วันต่อมา
หลวนจื่อเก็บข้าวของเรียบร้อยแล้วก็เช็คเอาท์ออกไปสนามบิน จากนั้นก็ไปเจอกับหมินอันเกอ
เพราะว่าข่าวครั้งก่อน แฟนคลับหลายคนรู้ว่าหมินอันเกอจะมาแถวนี้ ดังนั้นวันนี้เขาจึงแต่งตัวลับเป็นพิเศษ
ใส่หมวกและหน้ากาก แม้แต่ดวงตาทั้งสองข้างที่เหลืออยู่ก็ยังใส่แว่นตาดำ
แบบนี้เดินเข้ามาถึงไม่มีใครจับได้
ทั้งสองคนกำลังจะเดินเข้าไป
“หลวนจื่อ”
มีเสียงเรียกดังขึ้นมา
หลวนจื่อหันไปมอง เห็นว่าหลุยส์ก็มาที่สนามบิน เธอรีบหยุดเดินและหันไปพยักหน้าให้เขา
“หลุยส์ ทำไมคุณถึงมาที่นี่ด้วยล่ะ”
“มาส่งคุณโดยเฉพาะ” หลุยส์ถอนหายใจ “ใครบอกให้คุณรีบจากไปแบบนี้ เดิมทียังอยากจะนัดกินข้าวกับคุณอีกสักมื้อ”
หลวนจื่อเหลือบมองหมินอันเกอที่ยืนเฝ้าอยู่ข้างๆ เธอยิ้มและพูดว่า:“ฉันอยู่ที่นี่มานานมากแล้ว ถ้ายังไม่กลับไป ลูกอาจจะเป็นห่วงเอาได้”
หลุยส์หันหน้าไปมองตามสายตาของเธอ ถึงแม้ว่าอีกฝ่ายจะปกปิดไว้อย่างแน่นหนา มองไม่เห็นลักษณะรูปร่าง แต่เห็นจากสีหน้าของหลวนจื่อ เขาก็พอจะเดาได้ว่าอีกฝ่ายหนึ่งคือใคร
เขาไม่ได้เปิดโป่งแต่พูดออกมาว่า:“เรื่องที่บอกไว้ก่อนหน้านี้ ผมอยากให้คุณคิดดูดีๆ ปรมาจารย์หูหลินชื่นชอบคุณมาก”
“ขอบคุณความชื่นชอบของปรมาจารย์หูหลิน ฉันจะคิดอย่างรอบคอบ”
“งั้นก็ดี” หลุยส์พูดด้วยรอยยิ้ม “ถ้าต่อไปมาทำงานหรือมาเที่ยว คุณต้องบอกผมนะ ผมจะมาต้อนรับคุณเอง”
“แน่นอน”
หลวนจื่อยกมือบ๊ายบายเขา เห็นว่าไม่ทันเวลาแล้ว เธอก็รีบเดินออกไปกับหมินอันเกออย่างรวดเร็ว
พึ่งจะเดินไปไม่กี่ก้าว หมินอันเกอก็ถามว่า:“เรื่องที่เขาพูดคือเรื่องอะไร?”
ตอนนี้หลวนจื่อยังคงโกรธอยู่ เธอพูดเบาๆว่า:“ไม่ทีอะไร ก็แค่เรื่องงาน”
พูดเสร็จก็รีบตรวจสอบสัมภาระและเตรียมเช็คอิน
หมินอันเกอขมวดคิ้ว เขาไม่ค่อยชินกับหลวนจื่อในตอนนี้
ทั้งสองคนขึ้นไปเครื่องบิน พวกเขาไม่พูดคุยกันตลอดทั้งทาง
หลวนจื่อที่ปกติมักจะชอบหยอกล้อ เธอใส่หูฟัง เห็นได้ชัดว่าเธอไม่อยากสนใจคำพูดของหมินอันเกอ
หมินอันเกอสีหน้ามือดมน เขาพยายามจะพูดตั้งหลายครั้ง แต่กูถูกหลวนจื่อปฏิเสธตลอด
ทั้งสองเดินทางมาจนถึงปราสาท ทันทีที่เข้าไปข้างใน เห็นโดว์โดว์และจี้หยู๋ชิงที่กำลังเล่นอยู่ที่ระเบียง ในที่สุดสีหน้าของหลวนจื่อถึงได้ผ่อนคลายลงเล็กน้อย เธอรีบเดินเข้าไป
“โดว์โดว์!”
ทันทีที่เธอเรียก โดว์โดว์ที่กำลังเล่นพ่อแม่ลูกกับจี้หยู๋ชิงก็หันหน้ามาอย่างรวดเร็ว และเมื่อเห็นหลวนจื่อกับหมินอันเกอ เธอก็ยิ้มอย่างมีความสุข เผยให้เห็นลักยิ้มสองลูกที่มุมปาก
“หม่าม๊า! ป่าป๊า!”
เธอยืนขึ้นและก้าวขาสั้นๆสองข้างวิ่งออกไปทันที
หลวนจื่อรีบก้มตัวลงและอุ้มเธอขึ้นมา
“หม่าม๊าขอโทษนะที่พึ่งจะมารับหนู”
โดว์โดว์เอาหน้ามุดเข้าไปที่คอของเธอและอ้อนอย่างรู้ความ
“ไม่เป็นไรค่ะ ถึงแม้ว่าหม่าม๊ายังไม่มา แต่หนูเห็นหม่าม๊าในทีวีด้วย”
เดิมทีเวินเที๋ยนเที๋ยนกำลังอ่านหนังสือและเล่นอยู่กับพวกเขาทั้งสองคน ได้ยินว่าหลวนจื่อกลับมาแล้ว เธอก็เดินออกมาด้วยความตกใจ
อธิบายว่า:“สองสามวันมานี้ฉันเปิดวิดีโอเดินแบบของเธอให้พวกเขาดู”
ได้ยินแบบนี้ หลวนจื่อก็ตกใจไปพักหนึ่ง และจู่ๆก็รู้สึกกังวลขึ้นมา กลัวว่าโดว์โดว์จะเห็นฉากที่เธอเกือบจะหกล้ม
เวินเที๋ยนเที๋ยนมองออกว่าเธอคิดอะไรอยู่ เธอโน้มตัวเข้ามาพูดเบาๆว่า:“ไม่ต้องกังวล ส่วนนั้นถูกตัดออกไปก่อนแล้ว”
ในที่สุดเธอก็โล่งอก อุ้มโดว์โดว์และพูดอย่างมีความสุขว่า:“จริงเหรอ? โดว์โดว์เห็นหมดแล้วเหรอ? โดว์โดว์คิดว่าหม่าม๊าอยู่บนรันเวย์หม่าม๊าหล่อมากไหม?”
“อืม!”
โดว์โดว์พยักหน้าอย่างหนักแน่น มองไปที่หลวนจื่อด้วยสีหน้าที่ศรัทธา เธอยกนิ้วโป่งขึ้นมาและพูดว่า:“หม่าม๊าเก่งที่สุดเลย!ดูงานแฟชั่นโชว์มาหมดแล้ว หนูรู้สึกว่ามีแค่หม่าม๊าเท่านั้นที่สวยที่สุด”
หลวนจื่อได้ยินแบบนี้ก็มีความสุขมากขึ้นกว่าเดิม
“แน่นอนอยู่แล้ว ต่อไปหม่าม๊าจะมีตอนที่หล่อมากกว่านี้อีก โดว์โดว์ต้องดูดีๆนะ”
โดว์โดว์พยักหน้า จับมือเธอและอ้อนว่า:“แล้วเมื่อไหร่โดว์โดว์จะได้ไปทำงานกับหม่าม๊า?”
“หนูก็อยากไปด้วยเหรอ?”
โดว์โดว์พยักหน้าอย่างตื่นเต้น โบกมือสั้นๆของตัวเอง
“อยากไป! โดว์โดว์ไปนั่งเชียร์หม่าม๊าข้างๆก็ได้!”
หลวนจื่อได้ยินแบบนี้ เธอคิดอยู่พักหนึ่ง แต่ก็ไม่ได้รับปาก
เห็นสีหน้าที่คาดหวังของโดว์โดว์ ในที่สุดเธอก็ยิ้มและพยักหน้า
“ไม่มีปัญหา! ถ้ามีโดว์โดว์ไปให้กำลังใจหม่าม๊าอยู่ข้างๆ หม่าม๊าจะต้องเป็นนางแบบที่สวยที่สุดในงานแน่นอน! ครั้งหน้าจะพาหนูไปด้วย!”
หลวนจื่อพูดอย่างมีความสุข แต่หมินอันเกอที่ยืนอยู่ข้างหลัง เขาได้ยินเธอพูดแบบนี้ก็ขมวดคิ้วขึ้นมาทันที
หลวนจื่อมองไปที่เวินเที๋ยนเที๋ยนและพยักหน้าเบาๆ
“สองสามวันนี้รบกวนเธอแล้ว วันนี้ฉันจะพาโดว์โดว์กลับบ้าน”
เวินเที๋ยนเที๋ยนเห็นว่าทั้งสองคนไม่ได้เจอกันนาน พวกเขาคงจะคิดถึงกันมาก เธอจึงไม่ได้บอกให้พวกเขาอยู่ต่อ
“เดินทางกลับอย่างปลอดภัยนะ”
หลวนจื่อหันหน้าไปพูดกับโดว์โดว์:“โอเค เรากลับกันเถอะ”
เดิมทีคิดว่าตัวเองพูดแบบนี้ โดว์โดว์คงจะลังเลอยู่พักหนึ่ง
เมื่อก่อนทุกครั้งที่พาโดว์โดว์มาที่นี่ โดว์โดว์จะสนใจแต่จี้หยู๋ชิง ทุกครั้งที่กลับบ้านมักจะยากเย็นเสมอ เหมือนกับว่าจะแยกพวกเขาออกจากกัน
คิดไม่ถึงว่าครั้งนี้ พึ่งจะพูดจบ โดว์โดว์ก็พยักหน้าอย่างรู้ความ
“โอเค!เรากลับกันเถอะ”
ดูเหมือนว่าเธอคงจะคิดถึงหลวนจื่อและหมินอันเกอมากจริงๆ
หลังจากที่เห็นโดว์โดว์ออกไปกับทั้งสองคน จี้หยู๋ชิงก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก ทำท่าทางราวกับหมดภาระ ในที่สุดก็เอาโดว์โดว์ไปสักที
ในที่สุดเขาก็ไม่ต้องเล่นพ่อแม่ลูกกับโดว์โดว์สามครั้งต่อวันแล้ว
ท่าทางที่น่ารักของเด็กคนนี้ เวินเที๋ยนเที๋ยนเห็นหมดแล้ว เธออดไม่ได้ที่จะหัวเราะและก้มตัวลงมองเขา
เธอพูดเยาะเย้ยว่า:“ดูเหมือนว่าจี้หยู๋ชิงก็ชอบโดว์โดว์มากเลยใช่ไหม”
จี้หยู๋ชิงได้ยินแบบนี้ เขาก็ตกใจไปพักหนึ่ง เขาส่ายหัว ไม่มีทางยอมรับ เขารีบหยิบหนังสือที่อยู่ข้างๆขึ้นมากอดไว้ในอ้อมแขน เหมือนจงใจหลบหนีอะไรบางอย่าง
เห็นท่าทางที่น่ารักของเขา เวินเที๋ยนเที๋ยนก็ยิ่งมั่นใจขึ้นไปใหญ่
ด้วยนิสัยของจี้หยู๋ชิง ถ้าเขาไม่ยอมจริงๆ ใครก็บังคับเขาไม่ได้
แต่สองสามวันมานี้ เขายอมเล่นพ่อแม่ลูกกับโดว์โดว์ เขาน่าจะรู้ว่าหลวนจื่อและหมินอันเกอยังกลับมาตอนนั้นไม่ได้ เพื่อเอาใจโดว์โดว์ เขาถึงได้ตามใจเธอแบบนั้นใช่ไหม?
ถึงแม้ว่าจะเป็นพฤติกรรมที่เล็กน้อย แต่เวินเที๋ยนเที๋ยนก็ชื่นชอบเป็นอย่างยิ่ง
จี้หยู๋ชิงเริ่มมีความรู้สึก เริ่มเรียนรู้ที่จะดูแลคนอื่น
แต่ว่า……
เวินเที๋ยนเที๋ยนหันหน้าไปมองทิศทางที่หลวนจื่อและหมินอันเกอเดินออกไป ก่อนหน้านี้เธอปล่อยให้หลวนจื่ออยู่ที่นั่นอีกสักสองสามวัน หวังว่าจะใช้โอกาสนี้ ทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาทั้งสองดีขึ้นกว่าเดิม
แต่ผ่านไปแค่ไม่กี่วัน กลับเห็นว่าบรรยากาศระหว่างพวกเขาทั้งสองแย่ลงกว่าแต่ก่อน
เวินเที๋ยนเที๋ยนไม่เข้าใจ มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?
ในขณะที่เธอกำลังครุ่นคิด พ่อบ้านก็เดินเข้ามา ก้มตัวลงแล้วพูดกับเวินเที๋ยนเที๋ยน:“คุณท่าน ปรมาจารย์จอห์นมาหา บอกว่าอยากเจอกับคุณ”