เมียหวานของประธานเย็นชา – บทที่1110 พวกเราต้องไปด้วยกัน!

บทที่1110 พวกเราต้องไปด้วยกัน!

เวินเที๋ยนเที๋ยนและจี้หยู๋ชิงหันหน้ามองด้วยความสงสัย “เมื่อไหร่กัน?”

จี้จิ่งเชินยิ้มออกมาเล็กน้อย : “ตอนที่พวกคุณออกมาจากสถาบัน เจอกับคณะทัวร์กลุ่มหนึ่งหรือเปล่า?”

เวินเที๋ยนเที๋ยนพยักหน้าลง โชคดีที่เจอกับคณะทัวร์กลุ่มนั้น เธอถึงได้หนีออกมาได้อย่างราบรื่น

คิดมาถึงตรงนี้แล้ว เวินเที๋ยนเที๋ยนก็มองไปทางจี้จิ่งเชินด้วยความประหลาดใจ

“หรือว่าคณะทัวร์พวกนั้นพี่เป็นคนหามาอย่างนั้นหรือคะ?”

จี้จิ่งเชินพยักหน้าลง

ตั้งแต่ขึ้นมาบนเกาะ ภายในสามชั่วโมง เขาก็หาที่อยู่ของเวินเที๋ยนเที๋ยนกับจี้หยู๋ชิงเจอได้อย่างรวดเร็ว แต่กลับยังไม่ออกหน้ามา และให้คนคอยติดตามและปกป้องความปลอดภัยของพวกเขาเอาไว้

ทิศทางการเคลื่อนไหวทั้งหมดของพวกเวินเที๋ยนเที๋ยน เขาควบคุมอยู่ในมือแล้ว

ตอนที่รู้ว่าพวกเขาจะเข้าไปในสถาบันวิจัย ก็ใช้การปฏิบัติการชุดหนึ่ง ไม่อย่างนั้นแล้วพวกเวินเที๋ยนเที๋ยนจะไม่สามารถแอบเข้ามาและหนีออกไปได้เลย

“พูดแบบนี้ ความจริงแล้วมีคนติดตามคอยปกป้องพวกเราอยู่ตลอดเลยหรือครับ?” จี้หยู๋ชิงเอ่ยถามขึ้นอย่างแปลกใจ

“ใช่แล้ว”

หลังจากได้รับคำตอบยืนยันแน่ใจแล้ว จี้หยู๋ชิงก็ยิ่งรู้สึกตำหนิตัวเองมากยิ่งขึ้น

แบบนี้ มีคนของจี้จิ่งเชินคอยติดตามอยู่รอบๆตลอดเลยอย่างนั้นหรือ?

แต่ทำไมเขาถึงไม่รู้สึกตัวเลย?

ยังดีที่ฝ่ายนั้นเป็นคนของจี้จิ่งเชิน ถ้าหากเปลี่ยนเป็นคนอื่น ก็คงจะแย่แล้ว

เวลานี้จี้จิ่งเชินจึงเอ่ยขึ้นอีกครั้ง : “ตอนนี้สามารถบอกผมได้หรือยังครับ ว่าพวกคุณพบความลับอะไรกัน?”

เวินเที๋ยนเที๋ยนพยักหน้า แล้วเอาเครื่องเคลือบลายครามที่อยู่ในมือออกมา วางไว้ตรงหน้าเขา

“เราหาคำตอบเจอจากเครื่องเคลือบลายครามสีฟ้าขาวชิ้นนี้ค่ะ”

เวินเที๋ยนเที๋ยนกับจี้หยู๋ชิงเล่าการคาดการณ์ก่อนหน้านี้ออกมา แต่จี้จิ่งเชินกลับขมวดคิ้วขึ้น และตกอยู่ในอาการครุ่นคิด

เรื่องราวครั้งนี้มีส่วนเกี่ยวเนื่องกับสมบัติล้ำค่าของสมัยราชวงศ์หมิง หลังจากที่เวินเที๋ยนเที๋ยนกับจี้หยู๋ชิงรู้แล้วนั้น จะต้องไม่ยอมจากไปอย่างแน่นอน

“ตอนนี้ก็รู้ความลับของสมบัติล้ำค่านี่แล้ว แต่พวกศาสตราจารย์จางเชียงหนิงถูกพวกเขากักขังเอาไว้ คนพวกนี้เลวร้ายเป็นอย่างมาก ฉันกังวลว่าถ้าหากพวกเขาพบว่าสมบัตินี้ถูกพวกเราเอาไปแล้ว อาจจะลงมือทำร้ายพวกเขาก็ได้ ดังนั้นจึงไม่กล้าทำอะไรบุ่มบ่าม”

“เกี่ยวกับตรงจุดนี้ ไม่ต้องกังวลหรอกครับ” จี้จิ่งเชินกล่าว : “เดี๋ยวให้คนพาไปดู แล้วจับตัวทุกคนไว้ก็ได้แล้ว”

เขาพูดง่ายมาก ฟังแล้วเหมือนกับกำลังพูดคุยว่าวันนี้เช้าควรจะทานอะไรดีแบบนั้น จะต้องรู้ว่า องค์กรอันธพาลมืดนี้มีอิทธิพลที่แน่นอนอยู่บ้าง ไม่อย่างนั้นก็คงจะไม่มีคนจำนวนมากขนาดนี้ที่พากันกลัวพวกเขา

อีกทั้ง คนเหล่านี้ยังกล้ากักขังตัวของศาสตราจารย์ของสถาบันวิจัยและสมาชิกของสถานทูตประเทศอื่นๆเอาไว้ด้วย ท่าทางที่ดูกำเริบเสิบสานนี้ ราวกับว่าเบื้องหลังมีที่พึ่งอะไรอยู่อย่างไรอย่างนั้น

เวินเที๋ยนเที๋ยนรู้สึกกังวลอยู่บ้าง แต่จี้จิ่งเชินกลับไม่ได้เอามาใส่ใจเลยแม้แต่นิดเดียว ริมฝีปากยกขึ้นเล็กน้อย ดวงตาปรากฏความถือดีและเย่อหยิ่งออกมา

“คุณรู้สึกว่าจะมีปัญหาหรือครับ?”

เวินเที๋ยนเที๋ยนได้ยินแล้ว จึงหันไปมองเขาอย่างประหลาดใจ

เรื่องจริงที่ว่า จะทำลายเขตอิทธิพลของคนอื่นที่บ้านของเขานั้น ถ้าหากเป็นคนอื่น จะต้องเป็นอันตรายมากอย่างแน่นอน แต่ถ้าหากคนๆนั้นคือจี้จิ่งเชิน ก็ไม่ต้องเป็นกังวลเลยแม้แต่นิดเดียว

ไม่รู้ว่าทำไม เพียงแค่เป็นเรื่องที่เขาคิดอยากจะทำ เวินเที๋ยนเที๋ยนก็รู้สึกว่าจะต้องสำเร็จอย่างแน่นอน

อีกทั้งในความเป็นจริงนี้ จี้จิ่งเชินเองก็ไม่เคยทำให้ต้องผิดหวังเลยมาก่อน ทุกครั้งก็ล้วนแต่ประสบความสำเร็จด้วยกันทั้งนั้น

ไม่นาน บอร์ดี้การ์ดสองสามคนนั้นก็กลับมา พวกเขาถามข้อมูลที่เกี่ยวข้องจากปากของคนพวกนั้นออกมาได้ รวมทั้งคนขององค์กรนั้น

“ออกเดินทางกันตอนนี้เลยเถอะครับ”

จี้จิ่งเชินไม่อยากจะเสียเวลาแม้แต่นิดเดียว เดิมทีครั้งนี้อยากจะพาเวินเที๋ยนเที๋ยนและจี้หยู๋ชิงมาเที่ยวเล่นผ่อนคลายจิตใจด้วยกัน ให้เธอได้พักผ่อน แต่คิดไม่ถึงเลยว่าจะมาเจอเรื่องราวแบบนี้

หลังจากที่เร่งแก้ไขปัญหาแล้ว แล้วค่อยเดินทางต่อจากก่อนหน้านี้ ให้เวินเที๋ยนเที๋ยนได้พักผ่อน

ว่าแล้ว ก็พาเธอเตรียมจะออกไป

เวินเที๋ยนเที๋ยนพยักหน้าลง แล้วหันหลังกลับ เดินไปยังห้องที่พวกเธอเคยพักอยู่ก่อนหน้านี้

พลางเอ่ยขึ้น : “ฉันไปเอาของหน่อยนะคะ”

