เมียหวานของประธานเย็นชา – บทที่1085 ออกจากบริษัทหวนฉิว

บทที่1085 ออกจากบริษัทหวนฉิว

“ถ้าอย่างนั้นก็ได้”

เวินเที๋ยนเที๋ยนพยักหน้า “ถ้าอย่างนั้นวันนี้พวกเราไปกันเอง ฉันจะให้พ่อบ้านดูแลหยู๋ชิง”

“อย่างนั้นก็เยี่ยมที่สุด”

พูดพลางพาเวินเที๋ยนเที๋ยนขึ้นรถและมุ่งหน้าไปที่ร้านอาหาร

อีกด้านหนึ่ง เสี่ยวหยู๋ชิงที่ยังคงเรียนอย่างขยันขันแข็งอยู่ในปราสาทเก่าพองแก้มอย่างไม่พอใจเป็นอย่างมาก

ที่แท้ก็เป็นอย่างนี้นี่เอง!

เขาควรจะคิดได้นานแล้ว ตอนเช้าเขาก็สงสัยว่าทำไมจี้จิ่งเชินถึงได้ใจดีให้ตัวเองไปจับหัวขโมยกับคุณแม่

คิดไม่ถึงว่าจะจงใจ! ทั้งยังจงใจเปิดเผยข่าวกับเขา ให้เขาเสียเวลาไปทั้งภาคเช้า ทำให้เวลาที่เขาใช้เรียนทั้งหมดถูกเลื่อนออกไป

เห็นว่าอีกเดี๋ยวจะถึงเวลาเลิกเรียนอยู่แล้ว กลับไม่สามารถไปรับเวินเที๋ยนเที๋ยนได้

คิดก็รู้แล้วว่าคุณพ่อต้องรีบออกไปก่อนอย่างแน่นอน!

เขายู่ปากอย่างไม่พอใจ

ในตอนนั้นเองพ่อบ้านก็เข้ามา เอ่ย “คุณชาย ก่อนหน้านี้คุณชายได้ส่งข้อความมาบอกว่าให้คุณชายทำหน้าที่ของวันนี้ให้เสร็จสิ้น ตอนค่ำหลังจากกลับมาแล้วจะสุ่มตรวจ”

“ผมรู้แล้ว”

จี้หยู่ชิงเอ่ยอย่างไม่พอใจ ทำได้แค่ก้มหน้าเรียนต่อไป

หลังจากคลี่คลายเรื่องของหายในพิพิธภัณฑ์แล้ว คนจำนวนมากก็เริ่มเชื่อใจเวินเที๋ยนเที๋ยนแล้ว ยอมรับเธอเป็นผู้นำและเริ่มให้ความร่วมมือ การจัดการจึงราบรื่นขึ้นมาก

ปัญหาที่เหลืออยู่บางส่วน ก็จะได้รับการแก้ไขโดยเร็วที่สุด

พิพิธภัณฑ์แห่งชาติที่เงียบเหงาก่อนหน้านี้ในที่สุดก็ค่อยๆ เข้ารูปเข้ารอย เทียบกับการดูแลบริษัทแล้ว ทำงานอยู่กับวัตถุโบราณทำให้เวินเที๋ยนเที๋ยนมีความสุขกว่าจริงๆ

แต่ในตอนนั้นเองกลับได้ข่าวที่ทำให้เธอต้องตกใจเป็นอย่างมาก

“คุณหมายความว่า หมินอันเกอต้องการจะยกเลิกสัญญากับบริษัท?”

น้ำเสียงเจือความกังวลของผู้จัดการฝ่ายนักแสดงดังผ่านสายโทรศัพท์มา

“ใช่แล้ว เมื่อวานได้บอกกับผมเอง ตอนนี้สัญญาก็ใกล้ครบกำหนดแล้ว พวกเราจะเซ็นสัญญากับเขาต่อ อีกฝ่ายกลับเอ่ยขึ้นมาแบบนี้”

แม้ว่าเวินเที๋ยนเที๋ยนจะออกจากบริษัทมาแล้วและให้จี้จิ่งเชินจัดการทุกอย่าง แต่ทุกคนก็รู้ถึงความสัมพันธ์ของเวินเที๋ยนเที๋ยนกับหมินอันเกอในอดีต ก่อนหน้านี้เวินเที๋ยนเที๋ยนยังเคยจัดการเรื่องงานของหมินอันเกอให้ด้วยตัวเองและให้อิสระกับเขาเป็นอย่างมาก

ตอนนี้หมินอันเกอเอ่ยถึงเรื่องยกเลิกสัญญาขึ้นมากะทันหัน เขาคิดแล้วคิดอีก ก็ยังต้องถามความคิดเห็นจากเวินเที๋ยนเที๋ยนก่อน

เวินเที๋ยนเที๋ยนขมวดคิ้วเล็กน้อย

“เขาอยากเปลี่ยนบริษัทเหรอ?”

อีกฝ่ายก็ไม่เข้าใจเช่นเดียวกันจึงเอ่ย “ไม่ได้ยินข่าวลือเรื่องนี้มาก่อน ผมเองก็ไม่แน่ใจ”

“โอเค ฉันทราบแล้ว” เวินเที๋ยนเที๋ยนเอ่ยเสียงหนักเล็กน้อย “เรื่องนี้ฉันจะคุยกับเขาด้วยตัวเอง แล้วค่อยบอกคุณอีกที”

“ครับ คุณเวิน”

เมื่อวางสายแล้วเวินเที๋ยนเที๋ยนก็ขมวดคิ้ว จมดิ่งไปกับความคิด

ตอนนั้นหมินอันเกอเจอกับช่วงวิกฤตในอาชีพ เธอกับหลวนจื่อพยายามมาด้วยกัน ทำให้หมินอันเกอกลับมาสู่จุดสูงสุดในอาชีพอีกอีกครั้ง

ตอนนี้งานของเขากำลังไปได้ดี ทั้งหมดล้วนเป็นไปตามแผนที่วางไว้ ทำไมอยู่ๆ ถึงได้พูดถึงเรื่องยกเลิกสัญญาขึ้นมาเอาตอนนี้?

ถ้าแค่เพราะเขาอยากเปลี่ยนบริษัทก็ค่อยยังชั่ว แต่เวินเที๋ยนเที๋ยนยังรู้สึกกังวลเล็กน้อย นึกไปถึงที่หลวนจื่อจากไปก่อนหน้านี้โดยไม่ได้ตั้งใจ

หรือทั้งสองเรื่องนี้จะเกี่ยวข้องกัน?

ครุ่นคิดพลางติดต่อหาหมินอันเกอ

หมินอันเกอราวกับเดาได้ว่าเวินเที๋ยนเที๋ยนต้องติดต่อเขามาจึงพูดตามตรง “เป็นแบบนั้นจริงๆ”

น้ำเสียงของเขาฟังดูใจเย็นมาก ไม่ได้ดูเหมือนกำลังหุนหันพลันแล่น

“คุณอยากเข้าบริษัทอื่น?” เวินเที๋ยนเที๋ยนเอ่ยถาม

“ไม่ใช่” หมินอันเกอหัวเราะออกมา น้ำเสียงจริงจังมากยิ่งขึ้น “ผมอยากก่อตั้งบริษัท”

เวินเที๋ยนเที๋ยนได้ยินดังนั้นก็เบิกตากว้างทันที

“คิดดีแล้วใช่ไหม?”

“ใช่แล้ว สำหรับบริษัทอื่นผมไม่ค่อยเข้าใจ แต่ในวงการบันเทิงยังมีพอเส้นสายอยู่บ้าง ดังนั้นน่าจะไม่ยากเกินไป”

“คุณ……ต่อไปยังจะปรากฏตัวในวงการบันเทิงอีกไหม?” เวินเที๋ยนเที๋ยนลังเลเล็กน้อย

“หลังจากก่อตั้งบริษัทแล้วจะค่อยๆ ถอยไปอยู่กับเบื้องหลัง”

น้ำเสียงของเขานิ่งสงบและเยือกเย็น ราวกับเป็นการตัดสินใจที่ไตร่ตรองมาอย่างดีแล้ว

เวินเที๋ยนเที๋ยนจมดิ่งกับความคิดอยู่นาน จนในที่สุดก็เอ่ย “ในเมื่อนี่คือการตัดสินใจของคุณ เอาเถอะ ถ้าหากต้องการให้ช่วยเหลือตรงไหน บอกฉันได้ตลอดเวลา”

น้ำเสียงของหมินอันเกอลังเลเล็กน้อย

“ความจริงแล้ว ผมมีเรื่องต้องการให้คุณช่วยจริงๆ” เขาเอ่ยขึ้นอย่างลังเล “ช่วยดูสถานการณ์ของหลวนจื่อกับโดว์โดว์ให้ผมได้ไหม?”

เวินเที๋ยนเที๋ยนชะงักไปเล็กน้อย

“คุณไม่เข้าไปเองเหรอ?”

“ผมไม่เข้าไปแล้ว ถ้ามีเวลารบกวนดูแลเธอให้ผมด้วย”

เวินเที๋ยนเที๋ยนไม่แน่ใจสถานการณ์ในตอนนี้ของทั้งสองคน จึงรับปาก

“คุณวางใจเถอะ หลวนจื่อเป็นเพื่อนสนิทของฉัน ฉันไม่ปล่อยให้เกิดเรื่องอะไรขึ้นกับเธออย่างแน่นอน”

“ถ้าอย่างนั้นก็ดีแล้ว ต้องขอโทษด้วยจริงๆ” หมินอันเกอเอ่ย “เดิมผมวางแผนว่าจะอยู่ในบริษัทหวนฉิวตลอดไป กลับเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น”

“ไม่เป็นไร คุณทำเพื่อบริษัทมามากพอแล้ว”

แม้ว่าเวินเที๋ยนเที๋ยนจะออกจากบริษัทมาแล้ว แต่ก็ทราบเป็นอย่างดี

ตั้งแต่ที่หมินอันเกอกลับเข้าวงการบันเทิง เดินไปถึงจุดสูงสุดของอาชีพ ก็ไม่ได้หยุดพักเลย ราวกับว่าถ่ายงานอยู่ทุกวันก็เพื่อจ่ายคืนที่ก่อนหน้านี้เวินเที๋ยนเที๋ยนเคยช่วยเขามาทั้งหมด

แม้ว่าตอนนั้นจะผ่านไปเกือบสองปี แต่ผลประโยชน์ที่ได้ก็เลยยอดที่ลงทุนไปก่อนหน้านี้นานแล้ว คืนทั้งหมดได้นานแล้ว

“ถ้าอย่างนั้นผมก็วางใจแล้ว” หมินอันเกอถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก

เวินเที๋ยนเที๋ยนอดไม่ได้ที่จะถามออกไป “ขออนุญาตถาม ที่คุณทำถึงขนาดนี้เพราะหลวนจื่อใช่ไหม?”

หมินอันเกอเงียบไปสักพัก ไม่ได้ปฏิเสธอีก

“ผมคิดว่าตอนที่เธอกำลังพยายาม ผมเองก็ต้องพยายามด้วย”

เมื่อวางสายแล้วเวินเที๋ยนเที๋ยนกลับยังกังวลอยู่เล็กน้อย ดูท่าเรื่องระหว่างหลวนจื่อและหมินอันเกอจะยังไม่คลี่คลาย

เธอถอนหายใจออกมา ในตอนนั้นเองเฉินหยุนก็เคาะประตูแล้วเดินเข้ามา

“คุณเวิน วัตถุโบราณชิ้นใหม่ที่ขุดได้ส่งมาถึงด้านนอกแล้ว”

เวินเที๋ยนเที๋ยนตาเป็นประกายขึ้นมาทันที ก่อนหน้าก็ได้ยินมาแล้วว่ามีหลุมศพใหม่ถูกค้นพบ แต่ไม่คิดว่าจะส่งของมาเร็วขนาดนี้

เวินเที๋ยนเที๋ยนรีบลุกยืนขึ้น

“ฉันจะออกไปดูหน่อย”

เมื่อออกไปก็เห็นจี้จิ่งเชินยืนอยู่ด้านนอก จึงรู้สึกแปลกใจเล็กน้อย

“คุณมาได้อย่างไร?”

จี้จิ่งเชินยังไม่ได้พูดอะไร พนักงานที่อยู่ข้างๆ ก็เอ่ยขึ้น “งานขุดครั้งนี้เป็นการสนับสนุนจากประธานจี้ ดังนั้นหลังจากย้ายของออกมาแล้ว พวกเราจึงเชิญเขามา”

เวินเที๋ยนเที๋ยนได้ยินดังนั้นก็ยิ่งแปลกใจ

“เป็นการสนับสนุนของคุณ ทำไมก่อนหน้านี้ฉันไม่เคยได้ยินคุณพูดถึงมาก่อนเลย?”

จี้จิ่งเชินเอ่ยราบเรียบ “บริษัทสนับสนุนงานนี้เป็นประจำอยู่แล้ว ไม่เพียงเพื่องานการกุศลเท่านั้น แต่ยังสามารถใช้นิทรรศการเพื่อขยายขนาดและชื่อเสียงของบริษัทได้โดยไม่อันตราย”

พนักงานที่อยู่ข้างๆ พยักหน้าด้วยสีหน้าเต็มไปด้วยความดีใจ

“ต้องขอบคุณการช่วยเหลือและสนับสนุนในครั้งนี้ของประธานจี้ การขุดเลยดำเนินไปอย่างราบรื่น อีกไม่กี่วัน หลังจากวัตถุโบราณบูรณะเสร็จและส่งมาถึงแล้ว ก็สามารถเริ่มจัดแสดงนิทรรศการได้แล้ว”

เมียหวานของประธานเย็นชา

เมียหวานของประธานเย็นชา

Status: Ongoing

“คุณจะคิดแบบนี้ไปถึงเมื่อไรถึงจะกลับบ้านได้?” จี้จิ่งเชินพูดออกมาอย่างจนใจ เขารีบมาที่นี่ทันทีตั้งแต่รับสาย และยืนดูเธอเดินวนคิดเป็นหนูติดจั่นแบบนี้มาครึ่งชั่วโมงแล้ว เธอไม่กล้าออกมา เพราะเธอกลัวว่าถ้าเขารู้เรื่องเข้า เขาจะทำอย่างไร สุดท้ายสิ่งที่เขาทำ คือ จูบหน้าผากของเธอ “ผมเชื่อคุณ… ไม่ต้องอธิบายอะไร ผมก็เชื่อคุณ”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท