แต่คิดไม่ถึงเลย ว่าเวินเที๋ยนเที๋ยนจะไปอยู่ฝั่งองค์กรอันธพาลมืดนั่น อีกทั้งยังจะเอาสมบัติล้ำค่านั่นมาเป็นของตัวเองอีกด้วย
รู้แบบนี้ตั้งแต่แรก ตอนนั้นเขาก็จะไม่เอาเครื่องเคลือบลายครามสีฟ้าขาวมอบให้กับเธอ
จางเชียงหนิงรู้สึกเสียใจเป็นอย่างมาก คิดไม่ถึงว่าตัวเองจะมองคนผิด
เวินเที๋ยนเที๋ยนเดินเข้ามาพลางเอ่ย : “ฉันมีเพียงสองสามคำถามที่อยากจะถามพวกคุณค่ะ”
จางเชียงหนิงส่งเสียงฮึดฮัดแสดงความไม่พอใจออกมา และไม่ได้ตอบคำถามนั้น คนที่เหลือก็กลับไปยังตำแหน่งของตัวเอง รู้สึงดูถูกกับการกระทำของเวินเที๋ยนเที๋ยนและจี้จิ่งเชินเป็นอย่างมาก
สายตาของเวินเที๋ยนเที๋ยนกวาดมองไปภายในห้อง
“ศาสตราจารย์อยู่ที่นี่กันทั้งหมดเลยอย่างนั้นหรือ?”
คนของอันธพาลมืดนั้นรีบเอ่ยขึ้น : “ใช่ ปกติแล้วก็จะถูกขังกันอยู่ที่นี่ตลอด”
เวินเที๋ยนเที๋ยนเห็นว่าพวกศาสตราจารย์ไม่ได้รับบาดเจ็บก็แอบโล่งใจ ถึงแม้ว่าจะถูกขัง แต่ดูแล้วก็ไม่ได้ทำให้พวกเขาลำบาก
จี้จิ่งเชินจึงหันไปพูดกับทางคนขององค์กรเหล่านั้น : “พวกแกออกไปกันก่อน อยู่ที่นี่พวกเขาอาจจะไม่ให้ความร่วมมือ”
สองสามคนนั้นสบตามองกัน อย่างลังเล แต่สุดท้ายแล้วก็พยักหน้าลงแล้วกลับออกไป
รอจนหลังจากที่ทุกคนออกไปจากห้องปฏิบัติการแล้วนั้น เวินเที๋ยนเที๋ยนถึงได้เดินมาตรงหน้าของจางเชียงหนิง พลางเอ่ย : “ศาสตราจารย์…….”
“ฉันไม่มีอะไรจะพูดกับเธอ คนทรยศ!” เขาตอบกลับไปอย่างไม่พอใจ โดยไม่หันมามองเลยเสียด้วยซ้ำ
เวินเที๋ยนเที๋ยนยิ้มออกมาอย่างเลี่ยงไม่ได้
“เมื่อกี้นี้ฉันเพียงแค่แสดงละครกับอีกฝ่ายเท่านั้นเองค่ะ ตอนนี้ข้างนอกห้องปฏิบัติการนี้ พวกเราได้เตรียมคนจำนวนไม่น้อยล้อมเอาไว้หมดแล้ว แต่กังวลเรื่องความปลอดภัยของพวกคุณ ก็เลยตัดสินใจให้ฉันกับจี้จิ่งเชินเข้ามาก่อน เพื่อโจมตีทั้งทางด้านนอกและด้านในประสานกันเลย ภายใต้สถานการณ์ที่รับประกันความปลอดภัยของทุกคนได้ แล้วก็จะได้สามารถจับตัวคนทั้งหมดนี่เอาไว้”
ทุกคนได้ยินแล้ว ก็มองมาด้วยความประหลาดใจ
“จริงหรือ?”
เวินเที๋ยนเที๋ยนพยักหน้าลง
“จี้จิ่งเชินแจ้งกับบอร์ดี้การ์ดทางด้านนอกเอาไว้แล้วค่ะ ว่าสามารถจะพุ่งเข้ามาได้ตลอดเวลา แต่สิ่งแรกที่จะต้องทำก็คือพาทุกคนหนีออกไปจากที่นี่ให้ได้ก่อน ทุกคนอยู่ที่นี่กันหมดแล้วใช่ไหมคะ?”
พวกเขาล้อมกันเข้ามา พลางเอ่ยขึ้นอย่างกังวล : “แต่ว่ามีคนเฝ้าอยู่ข้างนอกตลอดแบบนี้ จะออกไปได้อย่างไร?”
“ผมจะเบี่ยงเบนความสนใจของพวกเขาไป เที๋ยนเที๋ยนจะพาพวกคุณไปอีกทางนึงเพื่อไปถึงสถานทูตก่อน แล้วหลังจากนั้นค่อยออกไป” เวลานี้จี้จิ่งเชินถึงได้ออกปากขึ้นมา
พวกเขาพยักหน้าลง แล้วรีบถอดชุดคลุมตัวใหญ่สีขาวออกมา แล้วเปลี่ยนเป็นเสื้อผ้าสีดำธรรมดา แบบนี้ถึงจะดูไม่ชัดเจนขนาดนั้น
รอหลังจากที่ทุกคนเตรียมตัวเรียบร้อยแล้วนั้น จี้จิ่งเชินถึงได้เปิดประตูแล้วเดินออกไปก่อน
สองสามคนที่ยืนอยู่ทางด้านนอกประตูเห็นเขาแล้ว จึงมองมาด้วยความสงสัย เขาจึงเอ่ยขึ้นมาอย่างเรียบๆ : “พาฉันไปหาคนรับผิดชอบของพวกแก ฉันมีเรื่องจะปรึกษาเขา”
คนหนึ่งเดินมาตรงหน้าเขา จะพาจี้จิ่งเชินไป
จี้จิ่งเชินเอ่ยพูดขึ้นต่อ : “พวกแกสามคนมาด้วยกัน ยังมีงานอื่นที่จะต้องสั่งอีก”
สองสามคนนั้นลังเลขึ้นมา
“แต่ ลูกพี่ให้ฉันเฝ้าอยู่ที่นี่ ไม่ให้ไปไหน”
สายตาของจี้จิ่งเชินกวาดมองไปยังร่างของพวกเขา พลางเอ่ยขึ้นอย่างเย็นชา : “คนเห็นกันเยอะขนาดนี้ ยังจะกลัวพวกเขาหนีไปอีกอย่างนั้นหรือ? คนที่อยู่ข้างนอกก็เยอะขนาดนี้ ต่อให้ไม่มีพวกแก คนอื่นๆก็มองเห็นเหมือนกัน รีบๆมา เรื่องครั้งนี้เกี่ยวกับสมบัติล้ำค่า ถ้าหากเสียเวลาล่ะก็ ฉันจะไม่ขอร้องแทนพวกแกแล้วนะ”
สองสามคนนั้นได้ยินแล้ว จึงทำได้เพียงเดินตามเขาออกไป
คนเพิ่งจะเดินออกไปนั้น ประตูห้องปฏิบัติการก็เปิดออกขึ้นอีกครั้ง
เวินเที๋ยนเที๋ยนพากลุ่มคนที่เปลี่ยนเสื้อผ้าเรียบร้อยแล้วเดินออกมา เวลานี้ตรงทางเดินทางนี้ว่างเปล่าไม่มีคนอยู่แม้แต่คนเดียว
“เพียงแค่เดินทะลุตรงระเบียงไปก็จะสามารถเดินไปถึงสถานทูตที่อยู่ข้างๆได้แล้วค่ะ หลังจากที่ถึงที่นั่นแล้ว ก็สามารถรีบออกไปได้แล้วค่ะ”
“ระวังหน่อยนะคะ อย่าให้พวกเขาจับได้”
เวินเที๋ยนเที๋ยนว่าพลางเดินไปทางด้านหน้าด้วย
พวกเขาหลีกเลี่ยงคนที่ตรวจตราอยู่บริเวณรอบๆอย่างระมัดระวัง และใกล้จะมาถึงสถานที่ตรงสถานทูตแล้ว
“ระวังตัวหน่อยนะคะ”
เธอเอ่ยเตือน แล้วรีบเดินไปทางด้านหน้า ด้วยความรู้สึกกังวลกับสถานการณ์ทางจี้จิ่งเชินทางนั้นอยู่จริงๆ
คนที่อยู่ตลอดทางนั้นถูกเขาพาตัวไปด้วย ตอนนี้พวกเขาถึงได้หนีออกมากันได้อย่างราบรื่นขนาดนี้ แต่จี้จิ่งเชินทางนั้นจะปลีกตัวออกมาได้อย่างไร?
แต่ความสามารถอย่างจี้จิ่งเชิน คงจะไม่มีปัญหาอะไรหรอกหรือเปล่า?
หลังจากที่ออกไปแล้ว ก็จะมีคนมาช่วยเขาออกไป
ปึง!
และเวลานี้เอง จู่ๆก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้นจากทางด้านหลัง
ศาสตราจารย์ที่ตามติดอยู่ทางด้านหลังนั้นจู่ๆก็เตะถังขยะข้างๆเข้า เกิดเสียงดังขึ้นมาแสบหูเป็นอย่างมากท่ามกลางระเบียงที่เงียบสงบนั้น!
เวินเที๋ยนเที๋ยนตกใจขึ้นมาทันที
และไม่นาน อีกทางด้านหนึ่งคนที่ตรวจตราอยู่รอบๆนั้นก็วิ่งเข้ามา พบว่าคนที่ควรจะอยู่ในห้องปฏิบัติการเวลานี้เตรียมตัวจะหนีไปแล้ว จึงรีบตะโกนร้องขึ้นมาเสียงดัง
“พวกแกจะทำอะไรกัน? มาทางนี้เร็วเข้า มีคนจะหนี!”
เสียงนี้ดังขึ้นแล้ว ก็มีคนพุ่งเข้ามาอย่างรวดเร็ว
เวินเที๋ยนเที๋ยนผลักสองสามคนนั้นมาทางด้านหลังอย่างรวดเร็ว
“พวกคุณไปกันก่อนนะคะ!”
ศาสตราจารย์สองสามคนรีบวิ่งไปทางนั้น แล้วพุ่งเข้าไปในสถานทูตข้างๆทันที
เวินเที๋ยนเที๋ยนอยู่ข้างหลัง เสียงปิดประตูตรงทางที่จะทะลุไปถึงสถานทูตดังขึ้น แล้วขวางอยู่ตรงหน้าประตู
ทุกคนมองยังเวินเที๋ยนเที๋ยนที่อยู่ตรงหน้าด้วยความถมึงทึง แววตาดุร้าย แล้วค่อยๆเข้ามาใกล้เธอมากขึ้น
เวินเที๋ยนเที๋ยนไม่กล้าออกไปจากตรงนั้น ขวางอยู่ตรงหน้าประตูอย่างแน่นหนา จำเป็นที่จะต้องให้พวกศาสตราจารย์มีเวลาหนีออกไปจากที่นี่ได้อย่างเต็มที่
“จับเธอเอาไว้!”
คนกลุ่มหนึ่งตะโกนแล้วพุ่งเข้ามา
ถึงแม้เวินเที๋ยนเที๋ยนจะพยายามดิ้นอย่างสุดชีวิต แต่ก็ไม่ใช่คู่ต่อสูงของคนทั้งกลุ่มแบบนั้น ไม่นานก็ถูกจับตัวเอาไว้ได้
สองสามคนนั้นเห็นพวกศาสตราจารย์หนีไปแล้ว จึงบิดแขนของเธอเข้ามาแล้วเดินไปอีกทางหนึ่ง
“ปล่อยฉัน!”
เธอดิ้นไม่หยุด แต่พวกคนตรงหน้านั้นใช้ภาษาต่างประเทศ เธอฟังไม่เข้าใจเลย
แต่ดูจากสีหน้าของพวกเขาแล้ว ไม่ใช่จะเป็นเรื่องดีอะไรเลย
ถึงแม้ว่าถูกจับแล้วนั้น แต่อย่างน้อยๆก็สามารถทำให้คนกลุ่มนั้นหนีออกไปได้สำเร็จ ก็นับว่าประสบความสำเร็จแล้ว
ขณะที่กำลังคิดอยู่นั้น เวินเที๋ยนเที๋ยนก็ถูกพวกเขาพาตัวกลับไป
ตามแผนการก่อนหน้านี้ จี้จิ่งเชินจะต้องถ่วงทั้งคนทั้งองค์กรนี้เอาไว้
เขากำลังปรึกษาเกี่ยวกับสัญญาเรื่องนี้กับคนที่รับผิดชอบขององค์กรนี้อยู่นั้น เวลานี้เองที่คนกลุ่มหนึ่งเดินมาเอะอะกันเสียงดัง
จี้จิ่งเชินมองไป เห็นว่าเวินเที๋ยนเที๋ยนถูกพวกเขาจับตัวเอาไว้แล้ว สองมือนั้นถูกไขว้เอาไว้ทางด้านหลัง สีหน้าจึงเปลี่ยนไปในทันที
เวินเที๋ยนเที๋ยนขมวดคิ้วขึ้น สีหน้าซีดเซียวเล็กน้อย
สมาชิกของพวกอันธพาลมือนี้รีบเดินมาข้างหน้า พลางเอ่ยขึ้น : “ผู้หญิงคนนี้หักหลังพวกเรา ปล่อยตัวพวกศาสตราจารย์ไปทั้งหมดแล้ว!”
คนที่รับผิดชอบได้ยินแล้ว สีหน้าเปลี่ยนไปในทันที
“นี่มันเรื่องอะไรกันแน่?” เขามองมายังจี้จิ่งเชินที่อยู่ตรงหน้า เค้นถามออกมา
แววตาจี้จิ่งเชินเป็นประกาย ตั้งแต่ที่เวินเที๋ยนเที๋ยนปรากฎตัว สายตาของเขาก็จ้องมองอยู่ที่เธอตลอด
ดวงตาดำสนิทมีความโมโหค่อยๆรุกล้ำเข้ามา
น้ำเสียงเปลี่ยนไปอย่างเยือกเย็นจนดูผิดปกติ
“ปล่อยเธอซะ”
คำสั้นๆเพียงสามคำ ทำให้คนที่ดึงตัวเวินเที๋ยนเที๋ยนเอาไว้ตัวสั่นอย่างไม่รู้ตัว ยังไม่ทันได้มีปฏิกิริยาตอบกลับมานั้น ร่างกายก็เคลื่อนไหวไปก่อน ปล่อยแขนเวินเที๋ยนเที๋ยนลงแล้ว
ตลอดจนเวินเที๋ยนเที๋ยนกลับมาอยู่ข้างๆจี้จิ่งเชิน พวกเขาถึงได้ตั้งสติขึ้นมาได้ในที่สุด เมื่อครู่ไม่คิดว่าจะทำตามที่เขาพูดไปอย่างไม่รู้สึกตัวแบบนี้
สีหน้าของคนองค์กรอันธพาลมืดนี้ดูแย่เป็นอย่างมาก
“คุณจี้ อธิบายให้ผมฟังหน่อยสิ”
จี้จิ่งเชินดึงมือเวินเที๋ยนเที๋ยนเอาไว้ ปกป้องเธอให้อยู่ทางด้านหลัง แววตาที่เย็นชามองไปยังร่างกายของพวกเขา ไม่สะทกสะท้าน ราวกับถูกคนที่ถูกบีบให้ถึงทางตันนั้นไม่ใช่เขา
“ก็เหมือนกับที่พวกแกเห็น ความร่วมมือล้มเหลว”