เพิ่งจะเดินออกไปได้เพียงก้าวเดียว จี้จิ่งเชินก็ดึงตัวเธอเอาไว้ : “เอาอะไรครับ? ไม่มีของสำคัญอะไรก็ไม่ต้องไปแล้วล่ะ เวลากระชั้นชิด ไปจัดการเรื่องราวอีกทางนึงก่อนดีกว่านะครับ”

ว่าแล้ว ก็พาเวินเที๋ยนเที๋ยนข้ามประตูแล้วเดินไปอีกทางด้านหนึ่ง

ตอนที่จี้หยู๋ชิงที่อยู่ทางด้านหลังเดินผ่าน ก็หันไปมองยังทิศทางประตู

เขาจำได้ว่าเมื่อครู่นี้บอร์ดี้การ์ดพาคนพวกนั้นไป ก็เข้าไปด้านในนี้ใช่หรือเปล่า?

ถึงแม้จะมีแค่ประตูกั้น เขาเองก็ได้กลิ่นคาวเลือดจางๆที่ส่งออกมาจากทางด้านใน แค่คิดก็รู้แล้วว่าสองสามคนนั้นคงจะไม่ได้มีรูปร่างเหมือนมนุษย์ไปตั้งแต่แรกแล้ว

มิน่าล่ะถึงไม่ให้เวินเที๋ยนเที๋ยนเข้าไป

ถ้าหากเห็นฉากทางด้านในแล้ว จะต้องตกใจมากอย่างแน่นอน?

ขณะที่จี้หยู๋ชิงกำลังคิดอยู่นั้น เสียงของจี้จิ่งเชินก็ดังขึ้นมา

“หยู๋ชิง?”

เขารีบเงยหน้าขึ้นมา เห็นจี้จิ่งเชินกำลังพาเวินเที๋ยนเที๋ยนเดินไปทางด้านหน้า แล้วกวาดสายตามองมา

จี้จิ่งเชินเอามือที่เปิดประตูชักกลับมา แล้วเดินไปทางด้านหน้า

ถ้าหากเมือครู่เขาเปิดประตู ก็จะพบว่าทางด้านหลังประตูนั้น มีคนเหล่านั้นที่ตามล่าเวินเที๋ยนเที๋ยนกับจี้หยู๋ชิงอยู่ เวลานี้ได้นอนอยู่ในกองเลือดเป็นที่เรียบร้อยแล้ว มีเพียงลมหายใจที่อ่อนแรงเพียงเท่านั้น

เวินเที๋ยนเที๋ยนมองผู้คนที่อยู่รอบๆ บอร์ดี้การ์ดที่จี้จิ่งเชินพามาด้วยนั้นไม่ได้เกินสิบคนเลย

จากสถานการณ์ที่เธอเห็นในวันนั้น แค่คนที่อยู่ที่สถาบันวิจัยนั้น ก็มีเป็นยี่สิบคนแล้ว จะไปสู้เขาได้อย่างไร?

ถ้าหากทางฝ่ายนั้นแจ้งไปยังสำนักงานใหญ่ จะต้องมีคนมามากขึ้นยิ่งกว่าเดิมแน่นอน ถึงตอนนั้นจะไม่สามารถเอาชนะได้ก็ว่าแล้ว แม้แต่พวกเวินเที๋ยนเที๋ยนเองก็อาจจะถูกจับตัวไปอีกด้วย

แต่เห็นท่าทางของจี้จิ่งเชินแล้ว กลับดูเต็มไปด้วยความมั่นใจ

“จะไม่มีปัญหาจริงๆหรือคะ? ฉันจำได้ว่าพี่พาบอร์ดี้การ์ดมาด้วยแค่แปดคนเองไม่ใช่หรือคะ?”

“ไม่มีปัญหาครับ” น้ำเสียงของจี้จิ่งเชินมีความมุ่งมั่นเป็นอย่างมาก ยกริมฝีปากขึ้นเล็กน้อย แววตาปรากฏความสนุกสนานออกมาเล็กน้อย

ในเมื่อเรื่องนี้เกิดขึ้นบนเกาะ แน่นอนว่าจะต้องให้รัฐบาลของท้องที่นั่นช่วยเหลือด้วยอยู่แล้ว

เขาไม่ใช่นักบุญ ที่ยังจะต้องมาปรับปรุงแก้ไขและยึดในความยุติธรรม

ถ้าหากไม่ใช่เวินเที๋ยนเที๋ยนและจี้หยู๋ชิงที่ถูกดึงเข้าไปในเรื่องนี้ด้วย หากไม่เกี่ยวกับผลประโยชน์ของเขา จี้จิ่งเชินจะไม่มีทางลงมือเลย

แต่ตอนนี้ช่วงเวลาวันหยุดดีๆ ไม่ใช่เรื่องง่ายๆที่เขาจะพาเวินเที๋ยนเที๋ยนออกมาได้ มีโอกาสที่จะออกมาเที่ยวด้วยกัน ไม่คิดว่าจะถูกคนพวกนั้นทำพังลงแบบนี้

ความโมโหที่อยู่ในใจของจี้จิ่งเชินสามารถทำให้เกาะนี้ทั้งเกาะระเบิดได้เลย

ไม่คิดเลยว่าจะกล้าแตะต้องคนของเขา แน่นอนว่าก็จะต้องยอมรับกับความเดือดดาลนี้ของเขาด้วยเช่นกัน!

แล้วก็ถึงเวลาที่จะต้องทำให้องค์กรอันธพาลมืดนี้หายไปจากโลกใบนี้ได้แล้ว

ไม่นานนัก ทุกคนก็มาอยู่ตรงหน้าประตูสถาบันวิจัยแห่งนั้น กำลังเตรียมให้เวินเที๋ยนเที๋ยนและจี้หยู๋ชิงรออยู่ทางด้านนอก

เมื่อหันมาแล้ว กลับพบว่าเวินเที๋ยนเที๋ยนและจี้หยู๋ชิงกำลังดึงชายเสื้อของเขาอยู่กันคนละฝั่ง เห็นได้ชัดว่าไม่ยอมที่จะถูกทิ้งให้อยู่ลำพังกันแบบนี้

แววตาที่มองเขานั้นดูระยิบระยับ ถึงแม้จะไม่ได้เอ่ยปากออกมา แต่อารมณ์นี้ก็ได้เขียนเอาไว้อยู่ในดวงตาหมดแล้ว

ใบหน้าของจี้จิ่งเชินปรากฏรอยยิ้มออกมา พลางเอ่ยขึ้นอย่างเลี่ยงไม่ได้ : “พวกคุณเองก็อยากไปด้วยอย่างนั้นหรือ?”

“อืม!”

ทั้งสองคนพยักหน้าลงพร้อมกัน การกระทำนั้นเหมือนกันเป็นพิเศษ

“อาจจะอันตรายนะครับ” จี้จิ่งเชินเอ่ยขึ้นอีก

“ฉัน/ผมไม่กลัว!” จี้หยู๋ชิงกับเวินเที๋ยนเที๋ยนตอบออกมาพร้อมกัน

เห็นดวงตาที่เต็มไปด้วยความปรารถนาและเหมือนกันคู่ที่อยู่ตรงหน้าแล้ว จี้จิ่งเชินไม่สามารถปฏิเสธได้เลย จึงทำได้เพียงต้องยอม

“เดี๋ยวคอยอยู่ข้างๆผมเอาไว้นะครับ อย่าไปทั่วล่ะ”

“รับทราบ!”

เวินเที๋ยนเที๋ยนและจี้หยู๋ชิงยกมือขึ้นทำวันทยหัตถ์พร้อมกัน

เมียหวานของประธานเย็นชา

เมียหวานของประธานเย็นชา

Status: Ongoing

“คุณจะคิดแบบนี้ไปถึงเมื่อไรถึงจะกลับบ้านได้?” จี้จิ่งเชินพูดออกมาอย่างจนใจ เขารีบมาที่นี่ทันทีตั้งแต่รับสาย และยืนดูเธอเดินวนคิดเป็นหนูติดจั่นแบบนี้มาครึ่งชั่วโมงแล้ว เธอไม่กล้าออกมา เพราะเธอกลัวว่าถ้าเขารู้เรื่องเข้า เขาจะทำอย่างไร สุดท้ายสิ่งที่เขาทำ คือ จูบหน้าผากของเธอ “ผมเชื่อคุณ… ไม่ต้องอธิบายอะไร ผมก็เชื่อคุณ”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน