เมียหวานของประธานเย็นชา – บทที่1055 แพ้ชนะกำหนดไว้แล้ว

บทที่1055 แพ้ชนะกำหนดไว้แล้ว

เวินเที๋ยนเที๋ยนไม่รู้ว่าปรมาจารย์จอห์นเริ่มเรียนการบูรณะเครื่องเคลือบตั้งแต่เมื่อหนึ่งเดือนก่อน เธอทุ่มเทให้กับการแข่งขันของตัวเองอย่างที่

ระหว่างดำเนินการบูรณะ ภาพอาจารย์ที่นั่งอยู่ข้างๆ กำลังบูรณะหยกในความทรงจำค่อยๆ ปรากฏขึ้นในหัว

ตามความเข้าใจเกี่ยวกับหยกก่อนหน้านี้ของตัวเอง ไม่นานก็เลือกแผนงานหนึ่งได้ แล้วเริ่มลงมือดำเนินการ

การแข่งขันดำเนินการไปถึงสี่ชั่วโมง ในที่สุดก็จบลง

เวินเที๋ยนเที๋ยนวางเครื่องมือในมือลง หันศีรษะไป ก็เห็นปรมาจารย์จอห์นที่เสร็จสิ้นก่อนหน้านี้ไปหนึ่งก้าวแล้ว

รู้สึกถึงสายตาของเวินเที๋ยนเที๋ยน จึงพยักหน้าให้เธอเล็กน้อย

เวินเที๋ยนเที๋ยนกวาดสายตามองทันที เห็นเครื่องเคลือบใบนั้นที่วางอยู่บนโต๊ะของเขา ก็ตกใจไปในทันที

เธอเข้าใจเครื่องเคลือบที่สุด แม้ว่าระยะห่างจะไกลมาก แต่มองแค่แวบเดียว ก็สามารถมองออกได้อย่างชัดเจน เครื่องเคลือบใบนั้นที่ปรมาจารย์จอห์นบูรณะ ถึงระดับมืออาชีพแล้ว!

สุดยอดมาก!

ปรมาจารย์ก็คือปรมาจารย์ ต่อให้เป็นของที่ตนเองไม่คุ้นเคยเลย ก็สามารถควบคุมได้อย่างคล่องแคล่ว

เธอมองของที่ตนเองบูรณะแล้วเผยรอยยิ้มจนปัญญาออกมาทันที

แม้ว่าเมื่อสักครู่จะพยายามนึกอย่างสุดความสามารถแล้ว เลียนแบบการกระทำของอาจารย์ท่านนั้น แต่ถึงอย่างไรก็เป็นคนนอกวงการ

ไม่ต้องให้กรรมการขึ้นมา เวินเที๋ยนเที๋ยนก็เดาผลลัพธ์ได้แล้ว

เหล่ากรรมการรีบเดินเข้ามาด้วยความรวดเร็ว เมื่อเห็นหยกที่เวินเที๋ยนเที๋ยนบูรณะก็หัวเราะออกมาทันที

หนึ่งในนั้นคือปรมาจารย์ที่เชี่ยวชาญด้านการบูรณะหยกเป็นอย่างมาก

แม้ว่าในเสียงหัวเราะจะไม่มีเศษเสี้ยวของการเยาะเย้ย แต่เวินเที๋ยนเที๋ยนก็ยังอดไม่ได้ที่จะหน้าแดงเล็กน้อย

ปรมาจารย์ท่านนั้นเอ่ย “สามารถมองออกได้เลยว่าคุณไม่เคยสัมผัสการบูรณะหยกมาก่อน แต่น่าแปลกมาก ครั้งแรกสามารถทำได้ขนาดนี้ก็ดีไม่เลว”

เขาพลิกหยกไปมา เห็นการแก้ปัญหาบริเวณฐานรองแล้ว แววตาก็ฉายประกายประหลาดใจขึ้นมาทันที

“คุณทำอย่างไร?”

เวินเที๋ยนเที๋ยนเอ่ยอย่างรู้สึกเขินเล็กน้อย “ความจริงแล้วตอนฉันอยู่ที่พระราชวัง คนที่นั่งข้างๆ เป็นอาจารย์ที่บูรณะหยกพอดี ฉันเคยดูตอนเธอบูรณะ”

กรรมการท่านนั้นเอ่ยอย่างประหลาดใจ “แค่เคยเห็นไม่กี่ครั้ง คุณก็จำได้แล้ว? ไม่ธรรมดาจริงๆ”

เขามองเวินเที๋ยนเที๋ยนอย่างละเอียด สายตาฉายแววชื่นชมเล็กน้อย

“ถ้าหากได้รับการศึกและฝึกฝนอย่างเป็นระบบ น่าจะได้ผลคะแนนที่ดี”

เขาครุ่นคิด ไม่ได้สนใจว่ามีคนอยู่ที่นี่จำนวนมากจึงเอ่ยถาม “เวินเที๋ยนเที๋ยน คุณมีความสนใจเรียนรู้เกี่ยวกับการบูรณะหยกไหม?”

กรรมการอีกท่านหนึ่งได้ยินดังนั้น ก็รีบดึงเขาไว้ทันที

“ตอนนี้อยู่ระหว่างกำลังแข่งขัน เรื่องแบบนี้ คุณค่อยพูดหลังจากนี้เถอะ”

คนนั้นถึงรู้ตัวว่าได้ลืมตัวเสียมารยาท จึงพยักหน้า

เอ่ยชื่นชมเพิ่มเติม “แต่ว่ามองจากที่เป็นมือใหม่ ก็มีพรสวรรค์มากจริงๆ สมกับเป็นคนที่อาจารย์หลายท่านเห็นความสำคัญ”

ขณะที่กำลังพูด เสียงประหลาดใจก็ดังขึ้นทางฝั่งของปรมาจารย์จอห์น

“สุดยอดมาก!”

“นี่มันไม่ใช่ระดับของมือใหม่!สามารถเริ่มช่วยเตรียมบูรณะเครื่องเคลือบได้แล้ว!”

หลายคนมองเครื่องเคลือบใบนั้นที่ปรมาจารย์จอห์นบูรณะอย่างตกใจ

ไม่เพียงแค่เครื่องมือที่ใช้ วิธีเปลี่ยนวิธีการ หรือการรักษาเครื่องเคลือบ ล้วนพอเหมาะพอดี ดูชำนาญเป็นอย่างมาก

พวกเขาดูอย่างไม่กล้าที่จะเชื่ออีกหลายครั้ง

“ปรมาจารย์จอห์น คุณพึ่งได้สัมผัสเครื่องเคลือบเป็นครั้งแรกจริงๆ เหรอ?”

ปรมาจารย์จอห์นส่ายหน้า

“ความจริงแล้วไม่ใช่ ฉันมาถึงประเทศจีนเมื่อหนึ่งเดือนก่อนก็เริ่มเรียนการบูรณะเครื่องเคลือบแล้ว”

ทุกคนได้ยินดังนั้นก็ส่งเสียงตกใจขึ้นมาทันที

“ที่แท้ก็เป็นแบบนี้ มิน่าถึงได้สุดยอดขนาดนี้”

“แต่เพียงแค่หนึ่งเดือน สามารถทำได้ถึงขั้นนี้ ทำให้รู้สึกน่านับถือเป็นอย่างมาก!”

ทุกคนที่นี่ได้ยินที่ปรมาจารย์จอห์นพูดในใจก็ยิ่งรู้สึกเสียดาย

“เวินเที๋ยนเที๋ยนจะโชคร้ายเกินไปหน่อยไหม? เดิมคิดว่าทั้งสองคนต่างไม่เชี่ยวชาญ คิดไม่ถึงว่าคู่แข่งจะชำนาญอยู่แล้ว”

“ไม่ต้องดูก็รู้ว่าเวินเที๋ยนเที๋ยนต้องแพ้แล้ว”

“ช่วยไม่ได้ โชคก็เป็นการแข่งขันอีกแบบหนึ่ง”

เหล่ากรรมการเปรียบเทียบงานบูรณะของเวินเที๋ยนเที๋ยนกับปรมาจารย์จอห์นอย่างละเอียด แล้วพยักหน้าให้กัน ได้ข้อสรุปออกมาแล้ว

“ในการแข่งขันครั้งนี้ เวินเที๋ยนเที๋ยนเผชิญหน้ากับหยกที่ตนเองไม่คุ้นเคยเลย ภายใต้สถานการณ์แบบนี้ เธอยังคงทำออกมาได้อย่างโดดเด่น”

“เพียงแต่ว่า เมื่อพิจารณาจากระดับความสำเร็จของผลงาน ปรมาจารย์จอห์นเป็นผู้ชนะ!”

แม้ว่าเวินเที๋ยนเที๋ยนจะแพ้แล้ว แต่ทุกคนต่างเข้าใจดีว่าครั้งนี้เธอทำออกมาได้ไม่เลวจริงๆ

แม้ว่าไม่ใช่สาขาที่ตัวเองถนัด กลับสามารถอาศัยความจำของตนเองเลียนแบบทักษะการบูรณะ

แต่ไม่ได้เรียนรู้อย่างเป็นระบบ ก็ไม่มีทางแล้วจริงๆ

ถึงอย่างไรปรมาจารย์จอห์นก็เป็นบุคคลระดับปรมาจารย์ ทั้งยังเรียนรู้กับท่านเปิงเป็นเวลานานขนาดนี้

ต้องรู้ว่าการบูรณะเครื่องเคลือบของเวินเที๋ยนเที๋ยนล้วนเรียนรู้มาจากท่านเปิง

ภายใต้สถานการณ์แบบนี้เวินเที๋ยนเที๋ยนจะสามารถกลับมาชนะได้อย่างไร?

ได้ยินผลการตัดสินแล้ว ทุกคนต่างถอนหายใจออกมาทันที

พิธีกรเห็นเหตุการณ์ตรงหน้า จึงยิ้มเดินออกมาอย่างกระฉับกระเฉง

“เอาล่ะ การแข่งขันรอบแรกเสร็จสิ้นแล้ว ทุกคนไม่ต้องเป็นห่วง ต่อไปยังมีอีกสองการแข่งขัน ตอนนี้ยังไม่รู้ผลแพ้ชนะ”

ได้ยินดังนั้น ทุกคนก็มีชีวิตชีวาขึ้นมาทันที

พวกอาจารย์ฉู่สีหน้าเต็มไปด้วยความกังวลใจ แทบจะไม่หวังกับการแข่งขันครั้งนี้แล้ว

ต่อให้เป็นเวินเที๋ยนเที๋ยน แต่เผชิญหน้ากับปรมาจารย์จอห์น และภายใต้สถานการณ์ที่แพ้เป็นครั้งแรก จะมีโอกาสชนะได้แค่ไหน?

จี้จิ่งเชินเม้มริมฝีปากแน่น สีหน้าเคร่งขรึมผิดปกติ

จี้หยู๋ชิงมองเวินที๋ยนเที๋ยนอย่างเป็นห่วงด้วยสีหน้าเช่นเดียวกัน

แต่โดว์โดว์ที่นั่งข้างๆ กลับไม่ได้สนใจการแข่งขันบนเวที สายตาเอาแต่จับจ้องที่จี้หยู๋ชิง อยากจะเล่นกับเขา

หลวนจื่อขมวดคิ้วแน่น สองมือกำแน่นขึ้น

หรือว่าครั้งนี้เวินเที๋ยนเที๋ยนจะแพ้?

ถ้าหากเวินเที๋ยนเที๋ยนแพ้แล้ว แล้วเธอ……

เธอหันกลับไปมองที่โดว์โดว์ นัยน์ตาสับสนเป็นอย่างมาก

มีเพียงแค่จางลัยยี่ที่นั่งอยู่ด้านหลังบนหน้ากลับปรากฏรอยยิ้มลำพองใจ

ทั้งหมดสามรอบการแข่งขัน ขอแค่เวินเที๋ยนเที๋ยนแพ้อีกหนึ่งรอบ รอบที่สามก็ไม่จำเป็นต้องแข่งขันต่อไปแล้ว

ขณะที่กำลังครุ่นคิด ในตอนนั้นเองทั้งสองคนก็ได้เปิดกล่องที่สองของตัวเองออกในเวลาเดียวกัน เสียงอื้ออึงก็ดังขึ้นทั่วสนามแข่งทันที!

พวกอาจารย์ฉู่ จี้จิ่งเชินและหลวนจื่อ สีหน้าล้วนปรากฏแววตาเป็นกังวล

แต่มีเพียงแค่จางลัยยี่ที่รอยยิ้มยิ่งเพิ่มความลำพองใจ

เหตุผลแค่เพราะตอนนี้บนเวที ในกล่องของเวินเที๋ยนเที๋ยนคือเครื่องเคลือบที่เธอชำนาญที่สุด

และอีกด้านหนึ่ง ปรมาจารย์จอห์นเองก็จับฉลากได้เครื่องสำริดที่เขาถนัดที่สุดเช่นกัน

ทั้งสองฝ่ายต่างจับฉลากได้ขอบเขตของตัวเอง!

การแข่งขันรอบนี้ น่าตื่นตาตื่นใจเป็นอย่างมาก!

แต่เช่นเดียวกัน เมื่อของทั้งสองคนได้ประกาศออกไป ทุกคนต่างแทบจะถอนหายใจอยู่ในใจ

แพ้ชนะได้ตัดสินแล้ว

ดูท่าหลังจากเสร็จการแข่งขันรอบที่สอง การแข่งขันรอบที่สามก็ไม่จำเป็นต้องแข่งอีกต่อไปแล้ว

เมียหวานของประธานเย็นชา

เมียหวานของประธานเย็นชา

Status: Ongoing

“คุณจะคิดแบบนี้ไปถึงเมื่อไรถึงจะกลับบ้านได้?” จี้จิ่งเชินพูดออกมาอย่างจนใจ เขารีบมาที่นี่ทันทีตั้งแต่รับสาย และยืนดูเธอเดินวนคิดเป็นหนูติดจั่นแบบนี้มาครึ่งชั่วโมงแล้ว เธอไม่กล้าออกมา เพราะเธอกลัวว่าถ้าเขารู้เรื่องเข้า เขาจะทำอย่างไร สุดท้ายสิ่งที่เขาทำ คือ จูบหน้าผากของเธอ “ผมเชื่อคุณ… ไม่ต้องอธิบายอะไร ผมก็เชื่อคุณ”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท