเมื่อกี้เลย
พูดไปด้วยพร้อมกับจับแขนจี้จิ่งเชินแน่น
“จิ่งเชิน ตอนนี้ทำยังไงดี? โดนจับได้แล้ว”
จี้จิ่งเชินสะบัดเธอออกด้วยความหงุดหงิด
“ไปไกลๆ!”
พูดจบก็ก้าวเท้าเดินมาหาเวินเที๋ยนเที๋ยน
“เที๋ยนเที๋ยน คุณฟังฉันอธิบายก่อน……”
“ไม่ต้องอธิบายแล้ว!” เวินเที๋ยนเที๋ยนพูดตัดบทเขาทันที
“อ้อแอ้!” ขนาดจี้หยู๋ชิงที่อยู่ในอ้อมกอดก็ตะโกนร้องออกมาอย่างเต็มพลัง
จี้จิ่งเชินขมวดคิ้ว
“ฉันโดนคนมอมยาใส่จนไม่มีสติแล้วโดนพามา ฉันกับหล่อนไม่มีความสัมพันธ์อะไรเกิดขึ้นทั้งนั้น”
เขายื่นมือเตรียมไปจับเวินเที๋ยนเที๋ยน
เวินเที๋ยนเที๋ยนรีบก้าวถอยหลังทันที และหลบหลีกจากการกระทำของเขา สายตาดูเย็นชาขึ้นมา
“ดูจากความสามารถของคุณจะโดนคนมอมยาใส่ง่ายขนาดนั้นเลยหรือไง? คุณอย่ามาหลอกฉันอีก”
สีหน้าของจี้จิ่งเชินยิ่งกระวนกระวาย
“เที๋ยนเที๋ยน ไม่ใช่อย่างนั้น!”
“ฉันไม่อยากฟังคุณอธิบายอีก!”
เวินเที๋ยนเที๋ยนส่ายหน้าพร้อมกับก้าวถอยหลัง
“จี้จิ่งเชิน คุณทำให้ฉันผิดหวังมาก”
พูดจบ เธอก็อุ้มจี้หยู๋ชิงแล้วหันหลังเดินออกไป
“เที๋ยนเที๋ยน!”
จี้จิ่งเชินรีบตะโกนเรียกออกมาอย่างรีบร้อน แต่อีกฝ่ายกลับไม่ได้หยุด เดินไปโดนไม่หันมามองเลย
เขาพุ่งไปถึงหน้าประตู และจู่ๆก็มีพวกนักข่าวที่พนักเคาน์เตอร์คนนั้นพาค้นมา ล้อมรอบเขาไปหมด
“คุณจี้ อยากทราบว่าคุณอยู่ในห้องกับแอนนี่สองต่อสองเพื่อทำอะไรครับ?”
“เมื่อกี้เห็นคุณเวินรีบหนีออกไป มันเกี่ยวกับคุณแอนนี่ด้วยใช่ไหมคะ?”
“มีข่าวลือว่าหย่าร้างกันแล้วเป็นข่าวจริงใช่ไหมครับ?”
“คุณจี้……”
จี้จิ่งเชินขมวดคิ้วแล้วกวาดมองฝูงคนที่อยู่ข้างหน้า สีหน้าไม่ดี
“ไปไกลๆ!”
เขาตะคอกใส่และปิดประตู
ในห้อง แอนนี่เห็นเวินเที๋ยนเที๋ยนถูกหลอก ก็ยิ้มออกมาอย่างพอใจ
เธอก้าวเดินมา ยกมือขึ้นจะไปลากจี้จิ่งเชิน
“คุณจี้ คุณไม่ต้องสนใจหล่อนหรอก พวกเรามาต่อกันเถอะ”
จี้จิ่งเชินยกมือขึ้นมาและสะบัดเธอออก
“อย่าคิดว่าฉันไม่รู้ว่าคุณเป็นคนมอมยาใส่ฉัน!”
แอนนี่แบปากและทำท่าตกใจ “เป็นไปได้ยังไง? คุณลืมไปละหรือไง? คุณดื่มจนเมาเอง ทั้งๆที่คนที่เสียเปรียบคือฉันต่างหาก? เรื่องของวันนี้ คุณต้องรับผิดชอบ”
จี้จิ่งเชินมองเธอด้วยสายตาเย็นชา เมินเฉยกับเสื้อผ้าเผยเนื้อเผยตัวที่เธอใส่อยู่ตอนนี้
“อยากให้ฉันรับผิดชอบ งั้นได้เดียวฉันทำตามที่คุณขอ”
พูดจบก็เอาผ้าเช็ดตัวที่อยู่ข้างๆขึ้นมาเช็ดแรงๆบริเวณที่แอนนี่จับโดนเมื่อกี้ รีบสวมใส่เสื้อผ้าและออกไปทันที
แอนนี่ที่อยู่ในห้อง พอกลับไปนึกถึงคำพูดของจี้จิ่งเชินเมื่อกี้ก็ยิ้มออกมาอย่างพอใจ
“ดูเหมือนเวินเที๋ยนเที๋ยนและจี้จิ่งเชินก็แค่งั้นๆ สุดท้ายก็โดนฉันเล่นงานใส่ง่ายๆในกำมือ?”
เธอนั่งลงบนโซฟาอย่างสะใจ เอาโทรศัพท์ขึ้นมากดโทรออกไป
“ฮาโหล นิวมั้น ที่คุณให้ฉันทำ สำเร็จแล้วนะ”
“ไว่ใจได้เลย สภาพที่เวินเที๋ยนเที๋ยนเดินออกไปเมื่อกี้ฉันเห็นหมด ถ้าพรุ่งนี้เธอยังมีอารมณ์แข่งขัน ฉัฯจะเขียนชื่อฉันแบบกลับด้านเลย!”
“ครั้งนี้คุณชนะแน่นอน!”
“ผลประโยชน์ที่ตกลงกันไว้ก่อนหน้านี้? ตามใจเพราะยังไงอีกไม่นาน ฉันก็จะกลายเป็นคุณหนูจี้แล้ว ฮาฮาฮา”
เธอหัวเราะด้วยความดีใจ
พึ่งวางสาย เธอก็เอาไวน์แดงที่อยู่บนโต๊ะมาชิม
“ไม่ว่าจะเป็นจี้จิ่งเชินหรือกลุ่มปราสาททั้งหมดต้องเป็นของฉันเท่านั้น!”
อีกด้าน
จี้จิ่งเชินออกมาจากโรงแรมซากุระด้วยความโมโห
เขาเม้มปาก สีหน้าตระหนัก
คนรอบบริเวณราวกับรู้เรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อกี้ พอเห็นจี้จิ่งเชินก็พูดคุยซุบซิบกันเสียงเบา
เสียงพูดคุยกระซิบผ่านเข้ามาในหู ทำเอาสีหน้าของจี้จิ่งเชินยิ่งแย่ไปใหญ่
เขาไม่ได้หยุดเดิน ก้าวเดินตรงไปที่รถที่อยู่ข้างทางคันนั้น
พอเปิดประตูรถเห็นคนข้างใน สีหน้าโมโหของจี้จิ่งเฉินก็หายไปทันที ยกยิ้มมุมปากขึ้นมา
พอขึ้นรถ จี้จิ่งเชินพึ่งนั่งลงมาก็พูด “เรื่องดำเนินการอย่างราบรื่น”
เวินเที๋ยนเที๋ยนที่นั่งอยู่ในรถพยักหน้าแล้วมองออกไปข้างนอก
“ดูเหมือนว่าพนักงานหน้าเคาน์เตอร์ของโรงแรมก็เป็นแผนของพวกเขา”
จี้จิ่งเชินพูดต่อ “ช่วงนี้แอนนี่และนิวมั้นติดต่อกันบ่อย เรื่องครั้งนี้ต้องถึงหูพวกเขาแน่ๆ การแข่งขันพรุ่งนี้อยู่ที่คุณแล้วนะ”
“อือ”
เวินเที๋ยนเที๋ยนพยักหน้า
เรื่องทั้งหมด ทั้งสองคนเริ่มสงสัยตั้งแต่วันนั้นที่แอนนี่มาปรากฏตัวในปราสาทแล้ว
พอสืบเบื้องหลังของแอนนี่เสร็จและมาเชื่อมกับการแข่งขันระหว่างเวินเที๋ยนเที๋ยนและนิวมั้น ทุกอย่างมันก็ชัดเจนหมด
จี้จิ่งเชินพูดจบ ก็ก้มหัวมามองจี้หยู๋ชิงที่ทำหน้าตกใจราวกับพึ่งรู้ความจริง
เขาหยักคิ้ว “อย่าบอกฉันนะว่าคุณเองก็โดนหลอก”